![]() |
![]() |
ไร้ตัวตน![]() |
...เราเกิดมาทำไม...? นั่นเป็นคำถามที่ฉันมักจะย้อนกลับมาถามตัวเอง เมื่อเวลาผ่านไปในแต่ละช่วงชีวิต และฉันได้พบคำตอบที่แตกต่างกันไป...
ตอน : บันทึกของความคิด 7 พฤษภา 2554 : เราเกิดมาทำไม...?
...ความเชื่อคือสิ่งที่กำหนดชีวิตของคนเรา...เราเกิดมาทำไม...?
ครั้งหนึ่งเมื่อมีคนตั้งคำถาม ฉันได้ตอบว่า
เราเกิดมาเพื่อทำในสิ่งที่เราอยากทำ
บางคนอยากรวย อยากมีทรัพย์สิน
บางคนอยากมีชื่อเสียง อยากเป็นที่ยอมรับนับถือ
บางคนอยากมีความรักและถูกรัก
พวกเราจึงต่างแสวงหาในสิ่งที่พวกเราต้องการ
ซึ่งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ตามแต่กำลังที่มี
ทำไมเราถึงอยากได้ในสิ่งเหล่านั้น...?
นั่นเพราะเราเชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นจะทำให้เรามีความสุข
ขอทวนคำถามในตอนต้นอีกครั้ง
เราเกิดมาทำไม...?
เมื่อหลายปีก่อน ฉันได้ถามคำถามนี้กับตัวเองอีกครั้ง
และจากเหตุผลที่กล่าวมาแล้วด้านบน จึงทำให้ได้คำตอบว่า
แท้จริงแล้ว เราเกิดมาเพื่อแสวงหาความสุข
แล้วอะไรคือความสุข...?
การได้ในสิ่งที่เราต้องการ คือความสุข นั่นย่อมเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด
แต่ในชีวิตคนเรานั้น เราได้สิ่งที่เราต้องการตลอดเวลาเช่นนั้น ฤ
หากเราจะต่อสู้ และพยายามมากมายเพื่อแสวงหาสิ่งที่เราต้องการมาให้ได้นั้น
เราจะสามารถนำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นของเราได้ทุกสิ่งหรือไม่
แม้หากเราได้มาแล้ว เราจะไม่มีวันสูญเสียสิ่งอันเป็นที่รักไปหรือไม่
สิ่งอันเป็นที่รัก ที่ต้องการของเราจะคงอยู่กับเราไปชั่วนิรันด์หรือไม่
คำตอบย่อมเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว นั่นจึงทำให้เราต่างมีความทุกข์อยู่เสมอ
และเป็นอีกครั้งที่ฉันจะขอทวนคำถามในตอนต้น
เราเกิดมาทำไม...?
ในวันนี้ของฉัน คำตอบนั้นจึงเป็น...
'เราเกิดมาเพื่อแสวงหาความพ้นทุกข์'
เราต่างไม่มีใครต้องการความทุกข์ เราทุกคนต้องการความสุข
แต่เรากลับลืมเลือนไปว่า เพราะมีความทุกข์ เราจึงแยกได้ว่าอะไรคือความสุข
ไม่มีทางเลยที่เราจะบอกว่า ฉันต้องการแต่ความสุขเท่านั้น
ความสุขและทุกข์ก็เหมือนเหรียญที่มีด้านหัวและก้อย
เมื่อมันมีด้านหนึ่ง แล้วเธอจะปฏิเสธอีกด้านหนึ่งได้อย่างไรถ้าตาเธอไม่บอด
ธรรมะนั้นกล่าวไว้ว่า แท้จริงแล้วคนเราล้วนจมอยู่ในกองทุกข์
และถูกความทุกข์นั้นหลอกลวงเราอยู่เสมอ เมื่อไรที่ความทุกข์นั้นไม่แสดงตัว
เราต่างก็เข้าใจว่านั่นคือความสุข ด้วยใจที่มืดบอดของเรา เราจึงไม่เห็นว่า
แท้จริงแล้วเราไม่เคยได้หลุดพ้นจากความทุกข์อย่างใดเลย
เปรียบเสมือนหมู่สุนัขผอมโซที่ต่างแย่งแทะเศษกระดูกที่ความทุกข์นั้นโยนให้
โดยหลงเข้าใจว่านั้นเป็นความสุข นั่นเป็นสิ่งที่พึงพอใจอยู่นั่นเอง
เธอยังจะแทะกระดูกเหล่านั้นต่อไป
หรือเธอจะขับไล่ความหลอกลวงเหล่านั้นออกไป ก็แล้วแต่เธอเถอะ!