![]() |
![]() |
กรีนก๊อปแก๊บ![]() |
...ตอนที่...1... ยานเบทิวเดียม 77 จอดนิ่งอยู่ท่ามกลางม่านอวกาศมืดที่รายล้อมด้วยหมู่ดาวนับล้าน ต...
ตอน : The New Earth
ตอนที่...1...ยานเบทิวเดียม 77 จอดนิ่งอยู่ท่ามกลางม่านอวกาศมืดที่รายล้อมด้วยหมู่ดาวนับล้าน ตัวยานมีขนาดใหญ่ยักษ์ พรั่งพร้อมด้วยสรรพสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์สันทนาการอีกมากมาย ในยานมีทั้งห้องครัว ลานกีฬาเล็กๆ ห้องประชุมใหญ่ และห้องนอนสำหรับลูกเรืออีก 30 คน ทว่าวัตถุประสงค์ของยานไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อท่องเที่ยว หรือเติมเต็มรูปแบบชีวิตของมหาเศรษฐีคนไหนให้สุดหรูด้วยแพ็คเก็จท่องจักรวาล หากแต่เป็นภารกิจ...ภารกิจที่เกินขีดความสามารถของสิ่งมีชีวิตใดๆ จะสร้างขึ้นมาได้
"คุณไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่นะ" กัปตันวาสเซลกล่าวย้ำกับด็อกเตอร์เกรย์อีกครั้ง พยายามโน้มน้าวให้อีกฝ่ายคิดเปลี่ยนใจ แม้จะรู้อยู่ลึกๆ ว่าไม่เหลืออะไรให้คู่สนทนาผูกพันธ์กับสถานที่จากมา และคงหันหลังทอดทิ้งทุกสิ่งแล้ว
"อย่างน้อยที่นั่นก็ยังมี...บ้าน...ของเราอยู่" กัปตันพยายามผ่อนเสียงตรงคำว่าบ้าน นึกตำหนิตัวเองที่เผลอหลุดคำนี้ เพราะสำหรับด็อกเตอร์เกรย์แล้ว มันคือสถานที่ซึ่งพรากลูก-เมียเขาไป
"ผมอยากเห็นมันกำเนิดขึ้นกับตา" ด็อกเตอร์เกรย์ขยับแว่นใหญ่ ตามองทอดออกไปนอกยาน ผนังยาน เบทิวเดียม 77 ด้านนอก จะบันทึกภาพสิ่งที่สะท้อนลงบนพื้นผิวยานและส่งภาพกลับมายังผนังด้านใน ทำให้ผู้ที่อยู่ในยานสามารถมองผ่านตัวยานออกไปราวกับมองทะลุกระจก
กัปตันลอบมองแววตาด็อกเตอร์เกรย์ มันใช่แววตาของคนที่มีความสุขหรือเปล่า เขานึกในใจ คนแบบไหนกันที่จะยอมขังตัวเองไว้ในยานลำใหญ่เพียงลำพังแบบนี้ มันคุ้มไหมที่จะได้ยลโฉมผลงานของตน แลกกับการสละสิ้นความเป็นปกติอย่างที่มนุษย์ทำกัน
"ดูสิกัปตัน" เสียงของด็อกเตอร์เจือความตื่นเต้น กัปตันหันมองนอกยานตาม กลุ่มฝุ่นและก๊าซ หมุนตัวเป็นรูปจานสีแดงขนาดใหญ่ จุดศูนย์กลางเป็นดวงกลมสีเหลือง มันมีพลังงานและความร้อนมากมายมหาศาล แผ่นจานนี้จะรักษาแรงเหวี่ยงเป็นชั้นๆ มวลสารของแต่ละชั้นจะพยายามรวมตัวกันด้วยแรงโน้มถ่วงจากจุดสีเหลืองตรงศูนย์กลาง จากนั้นก้อนมวลสารจะค่อยๆ โตขึ้นตามแรงเหวี่ยง สะสมฝุ่นและก๊าซไปเรื่อย กระทั่งขยายใหญ่ จนกลายเป็น...ดาวเคราะห์
