![]() |
![]() |
![]() |
นกกินลมขอจับเข่าเปิดอกคุยกับเพื่อนหญิง....เรามาช่วยกันเผชิญกับปัญหาความรัก และครอบครัวแต่วิธีมองแบบใหม่ ๆ กันเถิด
นกกินลมขอจับเข่าเปิดอกคุยกับเพื่อนหญิง....เรามาช่วยกันเผชิญกับปัญหาความรัก และครอบครัวแต่วิธีมองแบบใหม่ ๆ กันเถิด
เปิดฟ้า ก้องหล้า เขียนมา : [ 171.7.249.203 ]
รหัสจดหมาย L-3157
๒๙ พ.ค. ๒๕๕๘, ๐๘.๓๓ น. เรียนคุณนกกินลมท่ีนับถือ กระผมได้อ่านบทความท่ีท่านเขียนถึงผู้หญิงด้วยกันและผู้หญิงหลายท่านได้เขียนมาระบายความรู้สึก โปรดอย่าคิดว่าผมล่งเกินนะครับ ผมรู้สึกภูมิใจและยินดีมากท่ีบรรดาสมาชิกนกน้อยได้ช่วย่เหลือเกื้อกูลกันได้ใ้ห้กำลังใจกัน ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต และช่วยแนะแนวทางท่ีดีให้กันและกัน การท่ีคนหนึ่งจะระบายความรู้สึกความทุกข์ให้ผู้ใดฟังนั้น ผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ท่ีเขาให้การเคานับถือ และเป็นกันอย่างอย่างญาติสนิทมิตรสหายท่ีแท้จริง เป็นส่ิงท่ีผมอยากเห็นส่ิงนี้ในสังคมไทย และส่ิงนี้ได้เกิดขึ้นแล้วในกลุ่มนกน้อยของเราเป็นส่ิงท่ีน่าภูมิใจมาก ขอสนับสนุน และขอยกย่องสรรเสริญอย่างจริงใยว่าท่านเป็นผู้ประสานโลกเข้าด้วยกันด้วยไมตรีแห่งมิตรภาพอันย่ิงใหญ่ โปรดทำต่อไปเถิดครับ ขอให้คุณประสบแต่โชคดี มีความสุข และเป็นท่ีรักของผู้หญิงทุกคน สวัสดี. ๐๓ เม.ย. ๒๕๕๙, ๑๒.๑๘ น.
คุณเปิดฟ้า ขอบคุณมากค่ะที่มาเป็นกำลังใจให้แก่กัน ขอให้สิ่งดีๆที่คุณส่งมอบให้ดิฉันจงย้อนคืนหาคุณด้วยความดีงามยิ่งขึ้นอีกหลายๆเท่าค่ะ ด้วยมิตรไมตรี นกกินลม
คุณแม่ลูกสอง เขียนมา : [ 202.29.179.252 ]
รหัสจดหมาย L-3153
๑๒ ม.ค. ๒๕๕๘, ๑๑.๕๘ น. สวัสดีคะ คุณนกกินลม ณ สถานการณ์ในวันนี้ มันดีขึ้นคะ เค้าอาจจะได้คิดแล้ว หรือมีอะไรมากกว่านั้นดิฉันก็ไม่อยากคิดอีกต่อไปแล้ว แต่วันนี้เค้าเลือกที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมกับดิฉัน ไม่ได้พูดเรื่องขอแยกทางแล้ว พาลูก ๆ และดิฉันไปทำกิจกรรมครอบครัวกันในวันเด็กและวันหยุดที่ผ่านมา ดิฉันรู้สึกโล่งใจไประดับหนึีงคะ แต่ก็คงต้องรอดูเค้าต่อไปว่า คิดได้แล้วจริงหรือ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เค้าก็เหมือนเปิดใจกับดิฉันเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้ง เค้าถามดิฉันว่า ทำไมดิฉันไม่ยอมปล่อยเค้าไป ดิฉันก็พูดกลาง ๆ ประมาณว่าเพราะลูก และเชื่อแน่ว่าดิฉันรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเค้าดีว่า จริง ๆ แล้วเค้าเป็นคนดี แล้วเค้าก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงระหว่างเค้ากับผู้หญิงคนนั้นว่าเป็นมาอย่างไร ดิฉันก็ฟังๆๆ แต่สรุปสุดท้ายเค้าก็ยังเหมือนกับว่าคงยังไม่สามารถเลิกติดต่อกับผู้หญิงคนนั้นได้ เพราะเค้าสงสาร แต่รับรองในเรื่องว่าไปมีอะไรกันเค้าไม่มีแน่ เค้าพูดประมาณว่ารู้สึกผิด ที่ทำให้ชีวิตของผู้หญิงคนนั้นเปลี่ยนแปลงประมาณว่าทำลายอะไรอย่างเนี้ยคะ ซึ่งคาดว่าเค้าคงโดนทางนั้นพูดและกดดันหรือป่าว ก็ไม่แน่ใจ ดิฉันก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร ได้แต่บอกว่าคิดให้ดี ๆ นะ จะทำอะไร ให้มันยุ่งยากไปกว่านี้ หรือจะหยุด.. ตอนนี้ถามว่าดิฉันรู้สึกอย่างไร มันเลยความเจ็บไปแล้วคะ คิดว่าตอนนี้ืทำทุกอย่างก็เพื่อลูก ต้องดึงเค้ากลับมาให้ได้ อยากให้ลูก มี พ่อ แม่ สมบูรณ์ ซึ่งมันก็เป็นอย่างน้ั้นมาตลอด ถ้าเค้าไม่พลาดไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ ซึ่งก็นับเป็นเวลา 2 - 3 เดือนแล้ว ตอนนี้ดิฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุด แต่คุณแม่ก็เป็นห่วงสุขภาพจิตว่าเราจะย่ำแย่ ยอมรับว่าตั้งแต่มีเรื่องดิฉันกินไม่ค่อยได้ นอนไม่ค่อยหลับ แต่ก็ยังมีสติดีอยู่ตลอดเวลา แปลกใจตัวเองเหมือนกันคะว่าทำไม ไม่คิดว่าตัวเองจะใจเย็น น่ิงได้ขนาดนี้ ซึ่งก็ภาวนาว่าส่ิงนี้จะช่วยแก้ปัญหาครอบครัวของเราได้ ดิฉันกำลังพยายามทำเรื่องให้สามีย้าย จากตรงนั้นออกมาคะ ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาเป็นปี (เค้าเป็นครูคะ ต้องรอรอบย้ายเดือนสิงหาคม) เค้าก็รู้ในตรงนี้ เค้าก็ถามเรื่องนี้อยู่คะ เรื่องราวครอบครัวของดิิฉันในวันนี้ ไม่รู้ว่ามันจะจบลงอย่างไรนะคะ แต่อย่างน้อยวันนี้เค้าก็ดีขึ้นคะ มีความพยายามที่จะคำว่า พ่อ แม่ ลูก อยู่ต่อไป ดิฉันจะทำตามคำแนะนำของคุณนกกินลมนะคะ เรื่อง การทำบุญ ทำสมาธ ดฺิฉันก็ออกปากชวนเค้าอยู่นะคะ แต่ยังไม่ได้ไปกัน คิดว่าคงต้องชวนเรื่อย ๆ คะ เอากรรมดี บุญใหม่ มาชำระสิ่งชั่วร้ายที่เข้ามาทำร้ายจิตใจเราและครอบครัวเรา ในความคิดเห็นของคุณนกกินลม คิดว่า ตอนนี้สามีดิฉัน เค้าเป็นอย่างไรคะ คิดได้แล้วหรือ คิดอะไรอยู่ ในความคิดเห็นส่วนตัวของคุณนกกินลมอะคะ แล้วดิฉันควรทำอย่างไรต่อไปดีคะ เพื่อประคองให้ครอบครัวผ่านพ้นส่ิงเลวร้ายนี้ไปได้ ตอนนี้เป็นกันมากเหลือเกินกับปัญหานี้กับครอบครัวในสังคมไทย น่ากลัวและน่าเศร้ามาก ๆ คะ..ยุคคนเสื่อม ๒๕ ม.ค. ๒๕๕๘, ๑๐.๑๘ น.
สวัสดีค่ะ คุณแม่ลูกสอง ดีใจด้วยจริงๆ ที่เหตุการณ์เปลี่ยนไปในทางที่ดี คงต้องให้เครดิตกับตัวคุณเองที่เลือกเดินถูกทางที่จะ "สงบสยบเคลื่อนไหว" ขอให้มุ่งมั่นทำดังนั้นต่อไป ส่วนเรื่องที่ถามว่าสามีของคุณคิดอย่างไรนั้น คงจะสุดปัญญานกกินลมที่จะเดาใจได้ แต่คาดว่าสามีคงได้เปิดใจกับคุณส่วนหนึ่งแล้ว แล้วคุณก็คงได้สังเกตเห็นแล้ว เพียงแต่อยากได้ความมั่นใจว่าเหตุการณ์จะไม่กลับไปเหมือนเดิมอีก คุณได้บอกให้อภัยสามีของคุณหรือยังคะเรื่องที่เขาเฉไฉไป ถ้ายังไม่ได้บอกก็ควรจะบอกเขาว่า คุณให้อภัยได้ แต่ต้องมีเงื่อนไขว่าจะไม่ทำซ้ำ และเขาต้องโปร่งใสกับครอบครัว เพราะคุณจะให้อภัยกับการกระทำที่สมควรอภัยเท่านั้น นักจิตวิทยาครอบครัวเคยพูดไว้ว่า "การให้อภัยนั้นเป็นของขวัญ ไม่ใช่ของตาย" สามีคุณบังคับเอาการให้อภัยจากคุณไม่ได้ และคุณจะให้อภัยได้ก็เมื่อรู้สึกว่าพร้อมที่ให้เท่านั้น เมื่อตั้งไว้ตรงจุดนี้ คุณและเขาจะได้ทะนุถนอมการให้อภัยนี้ไว้ให้ดีที่สุด ไม่ทำลายทิ้งขว้างของขวัญชิ้นนี้อย่างรู้เท่าไม่ถึงการ และเขาจะได้รู้ว่า คุณให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่ง และเขาต้องแสดงความจริงใจเพื่อรักษาโอกาสนั้นด้วย ในการที่จะป้องกันเหตุการณ์ไม่ให้เกิดอีก สามีคุณก็ต้องยอมให้ความร่วมมือกับคุณด้วยนะคะ นกกินลมไม่ทราบว่าเขามีความโปร่งใสในกิจกรรมต่างๆที่เขาทำโดยไม่มีครอบครัวแค่ไหน ช่วงนี้เป็นช่วงยังเปราะบาง คุณอาจต้องขอให้เขาใช้เวลากับครอบครัวและลูกให้มาก มีอะไรอย่าปิดบังคุณ ยอมให้คุณรับทราบเรื่องราวต่างๆ หรือดูข้อความในโทรศัพท์ของเขา รับรู้ในสิ่งที่เขาทำ หากฝ่ายนั้นติดต่อมา เขาก็ต้องบอกให้คุณรู้ด้วย อย่าคิดแก้ไขคนเดียว เดี๋ยวจะพัวพันเอาไม่ออกอีก เพื่อเป็นการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจของความเป็นครอบครัวอีกครั้ง คุณเองก็จะทำเช่นเดียวกันเพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียว คุณนิ่งต่อไปอย่างนี้ก็ดีแล้วค่ะ ให้ธรรมะและสติเป็นที่พึ่ง ปัญญาจะเกิดเองว่าจะต้องแก้ปัญหาอย่างไรต่อไป แต่อย่าลืมบำรุงดูแลร่างกายซึ่งเป็นที่ตั้งของสติด้วยนะคะ ทานอาหารให้พอเพียง พักผ่อนให้มาก เรามีลูกสองคนที่ต้องห่วงใย ครอบครัวของสามีเขาก็รักคุณ กำลังใจคุณมีเพียบค่ะ ใช้ตรงนี้เป็นฐานสร้างความเข้มแข็งเข้าไว้นะคะ ถ้าคุณเข้มแข็ง หนักแน่น มีจุดยืน สง่างาม เปี่ยมรัก พร้อมทั้งอ่อนโยนและเข้าอกเข้าใจ สามีคุณคงไม่ไปไหนเสียหรอกค่ะ ขอให้โชคดีค่ะ
คุณแม่ลูกสอง เขียนมา : [ 182.52.118.106 ]
รหัสจดหมาย L-3151
๐๗ ม.ค. ๒๕๕๘, ๑๓.๑๔ น. สวัสดีคะคุณนกกินลม ดิฉันตอนนี้ก็กำลังเป็นทุกข์เรื่องสามีนอกใจ โชคดีที่ได้มีโอกาสมาเจอและได้อ่านการตอบคำถามของคุณ แปลกนะคะหลาย ๆ เรื่องที่่อ่านไปมักจะมีความคล้ายคลึงกัน ไม่มากก็น้อย สภาวะปัจจุบันของดิฉันขณะนี้ คือ หลังจากที่จับได้ว่าเค้าแอบมีคนอื่น เค้ารับสารภาพและบอกว่าจะเลิกติดต่อกัน ส่วนเราก็พยายามเชื่อและปรับตัวกันใหม่ แต่ยอมรับว่าความหวาดระแวงมีอยู่แน่นอนและสุดท้าย เราก็จับได้อีกครั้งว่าเค้ายังติดต่อกันอยู่ ทั้งทางโทรศัพท์ ซึ่งจะมีเหตุผลเสมอในการต้องติดต่อกัน และไปหาผู้หญิงคนนั้น ซึ่งก็มีเหตุผลอีกตามเคย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไม่ค่อยน่าเป็นเหตุเป็นผลกันเท่าไหร่ เค้าบอกว่าบริสุทธิ์ใจ เพราะหยุดคิดตั้งแต่วันที่บอกว่าจะเลิก ดิฉันยอมเชื่ออีกครั้ง แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เค้าโกรธแค้นเรามากมาย เมื่อแม่ของเค้าเองที่รู้สึกผิดหวังในการกระทำของเค้า ออกปากไล่เค้าออกจากบ้านด้วยอารมณ์โมโห และคืนนั้นเองที่เค้าออกปาก ยื่นข้อเสนอให้เรา แยกกันอยู่ หย่า หรือจะฟ้องหย่า กัน โดยถามดิฉันว่าจะเลือกเอายังไง ยอมรับว่าเมื่อได้ยินดิฉัน ตกใจมาก ไม่เคยคิดว่าเค้าจะทำกันได้ขนาดนี้ เค้าขู่ว่า เค้าศึกษามามาอย่างดีแล้วว่า ถ้าหย่ากันลูกต้องได้ไปอยู่กับเค้า คือเราทั้งสองต่างไม่ต้องการเสียลูกไป ดิฉันรักลูกมากและเค้าก็รักลูกมากเช่น ตลอดเวลาที่ผ่านมาถ้าไม่นับเรื่องที่เค้านอกใจดิฉัน เค้าเป็นสามีและพ่อที่ดีมาก ดูแลรับผิดชอบตลอดอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยกับงาน ทุกงานทุ่มเทเพื่อดิฉันกับลูก