![]() |
![]() |
ปักษิณ![]() |
...เด็ดดวงนอนระบม เพราะพิษบาดแผลอยู่ข้ามวัน จนกระทั่งบ่ายสองโมงของวันรุ่งขึ้นอำนวยเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งในกลุ่มของเด็ดดวงก็พาดาวเรืองน้อ...
ตอน : ศาสตราจารย์คู่แฝด
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ดาวเรืองร้องไห้สะอึกสะอื้น เธอตกใจมากเนื่องจากไม่สามารถที่จะมองเห็นหน้าพี่ชายได้ โดยเห็นแต่เพียงบาดแผล ทั้งนี้เพราะศรชัยได้คลุมร่างเขาด้วยผ้าห่มทั่วทั้งร่างเปิดไว้เพียงรอยบาดแผลให้เห็นเท่านั้นเอง
หมอลิซ่า แฟรี่ขอคุยกับคนเจ็บตามลำพังเพื่อสอบถามถึงความเป็นมาพร้อมกับทำความสะอาดบาดแผลไปด้วยในตัว ศรชัยจึงพาดาวเรืองและอำนวยออกมาคุยยังห้องรับแขกที่อยู่ด้านหน้าบ้าน
"คุณเด็ดดวงพอที่จะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้หมอฟังให้ละเอียดหน่อยจะได้ไหมค่ะ?"
"ยินดีครับคุณหมอ แต่ก่อนอื่นผมอยากจะขอร้องให้คุณหมอช่วยปิดเป็นความลับอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้อื่นรู้อีกเป็นอันขาด คุณหมอพอจะรับปากผมได้ไหมครับ?"
"หมอให้คำรับรองทุกอย่างตามที่คุณต้องการค่ะคุณเด็ดดวง"
เด็ดดวงมีความจำเป็นที่จะต้องเล่าความจริงเรื่องสภาพการล่องหนของเขาให้หมอแฟรี่ได้รับรู้ เพราะเธอคือผู้เดียวที่เขาไว้วางใจว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องราวดังกล่าวให้ผู้อื่นได้รับรู้อีก เนื่องจากเขากลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อตัวเขารวมไปถึงศาสตราจารย์เอกวิทย์และศาสตราจารย์รองฤทธิ์เจ้าของงานวิจัยอันพิสดารพันลึกนี้
"ท่านศาสตราจารย์ที่ว่านี้เป็นคู่แฝดกันใช่ไหมคะคุณเด็ดดวง?"
"ถูกต้องแล้วครับคุณหมอแฟรี่ ท่านเป็นคู่แฝดกัน"
"เรียกชื่อหมอว่าลิซ่าเฉยๆก็ได้ค่ะคุณเด็ดดวง"
"ครับคุณหมอ..เอ้อ..คุณลิซ่า"
"ค่อยดูเป็นกันเองหน่อย ถ้าท่านทั้งสองคือศาสตราจารย์คู่แฝดที่ลิซ่าเคยได้ศึกษาเกี่ยวกับงานวิจัยของท่านตั้งแต่ที่เดนมาร์กและลิซ่าก็อยากพบตัวท่านมานานแล้ว"
"ผมคิดว่าน่าจะเป็นคนคู่แฝดที่คุณลิซ่าพูดถึงนะครับ เพราะในเมืองไทยเรานี้จะหาศาสตราจารย์ที่เป็นคู่แฝดกันนั้นยากเต็มทน แทบจะเรียกว่าไม่มีเลยก็ได้นอกจากท่านศาสตราจารย์เอกวิทย์และศาสตราจารย์รองฤทธิ์คู่แฝดคู่นี้คู่เดียวเท่านั้น"
"โอ้พระเจ้า...ใช่ท่านศาสตราจารย์คู่แฝดมหัศจรรย์จริงๆด้วย!"