"เราสร้างมัน ...นอกจากลูกกับภรรยา ผมมีแค่ผลงานชิ้นนี้เท่านั้น มันทำให้ผมอยู่ต่อได้" ด็อกเตอร์หันมามองกัปตัน ใบหน้าของชายผู้เปี่ยมความรู้นี้ เต็มไปด้วยความหมองเศร้า ผมขาวโพลนไปทั้งหัวแล้ว ทั้งที่อายุเพิ่งจะ 40 ปี รุ่นราวคราวเดียวกับกัปตันเท่านั้น แต่ความทุกข์ทำให้เขาดูแก่กว่าวัยมาก
"สถานการณ์ของเรากับพวกเคอร์คิเจี้ยนก็ไม่สู้ดีนัก ด็อกเตอร์-คุณรู้ใช่ไหม ถ้าพวกมันเข้ามายึดยานเราได้ วิกกี้จะทำยังไงกับมันและยานของเรา" กัปตันเอ่ยเสียงเข้ม พยายามเสนออีกเหตุผลเพื่อล้มเลิกความคิดเฝ้ายานของดอกเตอร์ คู่สนทนาได้ฟังก็พยักหน้ารับ
"วิกกี้!!" กัปตันเงยหน้าตะโกนดังพอประมาณ
"ค่ะท่าน" เสียงวิกกี้ขานรับ เธอเป็นโปรแกรมควบคุมยานแบบอัตโนมัติ และยังเป็นผู้ช่วยของกัปตันด้วย กายภาพของเธอระบุไว้เป็นแค่รูปแบบเสียง เธอถูกสร้างเสียงเลียนแบบดาราสาวคนหนึ่ง วิกกี้มีหน้าที่แทบจะทำทุกอย่างบนยานลำนี้ ตั้งแต่คำนวณหาทางเดินของอุกกาบาตที่จะขวางเส้นทางของยาน ไปจนถึงรู้จำนวนช้อนที่หายไปจากครัว
"ถ้าพวกเคอร์คิเจี้ยนบุกยึดยานลำนี้ คุณจะทำยังไง" หลังประโยค กัปตันหันมามองด็อกเตอร์ เขาอยากให้วิกกี้ย้ำถึงสิ่งที่จะเกิด หากยานลำนี้ถูกบุกรุก และหวังให้อีกฝ่ายคิดเปลี่ยนใจ
"ฉันจะระเบิดยานทันทีที่สแกนพบพวกเคอร์คิเจี้ยนบนยาน หากมีจำนวนมากกว่าคนของเรา หรือเราไม่สามารถสู้กับพวกนั้นได้ ตามระเบียบของยานค่ะท่าน"
กัปตันพยักหน้า แล้วถามต่อว่า
"แล้วเราต้องใช้เวลาเท่าไร จึงจะสามารถเข้าไปสำรวจหาดาวเคราะห์ที่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้"
"ถัดจากวันนี้ไปอีก 2 ปี 2 เดือน 4 วัน 5 ชั่วโมง 22 นาที 14 วินาที ฉันจะยิงตัวเร่งปฎิกิริยาของแรงเหวี่ยง เพื่อย่นระยะเวลาการกำเนิดของดาวเคราะห์ และจะใช้เวลาอีก 12 ปี เพื่อให้ก๊าซ A คงที่ และอีก 3 ปี สำหรับก๊าซ B คงที่ และอีก 3 ปีสำหรับตั้งค่าอุณหภูมิให้คงที่ ทั้งหมดกว่าเราจะสามารถลงสำรวจดาวเคราะห์ดวงใหม่ได้ กินเวลาไม่เกิน 25 ปีค่ะท่าน"
"25 ปีสำหรับคนที่ติดคุก มันนานมากนะด็อกเตอร์ และคุณไม่มีสิทธิ์ลดหย่อนโทษด้วย" กัปตันเอ่ยกับด็อกเตอร์ เห็นอีกฝ่ายถอนหายใจอย่างหมดหวังแล้วรู้สึกเวทนา เขาคิดในใจ หากเป็นตัวเองจะทำเช่นไร บ้านที่ไร้คนรักอาศัย หนำซ้ำมาจากกันแบบไม่มีวันหวนกลับ มันจะมีค่าพอให้เขากลับไปเยือนหรือเปล่า หรือจะทิ้งทุกสิ่งแล้วเริ่มต้นใหม่
