นิตยสารรายสะดวก  Fiction  ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
สุดปลายฝัน บทนำ #1
รุ่งธิวา
...วิลเลียม แคมพ์เบลล์ เอนตัวลงนอนบนเตียงเล็กในเคบินนายเรือ เรือ ‘มาร์กาเร็ต 2’ ​ซึ่ง​เป็นหนึ่ง​ในเรือล่าวาฬของ ‘แคมพ์เบลล์ เวลลิง กัมปะนี’ ธุรกิจล่าวาฬของบิดา...

ตอน : บทนำ

บทนำ

25 สิงหาคม ค.ศ. 1853, วิคตอเรีย -- ออสเตรเลีย

วิลเลียม แคมพ์เบลล์ เอนตัวลงนอนบนเตียงเล็กในเคบินนายเรือ เรือ ‘มาร์กาเร็ต 2’ ​ซึ่ง​เป็นหนึ่ง​ในเรือล่าวาฬของ ‘แคมพ์เบลล์ เวลลิง กัมปะนี’ ธุรกิจล่าวาฬของบิดา

ชายหนุ่มนำเรือออกล่าวาฬในฐานะนายเรือเต็มตัว​เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ ​และหลังจากสามเดือนในทะเล วันนี้​คือวันสุดท้ายของฤดูกาล ก่อน​ที่พรุ่งนี้เช้า​ เรือ ‘มาร์กาเร็ต 2’ ​จะมุ่งหน้าขึ้น​ฝั่ง​ที่โบตานีย์เบย์ ท่าเรือ​ซึ่งตั้งอยู่​ทางใต้ของเมืองหลวง [1] ซิดนีย์เล็กน้อย ​เพื่อนำวาฬ​ที่จับ​ได้เข้าสู่สถานีแปรรูป อันตั้งอยู่​ไม่ห่างจากท่าเรือมากนัก

คืนนี้​เขาอนุญาตให้ลูกเรือสนุกสนาน​กับงานเลี้ยงส่งท้ายฤดูกาล หลังจากทำงานหนักในทะเลมาหลายเดือน ชายหนุ่มตรวจดู​ความเรียบร้อย​ว่ามีการวางเวรยามบนดาดฟ้า ​และมอบหมายหน้า​ที่ให้ต้นเรือกำ​กับการเดินเรือแทน ก่อน​ที่​จะเข้านอนหลังจาก​ที่เข้าร่วมงานสังสรรค์ระยะหนึ่ง​ ชายหนุ่มจำ​เป็น​ต้องพักผ่อน​เอาแรง ​เพราะพรุ่งนี้​เขา​ต้องตื่น​แต่เช้า​​เพื่อเตรียม​ความ​พร้อมครั้งสุดท้ายก่อนออกเดินทางกลับเข้าฝั่ง

นายเรือหนุ่มสะดุ้งตื่น​เพราะเสียงเคาะประตูเคบินหลังจาก​ที่หลับลง​ไปเพียงครู่เดียว ​แต่​แม้​จะเพิ่งหลับ​ไปไม่นาน ชายหนุ่มก็​สามารถลุกขึ้น​มา​ได้ทันที​โดยไม่มีท่าทางง่วงงุน​แม้​แต่น้อย ด้วยลักษณะของงาน​และ​ความรับผิดชอบ ​ที่ชีวิตของลูกเรือทุกคนอยู่​ในมือ​เขา ชายหนุ่มจึง​ต้องเตรียม​พร้อมรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน​ที่อาจ​จะเกิดขึ้น​​ได้อยู่​เสมอ ฟังจากเสียงเคาะประตูอันเร่งเร้า คน​ที่ถูกรบกวนการนอนเดาว่าคง​จะมีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้น​ หาไม่แล้ว​​เขา​จะไม่ถูกปลุกในเวลาพักผ่อนเช่นนี้ นายเรือหนุ่ม​ได้​แต่หวังว่า เหตุการณ์ผิดปกติ​ที่ว่านั่นคง​จะไม่รุนแรงจนเกิน​ความ​สามารถในการจัดการของ​เขา

วิลเลียมเดิน​ไปเปิดประตูเคบิน มองเห็น ทอม ไรท์ เด็กหนุ่มกลาสีฝึกหัด​ที่ทำหน้า​ที่รับ​ใช้ทั่ว​ไปบนเรือ​และรับ​ใช้ประจำตัว​เขายืนอยู่​หน้าห้องด้วยสีหน้า​เป็นกังวล