ซึ่งทำให้ลิซ่า แฟรี่ตื่นเต้นมากทั้งนี้เนื่องจากเธอเคยได้ศึกษาเรื่องงานวิจัยของศาสตราจารย์ทั้งคู่มาก่อนตั้งแต่ในสมัยที่ยังเป็นนักศึกษาแพทย์อยู่ที่โคเปนเฮเก้น จนถึงขนาดอยากที่จะเดินทางไปพบกับท่านศาสตราจารย์แฝดทั้งสองผู้ซึ่งสามารถทำการวิจัยทดลองทำให้สิ่งมีชีวิตและมนุษย์แปรสภาพโปร่งแสงได้ด้วยพลังงานธรรมชาติ นับว่าเป็นวิทยาการอันลี้ลับคล้ายกับศาสตร์ของมนุษย์ยุคโบราณที่มีการกล่าวขานกันถึงการล่องหนหายตัวด้วยเวทมนต์คาถา
เป็นไปได้ว่าท่านศาสตราจารย์ทั้งสองได้ค้นพบศาสตร์อันลี้ลับนี้เข้าโดยบังเอิญจากการทดลองทางวิทยาศาสตร์ หรือไม่อีกทีก็อาจจะเกี่ยวกับสถานที่อันเป็นที่ตั้งศูนย์วิจัยของท่านทั้งสองที่บ้านขุนซ่องนั้นอุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญและมีบรรยากาศเหมาะสมในการทำให้สิ่งมีชีวิตล่องหนอยู่ได้ในสภาพโปร่งแสง
นั่นก็ถือว่าคือศาสตร์อันเร้นลับซึ่งไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเกิดจากเวทมนต์คาถาหรือวิทยาการพิสดารของคนยุคโบราณที่สามารถทำให้เกิดปรากฏการณ์นอกเหนือธรรมชาติได้ปานประหนึ่งเป็นตำนาน
ลิซ่า แฟรี่รู้ระแคะระคายเรื่องราวของเด็ดดวงมาก่อนแล้วว่าเขากำลังหนีเงื้อมมือกฎหมายอย่างหัวซุกหัวซุนอยู่ในขณะนี้ เพราะเขามีคดีสำคัญติดตัวในโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาและสังหารโหดอีกหลายราย
ตามคำบอกเล่าถึงประวัติและความประพฤติโดยรวมจากปากของดาวเรืองน้องสาวของเขาที่ได้เล่าให้ฟังนั้นแทบจะตรงกันข้าม และโดยเฉพาะในครั้งที่อัมพิกาเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ ซึ่งเธอได้ยืนยันว่าผู้ที่พามาส่งยังสถานีอนามัยตำบลแสนสุขที่ลิซ่า แฟรี่เป็นแพทย์อาสาประจำอยู่ในยามวิกาลนั้นก็คือเด็ดดวงยิ่งทำให้เธอค่อนข้างจะมั่นใจได้ว่าเขาเป็นคนดีตามที่ดาวเรืองได้บอกเล่ามาแต่ต้น
ฉะนั้นเมื่อดาวเรืองได้ไปขอร้องเธอให้ไปช่วยเยียวยารักษาอาการบาดเจ็บของพี่ชายที่มาบตาพุด ลิซ่าจึงไม่ได้ลังเลเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอรู้ดีว่ามีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่เขามั่นใจในความบริสุทธิ์ใจเพื่อให้การรักษาพยาบาลเป็นไปอย่างลับๆ
เมื่อลิซ่า แฟรี่ทราบความจริงเรื่องการล่องหนของเขาด้วยฝีมือของศาสตราจารย์คู่แฝดผู้อัจฉริยะของวงการวิทยาศาสตร์ไทยแล้ว เธอจึงไม่ได้แปลกใจสักเท่าใดเลย เพียงแต่คิดในใจว่าท่านศาสตราจารย์แฝดทั้งสองคิดค้นวิทยาการล้ำหน้าไปได้อย่างรวดเร็วเกินคาดเท่านั้นเอง
หลังจากทำแผลพร้อมทั้งฉีดยาให้เด็ดดวงแล้วหมอแฟรี่ก็ได้ให้ยาปฏิชีวนะและยารับประทานเท่าที่จำเป็นก่อนที่จะลากลับโดยกำชับให้เขาอยู่พักผ่อนรักษาตัวต่ออีกสักระยะหนึ่ง
"ลิซ่าเห็นทีจะต้องเดินทางกลับหนองมนแล้วละคุณเด็ดดวง แต่ทางที่ดีดิฉันอยากจะแนะนำให้กลับไปพักรักษาตัวที่ศูนย์วิจัยของท่านศาสตราจารย์คู่แฝดดูจะปลอดภัยกว่านะค่ะ"
"คุณลิซ่าคิดอย่างนั้นหรือครับ?"