อย่างน้อย-การอยู่ด้วยความหวังของผู้อื่น ก็ยังดีกว่าการอยู่แบบไม่มีความหวังเลย กัปตันหวนนึกถึงคำพูดของภรรยา ก่อนออกเดินทางเธอเพิ่งให้กำเนิดลูกสาวแก่เขา กัปตันมีโอกาสได้กอดเด็กหญิงตัวน้อยไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ ถ้าไร้ซึ่งสองคนอันเป็นที่รักนี้ เขากล้าพอที่จะอยู่เพื่อเผชิญกับความทรงจำก่อนการสูญเสียหรือเปล่า ...แล้วด็อกเตอร์เกรย์จะกล้าเช่นกันไหม กัปตันส่ายหน้าแล้วมองอีกฝ่ายอย่างเข้าใจ
"คุณรู้ใช่ไหม ถ้าผมไปจากที่นี่แล้ว คนที่จะควบคุมทุกสิ่งบนนี้คือใคร ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องสถิติแบบวิกกี้ ผมหมายถึงการตัดสินใจต่างๆ ใครจะเป็นคนทำ" ด็อกเตอร์เงยหน้ามองกัปตันแล้วยิ้ม เขาเอื้อมมือไปจับมือกัปตันแล้วเขย่าอย่างดีใจ
"ผมจะทำให้ดีที่สุด คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน" ด็อกเตอร์มองออกไปนอกยานยังกลุ่มจานสีแดงใหญ่อีกครั้ง
"มันจะเป็นระบบสุริยะจักรวาลที่สมบูรณ์แบบที่สุด มันจะเป็นบ้านใหม่ของเรา ผมจะดูแลมันอย่างดีสุด"
กัปตันพยักหน้ารับ แล้วเอ่ยเรียกวิกกี้อีกครั้ง
"ทันทีที่ผม กัปตันวาสเซล คุก ออกจากยานเบทิวเดียม 77 แล้ว ด็อกเตอร์เกรย์ บีเบิ้ลจะทำหน้าที่เป็นกัปตันยานลำนี้แทน ให้มีผลทันทีเมื่อผมก้าวเท้าพ้นจากยานลำนี้ไป "
"รับทราบค่ะท่าน"
สิ้นสุดการสนทนา ด็อกเตอร์จับมือขอบคุณกัปตันอีกครั้ง เขาเอ่ยอวยพรให้กัปตันเดินทางปลอดภัย ส่วนกัปตันก็ขอให้เขาดูแลสุขภาพให้ดี
12 ชั่วโมงต่อมา กัปตันวาสเซลและลูกเรือทั้ง 16 คนก็เตรียมพร้อมออกเดินทาง วิกกี้เตรียมรายละเอียดต่างๆ ของการเดินทางและรายงานข้อมูลทุกอย่างแก่กัปตันให้ทราบอีกครั้ง มีรายงานเรื่องความผิดพลาดจากการสื่อสาร เพราะระบบสุริยะจักรวาลใหม่นี้แผ่พลังงานออกมามากมาย จนทำให้คลื่นการสื่อสารถูกรบกวน กัปตันรับทราบและจะรายงานต่อศูนย์ควบคุมที่ดาวบ้านเกิดทันทีที่สามารถติดต่อได้ ทั้งเรื่องความสำเร็จของภารกิจและการตัดสินใจอยู่ประจำการบนยานเบทิวเดียมของด๊อกเตอร์เกรย์
จากนั้นทุกคนนอกจากด็อกเตอร์เกรย์ก็ขึ้นยานขนส่ง กัปตันไม่ได้กล่าวคำลาใดๆ กับด็อกเตอร์อีก เขาถือเคล็ดเรื่องนี้ ไม่มีคำลา-ไม่มีอันตราย แต่ทว่ารอบนี้ไร้ซึ่งโชคและเคล็ด ยานขนส่งเดินทางไปได้ราว 3 ชั่วโมงก็พลันเกิดระเบิดขึ้น ชิ้นส่วนยานกระจัดกระจายลอยคว้างอยู่ในห้วงมืด กัปตันวาสเซลพร้อมทั้งลูกเรือทั้งหมด...เสียชีวิตทันที...