นิตยสารรายสะดวก  Fiction  ๑๒ มกราคม ๒๕๕๕
เวลาที่หายไป #32
ดอยสะเก็ด
...คริสออกจากลิฟต์ พอเดินมาถึงประตูกระจกทางเข้าออฟฟิศธนาคารของบ๊อบ โฮเวิร์ดบนชั้น​ที่สี่สิบสอง ​เขาก็พบว่าเจนนิเฟอร์ออกมายืนคอยอยู่​แล้ว​​ที่นอกประตู เมื...

ตอน : แผนพิฆาต

คริสออกจากลิฟต์ พอเดินมาถึงประตูกระจกทางเข้าออฟฟิศธนาคารของบ๊อบ โฮเวิร์ดบนชั้น​ที่สี่สิบสอง ​เขาก็พบว่าเจนนิเฟอร์ออกมายืนคอยอยู่​แล้ว​​ที่นอกประตู ​เมื่อเห็น​เขาหญิงสาวผู้นั้น​ก็เหลียวหน้าเหลียวหลัง มองเข้า​ไปในบริเวณออฟฟิศ​ซึ่งปราศจากผู้คน ​เพราะ​เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์

"คริส ขอพูดอะไร​ด้วยหน่อย​" หญิงสาวพูดด้วยเสียง​ที่ดังกว่ากระซิบเล็กน้อย "ทิปปี้รออยู่​ข้างในแล้ว​ ฉันไม่รู้ว่า​เขามีเรื่อง​อะไร​​จะพูด​กับคุณ ​เขา​เป็นคนคิดมาก​และมีทิษฐิ บางครั้งก็เชื่อมั่นในตัวเองสูงเกิน​ไปจนไม่ฟังคนอื่น ฉันขอให้คุณเข้าใจ​เขาด้วย ​เขาทุกข์ใจมามากแล้ว​ ​ถ้า​เขาพูดอะไร​แรงๆ​ ฉันก็หวังว่าคุณ​จะเข้าใจ​และให้อภัย​เขา"

คริสมองเจนนิเฟอร์อย่างขอบคุณในคำแนะนำแกมขอร้องของเธอ ​เขารู้จากเจนนิเฟอร์มาก่อนหน้านี้แล้ว​ว่าหญิงสาว​ทั้งสองสนิทสนมกันยิ่งกว่าพี่น้อง คบหา​เป็น​เพื่อนสนิทกันมานานกว่าสิบปี ​และ​แม้ว่าเจนนิเฟอร์​จะไม่พูดตรงๆ​​แต่​เขาก็แน่ใจว่า เธอรู้เรื่อง​​ระหว่าง​เขา​กับทิพย์สุรางค์ทุกอย่าง​โดยละเอียด

"ขอบใจมากนะ เจนนี่ ​แต่ไม่​ต้องห่วงหรอก ผม​เป็นคนผิดเอง มี​แต่ผม​ที่​ต้องขอให้เธอให้อภัย"

"ฉันอยากให้คุณ​กับ​เขาปรับ​ความเข้าใจกันเสียก่อน​ที่​จะสายเกิน​ไป ​ถ้ามีอุปสรรคอะไร​ขวางอยู่​ก็ควร​จะขจัด​ไปให้หมด" เจนนิเฟอร์พูดอย่างมี​ความหมาย "นี่คริส ฉันขอพูดตรงๆ​เลย​นะว่า​ถ้าฉัน​เป็นทิปปี้ ฉัน​จะไม่ปล่อยคุณให้หลุดมือ​ไปหรอก" แล้ว​เธอก็หลิ่วตาให้​เขา

​เมื่อเปิดประตูห้องเข้า​ไปคริสพบว่าทิพย์สุรางค์นั่งอยู่​แล้ว​​ที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง​ ​ซึ่งอยู่​รอบโต๊ะประชุม​ที่ตั้งอยู่​กลางห้อง ห้องนั้น​​เป็นห้องประชุมขนาดเล็ก จุคน​ได้ประมาณหกคน เก้าอี้บุนวมสีขรึมสองตัวเข้า​กับผ้าม่าน​และพรมปูพื้นตั้งอยู่​ตรง่มุมหนึ่ง​ของห้อง ห้องนั้น​ถึง​จะเล็ก​แต่ก็​ได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างงดงาม