"มีอะไร​รึทอม" ถามเด็กรับ​ใช้ประจำตัวเสียงเคร่ง

"มีหมอกหนาครับ​กัปตัน ทำให้ตอนนี้มองไม่เห็นชายฝั่งเลย​ครับ​" เด็กหนุ่มรายงานตาม​ที่​ได้รับมอบหมายจากต้นเรือ​ที่ทำหน้า​ที่กำ​กับการเดินเรืออยู่​ในตอนนี้ ข่าวจากเด็กรับ​ใช้ประจำตัว ทำให้สีหน้าเคร่งของนายเรือหนุ่มดูเคร่งเครียดขึ้น​​ไปอีก

"ตอนนี้งานเลี้ยง​เป็นอย่างไรบ้าง​"

"ยังดำเนิน​ไปอยู่​ครับ​"

"​ไปแจ้งข่าวให้ทุกคน​ที่ยังดื่มกินอยู่​ทราบ ​เพื่อ​จะ​ได้เตรียมตัวเผื่อมีเหตุการณ์อะไร​เกิดขึ้น​ ​แต่เราคงทำอะไร​ไม่​ได้ นอกจาก​จะรอให้หมอกสลาย​ไปเอง ฉัน​จะขึ้น​​ไปดูสถานการณ์บนดาดฟ้า" สั่งเสร็จก็เดินออกจากเคบินขึ้น​​ไปบนดาดฟ้าเรือ ​และพบ​กับต้นเรือ​ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่​ก่อนแล้ว​

"มองไม่เห็นอะไร​เลย​ครับ​กัปตัน" ต้นเรือรายงาน​เมื่อเห็นนายเรือหนุ่มเดินเข้ามาหา

"เกิดขึ้น​มานานแค่ไหนแล้ว​ เอ็ดวิน"

"สักครึ่งชั่วโมงแล้ว​ครับ​"

นายเรือหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้น​ดูเวลาพบว่า​เป็นเวลาตีหนึ่ง​ครึ่ง ​เขาเพิ่งหลับ​ไปราวชั่วโมงครึ่งเท่านั้น​ ​และท่าทางคืนนี้คง​จะ​เป็นอีกคืน​ที่ยาวนานทีเดียว

"เราทำอะไร​ไม่​ได้อยู่​แล้ว​ ​ต้องรอให้หมอกสลาย​ไปเอง กลับขึ้น​​ไป​ที่ห้องบังคับเรือเถอะ ฉัน​จะเฝ้าสถานการณ์อยู่​​ที่นี่" หัน​ไปบอกคนในบังคับบัญชาพลางถอนหายใจ

"ครับ​กัปตัน"


วิลเลียม​ใช้เวลา​ทั้งคืนเฝ้าระวังสถานการณ์อยู่​บนดาดฟ้าเรือ จวบจนเริ่มมองเห็นแสงสว่างเรื่อเรืองทางขอบฟ้าด้านทิศตะวันออก ​และนาฬิกาบนข้อมือบอกเวลาห้านาฬิกา ชายหนุ่มจึงพบว่าหมอกหนา​ที่ปกคลุม​ไปทั่วบริเวณสลายตัวลง ​แต่แทน​ที่​จะทำให้​ความเครียด​ที่มีมา​ทั้งคืนสลาย​ไปเช่นกลุ่มหมอก ชายหนุ่มกลับตระหนก​กับสิ่ง​ที่มองเห็นอยู่​ตรงหน้า

เรือ ‘มาร์กาเร็ต 2’ ​กำลังมุ่งหน้าตรงสู่หน้าผาหินในระยะ​ที่ใกล้จนชายหนุ่มไม่สบายใจ ด้วย​ความเร็วของเรือ​ที่​กำลังแล่น​ไปอยู่​นี้ ​เขามีเวลาเพียงไม่เกินสิบห้านาที​ที่​จะหันหัวเรือออกจากหน้าผา​ที่มองเห็นอยู่​ตรงหน้า ​และ​เขา​ต้องลงมือเดี๋ยวนี้ก่อน​ที่ทุกอย่าง​จะสายเกิน​ไป

ชายหนุ่มวิ่งขึ้น​​ไปบนห้องบังคับเรือพลางตะโกนสั่งต้นเรือ​ที่ประจำอยู่​ในห้องเสียงดัง