ผู้คนรอบข้างต่างชื่นชมเค้ามาตลอดคะ เมื่อเค้าให้ดิฉันเลือก ดิฉันบอกว่าไม่เลือก เพราะดิฉันอยากให้ครอบครัวเรามี พ่อ แม่ ลูก อยู่ต่อไป แต่เค้าก็ยังยืนยันว่าเค้าต้องการอิสระ ไม่อยากให้ดิฉันไปวุ่นวายกับเค้า ซึีงมันทำให้เค้าอึดอัด ทำให้แม่เค้าทุกข์ใจ โดยโทษว่าเป็นเพราะดิฉัน เค้าไม่ได้สำนึกและโทษตัวเองเลยว่า ปัญหาที่กำลังเกิดตอนนี้มาจากตัวเอง พ่อแม่ญาติพี่น้องทุกคนดีกับดิฉันมากให้กำลังใจ ทุกคนไม่มีใครเข้าข้างเค้าเลย มันย่ิงทำให้เค้าโทษว่าเพราะดิฉัน พรากทุกคนไปจากเค้า ทั้งแม่และญาติๆ มันเป็นนิสัยหรือสันดานเค้าอยู่แล้วคะที่เป็นแบบนี้ เมื่อเกิดเรื่องอะไรมาก็ตามเค้าจะไม่มองว่าตัวเองผิด แต่เป็นคนอื่นผิดคะ แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาดิฉันไม่เคยทำอะไรที่ผิดเลย เป็นภรรยาที่ดีของเค้ามาตลอด ซื่อสัตย์ต่อเค้า ซึ่งอันนี้เค้าก็คงรู้ดี เพราะเค้าก็บอกว่าดิฉันเป็น แม่่ที่ดี เมียที่ดีมาก เค้าบอกว่าเค้าไม่ดีเอง และบอกว่าขอแยกทางกัน ทางใครทางมัน เค้าใช้คำนี้ แต่เค้าก็ไม่เคยบอกว่า ต้องการหย่ากับดิฉันตรง ๆ นะคะ แต่จะย้อนถามดิฉันว่าจะเอายังไง ใน 3 ทางเลือกที่เค้าบอก ล่าสุดเมื่อเค้าถามดิฉันอีก ตอนแรกดิฉันน่ิง เงียบที่จะไม่โต้ตอบ สุดท้ายก็ทนไม่ได้ ดฺิฉันบอกเค้าว่าฉันจะอยู่อย่างนี้ เพื่อลูก เค้าบอกว่าเค้าไม่เหมือนเดิมแล้ว อยู่ไปก็จะทำให้รู้สึกเกลียดกันไปเปล่า ๆ และท้ายสุดก็บอกว่าดูซิว่า ใครจะทนได้นานกว่ากัน เค้าแสดงอาการไม่มีเยื่อใย แต่ก็นอนกอดเราตอนกลางคืนอยู่ ไม่ได้มีท่าทีผลักไสเราหรือรังเกียจเรา ซึ่งดิฉันก็ไม่เข้าใจในจุดนี้เหมือนกัน บางทีเค้าอาจจะแค่เหลือความสงสารอยู่ให้เรามั้งคะ ขณะนี้ดิฉันไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไป ทำใจได้ระดับหนึ่งคะถ้าต้องเลิกกันจริง ๆ แต่ที่เลือกที่จะยื้ออยู่ เพราะยังแอบมีความหวังเล็ก ๆ ในใจว่าเค้าจะคิดได้และกลับมาเป็นเหมือนเดิม ส่ิงที่เค้าพูดเป็นเพียงการแก้แค้น สะใจ โกรธเพราะคิดว่าเราทำให้เค้าเสียหน้า เสียภาพดี ๆ ที่เค้าเคยทำมา รวมทั้งพ่อแม่ญาติ ๆ ก็ไม่มีใครเข้าข้างเค้า คุณแม่ของดิฉันท่านแนะนำให้ดิฉันอยู่นิ่ง ๆ ใจเย็น ๆ ใช้สติ ไม่โต้ตอบเพื่อรอดูว่าเค้าจะเป็นอย่างไร ดิฉันก็น่ิงได้นะคะเมื่ออยู่กับเค้าหรือต้องโต้ตอบกัน เพราะเรามีสติ ดังนั้นเค้าจะโมโหที่เราเฉย ๆนิ่ง ๆ ซึี่งบางครั้งดิฉันก็แอบตลกเค้าเหมือนกันที่เค้าเป็นฝ่ายโมโหเอง (ที่เค้าพูดเรื่องขอแยกทางกับดิฉัน เค้าก็กลัวแม่เค้ารู้นะคะ คุยกันก็บอกว่าอย่าเสียงดังเดี๋ยวแม่ได้ยิน ดิฉันก็ยังงง ว่า อ้าว ไหน ๆ ก็อยากแยกทางทำไมต้องกลัวแม่เค้ารู้) ที่ดิฉันยังไม่ยอมแตกหักกับเค้าก็เพราะลูกคะตอนนี้ แต่ก็ไม่รู้จะอยู่ในสภาพนี้ได้ตลอดหรือป่าว และไม่รู้ว่าที่เลือกทำอย่างนี้ ถูกต้องหรือไม่ พยายามไม่คิดไม่ทุกข์ ปล่อยวางเวลาอยู่คนเดียว เวลาทำงาน แต่ก็ยากเหลือเกินคะ มันกวนสมาธิ จิตใจมาก ๆ คะ คุณนกน้อยว่าดิฉันควรจะทำอย่างไรดีคะ ๐๘ ม.ค. ๒๕๕๘, ๑๗.๐๑ น.
สวัสดีปีใหม่ค่ะ คุณแม่ลูกสอง ดูเหมือนคุณจะได้ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียของสามีคุณแล้วอย่างรอบด้านรอบคอบ และได้เลือกแล้วว่าจะพยายามอยู่ด้วยกันต่อไปเพื่อลูก ก็เหลือแต่ว่าสามีของคุณจะยอมด้วยหรือไม่เท่านั้นเองนะคะ ข้อนี้ไม่มีใครตอบได้ในตอนนี้ แต่คุณยังคงสามารถทำสิ่งที่ดีที่สุดต่อไปได้เพื่อตัวเองและเพื่อลูก ขอให้ทำให้สิ่งที่สบายต่อจิตใจ ไม่บั่นทอนทั้งตัวเองและผู้อื่นนะคะ หากว่าความโมโหของเขาเกิดจากการกดดันของครอบครัว แล้วมาลงที่คุณจริง คุณอาจจะต้องเจรจากับทางครอบครัวเขา ขอร้องให้ให้ปล่อยให้เขากับคุณได้พยายามแก้ปัญหากันเองก่อน และอย่าเพิ่งกดดันทางสามีคุณมากเกินไป บางทีอาจจะช่วยได้ ระหว่างที่ยังสงบสยบเคลื่อนไหวตามคำแนะนำของคุณแม่ของคุณเอง (ซึ่งเป็นคำแนะนำที่ดีมาก) เพื่อรอให้สามีคุณเย็นลง ก็ขอให้คุณสวดมนต์ภาวนา เข้าวัดทำบุญ ปล่อยนกปล่อยกา อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร อ่านหนังสือธรรม ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิเพื่อความสบายใจ ในส่วนทางกาย ก็ออกไปเสริมสวย ซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ทำผมทรงใหม่ๆ หารองเท้าคู่ใหม่ พาเด็กๆ ออกเที่ยวพักผ่อนกันแค่สามคนแม่ลูกก่อน ให้จิตใจกระชุ่มกระชวย มีความเป็นตัวของตัวเอง และเกิดความแตกต่างไปบ้าง ก็จะช่วยได้นะคะ เปรียบเหมือนคุณเป็นบ่อน้ำใสเย็น ใครอยู่ใกล้ก็สงบชื่นใจ มีไม้ดอกไม้ใบกลิ่นหอมงดงาม สร้างความชื่นใจแก่ผู้พบเห็น เมื่อตัวคุณเองใจเบาลง การจะเจรจาสิ่งใดกับสามีก็ย่อมให้ผลในทางบวกได้นะคะ นอกจากนั้น หากคุณคิดว่าการแยกทางกันอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ในที่สุด คุณควรปรึกษาทนายในเรื่องลูกและทรัพย์สินที่มีร่วมกันเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมทางครอบครัวและเศรษฐกิจของคุณในกรณีที่ต้องอยู่คนเดียวต่อไปด้วยค่ะ แม้ว่าจะไม่ได้แยกทางกันในที่สุด แต่ก็เป็นความรู้ที่คุณควรจะมีไว้เพื่อจะได้คุ้มครองลูกทั้งสองได้ดีที่สุดในกรณีเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าในทางใดๆ ก็ตาม ขอเอาใจช่วยค่ะ นกกินลม
รับปัญหา เขียนมา : [ 115.87.100.34 ]
รหัสจดหมาย L-3149
๐๓ พ.ย. ๒๕๕๗, ๑๒.๒๙ น. คุณยุ รับปัญหาดีใจด้วยนะคะที่คุณพบทางสว่าง ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ เขียนมาคุยกันบ้างนะคะ ๐๘ ม.ค. ๒๕๕๘, ๑๗.๐๒ น.
นกกินลมขอเอาใจช่วยคุณยุเช่นกันค่ะ
อยากพ้นทุกข์ เขียนมา : [ 49.230.68.131 ]
รหัสจดหมาย L-3148
๐๖ ต.ค. ๒๕๕๗, ๐๙.๑๖ น. สวัสดีค่ะ คุณนกกินลม ดิฉันถูกสามีบอกเลิกโดยให้เหตุผลว่าเราต่างกันเกินไป เราไม่รักครอบครัวเค้า เพียงพอ เค้าอย่กกลับไปอยู่ดูแลพ่อ แม่ แล้วเค้าก้อไปเลย เราขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดว่าเราไม่ดีพอ และพร้อมที่จะแก้ไข เราขอให้เค้าอยู่ต่อเราขอพิสูจน์ตัวเอง เราขอให้เค้าอยู่อย่างน้อยจนกว่าเราจะได้งานทำ เราไม่มีเหลืออะไรเลย แต่เค้าก้อไม่ฟังคำขอร้อง และไป ตอนนี้ตะสามเดือนแล้วค่ะ เรายังทุกข์มากอยู่ พยายามที่จะให้อภัยเค้าตามที่แนะนำ ก็ดีขึ้นเป็นพักๆ แล้วก็แน่ลงค่ะ เราสงสัยว่าเหคุผลแค่นั้ทำให้ต้องทิ้งกันเลยหรอ แต่เค้าก็บอกว่าไม่มีอะไรมากกว่านี้ ช่วยขี้แนะด้วยค่ะ ทางที่จะพ้นทุกข์ ตอนนี้ก็พยายามคิดแต่จะหางานทำเพื่อมาทดแทดสิ่งที่ทำให้ทุกข์อีกเรื่องหนึ่ง ขอบคุณค่ะที่มีเวปดีๆ ให้อ่านและปรึกษา ๐๕ พ.ย. ๒๕๕๗, ๑๖.๐๘ น.
สวัสดีค่ะ คุณอยากพ้นทุกข์ เหตุผลแห่งการเลิกร้างกันนั้นไม่จำเป็นว่าต้องใหญ่หรือเล็ก สำคัญว่าเมื่อฝ่ายหนึ่งหมดเยื่อใยแล้วมันก็สิ้นสุดลงค่ะ คุณได้พยายามขอร้อง ขอโอกาสจากเขาแล้ว แต่เขาไม่ต้องการ คุณต้องปล่อยเขาไปค่ะ เวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง แม้ความเจ็บปวด แต่ขอให้คุณใช้เวลาลงทุนกับตัวคุณเองด้วย เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ทางที่ทำให้ "คุณ" มีความสุขและความมั่นใจในชีวิตมากขึ้น อย่าเปลี่ยนตัวเองเพื่อดึงเขากลับมา แต่เปลี่ยนเพื่อให้เขาเสียดายว่าเขาคิดผิดที่ทิ้งคุณไป การให้อภัยเป็นของขวัญ ไม่มีใครบังคับให้คุณต้องให้อภัยเขา และหากคุณให้อภัยได้จริง ก็ให้คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณจะให้เขาได้ และเป็นการปลดสิ่งหนักๆ จากใจของคุณนะคะ หากเขายังมีเยื่อใย มีเวลาคิดเปรียบเทียบชีวิตที่มีคุณและไม่มีคุณสักพักหนึ่ง เขาคงได้คิดว่าจะหวนกลับมาหรือไม่ ขอให้โชคดีค่ะ
คนผิดหวัง เขียนมา : [ 203.247.149.151 ]
รหัสจดหมาย L-3140
๑๑ ส.ค. ๒๕๕๗, ๑๗.๐๕ น. จากคนผิดหวังค่ะ เพิ่มเติมค่ะ ขอเพิ่มเติมตอนนี้สามีบอกว่าต้องการแก้แค้นที่เขาต้องสะสมทุกข์มาหลายปีให้ดิฉันได้รับรู้บ้างว่าเป็นอย่างไร ให้สาสมเพราะที่ผ่านมาเขาคิดว่าเขาเป็นเหมือนคนรับใช้ที่ต้องทำในสิ่งที่เขาไม่ต้องมาทำ แต่ถ้าดิฉันคิดบ้างว่างานทำนอกบ้านต้องเป็นงาน ผช. ทำการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต้องเป็นหน้าที่ ผช.บ้าง เราก็มีสิทธิ์คิดช่ายไหมค่ะเพราะเขาเอาประเด็นนี้มาสะสมว่าเราทำให้เขาดูไม่เป็นหัวหน้าครอบครัวค่ะ ตอนนี้ชีวิตการดำรงอยู่เป็นแบบถามคำตอบคำ ความห่วงใยหมดแล้วค่ะ เขาก็ไม่มีหลงเหลือ แต่ตั้งแต่เราจับได้ว่าเขามีคนใหม่ เขาสองคนก็ใช้วิธีติดต่อกันทางเมลล์ โทรศัพท์ แล้วแต่จะสรรหา มาติดต่อค่ะ พอจับได้แต่ละครั้งก็ขุดเอาเงื่อนไขต่างๆๆนาๆมาว่าที่เขาต้องเป็นแบบนี้เพราะอะไร เพราะเราไม่ค่อยคุยกับแม่เขา ขี้บ่นในสิ่งที่ไม่เห็บของเป็นที่เป็นทาง เขาเก็บอารมณ์มานานหลายปี แต่ไปพบกันไหมอันนั้นเราไม่ทราบเพราะต้องออกมาทำงาน ส่วนเขาสองคนมีเวลาอยู่บ้านค่ะเพราะไม่ได้ทำงานทั้งคู่ ส่วนพ่อแม่ของเขาก็คงเข้าข้างลูก ให้ลูกตัดสินใจเอง มีแต่เงินให้ใช้ เพราะกลัวลูกเหนื่อย ลูกลำบาก ส่วนดิฉันก็พยายามทำใจให้ได้อย่างเดียวค่ะ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะหย่าร้างกันไปเลยแบบไม่มาทนทุกข์ หรือว่าจะทนอยู่เพื่อลูกให้มีพ่อแม่ พร้อมหน้าแต่ก็ต้องแบกรับเอาทุกข์ไว้เอง เพราะดูแล้วเขาเป็นคนรักลูกค่ะ ตอนนี้จะเหมือนคนเป็นโรคซึมเศร้าแล้วค่ะ มาทำงานแบบคนจมทุกข์ มากๆ รบกวนช่วยแนะนำด้วยนะคะ ๒๓ ก.ย. ๒๕๕๗, ๒๐.๕๐ น.