"เชิญนั่ง" เสียงของเธอราบเรียบพอๆ​​กับสีหน้า

ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้​ที่อยู่​ตรงกันข้าม จ้องมองทิพย์สุรางค์เหมือนไม่เชื่อตาตัวเองว่าเธออยู่​ตรงหน้า​เขาแล้ว​ วันนี้ทิพย์สุรางค์อยู่​ในชุดกระโปรงคลุมเข่าทรงแคบสีดำ​เป็นมันระยับ เสื้อลูกไม้เข้ารูปแขนสั้นสีขาวจับเดรป ชายเสื้อยาวเลย​เอวลงมาหลายนิ้ว เอวคอดกิ่วนั้น​ถูกรัด​เอาไว้ด้วยเข็มขัดหนังสีดำเส้นใหญ่ หัวเข็มขัดทำด้วยทองประดับด้วยอัญมณีหลากสี ผมดกดำหยักโศกน้อยๆ​ของเธอถูกรวบจนตึง​ไปขมวด​เป็นมวยหลวมๆ​ตรงต้นค อ เปิดให้เห็นหน้าผากลาดนูน​ที่มีลูกผมเล็กๆ​ประปราย ริมฝีปาก​ที่เต็มตึงหยักลึกถูกระบายไว้ด้วยสีเนื้ออ่อนๆ​ เธอดูสง่างาม​และสงบเย็น ​แต่ดวงตาดำใหญ่ภายใต้ขนตาดกดำยาว​ที่​กำลังมองมา​ที่​เขานั่นสิ มีแววอะไร​บางอย่าง​ที่​เขาอ่านไม่ออก

คริสมองเธอด้วยสายตา​ที่อ่อนโยนดื่มด่ำ ภาพ​ความหลังครั้งเก่าในเวียงพุกามไหลพร่างพรูเข้ามาใน​ความทรงจำ คุณหนูแสนสวยแสนหยิ่ง​แต่มีจิตใจ​ที่งดงามซ่อนอยู่​ คุณหนูผู้ชอบทำหน้าบึ้งตึง​เพื่อปกปิด​ความรู้สึก​ที่แท้จริง​เอาไว ้ คุณหนูผู้ดูเหมือนเจ้าอารมณ์​และ​เอา​แต่ใจตัวเองคนนี้รู้จักเห็นใจคน​ที่ต่ำต้อยกว่า ไม่เคยคิดแบ่งชั้นวรรณะ ​เขาสุดแสน​ที่​จะดีใจ​เมื่อเจนนิเฟอร์บอกว่าเธอยอมให้​เขาพบแล้ว​ หลังจาก​ที่ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง​ทั้งการรับโทรศัพท์​และการขอนัดพบ​เพื่อขอโทษ​และปรับ​ความเข้าใจ หลังจาก​ที่ทำตัวให้เงียบหายปล่อยให้​เขา​เป็นฝ่ายทุรนทุรายอย่างสิ้นหวัง แล้ว​จู่ๆ​เธอก็ตกลงยอมให้​เขามาพบเธอ​ที่นี่

​แม้คริส​จะไม่รู้ว่าทำไมทิพย์สุรางค์จึงเปลี่ยนใจยอมพบ​เขาหลังจาก​ที่ปฏิเสธมาตลอด ​แต่​เขาก็​พร้อม​ที่​จะพบเธอ​และรับผิดชอบเธอ ใน​ความผิดพลาด​ที่​เขา​ได้ทำลง​ไป ถึง​เขา​จะหมั้น​กับลลิตาแล้ว​ ​แต่​ถ้าเธอยอมรับ​เขาๆ​ก็​พร้อม​ที่​จะยกเลิกการหมั้นนั้น​เสีย ​แม้​จะรู้ว่า​จะมีปัญหามากมาย​จากครอบครัวของ​เขา​และของลลิตาตามมา ​เพราะ​เขา​ได้เคยล่วงเกินทำให้เธอเสียหาย​ไปแล้ว​ ในขณะ​ที่​เขา​กับลลิตายังไม่มีอะไร​เกินเลย​​ไปกว่า​ความ​เป็นคู่หมั้น ​และเหตุผลสำคัญ​ที่​เขาตกลง​จะ​แต่งงาน​กับลลิตาหลังจาก​ที่ผัดผ่อนมานาน ก็​เพราะ​เขาสิ้นหวัง​ที่​จะ​ได้พบเธอ ​แต่วันนี้ดูทิพย์สุรางค์สงบเยือกเย็นจนน่ากลัว เธออาจ​จะยอมพบ​เขา​เพื่อบอกลา​เป็นครั้งสุดท้ายก็​ได้ ​เมื่อ​ความคิดนี้ผ่านแว่บเข้ามาชายหนุ่มก็เริ่มกังวล​และใจเสีย หัวใจของ​เขาเริ่มวุ่นวายสับสน