"เอ็ดวิน บอกทุกคนให้ขึ้น​ใบเรือทุกใบ เดี๋ยวนี้!" สั่งเสร็จก็เข้าประจำ​ที่หลังพังงาเรือ พยายาม​ที่​จะบังคับเรือให้หันหัวกลับเข้า​ไปในทะเล ​เขา​ต้องทำ​ได้ ​เขา​จะปล่อยให้เรือชนหน้าผาไม่​ได้ ชายหนุ่มบอกตัวเอง

ด้วยการเข้ารับตำแหน่งนายเรือในขณะ​ที่อายุเพียงยี่สิบเอ็ดปี ชายหนุ่มถูกครหาว่า​ได้ตำแหน่งมา​เพราะ​เป็นเรือของบิดา หาใช่​เพราะ​เขามี​ความ​สามารถพอ​ที่​จะทำหน้า​ที่นี้ไม่ ​แม้ว่า​เขา​จะออกเรือตั้งแต่อายุสิบห้า​และมีประสบการณ์ถึงหกปีก็ตาม ดูเหมือนว่านายเรือคนอื่น ๆ​ ​จะไม่คิดว่า​เขามีประสบการณ์​และ​ความ​สามารถมากพอ วิลเลียม​ต้องการให้การล่าวาฬเ​ที่ยวนี้ ​ซึ่งอยู่​ภายใต้การนำของ​เขาเต็มตัว ​เป็นข้อพิสูจน์ว่า​เขามี​ความ​สามารถมากพอ​ที่​จะ​เป็นนายเรือ​ได้อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยวาฬเกือบสองร้อยตัน​ที่​เขาล่ามา​ได้ ​และ​กำลัง​จะถูกนำ​ไปส่งยังสถานีแปรรูปในอีกไม่กี่วัน เพียง​แต่​เขา​จะ​สามารถพาเรือออกจากวิกฤติครั้งนี้​ไป​ได้ ​และ​เขา​ต้องทำให้​ได้

เหตุการณ์บนดาดฟ้าเรือ​กำลังสับสนวุ่นวาย เสียงสั่งการ เสียงขานรับ ลูกเรือวิ่งวุ่นพยายามทำทุกวิถีทาง​ที่​จะพาเรือ ‘มาร์กาเร็ต 2’ หันหัวเรือออกจากหน้าผาตรงหน้าให้​ได้ ​แต่ดูเหมือนว่าไม่ว่า​จะพยายามเพียงใด ก็ไม่​สามารถ​จะบังคับหัวเรือให้หัน​ไปอีกทาง​ได้เลย​ เรือยังคงตะบึงเข้าหาหน้าผาหิน​ที่มองเห็นใกล้เข้ามาในเรื่อย ๆ​

"ทอดสมอเดี๋ยวนี้!!" ชายหนุ่มตะโกนสั่งลูกเรือ ก่อน​จะวิ่งตรง​ไปยังด้านข้างลำเรือ ​เพื่อช่วยลูกเรือปล่อยสมอลงสู่ผืนน้ำดำมืดเบื้องล่าง

หลังจากพยายามจนสุด​ความ​สามารถ​แต่ไม่​สามารถแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้า​ได้ ทางเลือกสุดท้าย​คือทอดสมอ​เพื่อหยุดเรือ ไม่ให้แล่น​ไปข้างหน้า

ดูเหมือนว่าชายหนุ่ม​จะตัดสินใจช้า​ไปเพียงเสี้ยววินาที ​เพราะในขณะ​ที่สมอ​กำลังถูกปล่อยลงสู่ผืนน้ำ เรือ ‘มาร์กาเร็ต 2’ ก็ชนเข้า​กับหน้าผาหินตรงหน้า​พอดี ชายหนุ่มรู้สึกถึงแรงกระแทกรุนแรง มองเห็นเรือบริเวณ​ที่กระแทก​กับหน้าผาแตก​เป็นเสี่ยง ๆ​ น้ำทะเลทะลักเข้ามาในลำเรือในทันที ลูกเรืออยู่​ในอาการตระหนก​และขวัญเสีย วิ่งวุ่นอย่างไร้ทิศทาง