คุณคนผิดหวังคะ ขอโทษที่ไม่ได้ตอบเร็วกว่านี้ อ่านแล้วก็จนปัญญาเหมือนกันว่าจะตอบอย่างไรดี การสลับหน้าที่ในครอบครัวระหว่างชายหญิง (หญิงทำงานนอกบ้าน ชายดูแลในบ้าน) ยังเป็นสิ่งใหม่สำหรับสังคมไทยนะคะ ผู้ชายก็ยังยึดติดภาพพจน์อยู่ว่าการให้เมียหาเลี้ยงเป็นเรื่องต้อยต่ำ เพื่อนฝูงอาจจะล้อเลียนดูถูกทั้งฝั่งเพื่อนเขาและเพื่อนคุณ ความกดดันก็คงมากพอสมควร ส่วนคุณจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกกดขี่ นกฯก็พิจารณาไม่ได้จากสิ่งที่คุณเขียนมา นกฯเองก็ไม่ทราบว่าคุณสองคนตกลงกันอย่างไร ตอนที่คุณเริ่มทำงานนอกบ้าน และเขาอยู่บ้าน คุณได้กำหนดบทบาทหน้าที่กันชัดเจนหรือเปล่า เขาสมัครใจเองหรือตกกะไดพลอยกระโจน เขามีความสามารถทางด้านอาชีพอะไรหรือไม่ หรือมีความจำเป็นอะไรที่เขาต้องอยู่บ้าน ในเมื่อสมัยนี้ ผู้หญิงผู้ชายทำงานนอกบ้านทั้งคู่ก็มีอยู่มาก ผู้ชายเมื่อจะเอาใจออกห่าง ก็สามารถมีเหตุผลได้สารพัด ตั้งแต่เมียดีเกินไป เมียแก่เกินไป เมียขี้บ่น หรือเมียไม่มีอะไรผิดเลย แต่หมดรักแล้ว รักคนใหม่มากกว่า ดังนั้น คุณคงต้องแยกแยะดูว่าสิ่งที่สามีคุณพูดนั้น มันจริงทั้งหมดหรือเปล่า มีอะไรที่คุณจะปรับแก้ไขได้บ้าง และมีอะไรที่เขาจะปรับตัวได้บ้าง หรือจะช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นหรือเปล่า หรือว่าจริงๆ คุณจะปรับหรือไม่ปรับ เขาก็ไม่มีอะไรจะเปลี่ยน ลองคิดดูนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ
คนผิดหวัง เขียนมา : [ 203.247.149.151 ]
รหัสจดหมาย L-3139
๑๑ ส.ค. ๒๕๕๗, ๑๖.๔๒ น. เขียนถึงคุณนกกินลม สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นคนนึงที่กำลังทุกข์อย่างสาหัสเพราะสามีนอกใจโดยให้เหตุผลว่าที่เขานอกใจเพราะเราที่ทำให้เขาดูรู้สึกด้อยค่าไม่มีคุณค่าเป็นเพราะความเจ้าระเบียบของเราที่ทำให้ครอบครัวเขาต้องอยู่แบบไม่สบายใจ เขาต้องมาทำงานบ้านทั้งที่ไม่ใช่งานของผู้ชายแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรสักเท่าไหร่นอกจากดูทีวีและเล่นโทรศัพท์และรับส่งลูกจากโรงเรียน ส่วนดิฉันต้องออกมาทำงานนอกบ้านเลี้ยงดูครอบครัวเพราะ เขาไม่มีรายได้อะไร นอกจากเงินที่พ่อแม่เขาให้ใช้ นานไปสิ่งที่หมักหมมเกาะกินใจเขาทำให้เขารู้สึกว่าเราไม่มีเกียรติ ไม่มีค่า เมื่อวันนึงเขาพบคนใหม่ที่เด็กกว่า เข้าใจเขากว่าดูเหมือนเขาได้เป็นผู้นำทำให้ครอบครัวมีมือที่สามเข้ามาและก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบ ด้วยเหตุผลว่าดิฉันไม่ยอมเลิกที่จะติดตามการกระทำของเขาที่ยังติดต่อกัน ตอนนี้ดิฉันทุกข์มากส่วนฝ่ายหญิงก็พยายามลงรูประหว่างเขาสองคนทำกิจกรรมต่างๆๆนาๆๆ ประกาศลงเฟชเพื่อให้คนได้รับรู้ ดิฉันพยายามทำใจทุกทางค่ะแต่ลำบากมากๆๆค่ะ ช่วงนี้ก็สวดมนตร์ นั่งสมาธิแต่ยอมรับว่าจิตไม่นิ่งเลย มันมีแต่เรื่องวนเวียนเข้ามาตลอดเวลา แผ่เมตตาให้มันสองคนก็แล้วแต่จิตใจยังไม่นิ่งเลยค่ะ รบกวนขอปรึกษาหรือมีวิธีแก้ทีละเล็กละน้อยเพื่อพยายามตัดมันออกจากจิตใจเราไหมค่ะ ๒๔ ก.ย. ๒๕๕๗, ๑๙.๔๔ น.
ตอบจดหมายแล้วนะคะ ขอให้แผ่เมตตาต่อไปค่ะ และรักเมตตาตัวเองด้วย คุณก็มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ทำผิด ทำพลาดได้เหมือนกัน หากล่วงเกินสามีโดยไม่ตั้งใจ แล้วทำให้เขาน้อยเนื้อต่ำใจ ก็อาจจะต้องยอมรับความจริง พลาดแล้วก็ตั้งต้นใหม่ หากตัดความคิดกังวลความทุกข์จากจิตใจไม่ได้ ก็ให้พิจารณาให้รู้เท่าทันความไม่เที่ยง สรรพสิ่งต่างๆ ก็แค่นั้นเอง หรือให้ใช้มรณานุสติเข้ามากำกับ คนเราเกิดแก่เจ็บตาย รักหรือเกลียดแค่ไหนสุดท้ายก็ตายจากกัน วันตายของเราเองก็ไม่รู้จะมาถึงเมื่อไร วันตายของเขาเราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร เราจะแบกทุกข์ไปจนถึงวันนั้นเลยหรือ อะไรปล่อยได้ก็ปล่อยไปเสีย อย่าแบกไว้ให้หนัก เป็นกำลังใจให้นะคะ
ลมลำเพย เขียนมา : [ 1.179.141.142 ]
รหัสจดหมาย L-3137
๒๙ ก.ค. ๒๕๕๗, ๑๓.๒๑ น. ดิฉันเป็นทุกข์คิดมากเรื่องสามี เขานอกใจดิฉัน เคยให้โอกาสแล้ว แต่เขาก็ทำอีก ดิฉันตัดสินใจไม่ได้ ไม่อยากเลิก แต่ไม่ไว้ใจเขาแล้ว คิดมาก สับสน ควรพิจารณาอย่างไรดี มีลูกสาวกับเขา 1 คน 10 ขวบ ค่ะ ตอนนี้เมียน้อยเขากำลังท้อง เขาไม่ได้อยากยู่ด้วยกัน ถึงดิฉันเลิกกับเขา เขาก็ไม่อยู่ด้วยกัน จะเลิกดิฉันก็ทุกข์ จะอยู่ก้กลัวเหมือนเดิม คิดไม่ตกเลยค่ะ ๒๒ ก.ย. ๒๕๕๗, ๒๓.๐๒ น.
สวัสดีค่ะ คุณลมลำเพย จะเลิกก็ทุกข์ จะอยู่ก็ทุกข์ เห็นความทุกข์แห่งความรักและความผูกพันแล้วใช่ไหมคะ ถามตัวเองนะคะว่าถ้ายังอยู่ด้วยกันครบหน้าพ่อแม่ลูก จะพอทนไหวเพื่อลูกได้ไหม ลูกเพิ่งจะสิบขวบ สามีช่วยเลี้ยงดูลูกด้วยหรือเปล่า ถ้าเขายังทำหน้าที่พ่อที่ดีอยู่ก็น่าจะอยู่กันไปก่อน แล้วค่อยๆ ขยับขยายเมื่อลูกเริ่มโตมากขึ้นและพูดคุยกันให้ลูกเข้าใจ หากคุณต้องการแยกจากเขาจริงๆ เพราะคิดว่าดีกว่าสำหรับคุณและลูก ก็อย่าได้ไปกังวลเลยค่ะว่า สามีคุณจะอยู่ยังไง จะไปกับหญิงใหม่หรือไม่ ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไร เมียอีกคนเขาก็ท้องอยู่ เด็กก็ต้องมีพ่อ ไม่ว่าคุณจะเสียใจขนาดไหน ก็คงเปลี่ยนความจริงนี้ไม่ได้ ขอให้นึกเมตตาเด็กที่กำลังจะเกิดมาโดยไม่มีความผิดก็แล้วกันค่ะ ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไร โชคดีนะคะ
yaya2500 เขียนมา : [ 1.20.158.49 ]
รหัสจดหมาย L-3122
๑๑ ก.พ. ๒๕๕๗, ๑๒.๕๖ น. เรื่องที่เรามาทั้งหมด อาจสับสนเพราะจิตใจไม่เป็นสุขค่ะ เมื่อรู้เรื่องใหม่ ๆ ยอมรับค่ะว่าคิดฆ่าตัวตาย หลายครั้ง ความหดหู่ ท้อแท้ และสิ้นหวัง มาพร้อมกันเลยค่ะ ได้กำลังใจจากลูก ๆ พี่ๆ น้อง ๆ และเพื่อนในกลุ่มที่ดี เรื่องทั้งหมดผ่านมาครบปีแล้วค่ะ แต่ทำใจให้ลืมไม่ได้เสียที อาจเพราะต้องเห็นหน้ากันทุกวันทั้ง 3 คนอยู่โรงเรียนเดียวกันค่ะ คอยคิดถึงพฤติกรรมของสามีกับชู้ ปากบอกให้อภัยสามี แต่บางทีก็ทำไม่ได้ ชู้ก็เหมือนกันยากให้อภัย แต่ทำไม่ได้ คุณนกกินลมเชื่อไหมค่ะชู้ไม่เคยกล่าวคำขอโทษ ไม่เคยยอมรับผิด ตอนนี้ดิฉันชอบอยู่คนเดียว มีความสุขกับการหมกหมุ่นในความคิดของตัวเอง พอคิดแล้วจะทุกข์ ร้องไห้แบบเสียสติเลยค่ะ ไม่ยากคุยกับใคร ไม่ยากพูด แม้กับลูกและหลานสาวที่กำลังน่ารัก ดิฉันกับเป็นโรคจิตหรือเปล่าค่ะ ๒๒ ก.ย. ๒๕๕๗, ๒๒.๕๓ น.
คุณยาย่าคะ ผู้หญิงจำนวนมากคงอยากให้เรื่องราวของสามีเจ้าชู้จบลงแบบแค่ของคุณก็พอ คือ ได้เงินคืน ได้สามีคืน นี่คุณยังจะเอาคำขอโทษ แล้วแถมขอลบลืมความทรงจำที่เลวร้ายอีกด้วย มันไม่เป็นจริงหรอกค่ะที่เราจะได้ทุกอย่างที่เราต้องการ ขอให้คุณชั่งน้ำหนักสักหน่อยว่าที่ได้มาแล้วนี่มันน่าจะพอแล้วหรือยังนะคะ อย่าได้ไปทุกข์กับสิ่งที่ไม่ได้คืนมาด้วยเลยค่ะ และอย่าหวังมากกว่าที่ได้รับมาเลยนะคะ ผู้หญิงอีกมากมายที่เสียทั้งเงิน เสียทั้งสามี ไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย พยายามหยุดคิดปรุงแต่ง รักตัวเองในทางที่ถูก คือ รักแต่ไม่ต้องมองตัวเองเป็นเหยื่อที่น่าสงสารตลอดเวลา เพราะมันทำให้คุณทุกข์ไม่จบไม่สิ้น แล้วก็แล้วไปเถอดนะคะ ให้อภัยไม่ได้ก็ให้หัดเมตตาสัตว์ร่วมโลกแทนก็แล้วกันค่ะ
yaya2500 เขียนมา : [ 1.20.158.49 ]
รหัสจดหมาย L-3121
๑๑ ก.พ. ๒๕๕๗, ๑๒.๔๑ น. ต่อนะค่ะ ตอนนี้สามีบอกเลิกหญิงชู้แล้วค่ะ ดิฉันให้อภัยสามี เพราะคิดว่าสิ่งที่เขาทำดีกับครอบครัวมีมากกว่าความไม่ดีค่ะ ส่วนชู้ดิฉันเสียใจมาก ๆ ไม่สามารถให้อภัยเธอได้ เนื่องจากดิฉันไว้วางใจเธอมาก และเคยเอาเงินตัวเองไปถ่ายที่นาให้เธอ ยามเธอเจ็บป่วยค่อยห่วงใยตลอด แต่เธอหักหลัง และบอกว่าไม่อายใครที่เป็นชู้กับสามีดิฉัน เธอคงไม่อายจริง ๆ เพราะเพื่อนในกลุ่มเคยเรียกเธอไปเตือนแล้ว แต่เธอไม่สนใจ แต่เธอจำเป็นต้องเลิกกับสามีดิฉัน สาเหตุคือ 1. กลัวโดนฟ้อง 2.ลูกเธอคอยอาละวาดค่ะ (ขออภัยต้องใช้คำนี้จริง ๆ ตอนที่เธอเป็นชู้กับสามี เธออยู่บ้านคนเดียวค่ะ ตอนนี้ลูกชายเธอกลับมาอยู่ด้วย คอยคุมประพฤติแม่ตัวเอง) ๒๒ ก.ย. ๒๕๕๗, ๒๒.๕๕ น.
ตอบจดหมายแล้วนะคะ
yaya2500 เขียนมา : [ 1.20.159.166 ]
รหัสจดหมาย L-3120
๑๐ ก.พ. ๒๕๕๗, ๑๔.๑๗ น. ไม่นานข่าวก็ออกมา ผู้หญิงถูกโกงเงิน 10 กว่าล้าน รวมถึงเงินที่สามีดิฉันให้ยืมด้วย สามี มาขอร้องให้ดิฉันจ้างทนายส่งจดหมายทวงเงินให้ค่ะ (ผู้หญิงยืมเงิน ยิมจริง ๆ แต่ของดิฉันให้เขียนสัญญากู้ยืมเงินดิฉันทำหลักฐานไว้เน้นหนา) ส่วนของสามีไม่ได้ทำค่ะก็มีอะไรกันมาตั้ง 5-6 ปี แล้วนี่ ในที่สุดผู้หญิงก็ขายนาใชัหนี้ให้สามีค่ะ ส่วนของดิฉันลูก ๆ เขาก็เอาเงินมาใช้หนี้จนหมด ค่ะ เพราะดิฉันบอกว่าจะฟ้อง สามีกับเพื่อนคนนี้จะติดต่อกันตลอด สามีดิฉันไปหาเธอทุกวันค่ะ บ้านเธออยู่ใกล้ รร.ค่ะ วันเสาร์-อาทิตย์ก็นัดกันไปเล่นชู้ตามโรงแรม ตามรีสอท ต่าง ๆ ค่ะ ดิฉันถามสามีไม่รับค่ะ เรียกมาถามทั้ง 2 คน นัดกันโกหก ดิฉันเรียกผู้หญิงมาถาม ก็บอกว่าจะไม่ติดต่อกันอีก โกหกอีกแล้ว ดิฉันใช้เครื่อง GPS ดักจับสามีว่าไปไหนบ้าง ได้ความเลยค่ะ ไม่เลิกติดต่อกัน ดิฉันสติแตกค่ะ ถ้ามีโอกาส จะมาเล่าต่อนะค่ะ ๒๒ ก.ย. ๒๕๕๗, ๒๒.๕๔ น.