ทิพย์สุรางค์ปรุงกาแฟในถ้วยของเธอเสร็จก็เลื่อนถาดกระเบื้องเล็ก ​ที่บรรจุกากาแฟ โถน้ำตาล​และนมสด ​ที่เจนนิเฟอร์นำมาวางเตรียมไว้ให้ล่วงหน้า มาให้ตรงหน้า​เขา

"เชิญช่วยตัวเอง"

คริสรินกาแฟจากกาลงในถ้วยแล้ว​ยกขึ้น​ดื่มจนหมด​โดยไม่เติมอะไร​ ตาก็คอยมองทิพย์สุรางค์​ซึ่ง​กำลังจิบกาแฟช้าๆ​ ​แต่ตา​ที่ก้มลงต่ำมองถ้วยกาแฟในมือของเธอ ไม่เห็นแววตา​ที่​ทั้งดีใจ​และคาดหวัง ​ทั้งสับสนร้อนรุ่ม​และเศร้าหมองของ​เขา​ที่จับจ้องเธออยู่​

"คุณหนูครับ​ ขอผมถามก่อน​ได้ไหมว่าคุณหนูมาอยู่​​ที่นิวยอร์คนี่ตั้งแต่​เมื่อไห ร่?" คริสเริ่มต้น

คำถามนี้นอกจาก​จะอยากรู้ให้ชัดเจนจากปากของเธอเองแล้ว​ ยัง​เป็นเจตนาของคริสด้วย ​ที่​จะถ่วงเวลาออก​ไปไม่ให้เธอพูดอะไร​​ที่​จะ​เป็นการตัดรอน​เขาเร็วจนเกิน​ไป ก่อน​ที่​จะมีเวลา​ได้อธิบายเรื่อง​​ทั้งหมดให้เธอเข้าใจ ชายหนุ่มคิดว่าทิพย์สุรางค์คงโกรธ​เขามาก เธอคงเข้าใจผิดคิดว่า​เขาไม่เคยกลับ​ไปหา​เพื่อขอรับผิดชอบเธอเลย​ พบกันวันแรกก็กลาย​เป็นวัน​ที่​เขาประกาศหมั้นอย่าง​เป็นทางการ​กับลลิตา ต่อให้ไม่​ได้แคร์​เขาเลย​ทิพย์สุรางค์ก็มีสิทธิ​ที่​จะเข้าใจผิด​และโกรธแค้น ว่า​เขาไม่สนใจ​กับเรื่อง​​ที่ทำให้เธอเสียหาย จำอดีต​ได้ก็กลับ​ไปหาลลิตา ทำเหมือนหลงลืมเรื่อง​​ที่เกิดขึ้น​​ไปเสียเฉยๆ​

"คุณ​จะอยากรู้​ไปทำไม มัน​เป็นเรื่อง​​ส่วนตัวของฉัน ไม่​ได้เกี่ยวข้อง​กับคุณเลย​" สีหน้าของทิพย์สุรางค์มีรอยยิ้มนิดๆ​เหมือนเยาะหยัน

"โธ่ คุณหนู โปรดอย่าเข้าใจผิด" คริสวิงวอน " ยังไงผมก็จำ​เป็น​ต้องรู้ว่าตลอดเวลา​ที่ผมเ​ที่ยวตามหา คุณหนูอยู่​​ที่ไหนกันแน่ ผมเ​ที่ยวตามหาคุณหนู​เป็นปี กลับ​ไป​ที่แม่ฮ่องสอนจนนับครั้งไม่ถ้วน ​ทั้งคุณกร​และคุณหมอประสพชัยก็คง​เป็นพยานให้ผม​ได้ว่าผม​ไปพบพวก​เขาหลายครั้ง ​เพื่อถามถึง​ที่อยู่​ของคุณหนู"

"คุณ​จะพูดเรื่อง​นี้ทำไม ​ที่ฉันยอมมาพบคุณก็​เพื่อมาพูดเรื่อง​​ที่เกี่ยว​กับคุณ​โดยตรงเท่าน ั้น ​แต่​เอาเถอะ ​ถ้าคุณอยากรู้ฉันก็​จะบอกให้ฟัง ฉันมา​ที่นี่หลังจาก​ที่คุณพ่อเสียไม่นาน การ​ต้องเสียท่าน​ไป​โดยกระทันหัน​เป็นเรื่อง​​ที่เจ็บปวดมาก ​แต่คุณรู้ไหมว่าถึง​จะเสียใจมากแค่ไหน ฉันก็ยังดีใจอยู่​อย่าง ​เพราะอะไร​รู้ไหม?"

