![]() |
![]() |
ปักษิณ![]() |
..."ไอ้กี้มันหายไปไหน ของมันน้า..โม่ะ..โม่ะ" "หาอะไรรึตาเบี้ยว?" "ตามหาไอ้กี้ มันหายไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว..แม่บุญมาเห็นมันมั่...
ตอน : หมา - ลิงสลับร่าง
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
"หาอะไรรึตาเบี้ยว?"
"ตามหาไอ้กี้ มันหายไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว..แม่บุญมาเห็นมันมั่งหรือเปล่า?"
"มันคงวิ่งไปไล่จับกระต่ายป่า หรือไม่ก็เที่ยวไล่จับตะกวดตามพุ่มไม้ที่ข้างหลังศูนย์เนี่ยละมั้งตาเบี้ยว เดี๋ยวมันหิวมันเหนื่อยมันก็กลับมาเองนั่นแหละ"
"แต่ข้าว่ามันผิดสังเกตอย่างไรพิกลนาแม่มึง มันไม่เคยหายไปไหนข้ามวันข้ามคืนเลยสักทีนี่หว่า?"
"กะอีแค่หมาตัวเดียวบ่นเป็นวรรคเป็นเวรอยู่ได้ตาเบี้ยวเอ๊ย โน่นท่านศาสตราจารย์รองกำลังกวักมือเรียกอยู่หน้าห้องทดลองโน่นแน่ะ รีบไปเถอะ เดี๋ยวก็ถูกดุเอาอีกหรอก"
นายเบี้ยวรีบกุลีกุจอจ้ำอ้าวเดินมุ่งหน้าตรงไปทางหน้าห้องทดลองโดยด่วน
"ท่านศาสตราจารย์รองจะให้ผมรับใช้อะไรมิทราบครับ?"
"ฉันอยากให้นายเบี้ยวเข้ามาดูอะไรบางอย่างในห้องทดลองนี่สักหน่อย"
"ดูข้างในห้องทดลองนะหรือครับ?"
นายเบี้ยวทำตาโตเมื่อถูกชวนเข้าไปในห้องทดลองวิทยาศาสตร์ ซึ่งตามปกติแล้วแกไม่ค่อยจะกล้าเข้าไปข้างในห้องทดลองวิทยาศาสตร์ด้วยตัวคนเดียว เนื่องจากแกเคยเห็นอะไรประหลาดๆเสียจนทำให้หวาดกลัวไปหมด
"ก็ข้างในห้องทดลองนี่ละซีจะมีที่ไหนอีกล่ะ ถามชอบกลตาเบี้ยวนี่แปลกแท้ๆ"
"ครับ เชิญท่านศาสตราจารย์เดินนำหน้าผมเข้าไปก่อนเถอะครับ"
"กลัวอะไรกันนักกันหนาหรือตาเบี้ยว ทำอย่างกับเคยเห็นผีมาก่อนอย่างนั้นแหละ"
"ก็จะไม่ให้ผมกลัวได้อย่างไรกันล่ะครับท่านศาสตราจารย์ พูดแล้วขนหัวลุก ยังหวาดอยู่ไม่หายเลยครับ"
"ทำไมหรือตาเบี้ยว แกเห็นอะไรรึ?"
"ผมเห็นท่านอดีตรัฐมนตรี คนที่เคยมาที่วัดช่องกะพัดเมื่อคราวที่แล้วนะครับท่านศาสตราจารย์!"
"รัฐมนตรีรึ..รัฐมนตรีคนไหนกันตาเบี้ยว?"
"ก็คนที่มาแวะเยี่ยมอุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้นเมื่อปีกลายนี้ยังไงครับ ท่านศาสตราจารย์จำไม่ได้แล้วหรือครับ แล้วท่านก็แวะไปนมัสการหลวงพ่อที่วัดช่องกะพัดพร้อมกับท่านผู้ว่าคนก่อนนี้ ก่อนที่ท่านจะเดินทางกลับยังไงล่ะครับ"
"อ๋อ..ท่านรัฐมนตรีที่ชอบดื่มไวน์คนนั้นนั่นเอง ใช่ท่านบอกว่าไวน์แคทเทลที่บ้านขุนซ่องของเรานี้ผลิตได้มาตรฐานแถมยังมีรสเยี่ยมไม่เป็นรองใครเลยเชียวล่ะ..จำได้แล้ว ผมยังได้นั่งใกล้กับท่านและคุยกับท่านเรื่องรสชาติไวน์กันอยู่เลย"
"ใช่แล้วครับ คนนั้นแหละครับ!"
"ตาเบี้ยวรู้จักกับท่านอย่างนั้นหรือ?"
"ไม่ได้รู้จักกันกับท่านหรอกครับ แต่ผมเห็นท่านในห้องทดลองนี้!"
"ในห้องทดลองนี้?"