ตอบแล้วนะคะ
yaya2500 เขียนมา : [ 1.20.159.166 ]
รหัสจดหมาย L-3118
๑๐ ก.พ. ๒๕๕๗, ๑๑.๒๔ น. ขอปรึกษานะค่ะ ดิฉันและสามี อายุ 57 ปีค่ะ เรามีเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน 5 คน อายุเท่า ๆ กันค่ะ ดิฉันมีเพื่อนไม่มากเพราะย้ายมาอยู่กับสามีค่ะ เราทำงานแม่พิมพ์ของชาติค่ะ เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 50 ค่ะ ในหมู่เพื่อน ๆ มีอะไรขาดเหลือคอยช่วยกันค่ะ มาปี 50 สามีเริ่มเปลี่ยนไป อ้างนอนเวรบ้าง ไปเทียวพักผ่อนบ้าง ดิฉันได้ข่าวมาว่าไปติดผู้หญิง (เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม) ดิฉันคิดว่า เป็นไปไม่ได้ ดิฉันไว้ใจทั้งสามีและเพื่อนคนนี้มาก แต่ผู้หญิงสามีตาย และมีเรื่องชู้สาวกับคนอื่นๆ มามาก ดิฉันรู้แต่ไม่สนใจ เรายังคบกันอยู่เสมอ เพื่อนคนนี้มีปัญหาเรื่องเงิน เรื่องเจ็บป่วย เราก็ช่วยเหลือ มาระยะหลังนี้สามีมาบอกว่า เอาเงินให้ผู้หญิงยืม ไม่กี่แสนค่ะ ดิฉันเห็นว่าปกติ ก็ช่วยกันไป แต่ต่อมาสามีมาบอกว่า เกือบ 3 ล้าน แล้วบอกว่าเป็นเรื่องที่เขาตัดสินใจเองไม่ให้ดิฉันยุ่ง เดียวมาต่อนะค่ะ ๒๒ ก.ย. ๒๕๕๗, ๒๒.๔๘ น.
ค่ะ เดี๋ยวจะไปตอบในตอนจบจดหมายของคุณนะคะ
คุณอภัย เขียนมา : [ 183.88.223.143 ]
รหัสจดหมาย L-3113
๒๐ ม.ค. ๒๕๕๗, ๒๓.๒๑ น. สวัดีค่ะคุณนกกินลม อยากขอคำปรึกษาเรื่องการทำใจให้เลิกรักในตัวสามี แต่งงานมา10 ปี เป็นแฟนสองปี มีลูกชายที่น่ารักด้วยกันอายุ8ขวบแล้ว เขารักลูกดีค่ะ(ยามไม่หลงใครนะค่ะ) จับได่ว่านอกใจ 5 ปีแรกของการแต่งงาน1 ครั้ง 5 ปีต่อมาอีก1 ครั้ง แต่ว่าเขาจะขอเลิกกะเราทุกครั้งเลยค่ะ ครั้งที่สองนี้เพิ่งเกิดขึ้นมาและจับได้เรื่องน่าจะจบไป4 เดือนแล้ว ซึ่งตั้งใจวาครั้งนี้จะขอจบแต่มือที่3 ต้องไปก่น ต้องการทำใจให้อภัยสามีแล้วจากกันด้วยดี. เปรียบแล้วเกมนี้เราชนะมาทั้งสองครั้งกินเวลาแค่ ไม่กี่เดือน ที่เกิดเรื่อง. ซึ่งทุกสิ่งนั้นวางแผนไว้ในใจเพียงผู้เดียว รอให้เราและเขาใจสงบหมดความโกรธความหึงหวง(คิดไว้จริง) สามีก็ยืนยันกระตายขาเดียวว่าไม่เคยมีอะไรกับใครแค่เล่น(แต่เอาจริงทุกครั้งยอมแลกครอบครัวที่เขาเคยบอกว่ามีค่ากับชีวิตเขามาก) ใจเราไม่หึงมีแต่น้อยใจช่วงแรก ที่จับได้ วันนี้ผ่านเรื่องเลวร้ายมา3 เดือนแล้วเราได้ทบทวนตัวเองก็รู้ว่ามีส่วนผิดบ้าง. โดยเอาหลักธรรมคำสอนของพุทธเจ้าตามที่เรียนที่ฝึกมาใช้คืออภัยเคยเอาพวงมาลัยมากราบขอโทษเขาแล้วค่ะ หวังจะปลดปล่อยตัวเองออกจากใจที่โกรธแค้นสามีแถวยังอ่านและฟังยูทูปเข็มทิศครูอ้อย. นั่งสมาธิก็รู้เห็นว่าเรานั้นไปกับสามีไม่ได้แล้ว แต่ยังรักและห่วงหาอาทรเขามากเช่นเดิมแถวเขายังทำดีกับลูกเมียมากมายแต่เรารู้ว่าเขาจะสงบได้อีกไม่นานเพราะเขาไม่รับการฝึกจิตดูใจตลอด5ปีที่เราไปฝึกกันมาเขาต่อต้านกิเลสไม่ได้เพราะสังคมและอุปนิสัยเขาเรารู้ว่าเขาฝืนมากปีนี้เราอายุ38 แล้วเราต้องการไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสังคมใหม่ที่ใหม่ที่เราอยากไป(จังหวัดนี้มีแต่ปล่องสารเคมีหนักๆค่ะ) สามีเงินเดือนดี เราคิดว่าเงินเก็บเราเพียงพอแล้วเราจะไปกับลูกสองคนแต่เราไม่มีคนรู้จักหรือญาติที่ไหนเลย ญาติมิตทั้งสองฝ่ายไม่มีใครสนใจกันทุกคนอยู่แบบตัวใครตัวมันสามีก็สร้างเรื่องดกหกไว้มากมายให้ทุกคนหลอกเราเล่นละครมากมายจนพวกเขาไม่ค่อยกล้าสู้หน้าเราแล้ว ใจเราขอให้อภัยทุกคนที่เกี่ยวข้อง. แต่มีบางครั้งหวนคิดแล้วน้อยใจเสียใจ บ้างบอกและสอนตัวเองเสมอๆ ดูเหมือนเราเป็นคนดีมีความคิดอ่านมีสติดแต่ทำไมเรายังไม่กล้าก้าวออกมาตามที่ใจเรามุ่งหวัง ![]() เราต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่อยากมีใจที่อิสระ เราเชื่อว่าเราเลี้ยงลูกคนเดียวได้ แต่ไม่ขอเจอเขาจนกว่าจะทำใจได้ไม่อยากรับรู้ว่าเขามีอิสระแล้วมีใครใหม่หรือไม่อยากให้เขามาง้อเราเรากลัวใจตัวเอง ขอเวลา 1 _ 3 ปี ไม่รู้เราไม่เคยมีประสบการ์ อีกกี่ปีแล้วลูกต้องการเจอพ่อเราไม่ห้ามอยู่แล้วสรุปว่าเราจะต้องทำอย่างไรดีเราสับสนว้าวุ้นใจมากส่วนหนึ่งเราเห็นเขาโกหกเราเยอะเขาอยากไปกินเหล้าหรือเขาอยากตามกิเลสตันหาที่เพิ่มขึ้นตามคนที่ฐานครอบครัวดีขึ้นก่อนนี้เราทั้งสองจนค่ะ ช่วยแนะนำเราด้วยเถิด เรากำลังหาอาชีพที่ทำแล้วพอเลี้ยงตัวเองได้นิดหน่อยพอแล้ว เรามีเงินเก็บพอเลี้ยงลูก พอไปเริ่มต้นใหม่ได้ แต่เรากลัวใจตัวเองไปไม่รอดคิดถึงเขาแล้วกลับมาอีก เราสับสน มากๆ ตอนนี้เราตระหนักว่าสามีเป็นคนเลวเห็นแก่ตัว เป็นเขาคนเดิมที่เราไม่ยอมมอง เรายอมรับความจริงแล้วเราแพ้ใจตัวเองหรือเราเป็นอะไรกันแน่ เราต้องการจบชีวิตคู่ที่ทุกข์ใจนี้เหลือเกินมองไม่เห็นอนาคตเอาเสียเลย (ศึกษาเข็มทิศครูอ้อยยิ่งมั่ยใจว่าเราต้อบจบ) ยิ่งอ่านเรื่องราวที่คุณนกกินลมสอนเรามั่นใจว่าเราไม่ได้ให้อภัยเขาได้แท้จริง เหมือนเรารักตัวเองเห็นแก่ตัวหรือไม่ ขออภัยถ้าอาจจะอ่านงงไปบ้างนั่นเป็นเพราะใจเราสับสนว้าวุ้นจริงๆค่ะ ๒๒ ก.ย. ๒๕๕๗, ๒๒.๔๗ น.
นกกินลมคิดว่าคุณอภัยมีที่พึ่งที่ดีแล้ว (ธรรมะ) คุณต้องการแค่เวลาฝึกฝนสร้างความเข้มแข็งและให้เข้าใจว่าทุกข์เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ไม่มีอะไรให้ต้องยึดมั่นถือมั่น เมื่อชั่วโมงบินคุณสูงขึ้นเรื่อยๆ คุณจะพบคำตอบเองค่ะ ทำใจอย่างไรให้เลิกรักสามี หากเปลี่ยนจากรักมาเป็นเมตตาจะได้ไหมคะ จิตใจคุณจะได้เบาขึ้น แม้ว่าจะอยู่ด้วยกันหรือจะจากกันแต่ก็ทำด้วยความเมตตา จะมีรัศมีแห่งความอบอุ่นมากกว่า คุณสามารถเมตตาสามีได้โดยไม่ต้องรัก หรือทั้งรักทั้งเมตตาก็ได้ โชคดีนะคะ
รับปัญหา เขียนมา : [ 124.120.7.104 ]
รหัสจดหมาย L-3107
๓๑ ต.ค. ๒๕๕๖, ๑๖.๐๘ น. สวัสดีค่ะคุณยุ ดิฉันเห็นจดหมายที่คุณเขียนแล้วค่ะ รับปัญหาอยากแชร์ความรู้สึกของรับปัญหาในช่วงที่เกิดปัญหากับคุณให้ทราบว่า รับปัญหาร้องไห้ทุกวันค่ะ ทรมาณใจ ทานข้าวไม่ได้เลย ใจคิดอย่างเดียวว่า เราดีกับเขาถึงขนาดนี้ ทำไมเขาถึงทำกับเราได้ ตอนนั้นมีความรู้สึกอยากตายค่ะ แต่คุณยุรู้มั้ยคะ อะไรทำให้รับปัญหาเดินหน้าต่อไปได้ค่ะ 1) ลูกค่ะ ลูกกำลังเรียนระดับมัธยมและอุดมศึกษา คิดอย่างเดียวค่ะ ถ้าลูกไม่มีเรา พวกเขาจะเป็นอย่างไร 2) มองตัวเองในกระจก แล้วก็พบกับคำถามที่ว่า ทำไมเราดูโทรม ทำไมเราต้องทำร้ายตัวเราเองเพียงเพราะผู้ชายแค่คนเดียว 3) ปัญหาและหนี้สินที่ตามมาค่ะ ถ้าเราเป็นอะไรไปใครจะรับผิดชอบเรื่องพวกนี้ ก็คงมีแต่ลูกเท่านั้นที่ต้องมารับผิดชอบเรื่องพวกนี้ คำถามด้านบนเป็นคำถามที่สะท้อนใจรับปัญหาตลอดเวลา ลูกคือหัวใจหลักที่ทำให้รับปํญหาไม่จมอยู่กับความทุกข์แล้วก็ปัญหาทุกอย่างค่ะ ใจที่รักลูกเต็มอก ทำให้ลุกขึ้นมายืนแล้วก็สู้กับปัญหารอบด้านได้ถึงทุกวันนี้ ใจของคุณยุต้องเข้มแข็งนะคะ คิดถึงลูกให้มากๆค่ะ อย่าจมอยู่กับอดีตที่เลวร้าย เดินหน้าต่อไปค่ะ อย่าถอยหลัง หรือ ท้อถอยเป็นอันขาด ถ้าคุณอยากร้องไห้ คุณร้องซะให้จบทีเดียวในวันนี้ แล้วสัญญากับตัวเองนะคะ ว่าเราจะไม่ร้องไห้ หรือ จมอยู่กับความทุกข์ในเรื่องนี้อีก ทุกคนต้องก้าวไปข้างหน้าค่ะ รับปัญหาขอเป็นกำลังใจให้คุณนะคะ ๒๒ ก.ย. ๒๕๕๗, ๒๒.๔๑ น.