สีหน้าของทิพย์สุรางค์​ทั้งเศร้า​ทั้งเคียดแค้น​เมื่อกล่าวต่อว่า " ​เพราะท่านไม่​ต้องมารับรู้เรื่อง​อัปยศอดสู​ที่เกิดขึ้น​​กับฉัน ​โดยผู้ชายใจโฉดหน้าไหว้หลังหลอกอย่างคุณไงล่ะ ​ถ้ารู้ท่านคง​จะเสียใจ​ที่สุดในชีวิต คุณพ่อเลี้ยงดูฉันมาอย่างดี อบรมบ่มสอนให้​เป็นคนดีมีจิตเมตตาต่อผู้อื่น ​แต่แล้ว​กลับปรากฏว่า​ความเมตตา​ที่ท่านสอน กลาย​เป็นอาวุธย้อนกลับมาทำร้ายฉันให้ตาย​ทั้ง​เป็น"

หน้าของชายหนุ่มซีดเผือด ถึง​จะสะเทือนใจ​กับคำพูดในเชิงด่าอย่างผู้ดีของทิพย์สุรางค์ ​แต่​เขาก็รู้สึก​ทั้งสงสาร​และเห็นใจเธออย่าง​ที่สุด

"คุณหนูครับ​ ผมเสียใจเหลือเกิน​กับเรื่อง​​ที่เกิดขึ้น​ ไม่มีคืนไหนเลย​​ที่ผม​จะนอนหลับ​ไป​ได้ ​โดยไม่นึกถึงคุณหนู​และเรื่อง​​ที่เกิดขึ้น​ ผมรู้ว่าผมผิด ผมขาดสติ ​แต่ด้วย​ความสัตย์จริงแล้ว​ผมไม่เคยคิด​ที่​จะล่วงเกินคุณหนูเลย​​แม้​แต่น้อย สำนึกอยู่​ตลอดเวลาถึงสถานภาพของตัวเองในตอนนั้น​ ไม่มีทาง​ที่ผม​จะพยายามทำอะไร​​ที่​จะดึงคุณหนูลงมาต่ำ เรื่อง​​ที่เกิดขึ้น​นั้น​นอกจาก​ที่ผมขาดสติแล้ว​ผมก็ไม่รู้​จะโทษอะไร​อีก ​จะโทษเวรโทษกรรมก็ไม่รู้ว่าเวรกรรมมีจริงหรือเปล่า ​แต่​ที่แน่ๆ​​คือผมโทษตัวเองอยู่​ตลอดเวลา​ที่ขาดสติลืมตัว ทำเรื่อง​ร้ายแรงขึ้น​มาจนคุณหนู​ต้องออกจากเวียงพุกาม ดั้นด้นมาอยู่​ไกลถึงนิวยอร์ค ​ถ้ามีทางใด​ที่ผม​จะชด​ใช้ให้คุณหนู​ได้ก็โปรดบอกมาเถอะครับ​ ผมยินดีทำทุกอย่างตาม​แต่คุณหนู​จะบัญชา"

"ฉันบอกหรือว่า​ต้องการให้คุณชด​ใช้หรือมารับผิดชอบฉัน?" ทิพย์สุรางค์ทำเสียงแข็งอย่างเย่อหยิ่ง "​ถ้าคุณคิด​จะรับผิดชอบจริง คุณก็คง​จะทำเสียนานแล้ว​ตั้งแต่เกิดเรื่อง​ใหม่ๆ​ จริงไหม?"

"โธ่..คุณหนู ผมก็บอกแล้ว​ไม่ใช่หรือครับว่า​ผมไม่รู้ว่าคุณหนูอยู่​​ที่ไหน ถาม​ใครก็ไม่มี​ใครยอมบอก แล้ว​​ไปๆ​มาๆ​กลาย​เป็นว่าคุณหนูอยู่​ใกล้ผมแค่นี้เอง ​แต่ไม่เคย​ได้พบกันเลย​" ชายหนุ่มพยายามอธิบาย ​ทั้งๆ​​ที่เห็นแววตาเยาะหยาม ​ที่แสดง​ความไม่เชื่อถือ​โดยสิ้นเชิงของทิพย์สุรางค์

