![]() |
![]() |
รจนา ณ เจนีวา![]() |
...ปีแรกที่มาอยู่ประเทศนี้ พ่อบ้านซื้อขนมปังมาก้อนหนึ่ง สีค่อนข้างเข้มหน่อย เนื้อเหนียว แต่ทานอร่อยมาก พ่อบ้านเล่าประวัติเป็นตุเป็นตะ ว่าเป็นขนมปังที่ได้มาจากเมล็ดพันธ์ข้าวสาลีอายุเป็นพันๆปีของอียิปต์โบราณที่มีการค้นพบและลองนำไปปลูกดู...
ตอน : ขนมปังข้าวสาลีคามุท (Kamut wheat)
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
เพื่อนๆผู้รักขนมปังคะ
ปีแรกที่มาอยู่ประเทศนี้ พ่อบ้านซื้อขนมปังมาก้อนหนึ่ง สีค่อนข้างเข้มหน่อย เนื้อเหนียว แต่ทานอร่อยมาก พ่อบ้านเล่าประวัติเป็นตุเป็นตะ ว่าเป็นขนมปังที่ได้มาจากเมล็ดพันธ์ข้าวสาลีอายุเป็นพันๆปีของอียิปต์โบราณที่มีการค้นพบและลองนำไปปลูกดู พบว่า ปลูกขึ้น แล้วกลายมาเป็นเม็ดข้าวที่นำไปทำขนมปังแสนอร่อย แม่บ้านมักซื้อมาทานเสมอ เมื่อมีโอกาส
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ตั้งแต่นั้นมา แม่บ้านก็คิดว่าจะเขียนเรื่องนี้มาตลอด พอดีได้ไปเจอข้อมูลในเว็บ http://www.hort.purdue.edu/newcrop/proceedings1999/v4-182.html ก็เลยเอามาแปลๆ ขัดเกลาเล่าสู่กันฟังนะคะ อาจจะวิชาการสักนิดนะคะ ไหนๆก็เรื่องกึ่งประวัติศาสตร์
ตอนนี้ชื่อ คามุท หรือ Kamut® ได้ถูกลงทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัท Kamut International, Ltd. แล้วค่ะ ซึ่งเป็นบริษัทที่ขายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเมล็ดข้าวสาลีนี้โดยเฉพาะ ข้าวสาลีพันธุ์นี้เป็นญาติรุ่นเก๋ากึ๊กกับข้าวสาลีพันธุ์ดูรัมใหม่ (modern durum wheat) และมีขนาดใหญ่กว่าเม็ดข้าวสาลีทั่วไปประมาณสามเท่า (ดูภาพนะคะ) รวมทั้งมีโปรตีนสูงกว่า 20--40% ทั้งสารอาหารที่มีประโยชน์อื่นๆมากมาย เช่น ลิปิดส์ กรดอะมิโน วิตามินและเกลือแร่ รวมทั้งมีรสเจือหวานด้วย
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
อย่างที่จั่วหัวไปแล้วว่า ข้าวสาลีคามุทนี้มีอายุย้อนหลังนับพันปี แต่กลายมาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารอย่างใหม่ของทวีปอเมริกาเหนือ ความเป็นมาน่าสนุกค่ะ
คือหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง มีนักบินชาวสหรัฐฯคนหนึ่งอ้างว่า ได้นำเอาเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ว่านี้มาจากกล่องหินในสุสานแห่งหนึ่งในเมืองดาชาร์ ประเทศอียิปต์ (Dashare, Egypt) จริงเท็จอย่างไร ขึ้นอยู่กับตัวผู้กล่าวอ้างนี้
นักบินคนนี้ได้เอาเมล็ดพันธุ์จำนวน 36 เมล็ดให้กับกับพ่อซึ่งเป็นเกษตรกรปลูกข้าวสาลีอยู่ที่รัฐมอนตาน่า คุณพ่อก็ลองเอาไปปลูก ปรากฎว่า เม็ดข้าวพันปีปลูกขึ้นค่ะ พ่อชาวนาท่านี้ก็เลยเอาผลผลิตที่ได้ไปออกแสดงในงานเกษตรท้องถิ่น คนที่็เชื่อว่า เมล็ดพันธุ์นี้มาจากสุสานในอียิปต์ก็เลยเรียกขานกันว่า "ข้าวสาลีของคิงตุท" แต่ก็ฮิตกันได้ไม่นาน ก็เลือนหายไปกับสายลมค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
จนมาถึงปีคศ. 1977 นาย ที. แม็ค ควินน์ ชาวนาชาวมอนตาน่าอีกคนหนึ่งบังเอิญมีเมล็ดพันธุ็ข้าวสาลีของคิงตุท (King Tut's Wheat) ที่ว่านี้เก็บไว้เหยือกหนึ่ง แกกับลูกชาย ชื่อ บ๊อบ ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านการเกษตร และนัิกชีวะเคมีพืช ร่วมกันศึกษาค้นคว้าคุณค่าของเมล็ดพันธุ์ข้าวนี้ สองคนพ่อลูกใช้เวลาทศวรรษถัดมาในการค้้นคว้าสายพันธุ์ข้าวนี้อย่างจริงจัง และได้ข้อสรุปว่า เป็นข้าวสาลีที่มีแหล่งกำเนิดมาจากพื้นดินอันอุดมที่ทอดตัวยาวจากประเทศอียิปต์ไปจนถึงที่ราบลุ่มหุบเขาไทกรีส ยูเฟรตีส