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ คุณรับปัญหา ทุกคนต้องก้าวไปข้างหน้า
yu เขียนมา : [ 171.4.121.213 ]
รหัสจดหมาย L-3103
๑๗ ต.ค. ๒๕๕๖, ๒๐.๕๓ น. ในยามที่ดิฉันเจ็มปวดและทุกข์ทรมานที่สุด ได้อ่านบทความบทหนึ่งแล้วปฏิบัติตาม รู้สึกดีขึ้นมาก และยิ่งทำตามก็รู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ จึงอยากจะให้คนที่กำลังทุกข์ในขณะนี้ รู้สึกดีขึ้นเหมือนดิฉัน ขอเป็นกำลังใจให้และขอให้ท่านหมดทุกข์ได้ในเร็ววัน พลังที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้เราเป็นสุขใจและทำให้เราเอาชนะตนเองได้พลังนั้นคือ "พลังแห่งการให้อภัย" การที่เราไม่สามารถให้อภัยคนอื่นเป็นรากฐานของความคิดเชิงลบ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดความโกรธและโทษคนอื่น ทำให้เกิดความกลัวและแคลงใจ หรือเกิดความอิจฉาริษยา ตั้งแต่เล็กจนโตเราถูกปลูกฝังว่า "ความถูกต้อง" เป็นสิ่งสำคัญมากและถูกกำหนดโดยกรอบของ "ความยุติธรรม" ทำให้เรารู้สึกไม่พอใจ เมื่อเหตุการณ์ที่ไม่ถูกต้องหรือความไม่ยุติธรรม โดยเฉพาะถ้าเหตุการณ์นั้นเกี่ยวข้องกับเราโดยตรง หรือทุกครั้งที่เรารู้สึกว่าตนเองและผู้อื่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เราจะตอบโต้ด้วยความโกรธ เมื่อเป็นเช่นนี้ความเคารพในตนเองที่บอบบางจะถูกคุกคาม หลายคนที่จมอยู่กับความรู้สึกอย่างนี้อย่างไม่สามารถจะหลุดพ้นจากมันได้ ถ้าเราไม่รู้จักปลดปล่อยความทุกข์ในวัยเด็กให้ผ่านพ้นไป เราจะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักให้อภัย และจะมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความโกรธต่อคนอื่น ทำให้ต้องเผชิญกับความทุกข์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน สิ่งที่มีพลังที่สุดที่จะปลดปล่อยให้คุณเป็นอิสระ คือการให้อภัยทุกคนที่เคยทำให้คุณเจ็บปวดในทุกๆ เรื่อง เพียงคุณปลดปล่อยคนอื่นออกจากจิตใจโดยการให้อภัยเขา คุณจะปลดปล่อยตนเองให้เป็นอิสระจากความทุกข์ นี่คือเหตุผลที่ศาสนาส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการให้อภัย และสอนว่าการให้อภัยเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่สันติสุขในใจและบนโลกมนุษย์ คุณลองนึกภาพถึงความรู้สึกที่ไม่โกรธใครทั้งสิ้นในโลกนี้ นึกภาพว่าคุณเป็นคนมองโลกในแง่ดีและมีความสุข มีความเชื่อมั่นและเคารพตนเอง นึกภาพว่าเป็นคนอบอุ่นเป็นมิตร และมีแต่ความสงบสุขภายใน ทุกสิ่งที่กล่าวมานี้สามารถเป็นจริงได้ถ้าคุณรู้จัก ให้อภัย ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณไม่ยอมให้อภัยคนอื่น คุณจะโกระ เครียด วิตกกังวล ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ และไม่มีความสุข การไม่ยอมให้อภัยทำให้คุณติดอยู่ในบ่วงแห่งความทุกข์ ในขณะที่การให้อภัยทำให้คุณเป็นอิสระ คุณจะเลือกสิ่งใด มันเป็นสิ่งที่คุณต้องเลือกด้วยตนเอง ไม่เกี่ยวข้องกับใครทั้งสิ้น มีบางคนที่ปิดกั้นตนเองจากการให้อภัยด้วยความเชื่อผิดๆ ที่ว่าการให้อภัยคือการยอมรับพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง หรือคิดว่าการให้อภัยเท่ากับว่าเรายอมรับคนๆนั้น และกำลังทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง มีคำกล่าวว่า การจำคุกต้องมีทั้งสองฝ่ายเสมอ คือนักโทษและผู้คุม ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างก็อยู่ในเรือนจำเช่นกัน ถ้าคุณปล่อยให้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นอิสระ คุณเองก็จะเป็นอิสระด้วย คุณไม่จำเป็นต้องยอมรับพฤติกรรมหรือต้องชอบคนที่ทำให้คุณเจ็บ เพียงแต่คุณให้อภัยเขาเพื่อที่คุณจะได้ดำเนินชีวิตต่อไป การให้อภัยจึงเป็นการกระทำเพื่อตนเองอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อคนอื่นเลย และมันเป็นการกระทำด้วยจิตใจที่สงบสุขและมั่นคง เมื่อคุณโกรธคนอื่น คุณจะควบคุมจิตใจตนเองไม่ได้ทุกครั้งที่นึกถึงเขา คุณปล่อยให้เขาเข้ามาควบคุมจิตใจและชีวิตของคุณ เขาจะเข้ามาอยู่ในความคิดของคุณตลอดเวลา และเหตุการณ์ที่ทำให้คุณโกรธก็จะปรากฏขึ้นในใจของคุณ หนทางแห่งการให้อภัย วิธีที่จะให้อภัยนั้นง่ายมาก คุณสามารถทำได้โดยการพูดว่า "ขอให้คุณพระคุ้มครองเขา ฉันยกโทษให้เขาสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง และขอให้เขาโชคดี" มันเป็นไปไม่ได้ที่จะยกโทษให้คนอื่นในเวลาเดียวกับที่คุณโกรธเขา เพราะความคิดเชิงบวกจะไปยกเลิกความคิดเชิงลบของคุณ คุณจะปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระได้เร็วขึ้น โดยการยอมรับผิดชอบในส่วนของคุณต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เหตุการณ์ต่างๆ จะเกิดขึ้นโดยตัวของมันเองได้ยากมาก คุณย่อมมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นด้วยเสมอ ดังนั้นคุณจำเป็นต้องดึงส่วนที่คุณรับผิดชอบออกมา โดยพูดว่า โดยพูดว่า "ฉันผิดเอง ฉันไม่ควรเกี่ยวข้องด้วยตั้งแต่แรกหรือเกี่ยวข้องกับมันมากเกินไป ฉันไม่ควรทำเช่นนี้ ฉันให้อภัยเขาอย่างแท้จริง และปล่อยให้มันผ่านไป" มันอาจจะยากสำหรับคุณในการให้อภัยในครั้งแรก การพูดถ้อยคำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก จึงมีหลายคนที่มีชีวิตเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ถ้าคุณให้อภัยคนอื่นและปล่อยเขาไป คุณจะรู้สึกมีความสุขและสดใสขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อความโกรธและความขุ่นเคืองจางหายไป จิตใจของคุณจะเต็มไปด้วยความคิดในทางที่ดี คุณจะมีพลังมากขึ้น กระฉับกระเฉงขึ้น เข้มแข็งและมั่นใจมากขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าเพื่อนคุณจะคิดอย่างไรถ้าคุณให้อภัยคนที่ทำให้คุณเจ็บ เพราะเพื่อนคุณอาจจะเบื่อหน่ายที่จะรับฟังคุณรำพึงรำพันถึงความทุกข์นั้นแล้วก็ได้ ในความเป็นจริงเมื่อคุณเริ่มต้นให้อภัยแล้ว คุณจะพบว่าความโกรธเป็นเพียงสิ่งเดียวที่มาพันธนาการคุณไว้กับคนบางคน และเมื่อคุณตัดสินใจให้อภัยเขาคุณอาจจะไม่รู้สึกอยากพูดถึงเขาอีกต่อไป คนที่คุณต้องให้อภัย มีคนอยู่ 4 กลุ่มที่คุณต้องให้อภัย ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนชีวิตของคุณอย่างจริงจัง กลุ่มแรก คือ พ่อแม่ของคุณ ไม่ว่าท่านยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม คุณต้องให้อภัยท่านอย่างหมดสิ้นสำหรับความผิดพลาดในอดีตในการเลี้ยงดูคุณ อย่างน้อยที่สุดคุณควรขอบคุณท่านที่ให้ชีวิตแก่คุณ ท่านทำให้คุณมีวันนี้ ถ้าคุณยังมีความสุขที่จะมีชีวิตอยู่ คุณก็ควรให้อภัยท่านได้ทุกเรื่อง และจงอย่าตำหนิท่านอีก ถ้าคุณไม่ให้อภัยพ่อแม่ของคุณ คุณจะยังคงเป็นเด็กตลอดไป และจะปิดโอกาสในการเติบโตและเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ คุณยังคงมองตนเองเป็นเหยื่อผู้โชคร้าย และที่แย่ไปกว่านั้นคือคุณจะเก็บความรู้สึกเชิงลบความเป็นปมด้อย และความโกรธไว้ตลอดไป ยิ่งไปกว่านั้นถ้าพ่อแม่ของคุณเสียชีวิตลงโดยที่คุณยังไม่ได้ให้อภัยท่าน สิ่งนี้จะรบกวนคุณไปตลอดชั่วชีวิต กลุ่มที่สอง คือ คนใกล้ชิด กลุ่มคนที่ใกล้ชิดของคุณที่ความสัมพันธ์ต้องสิ้นสุดลง การแต่งงานและความสัมพันธ์ส่วนตัว เป็นความรู้สึกที่รุนแรง ซึ่งอาจทำลายความเคารพตนเองได้มากจนกระทั่งคุณอาจโกรธและไม่ให้อภัยคนเหล่านั้นเป็นเวลาหลายปี แต่อย่างน้อยคุณอาจรับผิดชอบได้ส่วนหนึ่ง โดยการให้อภัยคนอื่นและปล่อยเขาไป จงพูดว่า "ฉันผิดเอง ฉันยกโทษให้เขาสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง และขอให้เขาโชคดี" ทุกครั้งที่พูดเช่นนี้อีก ความรู้สึกเชิงลบที่ติดอยู่กับความทรงจำก็จะเลือนหายไป และในไม่ช้ามันจะหมดไปอย่างถาวร จากการศึกษาพบว่า "การเขียนจดหมาย" เป็นวิธีการกำจัดความรู้สึกไม่ดีให้หมดไป และเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งที่สามารถปลดปล่อยคุณจากความโกรธได้ คุณสามารถทำได้โดย นั่งลงเขียนจดหมายให้อภัยคนอื่น ซึ่งจดหมายนั้นประกอบด้วย 3 ส่วนได้แก่ ส่วนแรก ให้เขียนว่า "ฉันให้อภัยคุณในสิ่งที่คุณทำให้ฉันเจ็บ" ส่วนที่สอง ให้พรรณนาถึงสิ่งต่างๆ ที่คุณยังโกรธอยู่ ซึ่งบางคนเขียนส่วนนี้ได้ยาวหลายหน้า ส่วนที่สาม เขียนคำลงท้ายจดหมายว่า "ขอให้คุณโชคดี" จากนั้นนำจดหมายไปหย่อนตู้ไปรษณีย์ ในเวลานั้นคุณจะรู้สึกถึงความปลดเปลื้องที่ยิ่งใหญ่ และคุณจะเป็นอิสระได้ในที่สุด ในการใช้วิธีนี้ คุณไม่ต้องกังวลว่าผู้อ่านจะมีปฏิกิริยาอย่างไร นั่นไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องนึกถึง เพราะเป้าหมายของคุณคือการปลดปล่อยตนเอง เพื่อจะมีจิตใจที่สงบสุขและมีชีวิตที่ดีต่อไป คนกลุ่มที่สาม ใครก็ได้ในชีวิตที่ทำให้คุณเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย หุ้นส่วนทางธุรกิจ เพื่อน คนที่โกง หรือทรยศต่อคุณ รวมทั้งทุกคนที่นำความทุกข์มาให้คุณ จงซักผ้าที่เปื้อนสีของคุณให้ขาว จงปล่อยเขาไปโดยพูดว่า "ฉันให้อภัยเขาสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างและขอให้เขาโชคดี" พูดประโยคนี้ซ้ำอีกทุกครั้งที่คุณนึกถึงเขา จนกระทั่งความรู้สึกเชิงลบนั้นจางหายไป กลุ่มที่สี่ คือ ตัวคุณเอง คุณต้องให้อภัยตนเองอย่างหมดสิ้นสำหรับการกระทำหรือคำพูดของคุณที่โง่เขลา เบาปัญญา ไม่มีเหตุผล ร้ายกาจ สิ้นคิด หรือหยาบคาย คุณต้องเลิกเก็บความผิดพลาดเหล่านี้ไว้กับคุณ จงจำไว้ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นอดีตแต่ตอนนี้คุณอยู่กับปัจจุบัน ถ้าคุณนึกถึงแต่อดีตที่รู้สึกไม่ดีกับมัน คุณก็จะไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน ขอให้คิดว่าในเวลานั้นคุณไม่เหมือนกับตอนนี้คุณยังเด็ก ขาดประสบการณ์และยังไม่มีตัวตนที่แท้จริง จงหยุดทำร้ายตนเองด้วยสิ่งที่ผ่านไปแล้วและเราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ เมื่อคุณรู้สึกว่าต้องแบกรับความรู้สึกที่ผิดที่เป็นผลมาจากรอยแผลในอดีต ความรู้สึกนี้จะระบายออกไปทันทีที่คุณตระหนักว่า "มันไม่ใช่ความผิดของฉัน" เพราะคุณได้กระทำลงไปตอนที่คุณเป็นเด็กและด้อยประสบการณ์เกินกว่าจะแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ มันไม่ใช่ความผิดของคุณ คุณทำดีที่สุดแล้วในขณะนั้น จงให้อภัยตนเองและปล่อยให้ตนเองหลุดจากบ่วงนี้ไป เพียงแค่พูดว่า "ฉันให้อภัยตนเองในความผิดที่ฉันได้ทำลงไป ฉันเป็นคนดีอย่างแท้จริง และฉันกำลังจะมีอนาคตที่สดใส" เมื่อใดที่คุณคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตอีก จงพูดว่า "ฉันยกโทษให้ตนเองอย่างหมดสิ้น" จากนั้นก็ดำเนินชีวิตต่อไป จงเดินหน้าไปสู่อนาคตแทนที่จะถอยกลับไปหาอดีต คิดถึงที่ที่คุณกำลังจะไป ไม่ใช่ที่ที่คุณผ่านมาแล้ว สุดท้าย ถ้าคุณเคยทำให้คนอื่นรู้สึกเจ็บและยังรู้สึกไม่ดีกับมันอยู่ คุณอาจไปพบเขาหรืออาจเขียนจดหมายถึงเขาเพื่อขอโทษ บอกเขาว่าคุณเสียใจในสิ่งที่ได้ทำไปแล้ว และไม่ว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี มันไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะคุณได้แสดงความเสียใจในสิ่งที่ได้กระทำไปแล้วซึ่งการแสดงความเสียใจนี้จะช่วยปลดปล่อยให้คุณเป็นอิสระ ๑๕ ส.ค. ๒๕๕๗, ๑๕.๒๓ น.