"นั่นหรือ​คือเหตุผลของคุณ?" สีหน้าของหญิงสาวมีแววเยาะ​โดยเปิดเผย "คุณทำ​ได้แค่นั้น​เองหรือ? ​ถ้าฉัน​เป็นคุณฉันคง​จะดิ้นรนสุดฤทธิ์ ทำทุกวิถีทาง​ที่​จะตามหาคน​ที่ฉันอยากพบ ​แต่เท่า​ที่ทราบคุณไม่​ได้ทำเช่นนั้น​"

"โธ่ คุณหนู" ดูเหมือน​เขา​จะพูด​เป็นอยู่​แค่นั้น​ "โปรดเข้าใจผมบ้าง ทีนี้ขอผมถามบ้าง​ได้ไหม ว่าทำไมคุณหนูถึง​ต้องปิดบังทุกคน​ที่เวียงพุกามว่าคุณหนูอยู่​​ที่ไหน หรือคุณหนูสั่งให้พวก​เขาปิดผม​เพราะ​ต้องการลงโทษผม ไม่รู้บ้างเลย​หรือว่าผม​เป็นทุกข์แค่ไหน กลัวว่า​จะเกิดอะไร​ขี้น​กับคุณหนู ​เป็นห่วง​และกังวลอย่าง​ที่สุด"

ทิพย์สุรางค์รู้สึกสะเทือนใจ​กับคำพูด​ที่แทงใจดำของคริส ​แม้​จะเห็นสีหน้า​ที่ทุกข์ตรมของ​เขา ​แต่เธอก็​จะ​ต้องเดินหน้าต่อ​ไป ไม่มีทาง​ที่​จะใจอ่อน เธอทุกข์ใจมามากพอแล้ว​ ตอนนี้ก็ถึงคราวของ​เขาบ้างละ

"​เอาเถอะ คราวนี้ฉันขอถามคุณบ้างว่าคุณขอพบฉัน​เพื่ออะไร​ เจนนี่บอกว่าคุณวุ่นวายขอ​ที่อยู่​ เบอร์โทรศัพท์ฉันหลายต่อหลายครั้ง หรือคุณมีเรื่อง​อะไร​​ที่อยาก​จะขอร้องฉัน เช่นขอให้ปิดบังเรื่อง​เลวๆ​บางเรื่อง​ของคุณ?"

คริสฟังคำพูด​ที่เหมือนมีนัยอะไร​บางอย่างของทิพย์สุรางค์อย่างไม่เข้าใจ "คุณหนูหมาย​ความว่ายังไง? ผมติดต่อเจนนี่​เพราะอยากขอพบคุณหนู อยากอธิบายเรื่อง​​ทั้งหมดให้เข้าใจ ​และ​จะขอให้คุณหนู​เป็นคนตัดสินใจต่อ​ไป"

"แน่ใจหรือว่าไม่มีอะไร​​ที่อยาก​จะให้ฉันช่วยปิดบังให้คุณ?" ทิพย์สุรางค์ย้ำอีกครั้งอย่างเยาะหยัน ดวงตาของเธอ​เป็นประกายวาววับ

ชายหนุ่มทำหน้าสงสัย "คุณหนูหมาย​ความว่ายังไง กรุณาพูดให้ชัดกว่านี้​ได้ไหมครับ​"

"ก็​ได้ ​ถ้าคุณยังคิดว่าฉันโง่" ตาของหญิงสาววาบขึ้น​ด้วยแรงอารมณ์ "คุณลักษณา ว่า​ที่แม่ยายของคุณบอกฉันว่าคุณขอร้อง​เขา ไม่ให้บอกลูกสาว​เขาเรื่อง​​ที่หน้าลิฟต์ คุณ​จะจัดการให้เรียบร้อย​เอง​เพื่อ​ความสบายใจของคู่หมั้นคุณ ​โดยอาจ​จะโปะเงินให้ฉันสักก้อน​เพื่อ​ที่ฉัน​จะ​ได้หายตัว​ไป...​"

ทิพย์สุรางค์พูดยังไม่ทันจบ คริส​ซึ่งหน้าแดงก่ำก็ร้องถามขัดขึ้น​มาอย่างตกใจว่า "หมาย​ความว่ายังไง? ผมไม่เคยคิดหรือพูดอะไร​​ที่เลวทรามแบบนั้น​ ผมน่ะหรือ​จะทำแบบนั้น​​กับคุณหนู​ได้"

หญิงสาวยักไหล่อย่างน่าเกลียด เยาะเย้ยต่อ​ไปว่า "ไม่ทราบ ลองกลับ​ไปถามว่า​ที่แม่ยายของคุณดูสิ ​เขาอุตส่าห์ดั้นด้นสืบเสาะจนรู้ว่าฉันอยู่​​ที่ไหน เรียกฉันออก​ไปฟัง​เขาบรรยายถึง​ความรักอันยิ่งใหญ่​ระหว่างคุณ​กับลูกสาว​เขา ​ทั้งขู่​ทั้งปลอบกลัวฉัน​จะเข้า​ไป​เป็นมือ​ที่สาม ​เอาเถอะ ฉัน​จะไม่สนใจ​ทั้งนั้น​ว่าคุณ​กับ​เขาพูดอะไร​กันบ้าง หรือ​แม้​แต่คุณ​จะพยายามแก้ตัวแทน​เขาฉันก็ไม่แปลกใจ ​เพราะคุณก็​กำลัง​จะ​เป็นลูกเขย​เขาอยู่​แล้ว​"

ชายหนุ่มนิ่งขึงหน้าเครียดด้วย​ความโกรธ นี่หมาย​ความว่าคุณลักษณาเก็บ​เอาเรื่อง​​ที่เกิดขึ้น​​ที่หน้าลิฟต์ในคืนนั้น​ ตามมา​เอาเรื่อง​ทิพย์สุรางค์ ​ทั้งๆ​​ที่ไม่ใช่​ความผิดของเธอเลย​​แม้​แต่น้อย อย่างนั้น​หรือ?

"คุณหนูครับ​ ผมเสียใจมาก​ที่เกิดเรื่อง​แบบนี้ขึ้น​มา ไม่คิดเลย​ว่าคุณน้าลักษณา​จะทำ​ได้ถึงเพียงนี้ ผมยืนยัน​ได้ว่าผม​กับ​เขาไม่เคยพูดกันถึงเรื่อง​​ที่หน้าลิฟต์เลย​ ผมเพิ่งรู้จากคุณหนูเดี๋ยวนี้เองว่า​เขามาวุ่นวาย​กับคุณหนู ผม​ต้องขอโทษด้วย​ที่ทำให้คุณหนู​ต้องเดือดร้อนอย่างไม่น่าให้อภัย ผมรับรองว่า​จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น​อีก ขอให้เชื่อผมสักครั้ง"

"ฉันไม่จำ​เป็น​ต้องเชื่อคุณ ​แต่ก็อยาก​จะฝาก​ไปบอกว่า​ที่แม่ยายของคุณด้วย ว่าอย่ามาวุ่นวาย​กับฉันอีก ​ความอดทนของคนเรามีขีดจำกัด ​เอาละ..​ถ้าไม่ใช่เรื่อง​นี้แล้ว​คุณมีเรื่อง​อะไร​ถึงอยากพบฉัน"

คริสมองหน้าแสนสวย​ที่เชิดหยิ่งอยู่​ตรงหน้าก่อน​จะพูดว่า "ผม​จะขอรับผิดชอบคุณหนูสำหรับสิ่ง​ที่ผมทำลง​ไป ​ถ้าคุณหนูยังไม่มี​ใคร​และไม่รังเกียจผม"

เสียงหัวเราะ​ที่ฟังรู้ว่าเยาะเย้ยของทิพย์สุรางค์​ที่ดังขัดขึ้น​มา ทำให้คริสไม่อาจ​จะพูดต่อให้จบ​ได้ ทำ​ได้​แต่ขอร้องว่า "คุณหนูครับ​ โปรดฟังผมก่อน.."

"ไม่​ต้องพูดอะไร​อีกแล้ว​" ยิ้มของเธอเชือดเฉือน "คุณคริส เลย​์ตัน อย่าพูดอะไร​ชุ่ยๆ​ง่ายๆ​แบบนั้น​ ลืม​ไปแล้ว​หรือว่าคุณเพิ่งหมั้น​กับลูกสาว​เขาอยู่​หยกๆ​ มีสักขีพยานรู้เห็นเต็มห้อง ​แม้​แต่ฉันก็ยังบังเอิญจับพลัดจับผลูเข้า​ไปร่วม​เป็นพยานบุคคลอยู่​่ด้วย แล้ว​จู่ๆ​วันนี้คุณก็กลับมาออกปาก​จะรับผิดชอบฉัน หมาย​ความว่าไง? หรือคุณคิดว่า​จะรับผิดชอบฉัน​ไป​พร้อมๆ​​กับคู่หมั้นของคุณ ไม่ตลกหรือเห็นแก่ตัวมาก​ไปหน่อย​หรือ? ขอเตือนคุณว่าอย่า​ได้บังอาจดึงฉันลง​ไปต่ำอย่างนั้น​​เป็นอันขาด ถึงตอนนี้คุณ​จะ​เป็น​ใครวิเศษแค่ไหน ก็ไม่​ได้วิเศษจนผู้หญิงอย่างฉัน​ต้องมาต่อสู้แย่งชิงคุณ ขอให้รู้ไว้"

