![]() |
![]() |
ปักษิณ![]() |
...อัมพิกาและนางอุทุมพร ยกมือไหว้ศาสตราจารย์เอกวิทย์พร้อมกัน เมื่อเห็นเขาก้าวเดินเข้ามาในห้องรับรองแขกของศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งบ้าน...
ตอน : หัวใจเด็ดดวง
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
"ท่านศาสตราจารย์ไม่ได้พาคุณเด็ดดวงออกมาด้วยหรือคะ?"
"เขาก็เดินออกมาพร้อมกับผมนี่ยังไงล่ะครับ แต่หนูมองไม่เห็นเขาเอง"
"จริงๆด้วยซีคะ หนูลืมไปว่าคุณเด็ดดวงเขาอยู่ในสภาพล่องหน ขอโทษทีนะคะ สวัสดีค่ะคุณเด็ดดวง"
หญิงสาวกระพุ่มมือไหว้โดยยกมือหันไปทางด้านซ้ายมือของศาสตราจารย์เอกวิทย์ ซึ่งเธอคิดว่าเขาน่าจะยืนอยู่ตรงนั้น
"สวัสดีครับคุณอัมพิกา"
ปรากฏว่าเสียงทุ้มๆของชายหนุ่มกลับดังขึ้นอยู่ตรงเบื้องหน้าของเธอนั่นเอง ทำให้อัมพิการู้สึกตัวว่าเธอคาดเดาผิดไปเองอย่างถนัดใจ
"แหมนี่ถ้าเป็นหมอดูอัมพิกาคงถูกคุณเด็ดดวงทวงเงินค่าดูคืนแน่ๆเลย เขินจังที่เริ่มเดาผิดตั้งแต่แรก"
"แค่คุณอัมพิกาตามหาผมจนเจอนี่ก็นับว่าเก่งมากเลยทีเดียว มีหลายคนพยายามตามหาผมจนแทบพลิกแผ่นดินยังตามหากันไม่เจอเลยครับ"
"นั่นเป็นเพราะว่าคุณเด็ดดวงตั้งใจจะให้เจอต่างหากล่ะ อัมพิกาถึงตามคุณพบได้ ส่วนสารวัตรสัญชัยนั้นคลาดแคล้วกันมาตลอดก็เพราะคุณไม่อยากให้เขาหาคุณเจอใช่ไหมล่ะคะ?"
เด็ดดวงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินหญิงสาวเอ่ยถึงชื่อคู่ปรับตัวยงของเขา ซึ่งนับว่าเป็นบุคคลที่กลับกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันตลอดหลายปีมานี้
"คุณอัมพิการู้จักกับสารวัตรสัญชัยด้วยหรือครับนี่?"
ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับจ้องดวงตาของหญิงสาวราวกับจะจับพิรุธ ทั้งๆที่อัมพิกาไม่รู้ตัวเลยว่าเขากำลังจ้องหน้าของเธออยู่ เพียงแต่คาดเดาเอาเองว่าเขาคิดอะไรอยู่ ซึ่งเธอได้พยายามที่จะจับฟังจากหางเสียงที่เขาพูดกับเธอเท่านั้น
"อัมพิกาพบกับเขาที่ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งบ้านขุนซ่องนี้ ในวันที่มาตามหาคุณเด็ดดวงคราวก่อนยังไงล่ะคะ"
"ขอประทานโทษ..คุณอัมพิกามาตามหาผมทำไมกันครับ?"
"ก็ตามมาเพื่อจะมาแสดงความขอบคุณที่คุณเด็ดดวงได้ช่วยเหลืออัมพิกาให้รอดพ้นอันตรายเนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นอย่างไรล่ะคะ"
"ขอบคุณที่มีน้ำใจคิดถึงเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างนั้น มันเป็นหน้าที่ของพลเมืองดีทั่วไปที่ผมคิดว่าตัวเองจะยังพอมีหลงเหลืออยู่บ้างเท่านั้นเองแหละครับคุณอัมพิกา"
"แต่อัมพิกาไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะสมัยนี้จะหาคนที่ตกลงใจช่วยเหลือใครง่ายๆอย่างคุณในวันนั้นยากเต็มที"
"บังเอิญผมได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นพอดีนะครับ นับว่าเป็นโชคดีที่ทำให้เราได้พบกัน"
"ค่ะ..ก็นับว่าเป็นโชคดีของอัมพิกาที่ได้พบกับคนดีๆอย่างคุณเด็ดดวงนี้"
"ออกจะแจกลูกยอกันมากไปแล้วนะครับนี่"
อัมพิกาได้ยินเสียงเขาพูดกลั้วด้วยเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ทำให้เธอพลอยหัวเราะคลอตามไปด้วย
"อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญก็คือคุณได้ทำสมุดบันทึกส่วนตัวของคุณหล่นอยู่ใต้เบาะในรถของอัมพิกา"
"หล่นอยู่ใต้เบาะรถคุณเองหรือ?"