อนุโมทนา ขอบคุณ และดีใจกับคุณยุด้วยค่ะ พระธรรมเป็นที่พึ่งได้ในทุกยามค่ะ
คนทุกข์ใจ เขียนมา : [ 203.157.48.252 ]
รหัสจดหมาย L-3100
๑๐ ต.ค. ๒๕๕๖, ๑๖.๒๙ น. สวัสดีค่ะ คุณนกกินลม ดิฉันมีเรื่องสับสนใจและว้าวุ่นใจมากค่ะ พยายามหาทางออกให้ตัวเองอยู่ค่ะ ได้แต่อ่านเรื่องราวต่าง ๆ และวิธีคิด เผื่อจะตรงกับปัญหาของตัวเองที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ดิฉันจึงรบกวนขอคำแนะนำจากคุณนกกินลมบ้าง เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันอยู่กับสามีได้ประมาณ 13 ปีแล้วค่ะ เราพบกันในที่ทำงานค่ะ เราได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอดเลยค่ะ ถึงแม้จะมีปัญหาบ้างก็ตามทีค่ะ ดิฉันไม่ได้แต่งงานค่ะ แต่ได้จดทะเบียนสมรสเมื่อปี 2553 ค่ะ เราเคยอยู่หอค่ะ เงินเดือนของเรา 2 คนรวมกันก็ไม่เท่าไหร่ แต่เราก็สามารถอยู่ได้ค่ะ จนเราสามารถสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างอนาคตที่ดีของเรา ซื้อบ้าน ซื้อรถ และเหตุการณ์ที่ดิฉันไม่เคยคิดฝันเลยก็เกิดขึ้นค่ะ เมื่อเดือน ธค 55 ที่ผ่านมา สามีบอกกับดิฉันว่าขอมีผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนแรกดิฉันเองก็ไม่เชื่อหรอกค่ะคิดว่าเค้าโกหก เพราะว่าสามีไม่มีทีท่าอะไรเลยค่ะ สุดท้ายมันคือความจริงค่ะ ดิฉันนั้นร้องไห้เสียใจมาก ถามเค้าว่าทำไม ดิฉันทำอะไรผิด จนดิฉันก็คิดว่าเค้าคงจะเล่น ๆ ไม่จริงจังอะไร แต่ต่อมาพอได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็น "แม่บ้าน" ในที่ทำงานค่ะ แถมเป็นคนประเทศลาวอีก และที่สำคัญไปกว่านั้น เค้าแอบไปผูกข้อไม้ข้อมือกันที่ลาวค่ะ โดยโกหกดิฉันว่าไปเที่ยวที่นั่นค่ะ และสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดก็คือ ดิฉันขอร้องเค้าให้เลิกได้ไหม เค้าก็ตอบแค่ว่า เค้าต้องรับผิดชอบอยู่อย่างนี้ จนสุดท้ายเค้าก็ยอมรับว่าเค้าทำผู้หญิงคนนั้นท้องค่ะ ซึ่งดิฉันเสียใจมากค่ะ เพราะอะไรหรือค่ะ ดิฉันพยายามปล่อยมีลูกตั้งแต่ปี 54 ตรวจร่างกายทุกอย่างดิฉันปกติแต่ก็ยังไม่มี มันยิ่งทำให้ดิฉันรู้สึกเป็นส่วนเกินจังเลยค่ะ จนเมื่อไม่นานมานี้ เค้าเพ่ิงจะคลอดลูกสาวค่ะ ได้เดือนกว่า ๆ เค้าก็เช่าห้องให้อยู่แถว ๆ บ้านดิฉันแหละค่ะ สิ่งที่ดิฉันเห็นและรู้สึกได้ก็คือว่า สามีดิฉันเค้ากำลังพยายามบีบดิฉันค่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มักจะพูดถึงแต่ลูกให้ฟัง และดูแลเอาใจใส่ผู้หญิงอื่นมากเกินกว่าดิฉันเสียอีก เพราะว่าเราเคยทะเลากันค่ะ ว่าจะเอายังไง สามีให้ดิฉันเป็นฝ่ายเลือกว่าจะเอายังไง เห็นไหมค่ะว่าเค้าฉลาดแค่ไหน เพราะเค้าเคยบอกว่า เค้าไม่เคยทิ้งใครก่อน แต่มักจะบอกเสมอว่าถ้าทนไม่ได้ก็คงต้องเลิกกัน .... นี่หรือค่ะความรัก ทุกวันนี้ดิฉันก็อยู่บ้านที่เราซื้อด้วยค่ะ ยังไม่มีลูก (แต่อยากมี) เค้าจะอยู่บ้านวันเว้นวันค่ะ ดิัฉันพยายามทำใจยอมรับ และปล่อยว่างค่ะ เพราะว่าตอนนี้ดิฉันยังรักเค้าอยู่ค่ะ ก็ไม่รู้ว่าจะเทำอย่างไรดีค่ะ พยายามไม่รับรู้เรื่องราวเพราะว่ามันเป็นเรื่องของเค้าที่ต้องแก้ ไม่ใช่ดิฉัน รบกวนขอคำแนะนำให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ๒๒ ก.ย. ๒๕๕๗, ๒๒.๔๐ น.
สวัสดีค่ะ คุณคนทุกข์ใจ ขอโทษที่ดิฉันไม่ได้ตอบคุณเร็วกว่านี้ ช่วงนี้ชีวิตเป็นอย่างไรบ้างคะ เรื่องสามีเปลี่ยนใจไปมีหญิงใหม่และมีลูกใหม่ด้วยกัน เป็นเรื่องที่ร้าวรานใจสำหรับสตรีที่เป็นเมียแรกและไม่มีลูกด้วยกันนะคะ แน่น่อนว่า ความรู้สึกเป็นส่วนเกินของคุณมันต้องเกิดขึ้น ตอนนี้คุณคงต้องถามตัวเองว่า ต้องการอะไรจากชีวิตคู่นี้ คุณยังทนได้ไหม คุณทนเพื่ออะไร โอกาสที่สามีจะเปลี่ยนใจกลับมาหาคุณมีสูงแค่ไหน อนาคตข้างหน้าของคุณมีอะไรรออยู่บ้างหากไม่มีเขา หรือหากยังใช้ชีวิตแบบขมๆขื่นๆ กับเขาต่อไป คุณรอให้เขาเป็นคนแก้ปัญหา เขาได้ลงมือหรือยังคะ นกฯว่าคุณอย่ารอเขาเลย แต่ลงมือจัดการให้ตัวคุณเองดีกว่าว่าคุณจะนำชีวิตให้ผ่านพ้นอุปสรรคนี้ไปได้อย่างไร คุณยังไม่มีลูกด้วยกัน การตัดสินใจจึงเป็นการทำเพื่อตัวคุณเองอย่างแท้จริงค่ะ โชคดีนะคะ
yu เขียนมา : [ 223.204.236.225 ]
รหัสจดหมาย L-3098
๐๒ ต.ค. ๒๕๕๖, ๑๑.๐๖ น. ไม่ทราบว่าคุณนกกินลม กับคุณรับปัญหา ยังจำดิฉันได้หรือเปล่า ตอนนี้ดิฉัน ตัดสินใจเลิกกับสามีอย่างเด็ดขาดแล้ว (เค้าอยู่กินกับหญิงอื่นอย่างเป็นทางการแล้ว) ไม่ได้ติดต่อกันมาประมาณ 3 เดือนแล้ว พยามยามทำอย่างที่คุณนกกินลมแนะนำ ไม่อาฆาตแค้นเขา ยินดีกับเขา บอกตัวเองว่าต้องอดทน สักวันมันต้องหาย แต่ลึกๆ ในใจเจ็บปวดมาก ทุกข์ทรมาน แต่ละวินาทีผ่านไปสุดแสน เชื่องช้าและะทรมาน มากเหลือเกิน อยากถามคนที่เคยเจอเรื่องแบบนี้ ว่าดิฉันจะเป็นแบบนี้อีกนานมั้ยกว่าจะหาย ใช้เวลานานมั้ย จะต้องคิดและทำอย่างไรถึงจะดีขึ้น ๑๕ ส.ค. ๒๕๕๗, ๑๕.๒๒ น.
คุณยุ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ ส่งข่าวบ้างนะคะ เห็นห่วงค่ะ
tomorrow เขียนมา : [ 49.231.115.214 ]
รหัสจดหมาย L-3097
๒๑ ก.ค. ๒๕๕๖, ๑๔.๑๐ น. สวัสดีค่ะ คุณนกกินลม ดีใจค่ะที่คุณตอบกลับมา แม้ตอนนี้ดิฉันก็ยังร้องให้ ปวดร้าวเมื่อคิดว่าเขารักคนอื่น ขอบคุณสำหรับข้อความที่ดิฉันอ่านแล้วอ่านอีกหลายๆๆรอบ จริงนะคะ คนเราวันนึงต้องจากกันแต่จากตอนอยู่หรือตาย ก็ต้องจาก ทำให้ดิฉันเริ่มมีสติค่ะ ว่าชีวิตตัวเองที่หลังจากนี้ จะอยู่ในเกมหรือออกจากเกม ตอนนี้ดิฉันยิ้มไม่ออก ไปไซน์งานก้อปวดร้าวต้องรับรู้เรื่องต่างๆที่เขาทำแต่ให้ลูกน้องช่วยกันปิดบัง สิ่งที่ดิฉันตั้งใจไว้ตอนนี้ไม่รู้ว่าถูกหรือผิดค่ะ ดิฉันจะอดทนรอให้สามีไถ่ถอนรถยนต์ออกมาหนึ่งคัน แล้วดิฉันจะบอกเขาว่าไม่อยู่ซัก 3 วัน แล้วกลับไปป๊ะ พวกเขาที่ไซน์ เพื่อจะได้ไม่ว่าดิฉันคอยหาเรื่องทะเลาะเขา ให้เห็นกับตาแล้วก็จบกัน ระหว่างนี้คงต้องหาห้องเช่า เพื่อไว้ย้ายของออกมา และหาสมัครงาน ดิฉันจะได้ไม่ลำบากมากนัก ดิฉันคิว่าในเมื่อเขาไม่รักดิฉันแล้ว ไม่รักครอบครัวแล้ว มันไม่มีประโยชน์ที่จะรั้งเขาไว้ ทั้งที่ตลอดมาดิฉันให้โอกาสมาตลอด อีกประการคือเรื่องหนี้สิน หนี้เก่าไม่จ่ายมีหนี้ใหม่เรื่อยๆ ดิฉันจะไม่รอเขาแล้วเพราะมองไม่เห็นอนาคตเลย ถ้าบุญของลูกๆยังมี หวังว่าพ่อเขาคงใช้โอกาสนี้ทบทวนตัวเอง และมีสติจริงๆ ในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ถ้าไม่มี ผู้หญิงคนนั้นคงเข้ามาแทนที่ดิฉัน ถ้าเป็นอย่างนั้นดิฉันคงต้องทำใจค่ะ ดิฉันรู้ดีว่า ตัวเองเป็นคนบูชาความรัก ซื่อสัตยต่อความรู้สึกตัวเอง จึงหวังและให้โอกาสเขาได้เรื่อยมา แต่ครั้งนี้องคืประกอบคือลูก และแม่ ค่ะ ถ้าดิฉันยังฟูมฟายเรื่องหัวใจไม่จบสิ้น อดทน และปล่อยให้เขาทำอะไรก็ได้ ถ้าวันนึงอายุมากขึ้นคงไม่สามรถทำอะไรได้เลย ส่วนลูก ดิฉันหวังว่าลูกจะเข้าใจ คงไม่อยากเห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน คงไม่อยากเห็นแม่เครียดอารมณ์เสีย ดิฉันคงต้องดูแลลูกให้ดี ช่วงแรกคงต้องขอให้เขาช่วยดูแลลูกด้วยเพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกขาด แต่วันนึงถ้าเขาโต เขาต้องเข้มแข็ง ทั้งหมดนี้เป็นความคิด ของดิฉันในตอนนี้ค่ะ ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด ดีหรือไม่ดี หรือควรต้องทำอย่างไร จริงๆแล้วดิฉันก็อยากให้เขารักเดียวใจเดียว แต่คงเป็นไปไม่ได้ เปลี่ยนเขาไม่ได้ ก้อเปลี่ยนที่เราเองใช่มั้ยคะ ฟันยังไงก็ต้องกัดโดนลิ้นเสมอ....วันหนึ่งถ้าดิฉันหมดรักเขาแล้ว เราคงมีโอกาสได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ช่วยกันดูแลลูก...แต่ตอนนี้ขอร้องให้ก่อนนะคะ...^^ ๒๒ ก.ย. ๒๕๕๗, ๒๒.๓๔ น.
คุณวันรุ่งคะ ร้องไห้ให้เต็มที่เถอดค่ะ น้ำตาจะได้ช่วยล้างความหม่นมัวในใจให้แจ่มใสขึ้น สู้สู้กับชีวิตนะคะ ใครไม่รักเราก็ขอให้เรารักตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ
นกต้อยตีวิด แม่คำ เขียนมา : [ 223.207.228.79 ]
รหัสจดหมาย L-3096
๑๘ ก.ค. ๒๕๕๖, ๑๒.๒๓ น. ให้กำลังใจคุณนกกินลมนะคะที่ช่วยชี้ทางให้เพื่อนหญิงได้มองเห็นทางออก ส่วนจะออกหรือไม่นั้นยังเป็นอีกเรื่องนึง ขอกุศลที่คุณได้ช่วยผู้อื่นดลบันดาลให้คุณมีความสงบ สุข นะคะ สุขสันต์วันครบรอบวันเกิดค่ะ ๑๕ ส.ค. ๒๕๕๗, ๑๕.๒๒ น.
ขอขอบคุณย้อนหลังค่ะ คุณนกต้อยตีวิด ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]()
tomorrow เขียนมา : [ 110.49.250.235 ]
รหัสจดหมาย L-3095
๑๗ ก.ค. ๒๕๕๖, ๑๔.๒๖ น. สวัสดีค่ะ ![]() ขณะที่ดิฉันอยู่ในช่วงภาวะสับสน ว้าวุ่นหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ซักทีได้แต่หาข้อมูลอ่านเรื่องราวและวิธีคิดวิธีแก้ไข ของท่านอื่นๆอยู่นั้น ก็ได้เจอข้อความที่คุณให้คำแนะนำ ท่านอื่นได้น่าประทับใจมากค่ะ ดิฉันอยากรบกวนขอความเห็นและคำแนะนำจากคุณบ้างได้มั้ยคะ เพราะขณะนี้ดิฉันมืดมนเหลือเกิน เรื่องราวเป็นดังนี้ค่ะ ดิฉันแต่งงานมา 10 ปีแล้วค่ะ คบกับสามีมาก่อนแต่ง 5 ปี รวม 15 ปีมาแล้ว ตอนนี้มีลูก 2 คน คนโตผู้ชาย 10ขวบ คนเล็กผู้หญิง 6 ขวบ น่ารักมากทั้งคู่ค่ะ ก่อนแต่งงาน เรามีปํญหาเรื่องที่เขาคบซ้อนมาตลอด แต่เขาเลือกแต่งงานกับดิฉัน หลังแต่งงานก็ทะเลาะกันเรื่องผู้หญิงมาตลอด มีทั้งจับได้และไม่ได้ แต่ดิฉันก็ให้อภัยมาได้ตลอด เพราะหวังว่าวันหนึ่ง เขาจะหยุด เวลาที่เขามีผู้หญิงอื่น เขาจะพามาให้ญาติพี่น้องรู้จัก และทุกคนก็จะช่วยกันปิดบังดิฉันมาตลอด คนแล้วคนเล่า จนมีครั้งนึงที่พลาดมีลูกกับผู้หญิงคนนึง สุดท้ายสามีไม่สามารถดูแลเธอและลูกได้ ก้อต้องปล่อยเธอและลูกไปตามยถากรรม สุดท้ายตอนนี้เธอคนนั้นแต่งงานใหม่แล้ว ดิฉันมารู้เรื่องนี้ไม่นาน ทั้งที่เมื่อก่อนเคยสงสัยหลายครั้งแต่สามีก็ปิดบังได้ตลอด ปัจจุบันมีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นแม่หม้ายบอกใครๆว่ารักสามีดิฉัน เข้ามาเอาใจ ทั้งสามีและครอบครัวสามี ดิฉันเคยขอร้องสามีว่าอย่ายุ่งกับเธอ เขาก็รับปากและบอกว่าไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ แต่แท้จริงแล้วเขาแอบคบกันมาตลอดร่วมมือกันปิดบังไม่ให้ดิฉันรู้ รวมทั้งครอบครัวสามีด้วย ถึงขนาดพาไปบ้านและที่ทำงานเวลาที่ดิฉันไปหาลูก หรือไม่อยู่ (ลูกอยู่กับยายที่ต่างจังหวัดค่ะ) ล่าสุดดิฉันทนไม่ไหวเก็บของออกจากบ้าน สามีก็ตามง้อ โดยขอโอกาสแก้ตัว ขอให้ดิฉันยกโทษให้ บอกว่ารักดิฉันและลูกมาก ไม่ต้องการเสียครอบครัว ดิฉันให้โอกาสเขาเพราะยังรักเขามาก และสงสารลูก แต่เหตุการณ์ก็ยังเป็นไปเหมือนเดิม สามีและผู้หญิงก็ยังร่วมมือกันปิดบังและคอยหาโอกาสไปเจอกันเหมือนเดิม ผู้หญิงใช้จุดอ่อนของครอบครัวดิฉันคือเรื่องการเงิน สามีดิฉันทำงานเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ต้องใช้เงินหมุนเวียน เวลาที่เงินสะดุด ก็จะยืมเงินจากเธอ เรามีรถ 3 คัน สามีนำไปจำนำหมด เวลาไม่มีรถใช้ก้อให้เธอคอยรับคอยส่งโดยโกหกดิฉันอีกที ตอนนี้สถานะครอบครัว มีหนี้สินรอบตัว แต่มีงานทำส่ามีทำงานหนักดิฉันก็ช่วยทำแต่วันที่ไม่อยู่ เธอก็จะมาเป็นเช่นเงา ดิฉันเป็นผูหญิงทำงานมาตั้งแต่ต้น อยู่กับสามีก็ช่วยกันทุกอย่างเป็นเพื่อนคู่คิด เพื่อนทำงานทุกอย่าง แต่หลังๆสามีจะอยากให้ดิฉันเป็นแม่บ้านไม่อยากให้ทำงานเยอะ ซึ่งดิฉันก็รู้ว่าเพราะอะไร ตอนนี้ดิฉันเสียใจ เหนื่อยล้าทุกเรื่อง อยากเลิกกับเขา แต่แม่ดิฉันก็ต้องการให้สามีสร้างบ้านให้ลูกก่อน ดิฉันอยากเลิกแต่ก็กลัวการใช้ชีวิตคนเดียว ห่วงความรู้สึกลูก แต่ก็มองอนาคตครอบครัวไม่เห็น ไหนจะหนี้เก่ามะรุมมะตุ้ม หนี้ใหม่มาอีกแล้ว เพราะสามีเป็นคนฟุ่มเพือย ถ้าปิดหูปิดตา ดิฉันจะเป็นคนมีความสุข เพราะเวลาอยู่ด้วยกันเรามีความสุขกันมาก เราเข้ากันได้ทุกเรื่อง แต่ใจดิฉันมันไม่อยากถูกหลอกค่ะ มันปวดร้าวอยู่ตลอดเวลา ดิฉันคิดถูกแล้วใช่มั้ยคะถ้าคิดจะออกมาเดินต่อสู้โดยไม่มีเขา ๑๘ ก.ค. ๒๕๕๖, ๐๐.๔๓ น.