คริสหน้าแดงแล้ว​แดงอีก​กับคำประชดประชันของเธอ ​แต่​เขาก็ไม่โกรธ ​เขาเข้าใจ​และเห็นใจเธอ​ที่ถูกคุณลักษณากล่าวหาเช่นนั้น​ ชายหนุ่มเดา​ได้ไม่ยากถึงวิธีพูด​ที่เจ็บแสบของมารดาลลิตา

" โธ่ คุณหนู ผมไม่เคยคิด​จะทำอะไร​อย่าง​ที่คุณหนูกล่าวหาผม ผมรู้ว่าคุณหนู​เป็น​ใคร มี​ที่มา​ที่​ไปอย่างไร ผม​จะทำอะไร​​ที่ต่ำๆ​แบบนั้น​​ได้หรือ ​ที่ผมอยาก​จะบอกก็​คือ ​ถ้าคุณหนูยอมให้ผมรับผิดชอบผมก็​จะเลิก​กับลิตาทันที"

"เลิกพูดอะไร​​ที่ไร้สาระเสียที" เสียงเฉียบขาดของทิพย์สุรางค์ดังขัดขึ้น​มา " คุณพูดเรื่อง​​จะทิ้งผู้หญิง​ที่รักกันมานานจน​จะ​แต่งงานกันอยู่​แล้ว​ ​ได้คล่องๆ​ง่ายๆ​อย่างนี้เลย​หรือ? ​จะเลิก​กับ​เขา​เพื่อมาหาฉันน่ะหรือ? ขอบคุณมากนะ​ที่ทำให้ฉันรู้จักตัวตนจริงๆ​ของคุณดีขึ้น​ นี่แน่ะ..คุณคริส ขอบอกว่าฉันไม่เคย​ต้องการ​ความรับผิดชอบจากคน​ที่ไม่มี​ความรับผิดชอบอย่างคุณ อ้อ..ลืม​ไป ​ความจริง​ต้องพูดว่าคุณมี​ความรับผิดชอบบ้างเหมือนกัน เพียง​แต่เลือกว่า​จะรับผิดชอบ​ใครเท่านั้น​ ​เอาละ..จบเรื่อง​นี้เสียที ​เพราะสมมติว่าคุณ​จะมาทำแก้เกี้ยวออกปากว่า​จะรับผิดชอบฉัน ​แต่มันก็สาย​ไปแล้ว​ เราต่างก็มีทางของตัวเอง​ที่​ต้องเดินต่อ​ไป"

"คุณหนูครับ​" ชายหนุ่มพยายามอีกครั้ง "ถึงคุณหนู​จะปฏิเสธยังไง ​แต่ผมก็ยังยืนคำเดิมว่าผมขอรับผิดชอบต่อสิ่ง​ที่เกิดขึ้น​ ผม.."

"พอที คุณคริส ​ที่ฉันยอมมาพบคุณวันนี้​เพราะมีเรื่อง​บางอย่าง​ที่​จะพูด​กับคุณเท่านั้น​ ไม่​ได้มาฟังคำพูดเพ้อเจ้อของคุณ ​แต่ก่อน​จะพูดเรื่อง​​ที่ว่านี้ฉันขอบอกคุณว่า ​ความจริงฉันไม่เคยคิด​จะพบ​กับคุณอีกเลย​ ​แต่ว่า​ที่แม่ยายของคุณหยาบหยามฉันเกิน​ไป ฉันจึงจำ​เป็น​ต้องยอมพบคุณ คุณ​จะฟังเรื่อง​​ที่ฉัน​จะพูด​ได้หรือยัง?"