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ในปี คศ. 1990 สำนักงานการเกษตรของสหรัฐฯได้รับรองข้าวพันธุ์นี้ในฐานะพืชที่ได้รับการคุ้มครอง มีรหัสอย่างเป็นทางการว่า 'QK-77' พ่อลูกตระกูลควินน์้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคามุทดังที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ เป็นการนำพันธุ์พืชประวัติศาสตร์มาสู่การเกษตรแผนใหม่ ของเก่าอียิปต์ก็เลยกลายเป็นของใหม่มะกันไปค่ะ แถมมีลิขสิทธิ์ด้วย คนอียิปต์เจ้าของข้าวตัวจริงก็แห้วไป
แง่มุมที่สำคัญที่สุดของการเพาะปลูกข้าวคามุท ก็คือ (เขาว่ากันว่า) เป็นข้าวสาลีที่ส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืน เพราะสามารถให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีหรือยาฆ่าแมลง ทำให้เหมาะอย่างยิ่งที่จะปลูกเป็นผลิตภัณฑ์ออกานิคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและกระเพาะของเราด้วยค่ะ
(ของโบราณก็ดีอย่างนี้เนาะ ดังนั้น อย่าหาว่าคนแก่คร่ำครึเด็ดขาด ดูอย่างป้าแก่ ป้าแอ๊ด ป้าแก่นใจสิ ทั้งทันสมัย รู้ทันโลก และเต็มไปด้วยความอบอุ่นให้กับหลานๆชาวนกน้อย)
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
มีนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียที่เชื่อว่า ข้าวพันธุ์นี้น่าจะเป็นข้าวสาลีดูรัมที่เรียกว่่า "อีจิปเตียนก้า (Egiptianka) ซึ่งแปลว่า "ดูรัมแห่งอียิปต์" ค่ะ เอาเป็นว่า เราผ่านเรื่องการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไว้แค่นี้แล้วกันนะคะ
มีการนำรำข้าวสาลีคามุทไปใช้ทำอาหารมากมาย ตั้งแต่ซีเรียล ขนมปัง คุ๊กกี้ ของกินเล่น วาฟเฟิ้ล แพนเค้ก ขนมปังผสม ขนมอบต่างๆ รวมทั้งอาหารกึ่งสำเร็จและแ่ช่แข็งด้วยค่ะ
เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ข้าวนี้มีความหวานในตัว (บางทีก็มีคนเรียกว่า "ข้าวสาลีหวาน")
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
หรือจะนำไปทำพาสต้า ก็ได้รสชาติยอดเยี่ยม ทั้งในแง่ความกรุบกรอบและรสชาติค่ะ และเพราะโปรตีนของคามุทมีสารกลูเต็นที่เหนียวหนึบ จึงสามารถเอาพาสต้าคามุทไปแช่แข็งและนำมาอุ่นได้โดยไม่เสียความเหนียวของเส้นพาสต้า (และความอร่อยด้วยมังคะ)
เมื่อเร็วนี้ก็มีการเปิดตัวกรีนคามุท (Green Kamut) เป็นเครื่องดื่มสกัดจากใบข้าว แล้วทำเป็นเม็ดใส่ขวดขายค่ะ ถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพธรรมชาติที่น่าสนใจตัวใหม่ เช่นกัน เนี่ยละค่ะ ข้าวคามุทที่ให้ประโยชน์ทั้งจากเมล็ดข้าวและจากใบข้าว....
การวิเคราะห์ทางโภชนาการ ยืนยันว่า เมล็ดข้าวคามุทนี้ให้พลังงานมากกว่าข้าวสาลีอื่นๆ มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์มากกว่า ถึงแปดในเก้าตัว มีกรดอะมิโนมากกว่า 65% ไหนจะยังมีโปรตีนมากกว่าอีก 40% กลายเป็นอาหารยอดนิยมของนักกีฬา หรือผู้ที่ต้องการพลังงานมาก แต่ไม่อยากกินจุกจิกทั้งวันค่ะ น่าจะเอาไปลดน้ำหนักได้ด้วย
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
โอ นี่แปลไปแปลมา แม่บ้านก็เพิ่งรู้คุณสมบัติอันแสนวิเศษของข้าวสาลีชนิดนี้นะคะเนี่ย ไม่รู้ว่าบริษัทผู้ผลิตเขาอยากเชิญชวนให้เราทานสินค้าของเขามากๆหรือเปล่า เลยเชียร์เสียเลิศลอย (แฮ่ม ป่าวมองโลกในแง่ร้ายนะคะ เพราะสมัยนี้อะไรก็การตลาดไว้ก่อน) เนี่ยยังมีสำนักงานวิจัยอีกแห่งหนึ่งออกมาร่วมเสนอว่า สำหรับคนที่แพ้ข้าวสาลีแล้ว ข้าวคามุทถือว่าเป็นตัวแทนข้าวสาลีทั่วไปได้อย่างดีเยี่ยม อืมม์...
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
แปลไป เขียนไป สรุปไป ชักหิวแล้วสิคะ สงสัยต้องไปหาขนมปังคามุทมาทานสักหน่้อยแล้วค่ะ ยำยำ...
แม่บ้านนักค้นคว้าค่ะ
เมื่อวันที่ : ๒๒ ก.พ. ๒๕๔๘, ๐๖.๒๖ น.
น่าอร่อย น่ากินจังค่ะ