นายเรือหนุ่มหลับตาลงอย่างปวดร้าว​เมื่อมองเห็นภาพตรงหน้า ​เขาไม่​สามารถทำอะไร​​ได้แล้ว​ ​เขาไม่มี​ความ​สามารถพอ​ที่​จะ​เป็นนายเรืออย่าง​ที่คนอื่นว่าจริง ๆ​ ไม่​สามารถพาเรือ​และชีวิตของลูกเรือออก​ไปจากวิกฤติ​ที่เกิดขึ้น​​ได้ คง​จะมีเพียงสิ่งเดียว​ที่​เขา​จะพอทำ​ได้...​ สั่งการครั้งสุดท้ายในฐานะนายเรือ...​

"ทุกคนตั้งสติ ​เอาเรือยาวออก ขึ้น​เรือยาวให้หมดทุกคนก่อน​ที่เรือ​จะจม" ชายหนุ่มตะโกนสั่ง ลูกเรือวิ่ง​ไปยังจุด​ที่เก็บเรือยาว ทำตามคำสั่งในทันที

"​ไปด้วยกันนะครับ​กัปตัน" เอ็ดวิน ต้นเรือ​ที่ยืนอยู่​ไม่ห่างกล่าว หากชายหนุ่มส่ายหน้า

"​เป็นหน้า​ที่ฉัน​ที่​จะทำให้แน่ใจว่าทุกคนลงเรือยาวเรียบร้อย​ ฉัน​เป็นกัปตัน ​ต้อง​เป็นคนสุดท้าย​ที่​จะทิ้งเรือ ขอให้โชคดีเอ็ดวิน หากฉันรอดชีวิต เราคง​ได้พบกันอีก"

ก่อน​ที่ต้นเรือ​จะ​ได้พูดอะไร​ต่อ ชายหนุ่มรู้สึกว่า​มีบางอย่างกระแทกเข้า​กับลำเรืออีกครั้ง แรงกระแทกส่งให้​เขาลอยละลิ่วตกลง​ไปในทะเลเบื้องล่าง ​เมื่อชายหนุ่มโผล่ขึ้น​มาเหนือน้ำอีกครั้งนั้น​ ​เขามองเห็นเรือลำใหญ่​ที่​กำลังจมลงช้า ๆ​ อยู่​ไม่ไกล วูบหาย​ไปต่อหน้าต่อตาราว​กับถูกดูดด้วยอะไร​บางอย่าง ก่อน​ที่ตัว​เขาเอง​จะถูกคลื่นลูกโตกระแทกให้จมลง​ไปใต้น้ำอีกครั้ง

วิลเลียม แคมพ์เบลล์ พยายามต่อสู้​เพื่อ​เอาชีวิตรอด ​แต่น้ำทะเลเย็นเฉียบในฤดูหนาว ​ที่หนาวเย็นใกล้จุดเยือกแข็ง อีก​ทั้งคลื่นลูกใหญ่​ที่กด​เขาลงสู่ใต้น้ำครั้งแล้ว​ครั้งเล่า ทำให้ใน​ที่สุดชายหนุ่มก็หมดแรง​ที่​จะต่อสู้ ขณะ​กำลัง​จะหมดสติ นายเรือหนุ่มยอมรับ​ความพ่ายแพ้ เรือภายใต้การกำ​กับการของ​เขาล่มตั้งแต่เ​ที่ยวแรก ​เขาไม่​สามารถนำเรือ​และลูกเรือกลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย​ได้ ในฐานะนายเรือ ไม่มีสิ่งใด​ที่​เขา​จะภูมิใจ​ได้เลย​...​ นอกจาก...​

​เขา​กำลัง​จะตายในทะเล...​ สมศักดิ์ศรีชาวเรือ...​

[1] เมืองหลวงของรัฐ นิวเซาธ์เวลส์

 

F a c t   C a r d
Article ID S-3556 Article's Rate 0 votes
ชื่อเรื่อง สุดปลายฝัน บทนำ --Series
ชื่อตอน บทนำ --อ่านตอนอื่นที่ตีพิมพ์แล้ว คลิก!
ผู้แต่ง รุ่งธิวา
ตีพิมพ์เมื่อ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ เรื่องยาว ซีรีส์
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๘๗๒ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๑ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : Rotjana Geneva [C-19069 ], [2.173.154.140]
เมื่อวันที่ : ๑๘ ก.ย. ๒๕๕๗, ๒๐.๔๕ น.

ยินดีต้อนรับค่ะ​​ คุณรุ่งธิวา ขอให้แปล​​ได้คล่อง​​และต่อ​​เนื่องนะคะ​​ ​​จะคอยติดตามผลงานตอนต่อ​​ไปค่ะ​​

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น