![]() |
![]() |
ปักษิณ![]() |
...สารวัตรสัญชัยยังไม่ปักใจเชื่อ ว่าท่านผู้เฒ่าฉลองจะพูดความจริงเสียทั้งหมด เพราะสังเกตจากการพูดจาราวกับว่าท่านผู้เฒ่าได้ตระเตรียมคำตอ...
ตอน : แฝดรองเปลี่ยนไป?
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
การเจรจาโต้ตอบดูก็เหมือนว่าท่านได้ปิดช่องโหว่และข้อบกพร่องไว้จนไม่เหลือประตูที่จะให้ซักถามได้อีกต่อไป ซึ่งนับว่าศาสตราจารย์ดอกเตอร์ฉลอง บุญยังผู้นี้เป็นเลิศในการวางแผนการผู้หนึ่งเลยทีเดียว
นึกไปแล้วทำให้สารวัตรหนุ่มถึงกับเสียวสันหลังวูบ นี่ถ้าหากว่าเด็ดดวงเพื่อนรักคู่แค้นของเขาได้เข้าร่วมขบวนการกับท่านผู้เฒ่าที่น่ากลัวผู้นี้ ยังไม่รู้เลยว่าจะมีสิ่งใดแปลกประหลาดเกิดขึ้นอีกบ้าง
ดูอย่างแค่เจ้าลิงจ๋อที่แสนซนท่านยังสามารถปราบให้เชื่องและรับรู้สัญญาณได้โดยไม่ยากเย็น นับประสาอะไรกับคนที่พูดกันรู้เรื่องและมีความรู้สึกนึกคิดมากยิ่งกว่าสัตว์ใดๆในโลก จะไม่อ่อนไหวตามไปด้วยกับคำพูดโน้มน้าวจิตใจของท่านผู้เฒ่าผู้นี้ได้เจียวหรือ?
เพราะฉะนั้นเขาควรจะตัดสินใจอย่างไรดี จะยอมกลับไปตอนนี้เลยล่ะหรือ...?
ถ้าหากเขาตกลงพาตำรวจใต้บังคับบัญชาของเขากลับไปตอนนี้ งานที่เขาได้ทุ่มเทมาทั้งหมดก็จะไม่ได้อะไรเลย...
เท่ากับว่าเขาพาลูกน้องกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ ณ จุดเดิม!
"พวกเราจะยังไม่กลับไปไหนทั้งนั้น!!" สารวัตรหนุ่มตัดสินใจบอกกับจ่าทั้งสองอย่างเด็ดเดี่ยว
"ทำไมล่ะครับ..ก็ในเมื่อเราไม่สามารถที่จะหาข้อมูลอะไรได้จากดอกเตอร์เฒ่าหัวขาวนั่นอีกแล้วไม่ใช่หรือครับสารวัตร?"
"ผมยังไม่มั่นใจว่าแกจะพูดความจริงกับเรานะครับจ่าทองเปลว!"
"สารวัตรยังสงสัยอะไรอยู่อีกหรือครับ?"
"เท่าที่ดอกเตอร์ฉลองบอกผมเมื่อครู่นี้ ดูท่าทางมันทะแม่งๆอย่างไรพิกล เรื่องราวทั้งหมดมันจะง่ายดายลงตัวอะไรปานนั้นเจียวหรือ จ่าคิดอย่างผมหรือเปล่า ว่าจู่ๆตาผันจะหายตัวไปได้อย่างไรกัน ทั้งๆที่พวกเราตามรอยแกติดๆโดยทิ้งเวลาห่างกันไม่นานสักเท่าไหร่เลย"
"จริงอย่างที่สารวัตรพูดเหมือนกันนะครับ ดูมันง่ายเกินไปจริงๆ?"
"ผมคิดว่า..อย่างไรเสียอีตาศาสตราจารย์ดอกเตอร์ฉลองผู้นี้จะต้องมีความลับอะไรลึกๆที่พวกเราไม่รู้ซ่อนเร้นอยู่อย่างแน่นอน!"
"แล้วท่านสารวัตรจะเอาอย่างไรกันต่อไปดีล่ะครับ?"
"พวกเราจะทำทีเป็นว่า ได้เดินทางกลับออกไปกันหมดแล้ว จากนั้นจึงค่อยย้อนกลับมาใหม่"
"ย้อนกลับมาที่นี่ใหม่อีกนะหรือครับ?"