"ใช่ซีคะ..เพราะลิซ่าจะได้มีข้ออ้างกับท่านศาสตราจารย์ทั้งสองในการที่จะติดตามไปดูอาการคนเจ็บซึ่งเป็นคนไข้ส่วนตัวของลิซ่าเป็นครั้งคราวยังไงล่ะคะ"
"คุณลิซ่าสนใจงานของท่านมากขนาดนั้นเลยหรือครับ?"
"ถูกต้อง..ลิซ่าสนใจงานวิจัยของท่านศาสตราจารย์คู่แฝดนี้มานานตั้งแต่เป็นนักศึกษาแล้วล่ะค่ะ!"
"นับว่าเป็นโชคดีของประเทศไทยนะครับที่ได้มีนักวิทยาศาสตร์ที่สมองใสแบบท่านทั้งสองคนนี้"
"แล้วลิซ่าจะตามคุณเด็ดดวงไปทีหลังที่ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์บ้านเขาซ่องนะคะ กรุณาแจ้งให้ลิซ่าทราบด้วยนะคะคุณเด็ดดวง เมื่อคุณได้เดินทางไปถึงที่นั่นแล้ว"
"ครับคุณลิซ่า!"
*********
อำนวยพาหมอลิซ่า แฟรี่และดาวเรืองกลับไปส่งที่หนองมนในเย็นวันนั้นเอง ดาวเรืองรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อหมอแฟรี่ที่เธอนับถือได้ยืนยันว่าอาการบาดเจ็บของชายหนุ่มไม่ได้รุนแรงอย่างที่ได้คาดคิดกันตั้งแต่แรก คิดว่าเพียงพักผ่อนเพื่อรักษาตัวสักสองสามสัปดาห์ก็น่าจะอาการดีขึ้นจนเป็นปกติได้
เมื่อรถเลี้ยวเข้าไปส่งยังห้องแถวอันเป็นที่พักอาศัยของดาวเรืองนั้น ดาวเรืองมองเห็นกำจรกำลังนั่งคุยกับใครคนหนึ่งที่หน้าบ้านเช่าแห่งนั้นตามลำพัง
ที่ฝั่งตรงข้ามมีรถเก๋งกะทัดรัดสีเหลืองมะนาวจอดอยู่อย่างไม่เคยเห็นมาก่อน เมื่อเข้าไปจอดรถใกล้ๆ ดาวเรืองจึงได้ยินเสียงหมอลิซ่า แฟรี่เอ่ยชื่อออกมาเบาๆ
"คุณอัมพิกา!"
"คุณหมอรู้จักกับเธอหรือคะ?" ดาวเรืองถามพร้อมกับมองหน้าหมอแฟรี่อย่างงงๆ
"รู้จักหรือ?..ใช่หมอรู้จักเธอดีทีเดียวแหละ ก็เธอคนนี้คือคนที่คุณเด็ดดวงพี่ชายของคุณช่วยชีวิตเอาไว้อย่างไรล่ะ..อ้อ..สวัสดีค่ะคุณอัมพิกา"
"สวัสดีค่ะคุณหมอแฟรี่ และคุณก็คือคุณดาวเรืองใช่ไหมคะ?"
"ใช่ค่ะ..สวัสดีค่ะคุณอัมพิกา เอ้อ..ขอประทานโทษคุณมาหาใครหรือค่ะ?"
"ก็มาหาคุณดาวเรืองนั่นแหลค่ะ!"
"มาหาดาวเรือง?"
"ค่ะ..อัมพิกามาหาคุณดาวเรืองเพื่ออยากจะทราบถึงวิธีที่จะได้พบกับคุณเด็ดดวงผู้ที่เคยได้ช่วยชีวิตอัมพิกาไว้น่ะค่ะ"
"ช่วยชีวิตเอาไว้..ตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะคุณอัมพิกา ทำไมดาวเรืองถึงไม่เห็นรู้เรื่องเลยล่ะค่ะ?"
"ก็หลังจากที่เธอพานายแขกสุเรนทรากุมารไปให้หมอรักษาเพียงวันเดียวเท่านั้นถ้าหมอจำไม่ผิด พี่ชายของเธอเป็นคนขับรถพาเขาไปส่งยังสถานีอนามัยตอนที่หมอกำลังอยู่พอดีที่บ้านพัก" ลิซ่า แฟรี่กล่าวตอบเพื่อให้ความกระจ่างแทนอัมพิกา
"คุณหมอก็เลยรู้จักกับพี่เด็ดดวงเขาตอนนั้นเอง ใช่ไหมค่ะ?"