"ใช่ครับ..ผมเห็นท่านกำลังนั่งดื่มไวน์แคทเทลอยู่ที่โต๊ะหน้าตู้อบไม้สนในห้องทดลองนี้แหละครับ แต่พอผมขยี้ตาท่านก็หายตัวไปแล้ว เหลือแต่เพียงขวดไวน์กับแก้วเปล่าเท่านั้น ทำเอาผมงี้..ตกใจจนขี้หดตดหายหมดเลยจริงๆนะครับเนี่ย!"
"อ๋อ..เมื่อวันก่อนที่ฉันเห็นตาเบี้ยววิ่งหน้าตื่นถือขวดกับแก้วเข้าไปเก็บในครัวใช่ไหมล่ะ มิน่าไม่ยอมพูดยอมจากับฉันตั้งหลายวันที่แท้ก็กลัวผีนี่เอง แกต้องตาฝาดไปแน่ๆ..ตาเบี้ยว"
"แต่ผมเห็นท่านจริงๆนะครับ?"
"ท่านจะมาที่นี่ได้ยังไงกัน ก็ข่าวทีวีเขาว่าท่านหลบไปเมืองนอกเมืองนาแล้วไม่ใช่รึ ตาเบี้ยวนี่ชักจะเพ้อใหญ่แล้วนะ แอบดื่มไวน์แคทเทลของฉันจนเมาตาลายใช่ไหมนี่?"
"เปล่านะครับท่านศาสตราจารย์!"
"เปล่าอะไรกัน วันก่อนฉันยังเห็นตำตานี่นา ยังจะมาเถียงอีกตาเบี้ยวนี่!"
"อ๋อ..ผมเคยแอบดื่มเฉพาะไวน์ที่ท่านดื่มเหลือก้นขวดเท่านั้นนะครับ แฮะๆ..ผมก็ว่ารสชาติไวน์แคทเทลบ้านขุนซ่องของเรานี้ยอดเยี่ยมจริงๆนะครับท่านศาสตราจารย์.."
"เอาละตาเบี้ยวหายเมาได้แล้วคราวนี้เบิ่งตาดูให้ชัดๆซิว่า..แกเห็นอะไร?"
ศาสตราจารย์รองฤทธิ์พูดพลางชี้มือขึ้นไปบนหลังคาตู้อบไม้สนที่ตั้งอยู่กลางห้อง ซึ่งปรากฏว่ามีร่างๆหนึ่งกำลังยืนจังก้าอยู่ข้างบนนั้น
ทันทีที่มองเห็นร่างประหลาดนั้นตาเบี้ยวก็อ้าปากหวอดวงตาลุกโพลงอย่างตกตะลึงพึงเพริด...
"ทะ..ท่านศาสตราจารย์รองครับ..นั่นมันไอ้กี้หมาของผมนี่ครับ แต่ทำไมมันถึงขึ้นไปอยู่ข้างบนนั้นได้อย่างไรล่ะครับ?"
"แกพยายามสังเกตดูให้ดีๆซิ ว่าแกเห็นอะไรกันแน่?"
"เอ้อ..นั่นมันไม่ใช่ไอ้กี้นี่ มันเป็นลิงนี่ครับแต่ทำไมใบหน้าของมันถึงได้เหมือนกับไอ้กี้หมาของผมยังกับแกะได้ล่ะครับเนี่ย?"
"ฉันขอบอกว่านี่คือผลงานใหม่ของฉันยังไงล่ะตาเบี้ยว!"
"ผลงานใหม่?"
"ถูกต้อง ทีนี้ตาเบี้ยวลองหันกลับลงไปมองดูที่ใต้โต๊ะหน้าตู้อบไม้สนนั่นซิว่าแกเห็นอะไรอีก?"
"คุณพระช่วย..เอ้อ..นี่มัน..นี่มันไม่ใช่..."
"ใช่แล้ว นี่มันไม่ใช่หมา แกจะพูดว่าอย่างนั้นใช่ไหม?"
"มันไม่ใช่หมาจริงๆด้วย! แต่สีของมันก็เป็นสีเดียวกับไอ้กี้นี่นา"
"เอ้าดูไห้ดีๆ..ดูให้ละเอียดแล้วบอกฉันอีกทีซิว่าแกเห็นตัวอะไรกันแน่?"
"นี่มันหมาที่มีหน้าเป็นลิงนี่ครับท่านศาสตราจารย์?"
"แล้วเป็นอย่างไร มีอะไรผิดสังเกตบ้างไหมล่ะ ช่วยบอกให้ผมทราบหน่อยซิตาเบี้ยว?"
"ไอ้ตัวนี้กับไอ้ตัวข้างบนโน้น มันสลับที่กันใช่ไหมนี่ โอ..คุณพระคุณเจ้า..นี่มันอะไรกันครับท่านศาสตราจารย์รอง?"
"ก็อย่างที่ตาเบี้ยวว่านั่นแหละมันสลับที่กัน"
"แสดงว่าไอ้กี้ของผมไม่ได้หายไปไหนใช่ไหมครับ?"
"ใช่มันอยู่ที่นี่กับไอ้แซมลิงของตาผันที่ท้ายไร่เชิงเขานู้นอีกตัว!"
"ท่านศาสตราจารย์เลยจับไอ้กี้กับไอ้แซมทั้งสองตัวมาทำการทดลองในห้องนี้ใช่ไหมครับนี่?"