"ค่ะ..อัมพิกาจึงอยากจะตามเอามาคืนให้กับเจ้าของผู้มีพระคุณ ขอโทษที่ได้ละลาบละล้วงแอบเปิดออกอ่าน อัมพิกาถึงได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร จึงตัดสินใจตามมาหาคุณที่นี่ เพราะบังเอิญเหลือเกินที่คุณป้าของอัมพิกาเขามาทำการค้าอยู่ที่ตลาดแก่งหางแมวนี้ จึงได้ทำให้อะไรๆมันง่ายเข้าไปอีก"
"ทำไมทุกสิ่งทุกอย่างดูมันลงตัวไปหมดราวกับเป็นพรหมลิขิตก็ไม่ปาน ไม่น่าเชื่อเลยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นความจริง คุณคิดอย่างผมไหมคุณอัมพิกา ดูๆไปมันช่างคล้ายกับความฝันนั่นเทียว"
"อัมพิกาก็คิดเช่นนั้นเหมือนกันค่ะ"
เด็ดดวงสังเกตเห็นว่าขณะที่เธอพูดและหันหน้ามาทางเขานั้น ดวงตาของเธอเป็นประกายแจ่มใส เสมือนประหนึ่งจะเปิดเผยหน้าต่างหัวใจที่ซ่อนอยู่ภายในของเธอให้เขาได้รับรู้กระนั้น
ชายหนุ่มพยายามข่มสติอารมณ์ให้นิ่งและมั่นคง ทั้งๆที่หัวใจปรารถนาของเขาชักจะเริ่มไขว้เขวกับอารมณ์ที่ซ่อนลึกอยู่ภายในตัวของเขาเอง เด็ดดวงได้แต่เตือนสติเพื่อระลึกว่าเขาเป็นเพียงไอ้คนเดนคนที่ทางการตำรวจกำลังต้องการตัวอยู่ทุกฝีก้าว ถ้าเขาพลาดท่าลงเมื่อไหร่ เขาก็จะหมดอิสรภาพทันที
แล้วเขาควรที่จะทำตัวให้กลายเป็นโซ่ล่าม ซึ่งอาจทำให้คนอื่นที่ไม่ได้รับรู้กับเหตุการณ์ในอดีต ต้องมาพลอยเจ็บช้ำระกำใจไปกับเขาด้วยหรือ?
"คุณอัมพิกาครับ!"
"มีอะไรหรือค่ะ..คุณเด็ดดวง?"
"ผมว่ามิตรภาพของเราที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะทำให้ผมต้องจดจำไปจนวันตายเลยทีเดียว ว่ายังมีคุณอัมพิกาอีกคนหนึ่งที่ได้อาทรกับคนเดนคนอย่างนายเด็ดดวงคนนี้"
อัมพิกาเอื้อมมือขวาออกไปข้างหน้า ควานจนสัมผัสกับแขนอันแข็งแกร่งของเขาที่ครั้งหนึ่งเคยตระกองกอดและอุ้มเธอไว้ในวงแขนแข็งแรงนี้
เธอจำได้อย่างแม่นยำ...
อัมพิกาบีบแขนเขาเบาๆพลางพูดกับเขาคล้ายกับจะปลอบโยน
"อย่าพูดอย่างนั้นซีคะ สำหรับอัมพิกาแล้วคุณคือพ่อพระที่ได้เคยปกป้องอัมพิกาโดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทน คุณทำไปด้วยความมีน้ำใจและหวังดี เพราะฉะนั้นโปรดจงคิดว่าอัมพิกามิใช่คนอื่น มีอะไรที่อัมพิกาจะช่วยคุณได้เป็นการตอบแทน ถ้าทำได้จะไม่ลังเลใจเลย ขอให้คุณเด็ดดวงโปรดจงเชื่อใจอัมพิกาเถิดนะคะ"
"ขอบคุณครับ เพียงเท่านี้ก็ทำให้หัวใจของคนไร้ค่าอย่างนายเด็ดดวงคนนี้ได้ซาบซึ้งแล้วล่ะครับ ผมจะไม่มีวันลืมเป็นอันขาด"
"อัมพิกาก็จะไม่ลืมคุณเช่นเดียวกัน"
ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าหวานมีเสน่ห์คมขำที่ยิ้มพรายชายตามาทางเขาอย่างจงใจ ทำเอาหัวใจของเขาที่อยู่ในสภาพโปร่งใสพองโตขึ้นมาจนคับอก ประกายตาที่เปิดเผยความในใจนั้นยังคงฉายแววออกมาให้ชายหนุ่มต้องระทึกใจและวาบหวามในอารมณ์
เขากำลังจะตกหลุมรักของเธอเข้าให้แล้วใช่ไหมนี่?