"ถูกต้อง โดยเราจะซ่อนแอบตัวอยู่ใกล้ๆกับบริเวณนี้ อย่าให้พวกเขาได้ทันรู้ตัวหรือสังเกตเห็น เพื่อที่จะแอบดูพฤติกรรมของตาเฒ่าหัวใสผู้นี้ เพราะจากการสังเกตดูกิริยาท่าทางการพูดการจาของแกแล้วไม่ค่อยจะน่าไว้วางใจสักเท่าไหร่!"
"ผมเห็นมีทำเลดีอยู่เหนือลำธารขึ้นไปหน่อยหนึ่งครับสารวัตร มีโขดหินและร่มไม้ใบบังมิดชิด ตรงนู้นยังไงละครับสารวัตร ใกล้ๆต้นยางใหญ่สามต้นบนโขดเนินนั่น!"
พูดจบจ่าทองเปลวก็ชี้มือไปทางสถานที่ที่ได้หมายตาเอาไว้แล้วแต่ต้นให้สารวัตรสัญชัยได้ดู
สารวัตรหนุ่มพยักหน้าหงึกๆยอมรับความเห็นของผู้ใต้บังคับบัญชาโดยดุษฎีพร้อมกับเอ่ยตอบตกลงตามแผนการ
"ผมเห็นด้วยกับแหล่งหลบซ่อนของพวกเราและตกลงตามที่จ่าทองเปลวแนะนำ ไปกันได้แล้วพวกเรา ประเดี๋ยวถึงค่อยย้อนกลับมาใหม่!"
ทั้งสามตำรวจจากกองปราบปรามพิเศษทำทีเป็นเดินทางกลับไปตามทางเส้นเดิมอันเป็นเส้นทางเดียวกับขามาครั้งแรกประมาณห้าร้อยเมตร เพื่อไม่ให้เป็นการผิดสังเกตจากสายตาของคนที่อยู่ในบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้หลังงามหลังนั้น
ย้อนกลับเข้าไปใหม่ครั้งหลังนี้สารวัตรสัญชัยสั่งให้ทุกคนพยายามหลบเร้นกายโดยค่อยๆคืบคลานเดินทางไปยังจุดที่จ่าทองเปลวได้หมายตาเอาไว้อย่างเงียบกริบ!!
เมื่อไปถึงที่หมายสารวัตรมือปราบก็ล้วงเอากล้องส่องทางไกลออกมาจากเป้ประจำกายที่สะพายมาด้วย
ทั้งสามคอยผลัดเปลี่ยนเวียนกันส่องดูความเคลื่อนไหวภายในบ้านหลังงามนั้นอย่างตั้งอกตั้งใจ
โดยพวกเขาตั้งใจไว้ว่าจะไม่ยอมให้พลาดจากสายตาอีกเลยเป็นอันขาดแม้แต่เพียงเสี้ยววินาที!!
*********
ภายหลังจากที่บุคคลทั้งห้าอันมีศาสตราจารย์เอกวิทย์ หมอลิซ่า แฟรี่ อัมพิกา ทวีศักดิ์และเด็ดดวงได้ถูกพาลงไปจองจำอยู่ภายในห้องลับใต้ดินโดยฝีมือของลุงเบี้ยวแล้ว ทั้งหมดก็พยายามที่จะหาทางหนีออกไปสู่อิสรภาพในทันทีที่บานประตูเริ่มปิดสนิทลง
โชคยังดีที่นางบุญมาซึ่งบัดนี้ได้กลับตาลปัตรกลายเป็นนางร้ายเจ้าแม่อำมหิตไปแล้วยังคงปล่อยให้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทำงานตามปกติ มิฉะนั้นแล้วพวกเขาทั้งหมดที่ต้องถูกกักบริเวณอยู่ภายในห้องใต้ดินคงจะอึดอัดแย่จนอากาศไม่พอที่จะหายใจไปตามๆกัน
ประตูทางลับที่เป็นทางลงไปสู่ยังห้องใต้ดินนั้นได้ถูกออกแบบให้สังเกตทางลงได้โดยยาก ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย โดยแบ่งเป็นสองชั้นโดยชั้นในสุดคือบานประตูเหล็กที่ปิดห้องใต้ดิน ส่วนชั้นนอกก็คือชั้นที่เป็นพื้นไม้มะค่าขัดมันปลาบจนมองเห็นเป็นพื้นเดียวกันทั้งห้อง
ถ้าเผื่อว่าไม่ได้รู้มาก่อนก็จะไม่มีทางที่จะทราบได้เลยว่ามีประตูลงไปยังห้องใต้ดินอยู่ภายในศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งบ้านขุนซ่องนี้
"เราจะหาทางออกกันอย่างไรหรือครับท่านศาสตราจารย์?"
"เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกคุณเด็ดดวง ผมเป็นผู้อำนวยการศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งบ้านขุนซ่องนี้ย่อมที่จะต้องรู้ดีกว่าใครอยู่แล้วเป็นธรรมดา"
"ลุงเบี้ยวแกใส่กุญแจแน่นหนาออกอย่างนั้น เราจะออกไปได้อย่างไรกันล่ะครับ ถึงแม้ว่าให้ผมล่องหนหายตัวได้อีก ก็ยังไม่สามารถที่จะลอดออกไปได้อยู่ดี ตราบใดที่ประตูยังคงปิดอยู่!?"
"ใครบอกคุณล่ะคุณเด็ดดวงว่าผมจะให้คุณเป็นคนลอดออกไป ผมมีวิธีของผมที่ดีกว่านั้นอีกเป็นไหนๆ เชื่อผมเถิดครับ"
"ถ้าอย่างนั้นท่านศาสตราจารย์ก็รีบพาพวกเราออกไปก่อนเถิดครับ ก่อนที่ป้าบุญมาจะเอาท่านศาสตราจารย์รองฤทธิ์ไปทำปุ๋ยเสียก่อน"
"คุณนึกว่าหล่อนจะกล้าฆ่านายรองได้ลงคอเชียวหรือ?"
"แหม..เพียงผมมองเห็นท่าทางของป้าบุญมาแล้วให้นึกสยองขึ้นมาทันที ท่านศาสตราจารย์ไม่ได้สังเกตหรอกหรือครับว่าสายตาของแกขณะที่เอาปืนจ้องมายังหน้าอกของท่านศาสตราจารย์นั้นทำเอาผมเสียวแทนขึ้นมาทันที"
"คุณพูดทำเอาผมพลอยใจหายตามไปด้วย เพราะว่าถ้าเกิดว่าแกยิงเปรี้ยงออกมาตอนนั้นสงสัยว่าผมมีหวังจอดอย่างแน่นอน..ว่าแต่ว่าพวกคุณพอจะรู้บ้างไหมว่าทำไมเขาถึงได้เลือกนายรองแทนที่จะเอาผมไปเป็นตัวประกันซึ่งน่าจะง่ายยิ่งกว่า เพราะผมเป็นถึงผู้อำนวยการศูนย์วิจัยฯแห่งนี้ พวกคุณมีใครคิดถึงข้อนี้กันบ้างหรือเปล่า?"
"คงไม่มีใครคิดถึงสาเหตุข้อนั้นกันหรอกค่ะท่านศาสตราจารย์ เพราะส่วนมากคนอื่นๆก็คงจะคิดเหมือนกับดิฉันนะคะว่าท่านทั้งสองหน้าตาเหมือนกันยังกับแกะอย่างนี้จะเอาใครไปเป็นตัวประกันก็คงจะเหมือนๆกันนั่นแหละค่ะ ดิฉันพูดถูกไหมคะท่านศาสตราจารย์?"
"คุณอัมพิกา คุณเด็ดดวงและคุณทวีศักดิ์ก็คิดอย่างนั้นเช่นเดียวกันกับมิสแฟรี่เธอด้วยหรือ?"
"ครับพวกเราก็คิดกันอย่างนั้นเหมือนกัน"
เด็ดดวงพูดแทนทุกคนเมื่อเห็นทั้งหมดต่างพยักหน้าขึ้นพร้อมๆกัน แต่ต่างก็พากันประหลาดใจเมื่อแลเห็นศาสตราจารย์เอกวิทย์โบกมือไปมาแสดงให้เห็นว่าความคิดดังว่านั้นไม่ถูกต้องโดยสิ้นชิง
"พวกคุณเพิ่งจะมาสัมผัสกับสถานการณ์ที่นี่ได้ไม่นาน ไม่มีใครรู้หรอกว่าลึกๆแล้วการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ที่พวกเราทำกันอยู่ที่นี่ทุกวันนี้นั้น ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่ผมคิดไว้เลยตั้งแต่แรก ทั้งนี้ก็เพราะว่ามีการแทรกแซงจากหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์จากต่างชาติ ที่เข้ามามีส่วนในการเอื้อทุนงบประมาณในการวิจัย มีกองทุนจากบริษัทและมูลนิธิต่างชาติที่มีอำนาจในการต่อรองด้านผลประโยชน์อย่างมากมายมหาศาลต่อรัฐบาลไทยของเรา"
"มันใหญ่โตร้ายกาจขนาดนั้นเลยหรือครับท่านศาสตราจารย์?"
"ถูกต้องแล้วคุณเด็ดดวง มันทั้งร้ายกาจทั้งโหดเหี้ยมเลยทีเดียวเทียวล่ะครับ คุณรู้ไหมว่าก่อนที่แม่บุญมาและตาเบี้ยวจะมาอยู่กับเรา ผมมีคนงานที่ผมไว้วางใจของผมเองและคัดเลือกมาเอง เป็นคนเก่าคนแก่ที่ผมรู้จักดี มาด้วยกันสองคนผัวเมียเหมือนกันชื่อนายแฟงกับแม่สมพิศ"
พูดมาถึงตรงนี้พาเอาอารมณ์ของศาสตราจารย์เอกวิทย์พลอยสะเทือนไปด้วยอย่างแรงจนไม่สามารถที่จะอดกลั้นได้ กรามของท่านขบบดกันจนเป็นสันนูนดวงตาแดงก่ำ ท่านสงบสติอารมณ์ไปชั่วครู่ก่อนที่จะกล่าวต่อไปว่า
"ทั้งนายแฟงและแม่สมพิศถูกฆ่าตายอย่างทารุณสาเหตุเพราะผมไม่ยอมทำตามคำขู่ของคนของมูลนิธิข้ามชาติที่ให้เปิดเผยข้อมูลของการวิจัยทั้งหมดให้กับพวกเขา แต่เราก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นการฆ่าเพื่อข่มขู่ ผมเสนอเรื่องผ่านไปทางนักการเมืองขณะนั้นคือท่านรัฐมนตรีดอกเตอร์วัชรินทร์ มโนมัยผยอง ซึ่งท่านได้ตกปากรับคำว่าจะช่วยเหลือเป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้องค์การข้ามชาติดังกล่าวเข้ามาบีบคั้นการทำงานของเราให้มากจนเกินไป"
"อ๋อ..ท่านรัฐมนตรีกาสิโนนี่เอง!"
"คนที่ข่าวว่าหลบไปอยู่ที่เกาะกงนั่นนะหรือ?"
"ใช่แล้วท่านผู้นี้นั่นแหละ ท่านได้คัดสรรหาคนส่งมาให้สองคนซึ่งก็คือแม่บุญมาและตาเบี้ยวที่พวกคุณรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่ท่านรัฐมนตรีดอกเตอร์วัชรินทร์กลับเป็นตัวแทนขององค์การข้ามชาตินั้นเสียเองโดยให้คนของเขาที่มาอยู่กับเราคอยสืบค้นหาข้อมูลลับในการวิจัยและทดลองของเราอยู่ตลอดเวลา ด้วยอาวุธและเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยในการจารกรรม อย่างเช่นแว่นตาที่สามารถมองเห็นได้ทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งมนุษย์ที่ล่องหนหายตัวได้อย่างนายเด็ดดวง นี่คือข้อพิสูจน์ที่ทำให้ผมมาฉุกคิดได้ว่านายรองน้องชายฝาแฝดของผมนั้นบัดนี้คงจะตกเป็นเครื่องมือของพวกเขาอย่างสมบูรณ์จนยากที่จะถอนตัวได้เสียแล้ว เพราะมาระยะหลังนี้นายรองเขาทำงานวิจัยโดยไม่มีข้อโต้แย้ง ซึ่งผิดกว่าแต่ก่อนนี้ราวกับเป็นคนละคนเลยทีเดียว ผมเห็นเขามักขลุกอยู่กับแม่บุญมาและตาเบี้ยวบ่อยๆจนสังเกตเห็นได้ชัดถึงความผิดปกติ และยังมีอีกคนหนึ่งที่ผมสงสัยก็คือ..."
"คือใครหรือครับท่านศาสตราจารย์?"
"ตาผัน"
"อ้อ..ตาผันที่ทำสวนลองกองอยู่ด้านหลังศูนย์นี่เอง"
"ใช่แล้วล่ะคุณเด็ดดวง!"
"มิน่าล่ะ..นี่ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้จ่าฉะอ้อนถูกยิงในวันนั้น!?"
*********
เมื่อวันที่ : ๐๔ พ.ย. ๒๕๕๑, ๑๔.๒๕ น.
หรือ "ผัวเมียไส้ศึก" หรือ "แฝดรองเปลี่ยนไป?" ดีคะ
คาดไม่ถึงจริง ๆ ค่ะ