สวัสดีค่ะ คุณวันรุ่ง - พรุ่งนี้ นกกินลมยังไม่ตอบคำถามคุณนะคะ แต่ขอนำข้อความของเพื่อนรักคนหนึ่งที่อนุญาตให้นกกินลมนำมาส่งต่อให้คุณค่ะ หวังว่าประสบการณ์ตรงจากเพื่อนหญิงหัวอกเดียวกันจะเป็นประโยชน์กับคุณด้วยค่ะ "อยากแบ่งปันประสบการณ์ที่ต้องบอกว่าเป็นประสบการณ์ที่เขียนด้วยน้ำตามา นานสามสิบกว่าปีค่ะ เข้าใจความรู้สึกที่คุณเล่า สัมผัสถึงความว่างเปล่าที่เมื่อคิดว่าไม่มีเขาอยู่เคียงข้าง แต่คุณเชื่อไหมว่าเขาไม่ได้เจ็บปวดเหมือนที่คุณเป็น เขาไม่เคยว่างเปล่าเหมือนที่คุณและฉันเป็น คุณเคยได้ยินคำที่เขาพูดกันใช่ไหมว่าสามีภรรยาเหมือน"ลิ้นกับฟัน" เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ฟันไม่เคยรับความเจ็บปวดใดๆเลย มีแต่ลิ้นเท่านั้น และที่เหมือนมากไปกว่านั้นก็คือ หากฟันกัดลิ้นเจ็บแล้ว หลังจากนั้นก็ยังกัดอีกและลิ้นก็เจ็บอีก ต่อให้ลิ้นขาดฟันก็ยังไม่เจ็บด้วยอยู่ดี ทั้งนี้เพราะทั้งสองฝ่ายมีองค์ประกอบที่แตกต่างกัน คุณกับฉันถูกสร้างด้วยความเชื่อและศรัทธาในความรัก ผูกติดอยู่กับครอบครัว ลูก และสามี ดังนั้นจะว่าไปเราก็ไม่สามารถเข้าใจเขาได้เช่นกัน ไม่เข้าว่าทำไมเขาจึงทำร้ายเราได้ ทำไมเขาจึงไม่คิดก่อนทำ ฯลฯ หลายปีมานี้ฉันก็ได้เรียนรู้หลายเรื่องหนึ่งในนั้นคือเรื่อง การปล่อยวาง ฉันลองทำใจดูว่าจะทำได้หรือเปล่า ฉันเลิกปล่อยใจตัวเองตามความเศร้าโศรก เลิกคิดว่าเขาจะไปที่ไหน นอนกับใคร ไม่ยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของเขา ทุ่มเททุกอย่างให้ลูก มีคำกล่าวของเพื่อนรักของฉันที่คอยเตือนสติว่า "หากเป็นเรื่องกรรมเวรก็ถือเสียว่าเรากำลังใช้กรรม หากเขาพบพานคนใหม่ก็คงเป็นคู่กรรมของเขา หรือหากไม่ใช่ ทั้งสองก็ก่อกรรมใหม่ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรา" เมื่อเพื่อนเตือนสติฉันก็คิดได้ ประกอบกับเรื่องที่ฉันได้ศึกษาว่า "ไม่มีอะไรเป็นของเราแม้แต่ร่างกายของเรา แล้วไฉนเราจึงต้องยึดตัวเขามาเป็นของเรา" พอฉันลองฝึกใจ ฝึกปฏิบัติ ฉันก็หลับตาลงและนอนได้โดยไม่มีคราบน้ำตาเปื้อนแก้มอีกต่อไป หลังๆ มานี้ฉันเปลี่ยนทิศทางการต่อสู้กับเรื่องนี้ มาเป็นต่อสู้กับความรู้สึกของตนเอง ฉันพบว่าความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นมาจากการปรุงแต่งอารมณ์ตนเองมากไป ผสมเรื่องในอดีต จินตนาการไปในอนาคต หยดยาพิษราดรดใจตัวเอง ฉันได้คิดว่า ทั้งเขาและฉันจะตายวันตายพรุ่งยังไม่รู้ หากต้องเสียเวลาอยู่กับเรื่องไร้สาระอย่างนี้แล้วฉันจะทิ้งอะไรไว้ให้ลูกที่ ฉันรักมากกว่าสิ่งใด ฉันจึงได้ปรับตัว ปรับใจ ตอนนี้เรื่องหย่าร้างจะเกิด หรือไม่เกิดขึ้นฉันก็จะไม่ร้องไห้แน่นอน หากเขาต้องไปอยู่กับหญิงอื่นเราทั้งสองก็คงพ้นทุกข์จากกันและกัน พอฉันทำได้ ไม่จุกจิกถามไถ่เรื่องส่วนตัว ฉันจะเลือกคุยเรื่องที่ไม่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาผิด ไม่ทำให้เขาอับอาย ก็ไม่มีเสียงทะเลาะในบ้าน เขาก็อยู่บ้านได้สบายใจขึ้น ฉันอยากให้คุณลองทำดูเผื่อจะพบทางของตัวเองที่ผ่อนเบาความทุกข์ในใจคุณได้ บ้าง ทุกข์ หรือสุข อยู่ที่ใจนะคะ "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว" จิตต้องเข้มแข็งนะคะ ค่อยๆปล่อยนะคะ ปล่อยความรู้สึกทุกข์ของเรา ปล่อยความคาดหวัง ปล่อยเรื่องการปรุงแต่ง แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น เป็นกำลังใจให้นะคะ"
รับปัญหา เขียนมา : [ 124.120.223.198 ]
รหัสจดหมาย L-3092
๐๓ มิ.ย. ๒๕๕๖, ๑๕.๕๓ น. คุณยุคะ รับปัญหามีลูกสามคนค่ะ วันนึงเมื่อประมาณ 9 เดือนที่ผ่านมา สามีของรับปัญหาขอคุยด้วยตอนประมาณสักตีสามค่ะ ว่าขอมีภรรยาอีกคนค่ะ แต่สัญญาค่ะว่าจะอยู่กับรับปัญหาไปเรื่อยๆ ดิฉันทราบนะคะว่า คุณยุก็คงรู้ว่าความรู้สึกของดิฉันตอนนั้นจะเป็นยังไงบ้าง ดิฉันร้องไห้ตลอดค่ะ แต่ไม่เคยร้องไห้ให้ลูกเห็นค่ะ เพราะกลัวลูกจะเสียใจ นั่งรถไฟฟ้าไปทำงานก็ยังแอบร้องไห้เลยค่ะ แต่เมื่อไหร่ที่ก้าวเข้าบ้านแล้วจะต้องไม่มีน้ำตาให้ลูกเห็นเป็นอันขาดค่ะ เพราะอะไรเหรอคะ เพราะว่าเด็ก ๆ ที่บ้านกำลังจะมีอนาคตที่ดีค่ะ ลูกสาวสอบได้เกษตรศาสตร์ คณะวิศวะเคมีค่ะ ลูกชายคนเล็ก เตรียมตัวสอบนักเรียนนายร้อยค่ะ แล้วตอนนี้ก็กำลังเรียน ม.4 สายวิทย์ - คณิต ห้องเด็ก gifted พร้อม ๆ กับเรียนติวที่แคมป์เตรียมทหารค่ะ ส่วนคนโตก็กำลังเรียนปีสอง บ้านสมเด็จค่ะ คุณยุทราบมั้ยคะว่าดิฉันเหนื่อยเหลือเกิน บางเดือนก็เงินไม่พอใช้ถึงสิ้นเดือน เงินเก็บที่มีอยู่ก็ใช้จ่ายตอนหย่ากับสามีค่ะ เพราะพ่อแม่สามีเรียกร้องเงินถึง 70000 บาท สำหรับใบหย่าหนึ่งใบและแลกกับการเป็นอิสระของตัวเอง ดิฉันยอมเป็นหนี้ค่ะ เพราะสิ่งนึงที่ดิฉันคิดเสมอคือ ถ้าเรายิ่งอยู่กับทุกข์ ทุกข์ก็ยิ่งทับถมเข้ามา ส่วนนึงของทุกข์ก็มาจากใจของเราเอง อีกส่วนนึงคือมาจากคำพูดของคนรอบข้าง แต่ถ้าเราตัดทุกข์ได้ ใจเราก็หมดทุกข์ สำหรับ 9 เดือนที่ผ่านมา ดิฉันทำบุญใส่บาตรทุกวันค่ะ อุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร ในภพที่แล้วและภพนี้ค่ะ ตอนนี้ใจดิฉันดีขึ้นมากค่ะ พบทางสว่าง และ หน้าที่ที่สำคัญที่ดิฉันคิดเสมอมาค่ะ เราจะยืนได้อย่างไร และเราจะทำหน้าที่พ่อและแม่ที่ดีในคนคนเดียวได้อย่างไรค่ะ แต่อย่าลืมนะคะ เราต้องเก็บบทเรียนที่ผ่านมาเป็นอดีตสอนตัวเองค่ะ แล้วขอให้คิดเสมอว่า ลูกต้องมีอนาคตที่ดี ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่กับพวกเขาค่ะ ดิฉันเองเพิ่งเปิดใจคุยกับลูก ๆ ทุกเรื่อง เรื่องสามีของดิฉันค่ะ เด็ก ๆ ทุกคนบอกอย่างเดียวค่ะ ว่าพวกเขาจะต้้งใจเรียนเพื่อตัวพวกเขาค่ะ เพราะดิฉันบอกพวกเขาแล้วค่ะว่า ถ้าดิฉันส่งพวกเขาถึงฝั่งเมื่อไหร่ ดิฉันขอบวชชีรับใช้พระพุทธศาสนาดีกว่าค่ะ ดิฉันขอแชร์ความรู้สึกส่วนนึงให้คุณยุได้ฟังค่ะ อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับการมีสติ จิตใจที่ดีงามนะคะ คุณต้องยึดมั่นถือมั่นในสติค่ะ แล้วความคิดดีๆ ก็จะตามมาค่ะ แต่ถ้าคุณยุยังอยู่ในวังวนของกรรม ทุกข์ก็จะตามคุณไปเรื่อย ๆ ค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้คุณนะคะ สู้ ๆ ค่ะ ถ้าคุณอยากคุยกับดิฉัน ก็โทรหาได้นะคะ 0876062399 คุณอาจจะได้ข้อแลกเปลี่ยนได้มากกว่านี้ค่ะ ดูแลตัวเองและลูกดีกว่านะคะ ๒๒ ก.ย. ๒๕๕๗, ๒๒.๓๒ น.
ขอบคุณแทนคุณยุด้วยค่ะ
รับปัญหา เขียนมา : [ 124.120.223.198 ]
รหัสจดหมาย L-3091
๐๓ มิ.ย. ๒๕๕๖, ๑๕.๒๒ น. ตอนนี้รับปัญหาทำใจได้แล้วค่ะคุณนกกินลม ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยกับการใช้หนี้สินที่เหลืออยู่ค่ะ แต่ก็สู้ค่ะ ถึงแม้ว่าบางทีท้อแท้เหลือเกิน แต่สิ่งนึงที่ทำให้รับปัญหาทำใจแล้วก็สู้ต่อไปได้ก็คือ ความรักที่ลูก ๆ มีให้ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะสำหรับคำแนะนำที่ดีที่คุณนกกินลมพูดให้รับปัญหาได้เก็บไปคิด และ ก้าวออกมาใช้ชีวิตในอีกเส้นทางนึงค่ะ แต่รับปัญหายอมรับค่ะว่าเป็นเส้นทางชีวิตที่ดีมากค่ะ ไม่ต้องเจอกับคำโกหก ไม่ต้องเจอคำด่าทอหยาบคาย กรรมเวรมีจริงค่ะ เราได้ใช้กรรมของเราแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของแต่ละคนค่ะ แต่รับปัญหาอยากให้หลาย ๆ คนที่ทุกข์ในเรื่องนี้ มีสติให้มากค่ะ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน อยากเกินกว่าจะบอกหรือแนะนำใครได้ว่า เขาควรอยู่หรือเขาควรไป เพราะมันขึ้นอยู่กับคนสองคน และสติกับใจของแต่ละคนด้วยค่ะ ไม่มีใครทนทรมาณกับความเจ็บปวดได้ค่ะ ถึงแม้ว่าคนคนนั้นไม่ได้เป็นผู้กระทำ หรือ โดนกระทำแค่ฝ่ายเดียว ใจเป็นทานนะคะ ขออนุโมทนาบุญให้กับทุกคนที่กำลังเจ็บปวดเรื่องพวกนี้ด้วยค่ะ ๒๒ ก.ย. ๒๕๕๗, ๒๒.๓๑ น.