"ไม่ใช่หรอกคุณดาวเรือง ที่จริงหมอไม่เห็นหน้าเขาด้วยซ้ำได้ยินแต่เสียงของเขาที่ร้องเรียกว่าเอาคนเจ็บมาส่งเท่านั้น"
"แล้วคุณหมอแฟรี่รู้ได้อย่างไรว่าเป็นพี่เด็ดดวงของฉันล่ะ?"
"คุณอัมพิกาสิคะที่เป็นคนเล่าให้ฟัง ว่าใครกันที่เป็นคนพาเธอมาส่งที่สถานีอนามัยในเย็นวันนั้น"
"ใช่หลังจากอัมพิกาเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำได้รับบาดเจ็บจนเกือบสิ้นสติ คุณเด็ดดวงก็ได้เข้ามาช่วยและขับรถพาส่งสถานีอนามัยซึ่งนับว่าเป็นความโชคดีของอัมพิกาที่คุณหมอกำลังอยู่ที่บ้านพักพอดีในตอนนั้น"
"พี่เด็ดดวงได้รับบาดเจ็บถูกยิงอาการสาหัส ขณะนี้กำลังนอนพักอยู่ที่บ้านเพื่อนของเขาค่ะ"
"ถูกยิง!..ถูกยิงที่ไหนค่ะ อาการเป็นอย่างไรบ้าง?"
"อาการพี่เด็ดดวงปลอดภัยแล้วค่ะคุณอัมพิกา คุณอำนวยมารับดาวเรืองกับคุณหมอแฟรี่ไปดูอาการเขาเพิ่งกลับมานี่แหละค่ะ"
"โล่งอกไปทีที่รู้ว่าเขาปลอดภัย นี่แหละที่เขาว่าคนดีผีคุ้มนะค่ะ?"
"ก็เกือบเป็นผีไปเหมือนกันนะครับ ดีแต่ไม่ถูกที่สำคัญไม่อย่างนั้นไอ้เด็ดดวงมีหวังจอดแน่" อำนวยพูดเสริมขึ้นบ้าง
"แล้วอัมพิกาจะแวะเลยไปเยี่ยมดูอาการเขาบ้างได้ไหมค่ะเนี่ย?"
"คิดว่าพรุ่งนี้เขาคงย้ายไปพักรักษาตัวที่ศูนย์วิจัยบ้านขุนซ่องแล้วล่ะค่ะคุณอัมพิกา หมอว่ารอให้เขาย้ายไปก่อนแล้วเราค่อยขึ้นไปพร้อมกันดีไหมคะ?"
"คุณหมอจะไปเยี่ยมเขาอีกหรือค่ะ?"
"ใช่แล้วค่ะคุณอัมพิกา คุณเด็ดดวงเป็นคนไข้ที่อยู่ในความดูแลของหมอ"
"แต่อัมพิกาเพิ่งกลับมาจากบ้านขุนซ่องเมื่อวานนี้เองนี่คะ"
"คุณอัมพิกาไปทำอะไรที่นั่นค่ะ?"
"คุณป้าเปิดร้านค้าอุปกรณ์ก่อสร้างอยู่ที่นั่นค่ะ คุณหมอจะเดินทางไปเยี่ยมดูอาการคุณเด็ดดวงอีกเมื่อไหร่ล่ะคะ?"
"คงวันสองวันนี้แหละค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นถ้าคุณหมอจะเดินทางไปบ้านขุนซ่องวันไหน กรุณาบอกให้อัมพิกาทราบด้วยนะคะ"
"คุณอัมพิกาจะไปด้วยหรือ แล้วพักอยู่ที่ไหนล่ะคะนี่?"
"พักอยู่ที่โรงแรมบางแสนบีชโฮเต็ลค่ะ"
*********
เมื่อวันที่ : ๐๒ ต.ค. ๒๕๕๑, ๑๒.๕๔ น.
อืมม์ ตอนนี้ตั้งชื่อยากจัง อยากจะตั้งว่า "ศาสตราจารย์คู่แฝด" แต่คิดว่า "สามหญิงเผชิญหน้า" อาจจะเหมาะกว่าค่ะ