คริสนิ่งอั้นไม่​ได้นึกอยากรู้เลย​ว่าเธอ​จะพูดเรื่อง​อะไร​​กับ​เขา ​เพราะเดา​ได้ไม่ยากว่าย่อมไม่ใช่เรื่อง​ดี ​ถ้า​เป็นเรื่อง​การตอบโต้ของทิพย์สุรางค์ต่อการกระทำ​ที่หยาบคายของคุณลักษณา ​แต่​เขาก็ไม่มีทางเลือก

"เชิญคุณหนูพูดเถอะครับ​ ผมยินดีรับฟังทุกเรื่อง​"

​ระหว่าง​ที่ทิพย์สุรางค์ยกแก้วน้ำขึ้น​ดื่มช้าๆ​ ​เพื่อ​ใช้เวลาทบทวนสิ่ง​ที่​กำลัง​จะพูด เสียงโทรศัพท์ของคริสก็ดังขึ้น​ ชายหนุ่มเหลือบมอง รู้ว่าคน​ที่โทร.มา​คือจอห์น เลย​์ตัน​ที่​เขาจำ​เป็น​ต้องรับ ปกติบิดาของ​เขา​จะไม่โทร.มาหา​ถ้าไม่มีเรื่อง​เร่งด่วน คริสหยิบโทรศัพท์ขึ้น​มาแล้ว​บอกหญิงสาว ​ที่​กำลังมอง​เขาด้วยหางตาว่า

"ขอโทษนะครับ​ คุณหนู พ่อผมคงมีเรื่อง​ด่วน"

​ระหว่าง​ที่คริสออก​ไปพูดโทรศัพท์นอกห้อง ทิพย์สุรางค์ก็มีโอกาส​ได้ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ​ที่อย่างน้อยก็มีเวลาให้เธอ​ได้ตระเตรียมคำพูด ​ที่​จะเชือดเฉือน​เขาให้สะใจ ​และ​เป็น​ไปตามแผนการของเธออย่าง​ได้ผลมากยิ่งขึ้น​ เธอไม่แคร์หรอกว่า​ใคร​จะโทร.มาหา​เขา ​จะ​เป็นพ่อ​เป็นแม่หรือ​แม้​แต่คู่หมั้นของ​เขาก็ไม่เกี่ยว​กับเธอ ​จะพูดกันนานแค่ไหนก็เชิญตามสบาย ขอ​แต่ให้​เขากลับเข้ามารับฟังสิ่ง​ที่เธอ​กำลัง​จะพูด ​เพื่อ​ที่​ความทุกข์ของ​เขา​จะ​ได้เริ่มต้นนับหนึ่ง​ตั้งแต่วันนี้ ​ความทุกข์​ที่​จะเพิ่มทวีขึ้น​​ไปเรื่อยๆ​ เหมือน​ที่เคยเกิดขึ้น​​กับเธอในช่วงเวลากว่าสองปี​ที่ผ่านมา

 

F a c t   C a r d
Article ID S-3289 Article's Rate 44 votes
ชื่อเรื่อง เวลาที่หายไป --Series
ชื่อตอน แผนพิฆาต --อ่านตอนอื่นที่ตีพิมพ์แล้ว คลิก!
ผู้แต่ง ดอยสะเก็ด
ตีพิมพ์เมื่อ ๑๒ มกราคม ๒๕๕๕
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ เรื่องยาว ซีรีส์
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๒๔๑ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๒ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม ๒๑๓
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : Rotjana Geneva [C-17672 ], [85.3.30.79]
เมื่อวันที่ : ๐๕ ต.ค. ๒๕๕๓, ๑๓.๓๒ น.

ว้าว ชื่อเรื่อง​​เริ่มโหดขึ้น​​เรื่อย ๆ​​ แล้ว​​นะคะ​​

คนแอบฟังการสนทนาของหนุ่มสาวก็ใจเต้นตุ๋ม ๆ​​ ต้อม ๆ​​ ​​ไปด้วยค่ะ​​ เพี้่ยง ขอให้เข้าใจกันดีเสียทีเถอะ คุณหนูก็อย่างอนมาก​​ไปนักเลย​​ หนุ่มคริสก็บอกสาวเจ้าตรง ๆ​​ ไม่​​ได้หรือว่า รักเค้าอ้ะ เรื่อง​​​​จะ​​ได้ลงตัวเสียที

ว่า​​แต่ว่า ตกลงคริส​​จะ​​ได้อยู่​​ฟังคุณหนูจนจบไหมเนี่ย

มอบ
ให้ตามเคยค่ะ​​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๒ : Rotjana Geneva [C-17695 ], [81.62.30.48]
เมื่อวันที่ : ๑๐ ต.ค. ๒๕๕๓, ๑๗.๒๓ น.

แฟนละคร เอ๊ย แฟนนิยาย ยังรอคอยคำตอบจากคุณหนู​​และหนุ่มคริสด้วย​​ความระทึกในดวงหฤทัยนะคะ​​

หวังว่าคุณดอยฯคงสบายดีนะคะ​​

แวะเข้ามาทักทายเฉย ๆ​​ ว่าไม่​​ได้ลืมกันค่ะ​​

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น