ขอบคุณมากค่ะ คุณรับปัญหา ที่เข้ามาเป็นกำลังใจให้เพื่อนหญิงด้วยกัน ขอให้ความดีงามนี้ของคุณเป็นกำลังใจให้คุณฝ่าฟันมรสุมที่เหลือของชีวิตไปได้ด้วยดีนะคะ
yu เขียนมา : [ 118.174.31.132 ]
รหัสจดหมาย L-3090
๐๓ มิ.ย. ๒๕๕๖, ๑๔.๑๓ น. ขอขอบคุณ คุณรับปัญหาและคุณนกกินลมเป็นอย่างยิ่งค่ะ ดิฉันอยากให้เขาได้รับกรรม เขาจะได้รับเวรกรรมที่เขาทำมั้ยค่ะ ถ้าเราอโหสิกรรมหรือให้อภัยเขา แล้วเขาจะยังได้รับกรรมอยู่มั้ยค่ะ เขาทำกับดิฉันหลายครั้ง ทำกับคนอื่นด้วยก่อนที่จะแต่งงานกับดิฉันเขามีผู้หญิงคนอื่นอยู่แล้ว(คบกันเป็นแฟน)แล้วก็ทิ้งผู้หญิงคนนั้นมาแต่งงานกับดิฉัน (ดิฉันไม่รู้เรื่องมารู้หลังแต่งงานกันแล้ว) เขาบอกว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาใครๆก็ทำกัน เพราะเขาเป็นฝ่ายทำแต่กับคนอื่น เขาไม่เคยเป็นฝ่ายถูกทำ เขาเลยไม่เคยได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดเหล่านั้น ดิฉันวนเวียนอยู่กับความทุกข์นี้มาปีกว่า นับตั้งแต่รับรู้ ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ไม่อยากอโหสิกรรมให้เขา เพราะกลัวเขาจะไม่ได้รับกรรม ดิฉันคิดถูกหรือเปล่าค่ะ ๐๓ มิ.ย. ๒๕๕๖, ๑๔.๓๑ น.
คุณ yu คะ ขอตอบง่ายๆ ดีกว่าว่า "คุณเป็นเจ้าของกรรมของเขาหรือคะ" คุณถึงคิดว่า ถ้าคุณให้อภัยแล้วเขาจะไม่ได้รับกรรม การเคียดแค้นจองเวร หมายร้ายกับคนอื่นเป็นมลทินใจเปล่าๆ ค่ะ แถมตัวคุณก็ทุกข์ทุรนทุรายไปเรียบร้อยแล้วที่อยากจะเห็น "กรรมสนอง" เขาแล้วยังไม่ได้เห็นสักที คุณไม่เห็นทุกข์ตรงนี้หรือคะ จำคำพระไว้นะคะ "สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้มนุษย์เรา" กล่าวง่ายๆ กรรมใครกรรมมันค่ะ จะไปเร่งจะไปถ่วงก็ไม่ได้ แต่ถ้าคุณผูกเวรกับเขา คุณก็จะรับกรรมร่วมกับเขาต่อไปเรื่อยๆ ผูกใจเจ็บต่อเขาชาตินี้ ชาติหน้าเขาก็มาผูกใจเจ็บกับคุณ คอยแช่งคุณอีก ไม่จบสิ้น นกกินลมไปเจอผู้รู้ชื่อคุณ kongsilp2000 ที่ท่านตอบปัญหาไว้ใน เว็บพันทิป ขออนุโมทนา และนำมาแลกเปลี่ยนให้คุณ Yu ดังนี้ค่ะ "ในส่วนเรื่องการให้อโหสิกรรม หรือให้อภัยทานนั้น เป็นการดับกิเลส คือ โทสะ ในจิตของคนที่ให้อภัยทานโดยตรงเท่านั้น และไม่ได้เป็นการยกเลิก หรือทำให้กรรมที่ทำไปแล้วหยุดส่งผลแต่อย่างใด คนทำบาปหรือทำชั่วไว้ ก็ยังจะต้องได้รับผลกรรมแบบเดิม เรื่องของกรรมเป็นเรื่องเฉพาะตัว คนทุกคนไม่สามารถที่จะทำกรรมแทนคนอื่นได้ และไม่สามารถที่จะรับผลของกรรมแทนคนอื่นได้ กรรมที่ทำไปแล้วนั้น ก็ไม่สามารถยกเลิกเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ถ้าจะแก้ไขให้ชีวิตดีขึ้น ก็ต้องทำกรรมใหม่ให้เป็นกรรมดี ๆ เท่านั้น และรอให้กรรมใหม่ที่ดี ๆ เหล่านั้นส่งผล สรุปก็คือ ท่านให้อภัยให้อโหสิท่านก็ได้บุญ เป็นการทำกรรมดีในส่วนของท่านโดยตรง แต่คนที่ท่านให้อภัยเขานั้น เขาก็มีกรรมเป็นของตนเอง เขาจะสำนึกและแก้ไขตนเองได้หรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องกรรมเฉพาะตัวของเขา ท่านไปหวังอะไรหรือแก้ไขโดยตรงไม่ได้ ถ้าท่านยังไปคิดโกรธว่า ท่านได้ให้อภัยหลายหนแล้ว ทำไมเขาจึงไม่กลับตัวกลับใจ ถ้าท่านคิดอย่างนี้ละก็ ส่วนที่ท่านบอกว่าให้อภัยหรืออโหสิกรรมนั้น ก็จะไม่ใช่การอโหสิที่แท้จริง ขอให้ท่านโชคดี และขอให้ทุก ๆ ท่านเจริญในธรรม"
รับปัญหา เขียนมา : [ 110.169.249.136 ]
รหัสจดหมาย L-3089
๒๘ พ.ค. ๒๕๕๖, ๑๕.๐๐ น. คุณยุคะ ดิฉันก็เป็นคนนึงคะที่เจอสภาพเดียวกับคุณค่ะ ดิฉันเคยท้อแท้ แล้วก็เสียใจอย่างมาก การกระทำของสามีคุณไม่ได้แตกต่างจากของฉันเลยค่ะ แต่คุณรู้มั้ยคะดิฉันเลือกทางเดิน โดยการเดินจากเขา และเลี้ยงลูกด้วยตัวเองหลังจากที่ไม่มีเขา สามีดิฉันแต่งงานใหม่ค่ะ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เอง ฉันและลูก ๆ อโหสิกรรมให้ทั้งเขาและผู้หญิงคนนั้นค่ะ เราสี่แม่ลูกก็ดำรงชีวิตที่มีความสุขมาได้เกือบหนึ่งปีแล้วค่ะ ตอนแรกมันก็ทรมาณนะคะ แต่ดิฉันใช้ธรรมะเข้าช่วยค่ะ ตักบาตร ทำสังฆทานอุทิศส่วนกุศลให้สามีและผู้หญิงคนนั้นตลอดค่ะ ใจเราต้องเข้มแข็งนะคะ ถ้าใจคุณตัดไม่ขาด หรือ คุณยังทำใจเข้มแข็งไม่ได้ ตัวคุณเองจะเป็นคนที่เจ็บปวดที่สุดค่ะ ดิฉันไม่ได้ยุให้คุณเลิกกับสามีนะคะ แต่แค่แชร์ความรู้สึกและความคิดของตัวเองให้คุณได้ฟัง เพื่อบางทีคุณอาจจะสบายใจบ้างค่ะ คุณสามารถอ่านเรื่องราวของฉันได้ค่ะ ๒๙ พ.ค. ๒๕๕๖, ๑๔.๓๖ น.
คุณรับปัญหาคะ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจอันล้ำค่าที่คุณมอบให้คุณยุค่ะ นกกินลมภูมิใจในตัวคุณมากๆ และขออนุโมทนาในความดีครั้งนี้ค่ะ จดหมายรอตอบ :
คนทุกข์ใจ เขียนมา : [ 203.157.48.252 ]
รหัสจดหมาย L-3169
๐๙ มี.ค. ๒๕๕๙, ๑๖.๑๒ น. ถึงคุณนกกินลม เรื่องราวที่ผ่านมามันก็รู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยเลยค่ะ อย่างที่คุณนกน้อยว่าแหละค่ะ ว่าดิฉันยังเราเค้าอยู่ไหม อภัยให้เขาได้ไหม ซึ่งดิฉันนั้นยอมรับค่ะว่ายังรักเค้าอยู่ และยอมทน ยอมเจ็บปวด แอบร้องไห้ แถมยังช่วยดูลูกเค้าอีกด้วย เหมือนกับว่าเราอยู่กัน 3 ผัวเมียก็ว่าได้ค่ะ แต่ต่างคนต่างอยู่นะคะ จนเวลาผ่านไปจนเจ้าตัวเล็กจะอายุได้ 3 ขวบแล้ว จนกระทั้งมาวันนี้ 4 มีค 59 เค้าแอบพาลูกของเขาหนีไปโดยไม่บอกไม่กล่าวว่าไปไหน ทำให้ดิฉันเป็นห่วง และไม่คิดที่โทรกลับหาดิฉันเลย จนอีกบ้านแวะเวียนมาหาดิฉันที่บ้าน (อยู่ไม่ได้ไกลกันหรอกค่ะ) ดิฉันก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าไปไหน... จนหลายวันต่อมาฉันได้รู้ว่าเค้าอยู่ต่างจังหวัดบ้านญาติ พอรู้แค่เนี่ยก็หายห่วง แต่สิ่งที่น่ากังวลก็คือ ภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่ว่าค่าบ้าน ค่ารถ ค่าบัตรเครดิตต่าง ๆ รวมถึงค่าน้ำค่าไฟ และค่าใช้จ่ายของอีกบ้าน ยังไม่ได้จัดการเลยสำหรับเดือนนี้ เค้าทิ้งสิ่งที่เค้าต้องรับผิดชอบโดยตรงไปโดยไม่คิดที่จะรับผิดชอบเลย ดิฉันได้สอบถามจากคนใกล้ชิดเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงต้องทำแบบนี้ ได้ความว่าเขาเครียด น้อยใจ ที่ดิฉันชอบบ่น ชอบถวงเงิน (ทำอาชีพค้าขาย) และโดนบ้านโน้นบ่นอีกต่าง ๆ นานา เขาคงเหนื่อยและเครียดทนไม่ไหว เลยหนีไป นี่ก็ก็เข้าไป 6 วันแล้วค่ะ ที่เขาไม่เคยคิดจะติดต่อกลับมาเลย และดิฉันเองก็ไม่คิดจะติดต่อกลับด้วยค่ะ เพราะว่าโทรไปเค้าไม่รับสายและตัดสายทิ้ง แต่ขอบอกก่อนนะคะว่า เรื่องค่าใช้จ่ายที่ฉันต้องทวงนะ เราค้าขาย ส่วนดิฉันทำงานด้วย เงินก็ไม่พออยู่แล้ว เราใช้เงินหมุนนะคะ ค่าใช้จ่ายต้องจ่ายทุกสิ้นเดือน และอีกอย่างมันก็เป็นบัตรของเขา ชื่อของเขาทั้งนั้นค่ะ สรุปก็คือ เค้าคิดว่าเงินทองที่ขายของได้ทุก ๆ เดือนนั้นนะ มันหมดไปกับอะไร (เค้าคงคิดว่าฉันแอบเก็บไว้ค่ะ) ซึ่งเค้าไม่เคยมารับรู้เลยว่าในแต่ละเดือนนั้นมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มากมายแค่ไหน และที่สำคัญคือมัน 2 บ้านไงค่ะ ก็เลยอยากปรึกษาค่ะว่าจะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ด้วยวิธีการไหนดีคะ เขาเป็นคนไม่ยอมรับความจริงคะ ทุกวันนี้เขานอกใจดิฉัน เขายังไม่ผิดเลยค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าดิฉันยอมเขามั้งค่ะ จนไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของดิฉันบ้างเลย ฉันเสียใจค่ะ ที่เค้าทำแบบนี้กับดิฉัน ดิฉันเหนื่อยและท้อแท้ใจมากเลยค่ะ ถามว่ายังรักไหม มันก็มีบ้างแหละค่ะ เวลาที่เค้าไม่อยู่บ้านก็เหงาเหมือนกันค่ะ เราอยู่ด้วยกันมานานค่ะ ความผูกพันก็มีมาก แต่ดิฉันยอมรับอีกคนของเขาและลูก ได้แล้ว ทำไมเขาถึงไม่รู้จักพอซะทีนะคะ... น้องสาวของเขาและคนรู้จักก็แนะนำค่ะว่าให้เขาเป็นคนจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายของเขาเอง รวมทั้งจัดการบริหารเรื่องค้าขายของเขาเอง เราไม่ต้องยุ่ง ส่วนเรื่องบ้านนั้น เรากู้ร่วมค่ะ ให้ออกคนละครึ่ง ดิฉันก็อยู่ของฉัน ไม่ข้องเกี่ยวกัน เพราะว่าดิฉันมีงานทำ ไม่ต้องไปยุ่งไปแบกภาระของเขาอีกต่อไป คุณนกกินลมค่ะ ดิฉันควรทำไงดีค่ะ ควรที่จะหย่าขาดดีไหม ดีนะคะที่ดิฉันยังไม่มีลูก พอหย่าเสร็จ ก็ขายบ้าน แต่ก็อีกแหละค่ะไม่ได้ขายได้ง่าย ๆ ด้วย พอจะมีวิธีไหมค่ะ ที่จะสามารถดัดนิสัยผู้ชายคนนี้ได้บ้างค่ะ เพราะเขาก็เป็นแบบนี้อยู่บ่อย ๆ ค่ะ แต่ครั้งนี้เป็นมากเลยค่ะ ไม่เคยคิดว่าเขาจะทำแบบนี้ เพราะโดยปกติแล้วเค้าจะเป็นคนรับผิดชอบ แต่เพื่อนบางคนก็บอกค่ะว่า เราก็อยู่บ้านเราไม่ต้องไปไหนค่ะ ในเมื่อเราทนมาได้ตั้งขนาดนี้แล้วจะยอมให้มันมาชุบมือเปิบได้ไง เพราะใคร ๆ เค้าก็เชื่อว่าถ้าดิฉันออกมาจากบ้าน เขาก็จะเอาผู้หญิงอีกคนเข้ามาอยู่แทนทีดิฉันทันทีเลยค่ะ จริง ๆ แล้วเค้าคงหมดรักแล้ว แต่เค้าเคยบอกค่ะว่าจะไม่ยอมเลิกกับใครก่อน เพราะว่าเขาถือว่าเขาจะได้ไมเ่ป็นคนผิดไงค่ะ เขาถึงคอยแต่จะทำลายความรู้สึกของดิฉันอยู่ตลอดเลย คุณนกกินลมค่ะ ดิฉันยอมรับค่ะว่าครั้งนี้มันเจ็บปวดเกินทนแล้ว แต่ก็ยังรักและผูกพันอยู่ ดิฉันอยากให้คุณนกช่วยแนะนำดัดนิสัยหรือแก้เผ็ดกับผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ไม่รู้จักพอคนนี้ให้หน่อยค่ะ ในเมื่อดิฉันเป็นฝ่ายที่เจ็บปวดมากเพียงคนเดียว ยังไง ๆ ไม่ว่าผลออกมายังไงดิฉันก็เจีบอยู่ดีก็เลยอยากจะให้เขารู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสบ้างว่ามันเป็นอย่างไร ไม่ใช่โยนความผิดให้คนอื่นเพียงอย่างเดียว ให้เขาได้รับความเจ็บบ้าง ให้รู้ว่าความรักความรู้สึกไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ให้เขาจำไปจนวันตายเลยค่ะ ไม่อย่างนั้นเขาอาจไปทำกับคนอื่นอีกก็ได้นะคะ เพราะตลอดเวลาเค้าชอบโกหกตลอด แต่ก็เข้าใจค่ะเขาอาจจะไม่อยากให้ดิฉันเสียใจก็ได้ แต่มันมารูั้ทีหลังนี่มันไม่ดีเลยค่ะ รบกวนคุณนกกินลมด้วยค่ะขอบคุณมากค่ะ รอการตอบจาก นกกินลม
แสดงผลครั้งละ 25 ฉบับ
|
|||||||||||||||
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |