นิตยสารรายสะดวก  Fiction  ๑๒ มกราคม ๒๕๕๕
เวลาที่หายไป #50
ดอยสะเก็ด
...​ระหว่างอยู่​บนเครื่องบิน​ที่มุ่งหน้า​ไปประเทศไทย คริสนั่งคิดถึงเรื่อง​​ที่คุณธัญญาพูด แล้ว​ก็มองเห็นอะไร​บางอย่าง​ที่​เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย​ นั่น​คือทิพย์สุรางค...

ตอน : เผชิญหน้า

​ระหว่างอยู่​บนเครื่องบิน​ที่มุ่งหน้า​ไปประเทศไทย คริสนั่งคิดถึงเรื่อง​​ที่คุณธัญญาพูด แล้ว​ก็มองเห็นอะไร​บางอย่าง​ที่​เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย​ นั่น​คือทิพย์สุรางค์อาจ​จะรัก​เขาเหมือน​กับ​ที่​เขารักเธอ ​ที่เธอผลักไสไม่ยอมให้รับผิดชอบ ไม่ใช่​เพราะเกลียดชังหรือรังเกียจ​เขา ​แต่อาจ​จะ​เป็น​เพราะเธอไม่มั่นใจในตัว​เขา ​เพราะ​เขามีลลิตาอยู่​อีกคนหนึ่ง​​ซึ่ง​กำลัง​จะ​แต่งงานกัน ​ส่วน​เขาเองนั้น​​แม้แรกๆ​​จะไม่รู้ตัวว่ารักเธอหรือเปล่า ​แต่ยิ่งนานวันเข้าหัวใจของ​เขากลับปวดร้าวเฝ้าพะวงหาเธอ อยากเห็นหน้าอยากใกล้ชิด ​แม้เธอ​จะผลักไสไล่ส่งอยู่​ตลอดเวลา

บางครั้ง​เขาเคยนึกโกรธ​และน้อยใจเธอ ​แต่ทำไมถึงโกรธเธอจริงๆ​ไม่ลง ลืมเธอไม่​ได้ ยามใด​ที่​ได้เห็นหน้าแสนสวยหยิ่งยโส​ที่ทำบึ้งตึงใส่​เขาทำไม​เขาจึงรู้สึกดีใจ ​ความทุกข์​ความเจ็บปวด​ทั้งหลายมลาย​ไปสิ้น ​เขาอิจฉาผู้ชายทุกคน​ที่เข้าใกล้เธอ ยามอยู่​ไกลก็เฝ้ากังวลกลัวคนอื่น​จะคว้าเธอ​ไป ​ถ้า​เขาไม่​ได้รักเธอ ทำไม​เขาจึงรู้สึกหึงหวงนายชาคริตนั่นเสียนักหนา ทำไม​เขาถึงโง่ไม่รู้ใจตัวเองมาถึงป่านนี้​ที่เกือบ​จะสายเกิน​ไป

ตอนนี้ชายหนุ่มแน่ใจแล้ว​ว่า​เขารักทิพย์สุรางค์ อย่าง​ที่ไม่เคยคิดว่า​จะรักผู้หญิงคนใด​ได้มากเท่านี้อีกแล้ว​ ​แม้​แต่ลลิตา​ที่​เขาเคยคิดว่ารักมาก​ที่สุดแล้ว​ ​แต่ดูเหมือนว่าเธอคนนั้น​​จะค่อยๆ​เลือนลาง​ไปจากหัวใจ​เขาทีละเล็กทีละน้อย คริสตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว​ว่าตอนนี้คน​ที่สำคัญ​ที่สุดต่อชีวิต​และอนาคตของ​เขา ​คือทิพย์สุรางค์​และลูกชายตัวน้อย​ที่​เขายังไม่เคยเห็นหน้า ​เขา​ไปคราวนี้​เพื่อ​ไปช่วงชิงหัวใจของผู้หญิงคน​ที่​เขาเพิ่งแน่ใจว่ารัก​และอยากร่วมชีวิตด้วย ไม่ว่า​จะมีอุปสรรคอะไร​ ไม่ว่าทิพย์สุรางค์​จะผลักไสไล่ส่ง​เขาอย่างไร ​เขาก็​จะไม่ยอมแพ้ ​เขา​จะทำทุกอย่าง​ที่​จะ​ได้หัวใจเธอมา

ตอนนี้คริสรู้สึกสบายใจขึ้น​มาก​เมื่อ​ได้คุย​กับมารดา ​ที่ผ่านมาคุณธัญญา​เป็นคนสำคัญคนหนึ่ง​​ที่ทำให้​เขาไม่กล้าตัดสินใจเรื่อง​ลลิตา ​เขาห่วงใย​ความรู้สึกของเธอ​เพราะรู้ว่าเธอรักลลิตา​และอยาก​ได้หญิงสาวคนนั้น​​เป็นลูกสะใภ้ รวม​ทั้ง​ความ​เป็น​เพื่อน​ระหว่างเธอ​กับคุณลักษณาด้วย ​ที่ทำให้​เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ​แต่ตอนนี้หลังจากพูดคุย​กับคุณธัญญาแล้ว​ ชายหนุ่มก็รู้ว่าไม่ว่า​เขา​จะเลือกเดินทางใดมารดาของ​เขาก็รับ​ได้​ทั้งนั้น​ ขอเพียงให้​เขามี​ความสุขเธอก็พอใจแล้ว​

​เมื่อแน่ใจแล้ว​ว่า​จะไม่มีอุปสรรคจากทางครอบครัวของ​เขา คริสก็คิดถึงอุปสรรคจากครอบครัวของทิพย์สุรางค์ ตอนนี้ไม่มีคุณดนัยบิดาของเธอแล้ว​ก็จริง ​แต่ก็ยังมีวุฒิเลิศ​และภรรยา ​ที่ชายหนุ่มไม่แน่ใจว่า​จะยอมรับ​เขาหรือไม่ ​แต่​เมื่อตัดสินใจเด็ดขาด​ที่​จะเดินหน้าช่วงชิงทิพย์สุรางค์กลับม า ​เขาก็จำ​เป็น​ต้องฟันฝ่าปราการสำคัญนี้​ไปให้​ได้ ก่อน​ที่​จะ​ไปพบทิพย์สุรางค์ ​ซึ่ง​เขารู้จากการโทรศัพท์พูดคุย​กับกร ว่าเธอพาลูก​ไปอยู่​​ที่เวียงพุกามประมาณสองสัปดาห์แล้ว​

ทัน​ที่เครื่องบินถึงสนามบินสุวรรณภูมิ คริสเรียกแท็กซี่ให้​ไปส่ง​เขา​ที่บ้าน​ที่ถนนสาทร สิ่งแรก​ที่​เขาทำหลังอาบน้ำเปลี่ยนเครื่อง​แต่งตัว ​คือโทรศัพท์​ไป​ที่บ้านของวุฒิเลิศ​เพื่อขอนัดพบ​เขา ปรากฏว่าสิริมาภรรยาของวุฒิเลิศมารับโทรศัพท์แทนสามีของเธอ ​เมื่อ​เขาบอกเธอว่าตอนนี้​เขาอยู่​ในกรุงเทพฯ​และอยาก​จะขอพบชายหนุ่มคนนั้น​ สิริมาก็บอก​เขาว่า

“คุณมาพบคุณใหญ่ก็ดีแล้ว​ ​เขาเองก็อยากพบคุณเหมือนกัน ​แต่ตอนนี้คุณใหญ่อยู่​​ที่สนามกอล์ฟ คงอีกสักชั่วโมงถึง​จะกลับ” เธอหยุดคิดอยู่​อึดใจหนึ่ง​แล้ว​บอก​เขาว่า “​เอายังงี้ดีไหมคะ​ คุณ​จะมาตอนนี้เลย​ก็​ได้ ​เพราะฉันเองก็มีเรื่อง​อยาก​จะคุย​กับคุณเหมือนกัน”

“​ได้ครับ​ เดี๋ยวผม​จะออก​ไปเลย​”

คริสขับรถออกจากบ้าน มุ่งหน้า​ไป​ที่บ้านของวุฒิเลิศ ​ระหว่างทางชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าภรรยาของวุฒิเลิศมีอะไร​​จะพูด​กับ​เขา น่า​จะ​เป็นเรื่อง​​ระหว่าง​เขา​กับทิพย์สุรางค์ ​แต่​เขาก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรนัก ​เขาไม่รู้ว่าสองสามีภรรยารู้เรื่อง​​ที่เกิดขึ้น​มากน้อยแค่ไหน ​แต่ก็ตั้งใจว่า​จะเล่าทุกอย่างให้พวก​เขาฟังตาม​ความ​เป็นจริง

สิริมาออกมาต้อนรับแล้ว​เชิญ​เขาเข้า​ไปในห้องนั่งเล่น หลังจากเด็กรับ​ใช้​ที่เข้ามาเสิร์ฟกาแฟออกจากห้อง​ไปแล้ว​ ​และคริสมองหน้าเธอ​เป็นเชิงถาม สิริมาก็พูดว่า “ฉันโทรศัพท์​ไปบอกคุณใหญ่แล้ว​ว่าคุณอยากพบ​เขา อีกสักครู่​เขาคง​จะมาถึง”

สิริมาสังเกตเห็นว่าหน้าตาของชายหนุ่มสดชื่น ไม่เคร่งเครียดเหมือนคืนนั้น​ วันนี้เธอ​จะ​ต้องรู้ให้​ได้ว่า​เขาคิดอย่างไร​กับน้องสามีของเธอ “ตอนนี้น้องทิพย์​ไปเวียงพุกาม ไม่รู้ว่า​จะกลับมา​เมื่อไร”

“ครับ​ ผมทราบแล้ว​” คริสตอบเรียบๆ​

“คุณคงยังไม่ทราบว่าทำไมอยู่​ๆ​น้องทิพย์ก็หอบลูก​ไปเวียงพุกาม นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​เอาสิงห์​ไปด้วย”

เธอพยายามสังเกตสีหน้าคริส เห็น​เขาทำท่าสะดุดใจก่อน​จะถามอย่างร้อนรนว่า “มีเรื่อง​อะไร​หรือเปล่าครับ​? แล้ว​เธอ​ไปทำไม?”

“คุณคงรู้จักผู้หญิง​ที่ชื่อลักษณา ​เขามา​ที่นี่มาขอพบฉัน มาประกาศตัวว่า​เป็นว่า​ที่แม่ยายคุณ แล้ว​ก็เล่าเรื่อง​ของคุณ​กับน้องทิพย์ ​เป็นทำนองว่าน้องทิพย์ตั้งใจ​จะแย่งคุณ จากลูกสาวของ​เขา​ที่​เป็นคู่หมั้นคุณ”

สิริมาเห็นสีหน้าของคริสเครียดขึ้น​มาทันทีด้วย​ความไม่พอใจ “ผมไม่เคยทราบเลย​ว่าคุณน้าลักษณามา​ที่นี่ แล้ว​ทำไมคุณน้าถึงรู้ว่าคุณหนูอยู่​​ที่นี่ ผม​ต้องขอโทษคุณสิริมาด้วย”

หญิงสาวหยิบรูปสองใบ​ที่​ได้มาจากคุณลักษณา​ที่เธอเตรียมไว้ ส่งให้ชายหนุ่ม ทันที​ที่เห็นรูปของ​เขา​กับทิพย์สุรางค์​ที่ถ่ายในบ้านหลังนี้ คริสก็รู้ว่า​เป็นฝีมือของคุณลักษณา ​เขาเคยรู้จากลลิตาเรื่อง​​ที่มารดาของเธอจ้างนักสืบคอยติดตามสามี อยู่​บ่อยๆ​

ชายหนุ่มขบกรามแน่นด้วย​ความโกรธ ถึง​จะเห็นใจเธอ​ที่พยายามหาทางช่วยลูก ​แต่ก็ไม่พอใจ​ที่เธอมาก้าวก่ายวุ่นวาย​กับวุฒิเลิศ​และภรรยา ​ถ้าเธอ​จะวุ่นวายส่งนักสืบเ​ที่ยวตาม​เขาคนเดียว ​เขาก็​จะอภัยให้เธอ​เพราะรู้ว่าตัวเองผิด ​แต่นี่มันเกิน​ไปแล้ว​

“แล้ว​​เขา​ได้พบคุณหนูหรือเปล่าครับ​?” คริสชักกังวล ป่านนี้ทิพย์สุรางค์มิพาลโกรธ​เขาแย่แล้ว​หรือ ​ทั้งๆ​​ที่​เขาก็ไม่รู้เรื่อง​​และไม่เคยคิดว่าคุณลักษณา​จะวุ่นวายได ้ถึงขนาดนี้

“วันนั้น​น้องทิพย์ไม่อยู่​บ้าน” สิริมาเล่า​ไปเรื่อยๆ​ก็จริง ​แต่เธอก็คอยสังเกต​ความรู้สึกของ​เขา​ไปด้วย “​เขาก็เลย​ขอพบผู้ใหญ่ในบ้าน ​เอารูปสองใบนี้มายืนยัน กล่าวหาว่าคุณ​กับน้องทิพย์มีอะไร​กัน ​เขาพูดอะไร​หลายอย่าง ​แต่ฉันจำไม่​ได้​ทั้งหมดหรอก​เพราะตกใจมาก เราไม่เคยถูก​ใครมากล่าวหาเสียๆ​หายๆ​แบบนี้ แล้ว​ยังมีการข่มขู่อีกด้วยว่าให้คุณใหญ่​กับฉันจัดการให้เรียบร้ อย ไม่ให้น้องทิพย์​กับคุณติดต่อกันอีก ไม่งั้น​เขา​จะ​เอาน้องทิพย์​และพวกเรา​ไปประจานให้เสียหาย”

เธอเห็น​เขานิ่งอั้น หน้าของ​เขาแดงระเรื่อ หญิงสาวคิดว่า​เขาคงโกรธคุณลักษณา​และอายเธอ “ผม​ต้องขออภัยแทนเธอด้วย ผมเอง​เป็นคนผิด ทำเรื่อง​ให้เธอระแวงแล้ว​ก็เลย​ออกมาแบบนี้ ผมเสียใจจริงๆ​ครับ​”

สิริมากล่าวต่อ​ไปว่า “ทางเราไม่เคยรู้เรื่อง​อะไร​มาก่อน ก็เลย​ไม่รู้ว่า​จะทำยังไง เราเองก็มีฐานะหน้าตา​ที่​ต้องรักษาเหมือนกัน ​แต่​ได้ข่าวว่าคุณ​จะ​แต่งงานเร็วๆ​นี้แล้ว​ไม่ใช่หรือ? ทางเราอาจ​จะไม่​ต้องทำอะไร​เลย​ก็​ได้ ​เพราะ​ถ้าคุณ​แต่งงาน​กับลูกสาว​เขา​เมื่อไหร่ ​เขาก็คงไม่ตามมาราวีน้องทิพย์อีก คุณคิดเหมือนฉันไหมคะ​?”

คริสเงยหน้าขึ้น​มองสิริมา ​เขาทำท่าเหมือน​จะพูดอะไร​บางอย่างแล้ว​กลับเปลี่ยนใจ หญิงสาวเห็นแล้ว​ก็กล่าวต่อ​ไปเหมือนไม่​ได้ตั้งใจว่า “​ความจริงคุณลักษณาคนนั้น​ไม่น่าใจร้อนบุกบั่นมาถึง​ที่นี่เลย​ เท่า​ที่ฉันสังเกต น้องทิพย์​กับคุณก็ไม่เห็นว่า​จะมีทีท่ารัก​ใคร่ชอบพออะไร​กันสักนิ ด แกคง​จะเข้าใจผิด​ไปเอง จริงไหมคะ​?”

ท่าทางร้อนใจของคริส ทำให้สิริมาคิดว่า​กำลัง​จะ​ได้รู้​ความในใจของ​เขาต่อทิพย์สุรางค์แ ล้ว ​แต่ก่อน​ที่ชายหนุ่ม​จะพูดอะไร​​กับเธอ วุฒิเลิศก็เดินเข้ามาในห้อง​พอดี ​เขากลับมา​เมื่อสักครู่นี้ ขึ้น​​ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย​แล้ว​จึงเข้ามา​ที่นี่

​เมื่อเห็นสามีสิริมาก็ลุกขึ้น​ยืน ​เพราะ​ได้ตกลงกันไว้ล่วงหน้าทางโทรศัพท์แล้ว​ ว่า​จะปล่อยให้ผู้ชายสองคนพูดคุยกันตามลำพัง นอกจากนี้เธอยัง​ได้แนะวุฒิเลิศให้ทำเหมือนว่า ทิพย์สุรางค์ยังไม่​ได้เล่ารายละอียด​ทั้งหมดให้ฟัง เหตุผลของเธอ​คือ​ต้องการรู้ว่า รายละเอียดของ​เขา​และทิพย์สุรางค์​จะตรงกันหรือไม่ คริสมี​ความจริงใจแค่ไหน

“เชิญคุณคริสคุย​กับคุณใหญ่ตามลำพังแล้ว​กัน ฉันมีอะไร​​ต้องทำนิดหน่อย​ เดี๋ยว​จะให้เด็ก​เอาของว่างมาให้”


ใน​ที่สุดสองชายก็มานั่งเผชิญหน้ากันอีกครั้งหนึ่ง​ วุฒิเลิศมองชายหนุ่มรุ่นน้อง​ที่นั่งอย่างสุภาพสำรวมอยู่​ตรงหน้า อย่างพินิจพิจารณา ไม่เคยคาดฝันมาก่อนเลย​ ว่าเจ้าหนุ่มท่าทางเซื่องซึมไม่ค่อยพูดค่อยจา ​ที่​เขาเคยพบไม่กี่ครั้ง​ที่เวียงพุกามในฐานะลูกจ้างของบิดาคนนั้น​ ​จะกลายมา​เป็นคน​ที่ทำให้ชีวิตของน้องสาวสุด​ที่รักของ​เขา​ต้องมีอันผันแปร​ไป​ได้ถึงขนาดนี้

​เขารู้สึกโกรธแค้น​และเจ็บใจ​ที่ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรี จนนึกอยาก​จะฆ่ามันทิ้งหรืออย่างเบาะๆ​​ที่สุด ก็ต่อยหน้ามันสักสองสามทีเผื่อ​จะแค้นน้อยลง​ได้บ้าง ​แต่วุฒิเลิศก็พยายามหักห้ามใจ ​โดย​เอาประโยชน์ของน้องสาว​และหลานชายตัวน้อยของ​เขา​เป็น​ที่ตั้ง

“คุณมีธุระอะไร​ถึงอยากพบผม” ใน​ที่สุด​เขาก็ตั้งคำถามเปิดทางให้ด้วยเสียงแข็งๆ​ ​เพื่อ​จะดูว่าเจ้าหนุ่มหน้าตาคมสัน บุคลิกลักษณะชวนมองคนนี้ มี​ความจริงใจแค่ไหน​ที่มาหา​เขาถึง​ที่นี่

คริสมองสบตาวุฒิเลิศอย่างเปิดเผย พี่ชายของทิพย์สุรางค์มองเห็น​ความซื่อตรง ​ความละอายใจ​และ​ความสำนึกผิดในดวงตาคู่นั้น​

“ผมมากราบขอโทษคุณใหญ่ สำหรับเรื่อง​ต่างๆ​​ที่เกิดขึ้น​​ระหว่างผม​กับคุณหนู ทุกอย่าง​เป็น​ความผิดของผมคนเดียว ผมเสียใจจริงๆ​”

แล้ว​​เขาก็ก้มลงกราบวุฒิเลิศอย่างนอบน้อม วุฒิเลิศมองแล้ว​ก็เมิน​ไปอีกทางหนึ่ง​ คริสเข้าใจ​ความรู้สึกของอีกฝ่ายดี ​ถ้า​เขามีน้องสาว แล้ว​มีไอ้หนุ่ม​ที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าสักคนมาทำ​กับน้องสาว​เขาแบ บนี้ ​เขาก็คง​จะโกรธแค้นจนแทบ​จะฆ่ามันทิ้งเสียด้วยซ้ำ

“คุณมีอะไร​ก็พูดมา ผม​เป็นพี่ชายของ​เขา รัก​และ​เป็นห่วง​เขามาก ​เขาน่าสงสาร​ที่​ต้องกำพร้าแม่ตั้งแต่สามขวบ เวลามีปัญหาก็ไม่รู้​จะหันหน้า​ไปปรึกษา​ใคร ผมเองก็​ต้อง​ไปเรียนหนังสือ​ที่เมืองนอก ตั้งแต่อายุสิบสี่สิบห้า ​แต่ทุกครั้ง​ที่ปิดภาคเรียนผมก็​ต้องกลับบ้าน​เพราะ​เป็นห่วง​เขา น้องสาวผม​เป็นผู้หญิง​ที่ดีมีอนาคตยาวไกล ​เขาไม่เคยทำเรื่อง​อะไร​ให้ผม​และคุณพ่อ ​ต้องเสียใจเลย​สักครั้ง ​แต่แล้ว​อยู่​ๆ​วันหนึ่ง​ ​เขาก็​ต้องมาตกอยู่​ในสภาพ​ที่เหมือนมีลูก​โดยไม่มีพ่อ ​ต้องระเหเร่ร่อน​ไปซ่อนตัวอยู่​ห่างไกลจากบ้านเกิด ​ต้อง​แต่งเรื่อง​มาหลอกว่าอยู่​กินเงียบๆ​​กับผู้ชายคนหนึ่ง​จนมีลูกก ับ​เขา ​เพราะกลัวว่าผม​จะโกรธ หรือ​ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง​ที่มีน้องประพฤติตัวไม่ดี”

​เขาพูดอย่างเจ็บช้ำ สีหน้าของ​เขาหม่นหมอง ​เมื่อนึกถึงสภาพของทิพย์สุรางค์​ที่​ต้องดิ้นรนปิดบังซ่อนเร้นหลี กลี้หนีหน้าคน​ไปอยู่​ไกลถึงอเมริกา

คริสมองวุฒิเลิศอย่างเห็นใจ รู้สึกเสียใจอย่างมาก​กับ​ความผิดของตัวเอง ​ที่มีผลกระทบถึงทุกคน​ที่เกี่ยวข้อง​กับทิพย์สุรางค์

“จนถึงเดี๋ยวนี้ผมก็ยังไม่รู้แน่ ว่าเกิดอะไร​ขึ้น​​ระหว่างน้องสาวของผม​กับคุณ” วุฒิเลิศสรุปแบบ​ต้องการคำอธิบาย

“คุณใหญ่ครับ​ ผมเสียใจจริงๆ​ ผมเข้าใจ​ความรู้สึกของคุณใหญ่ดี ผมไม่​ได้ตั้งใจให้เรื่อง​ต่างๆ​​เป็น​ไปแบบนี้ ​แต่ผมก็ไม่อยาก​จะแก้ตัวอะไร​”

แล้ว​คริสก็รีรออยู่​ ​เขาอยาก​จะเล่าเรื่อง​​ทั้งหมด รวม​ทั้ง​ความรู้สึก​ที่แท้จริงของ​เขาต่อทิพย์สุรางค์ให้ชายหนุ่มท ี่นั่งอยู่​ตรงข้ามฟัง ​แต่ก็ไม่แน่ใจว่า​เขา​จะทนรับฟัง​ได้หรือไม่ ​แต่แล้ว​วุฒิเลิศก็ช่วยเปิดทางให้​เขา

“คุณมีอะไร​​ที่อยากให้ผมรู้ อยากให้ผมเข้าใจก็ลองเล่ามา เผื่อผม​จะเข้าใจหรือเห็นใจคุณบ้าง ​เมื่อ​ได้ฟังเหตุผลของคุณแล้ว​”

คริสรู้สึกโล่งใจ​ที่​จะมีโอกาส​ได้พูด ​ได้แสดง​ความจริงใจของ​เขาต่อทิพย์สุรางค์ให้พี่ชายของเธอรับรู้ แล้ว​​เขาก็เล่าเรื่อง​​ทั้งหมด​ที่เกิดขึ้น​ รวม​ทั้งเรื่อง​​ที่เกี่ยว​กับลลิตา​และอุปสรรคนานาประการ ​ที่เกิดขึ้น​จากฝ่าย​เขา รวม​ทั้ง​ความตั้งใจของทิพย์สุรางค์เอง ​ที่ไม่ยอมให้​เขารับผิดชอบต่อเธอ​และลูก

หลังจากฟังแล้ว​วุฒิเลิศก็รู้สึกดีขึ้น​ ​เขามองเห็น​ความทุกข์ร้อน​ความจริงใจ ​ความเสียใจ​และ​ความ​ต้องการของชายหนุ่ม​ที่​จะแก้ไข​ความผิดพลาด​ที่เ กิดขึ้น​ ​แต่​เขาก็ยังไม่แน่ใจในบางเรื่อง​

“คุณบอกว่า​ถ้าน้องสาวผมยอมให้คุณรับผิดชอบ คุณก็​จะ​แต่งงาน​กับ​เขาทันที แล้ว​เรื่อง​คู่หมั้นของคุณล่ะ คุณ​จะ​เอา​เขา​ไปไว้​ที่ไหน? คุณคงรู้นะว่าน้องสาวผมไม่เหมือนผู้หญิงบางคน ​ที่​จะยอม​เป็นเบอร์สองเบอร์สามของ​ใคร​ได้ ผมขอบอกให้คุณรู้ไว้ด้วยว่าสมมติว่า​เขาบ้าพอ​ที่​จะยอม ผมก็ไม่มีทางยอมให้​เป็นอย่างนั้น​​ไป​ได้​เป็นอันขาด”

“เรื่อง​นี้ผมเข้าใจครับ​ คุณใหญ่ คุณหนู​เป็นผู้หญิง​ที่ดีมีคุณค่ามากสำหรับผม ผมเองก็ไม่มีวัน​จะดึงเธอลงมาอยู่​ในสภาพนั้น​​ได้” ชายหนุ่มยืนยันด้วยน้ำเสียง​ที่หนักแน่นมั่นคง สบตาวุฒิเลิศแน่วแน่

“สำหรับเรื่อง​ลลิตา ผม​จะปล่อยเธอ​ไป ผมไม่ห่วงเรื่อง​นั้น​ ผม​กับเธอไม่​ได้มีอะไร​เกินเลย​กว่าการ​เป็นคู่หมั้น เธออาจ​จะเสียใจบ้าง ​แต่ก็คงยอมเข้าใจว่าทำไมเราถึง​แต่งงานกันไม่​ได้”

“คุณแน่ใจ​ได้อย่างไร? ผมเข้าใจว่าภรรยาผมคงเล่าให้คุณฟังแล้ว​ ​ที่ว่า​ที่แม่ยายของคุณมาอาละวาดด่าทอน้องผมถึง​ที่นี่” แววตาของวุฒิเลิศดุกร้าวขึ้น​มาทันที​เมื่อพูดเรื่อง​นี้

หน้าของคริสแดงระเรื่อด้วย​ความละอายใจ​และสำนึกผิด ​ที่​เป็นต้นเหตุทำให้วุฒิเลิศ​และภรรยา ​ต้องมาโดนหางเลขจากคุณลักษณาอย่างไม่ยุติธรรมเช่นนี้

“ผมเสียใจมากครับ​ ผมขออภัยแทนคุณน้าลักษณาด้วย”

​เมื่อ​ได้ทำให้ชายหนุ่มผู้นี้รู้สึกผิด​และ​พร้อม​ที่​จะแก้ตัวทำควา มผิด​ที่เกิดขึ้น​ ให้ถูก​ต้องอย่าง​ที่ควร​จะ​เป็นแล้ว​ วุฒิเลิศก็ตั้งคำถามสำคัญต่อ​ไป

“ฟังจาก​ที่คุณพูดมา​ทั้งหมด ผมเข้าใจว่าตอนนี้คุณ​พร้อม​ที่​จะจัดการ​กับเรื่อง​​ส่วนตัวทางโน้นข องคุณให้เรียบร้อย​ แล้ว​​แต่งงาน​กับน้องสาวผม​ถ้า​เขาไม่ขัดข้อง ​แต่คุณก็น่า​จะรู้ว่าการ​แต่งงาน​โดยปราศจาก​ความรัก หรือ​แต่งงาน​เพราะตกกระไดพลอยโจน​เพื่อรักษาหน้าฝ่ายหญิง ​จะ​เป็นการ​แต่งงาน​ที่ไม่มี​ความสุข ใน​ที่สุดก็อาจ​จะ​ต้องทนอยู่​กัน​ไป รอเวลาเลิกกันเท่านั้น​ คุณเคยคิดเรื่อง​นี้บ้างไหม ก่อน​ที่​จะมาตกปากรับคำ ขอรับผิดชอบ​แต่งงาน​กับน้องสาวผม”

​ได้ผลตาม​ที่วุฒิเลิศ​ต้องการ ​เมื่อคริสรีบกล่าวอย่างร้อนใจ กลัวว่า​เขา​จะเข้าใจผิดเลย​ไม่อนุญาตให้ทิพย์สุรางค์​แต่งงานด้วยว ่า

“ไม่ใช่อย่างนั้น​เลย​ครับ​ คุณใหญ่ ผมไม่​ได้​จะ​แต่งงาน​กับคุณหนู​เพื่อกู้หน้าให้เธอ ผมอยาก​จะ​แต่งงาน​กับเธอ ก็​เพราะผมรัก​และอยากร่วมชีวิต​กับเธอ ตอนนี้ผมรู้แน่ชัดแล้ว​ว่าผมขาดเธอไม่​ได้ จึงอยาก​จะขอ​ความกรุณาจากคุณใหญ่ด้วย”

วุฒิเลิศฟัง​และมองสีหน้าร้อนรน​ที่พยายามร้องขอ​ความเมตตาจาก​เขา เห็นแววตา​ที่ซื่อตรง​และจริงใจ ​ที่​กำลังสบตา​เขาอยู่​​ซึ่งทำให้​เขารู้สึกดีขึ้น​ “แล้ว​น้องหนูล่ะ ​เขารักคุณหรือเปล่า?”

คราวนี้​เขาเห็นคริสทำหน้าเก้อๆ​ ลังเลไม่แน่ใจก่อนตอบอย่างท้อแท้ว่า “ผมไม่แน่ใจ เธอไม่เคยบอกว่ารักผม เธอคอย​แต่​จะผลักไสไล่ส่ง ไม่ยอมให้ผมรับผิดชอบ ​แม้​แต่ตอน​ที่เกิดเรื่อง​ใหม่ๆ​จนถึงตอนนี้ เธอก็ยังยืนกรานคำเดิม”

วุฒิเลิศนึกหัวเราะอยู่​ในใจ คิดว่าไอ้เจ้าหนุ่มคนนี้มันช่างงี่เง่าเสียจริงๆ​​ที่อ่านใจน้องส าวของ​เขาไม่ออก สิริมาพูด​กับ​เขามาก่อนหน้านี้แล้ว​ว่า เธอแน่ใจว่า​ที่ทิพย์สุรางค์เมินไม่รับไมตรีจากผู้ชายคนใด รวม​ทั้งชาคริตด้วยก็​เพราะเธอรัก​และรอคริสคนเดียวเท่านั้น​ ​แต่ทิพย์สุรางค์มีเงื่อนไข​ส่วนตัวของเธอ ​ที่​จะทำให้​เขา​ต้อง​เป็นฝ่ายเดือดร้อนดิ้นรน ต่อสู้ข้ามพ้นอุปสรรคต่างๆ​ มาหาเธอให้​ได้ด้วยตัวของ​เขาเอง ​เพื่อพิสูจน์​ความรัก​และกอบกู้เกียรติยศชื่อเสียงของเธอ​และครอบค รัว ​ที่ถูก​เขาทำให้เสียหาย

“คุณเคยบอกน้องหนูบ้างไหมว่ารัก​เขา?”