คำนึงนึกบอกกับเขาอย่างนั้น ทั้งๆที่ได้พยายามจะข่มสติอารมณ์มิให้ล่องลอยกระเจิงไปกับอำนาจของความรักที่ไม่มีตัวตน หากแต่สัมผัสได้ด้วยหัวใจอันบริสุทธิ์เพียงสถานเดียวเท่านั้น
นี่ถ้าไม่เกรงใจท่านสองศาสตราจารย์และป้าอุทุมพรแล้วไซร้ เขาคงห้ามใจตัวเองไม่ได้ที่จะฉวยโอกาสตระกองกอดร่างน้อยนี้และอุ้มเธอให้อยู่ในวงแขนของเขาอีกครั้งหนึ่งเป็นแน่แท้
มือที่จับแขนของเขาอยู่นั้นค่อยๆคลายออกและลูบไล้สูงขึ้นไปเรื่อยจนสัมผัสกับลำคอและใบหน้าของเขาในที่สุด
"ขอให้อัมพิกาได้สัมผัสกับใบหน้าของคุณเด็ดดวงเพียงอย่างเดียวก็ยังดี เพราะอัมพิกาไม่สามารถที่จะมองเห็นหน้าคุณได้ด้วยสายตา จะได้จดจำเค้าโครงหน้าเอาไว้ตามมโนภาพของตัวเอง ว่าคนที่เคยช่วยเหลืออัมพิกานั้นหน้าตาเป็นอย่างไร?"
"เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆคุณอัมพิกาอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ เพราะหน้าตาของผมคงไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดไว้ในมโนภาพเลยสักนิดเดียว"
"ต่อให้คุณเป็นกุดถังหรือไทกอ ก็ไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลงอัมพิกาได้หรอกค่ะ โปรดทราบไว้ด้วย เพียงคบกับคุณ รู้จักตัวตนของคุณ นับถือคุณด้วยน้ำใจก็เกินพอแล้ว รูปร่างหน้าตาเป็นเพียงส่วนประกอบเท่านั้นอย่ากังวลไปเลยค่ะ"
"ฟังคุณพูดแล้วทำให้ผมเคลิ้มตามความคิดนั้นไปด้วย จนอยากจะปรากฏตัวเสียเดี๋ยวนี้เลยทีเดียว"
ชายหนุ่มพูดพลางหันหน้ามาทางสองศาสตราจารย์ที่กำลังแย่งกันคุยฟุ้งอยู่กับนางอุทุมพรผู้เป็นป้าของอัมพิกา โดยทั้งสามคนนั้นไม่ได้สนใจสองหนุ่มสาวที่กำลังคุยกันอยู่อีกมุมหนึ่งของโต๊ะยาวไม้มะค่าผ่าครึ่ง มองไกลๆราวกับว่าอัมพิกากำลังเพ้อบ่นบ้าอยู่คนเดียวกับลมๆแล้งๆ
"ก็ดีนะซีคะ อัมพิกาจะได้ไม่ต้องรอนาน อยากเห็นหน้าคุณจัง"
"เห็นในความฝัน ในมโนภาพอย่างนี้ดีแล้วล่ะครับ ผมชักจะกลัวว่าคุณจะเปลี่ยนใจเลิกคบกับผมเสียแล้วซี เมื่อคุณเกิดเห็นหน้าที่แท้จริงของผมเข้า"
"ถึงอย่างไรอัมพิกาก็ยังยืนยันคำพูดเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เอาไว้รอให้ถึงวันนั้นเมื่อไหร่แล้วคุณเด็ดดวงก็จะรู้เองนั่นแหละ ว่าคำพูดทุกคำของอัมพิกาคนนี้มั่นคงนัก"
"เชื่อแล้วครับ เอ..แต่ท่าทางว่าท่านศาสตราจารย์ทั้งสองจะทำให้ผมกลับคืนสู่สภาพปกติได้ยากเสียแล้วละกระมัง เพราะยังไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่องนี้กันเลย"
"เขาคงไม่ปล่อยให้คุณเด็ดดวงต้องตกอยู่ในสภาพนี้นานนักหรอกค่ะ อัมพิกาเชื่อว่าเมื่อท่านสามารถคิดค้นได้ว่าจะแก้ไขได้อย่างไร คุณคงได้กลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างแน่นอน คิดว่าขณะนี้ท่านทั้งสองก็คงกำลังคิดค้นหาวิธีการอยู่อย่างขะมักเขม้น"
"ผมก็หวังว่าอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ทำไมถึงไม่มีใครเอ่ยปากบอกเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยสักคน"
"คิดว่าคงต้องอดใจรอต่อไป อย่าเพิ่งย่อท้อก่อนสิคะ ไม่มีสิ่งใดได้มาง่ายๆหรอกค่ะคุณเด็ดดวง"
"ครับผมจะอดใจรอ จนกว่าจะถึงวันนั้น"
"อัมพิกาหวังว่าจะเป็นบุคคลแรกที่ได้แสดงความยินดีกับคุณก่อนใครๆ"
"ครับผมจะบอกคุณเป็นคนแรก เมื่อวันนั้นมาถึง..."
รอยยิ้มแย้มพรายไปด้วยประกายตาคมขำนั้น พลันปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาวให้เด็ดดวงได้เห็นอีกคำรบหนึ่ง...
*********
เมื่อวันที่ : ๐๘ ต.ค. ๒๕๕๑, ๐๓.๒๔ น.
สวีทจังเลยค่ะ จีบกันแบบไม่เห็นหน้าพระเอกนี่นะ คริคริ
ตอนนี้ขอตั้งชื่อว่า "หัวใจเด็ดดวง" ค่ะ