"ถูกต้องแล้วล่ะตาเบี้ยว"
"ยังงั้นนี่ก็แสดงว่าหน้าของไอ้กี้ไปอยู่บนคอของไอ้แซมและหน้าของไอ้แซมมาสลับอยู่บนคอของไอ้กี้อย่างนั้นใช่ไหมครับ?"
"คราวนี้ตาเบี้ยวเข้าใจถูกต้องแล้วสินะ?"
"แล้วที่ท่านศาสตราจารย์เรียกผมมาวันนี้มีธุระอะไรจะใช้ผมหรือครับ?"
"ก็เรื่องของเจ้าสองตัวนี่แหละ"
"เจ้าสองตัวนี้มันทำอะไรหรือครับ?"
"เจ้ากี้มันปีนขึ้นไปเห่าอยู่บนโน้น..ผมอยากจะให้ตาเบี้ยวเรียกมันลงมาให้ทีนะซี เพราะผมเรียกเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมลงมาซักที"
"อ้าว..เจ้ากี้นั้นไม่ใช่เจ้าตัวที่อยู่ข้างล่างนี้หรือครับ?"
"เปล่ามันสลับกันทั้งใบหน้าและสมอง ซึ่งเป็นแหล่งบัญชาการความรู้สึกนึกคิดของมันทั้งหมด มันถึงได้ขึ้นไปเห่าอยู่ข้างบนโน้นยังไงล่ะตาเบี้ยว"
"อ๋อ..ผมเข้าใจแล้วละครับว่าเจ้าสองตัวนี้มันสลับหน้ากัน แต่หน้าใครก็ยังเป็นของคน..เอ๊ย..ของตัวนั้นใช่ไหมล่ะครับนี่ โอ้..มันช่างมหัศจรรย์จริงๆเลยนะครับท่านศาสตราจารย์!?"
"ไม่ต้องพูดพล่าม..เรียกไอ้กี้ลงมาได้แล้วตาเบี้ยว เดี๋ยวผมจะฉีดยาให้มันหน่อย"
"กี้เอ๊ย ลงมานี่ซิลูก โม่ะๆๆ ลงมาข้างล่าง มากินกระดูกไก่นี่"
นายเบี้ยวร้องเรียกเจ้ากี้พร้อมกับล้วงกระดูกน่องไก่ย่างจากถุงพลาสติกที่เตรียมไว้ให้มันตั้งแต่ตอนเช้าแล้วออกมาชูให้มันดู
เมื่อได้ยินเสียงเรียกพร้อมกับมองเห็นกระดูกน่องไก่ของโปรดเจ้าลิงหน้าหมาก็เลียลิ้นแผล็บทำท่ารีบปีนลงมาทันที ทั้งๆที่ตายังคงจ้องอยู่ที่กระดูกน่องไก่ชิ้นนั้นตลอดเวลา
"น่าน..อย่างนั้นซีเจ้าคนเก่ง ลงมาคาบเอาไปเลย" นายเบี้ยวพูดพร้อมกับก้าวเดินเข้าไปใกล้และไปหยุดยืนอยู่ตรงโต๊ะที่มีหมานอนหมอบอยู่ใต้โต๊ะนั้น
ฉับพลันเจ้าหมาหน้าลิงก็ผลุดลุกขึ้นยืนกระโดดตะปบพร้อมกับเอาปากคาบกระดูกไก่ชิ้นนั้นหลุดจากมือของนายเบี้ยววิ่งหนีออกไปทางประตู
ศาสตราจารย์รองฤทธิ์เห็นดังนั้นก็กระโดดขวางประตูเอาไว้ ทำให้เจ้าหมาหน้าลิงหยุดชะงักหมุนตัวกลับวิ่งวนไปแอบอยู่ที่ด้านหลังตู้อบไม้สนนั้น
เมื่อเห็นดังนั้นเจ้าลิงหน้าหมาที่กำลังจ้องกระดูกไก่ตาเป็นมันอยู่ ก็กระโดดแผล็วโหย่งๆตามเข้าไปแย่งกระดูกกันอยู่ที่ด้านหลังตู้อบไม้สนนั้นจนเสียงขรมไปหมดไม่รู้ว่าเสียงหมาหรือเสียงลิง
ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายกันอยู่นั้นร่างของนางบุญมาก็โผล่ประตูเข้ามาพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ท่านศาสตราจารย์รองฤทธิ์ พลางเปล่งเสียงตะโกนแข่งกับเสียงลิงและเสียงหมาที่กำลังแย่งกระดูกไก่กันอยู่อย่างอึกทึกเอ็ดอึงว่า...
"ท่านศาสตราจารย์คะ..มีคนชื่อศรชัยจากระยองมาขอพบท่านค่ะ!"
*********
เมื่อวันที่ : ๐๕ ต.ค. ๒๕๕๑, ๐๑.๕๘ น.
สนุกขึ้นเรื่อย ๆ นะคะ ขอตั้งชื่อว่า "หมา-ลิงสลับร่าง"