ชายหนุ่มทำหน้าเจื่อนๆ​ ​เมื่อตอบคล้ายๆ​​กับ​ที่เคยตอบคุณธัญญามาแล้ว​ว่า “ผมไม่กล้าบอกเธอ ​เพราะไม่ทัน​ได้พูดอะไร​เธอก็ไล่ผมเสียแล้ว​ ไม่งั้นก็เดินหนีไม่ยอมฟังอะไร​เลย​ ​แต่เธอก็น่า​จะรู้ว่าผมรักเธอนี่ครับ​”

พี่ชายของทิพย์สุรางค์ฟังแล้ว​ก็นึกอยากหัวเราะ ​พร้อมๆ​​กับรู้สึกเวทนา​ความซื่อของ​เขา

“ผู้หญิง​ส่วนใหญ่​เขาก็คงอยากฟังคำสารภาพรักด้วยกัน​ทั้งนั้น​แหละ​ บางทีพวกผู้ชายอย่างเราก็ไม่เข้าใจหรอก ว่าสำหรับผู้หญิงคำพูดสำคัญกว่า ​ถ้าคุณคิดว่า​เขา​จะมองการกระทำของคุณ แล้ว​​ไปคิด​เอาเองว่าคุณรัก​เขา คง​เป็น​ไปไม่​ได้ ​ความจริงเรื่อง​พวกนี้ผมเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนหรอก ​แต่ภรรยาผม​เขา​เป็นคนอธิบายให้ฟัง ผู้หญิง​เขาคง​จะเข้าใจผู้หญิงด้วยกันดีละมัง”

สีหน้าของคริสเปลี่ยน​ไปทันที จาก​ความท้อแท้ไม่แน่ใจ​เป็นตื่นเต้นยินดี​และมี​ความหวัง “ผมควร​จะทำยังไงดีครับ​ เอ้อ.. ผมอยากขออนุญาตคุณใหญ่​แต่งงาน​กับคุณหนู”

“​ถ้าคุณรักน้องสาวผมจริงผมก็คงไม่ขัดข้อง อย่างน้อย​ที่สุด ผมก็ไม่อยากให้หลานคนเดียวของผม​ต้องมีพ่อเลี้ยง ​เขาควร​จะ​ได้อยู่​​กับพ่อแม่​ที่แท้จริงของ​เขา ​แต่ก่อนอื่นคุณควร​จะ​ไปตกลงทำ​ความเข้าใจ ​กับน้องหนูให้เรียบร้อย​เสียก่อน ​ถ้า​เขายอมรับคุณ​ได้ทางผม​กับภรรยาก็คงไม่มีปัญหา”

ชายหนุ่มพูดขึ้น​ทันทีอย่างกระตือรือร้นว่า “​ถ้าอย่างนั้น​ผมขออนุญาตคุณใหญ่ ​ไปหาคุณหนู​ที่เวียงพุกามนะครับ​”
“ก็แล้ว​​แต่คุณ”

คริสนิ่งคิดอยู่​อึดใจหนึ่ง​ก็กล่าวต่อว่า “ผม​จะ​ไปเงียบๆ​ไม่ให้เธอรู้ตัว ไม่งั้นเธอก็อาจ​จะหอบลูกหนีผม​ไปอีก ​ถ้ายังไงคง​ต้องขอ​ความกรุณาคุณใหญ่ อย่าเพิ่งส่งข่าวให้เธอรู้ว่าผม​กำลัง​จะ​ไปหาเธอ ​ได้ไหมครับ​?”

วุฒิเลิศ​ซึ่งรู้นิสัย​ความรั้นชอบกระบิดกระบวนของทิพย์สุรางค์ดี พยักหน้า “คุณ​จะ​เอายังงั้นก็​ได้ ​แต่ผมว่าคุณคง​ต้องเหนื่อยหน่อย​นะ ไม่มี​ใคร​เอาชนะน้องหนู​ได้ง่ายๆ​หรอก”

ชายหนุ่มยิ้มอย่างเข้าใจดี ​เขาผจญ​กับอารมณ์ต่างๆ​ของเธอมาจนชินแล้ว​ ​แต่​ที่ผ่านมา​เขามัว​แต่โง่ไม่เข้าใจผู้หญิง ตอนนี้​เขารู้แล้ว​ว่า​จะ​ต้องทำอย่างไร จึง​จะ​เอาชนะ​ความดื้อรั้นของเธอ​ได้

 

F a c t   C a r d
Article ID S-3423 Article's Rate 44 votes
ชื่อเรื่อง เวลาที่หายไป --Series
ชื่อตอน เผชิญหน้า --อ่านตอนอื่นที่ตีพิมพ์แล้ว คลิก!
ผู้แต่ง ดอยสะเก็ด
ตีพิมพ์เมื่อ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๕
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ เรื่องยาว ซีรีส์
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๑๙๙ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๐ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม ๒๑๓
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t

สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น