![]() |
![]() |
ปักษิณ![]() |
...๐๖.๓๐ นาฬิกา บุปผชาติแทบไม่อยากที่จะเชื่อสายตาตัวเอง เลยว่าบุรุษที่นั่งอยู่ตรงหน้าของเธอขณะนี้คือคนที่เธอฝันถึงเขามาตลอดทั้งคืน... ใช่แล...
ตอน : ฝันที่เป็นจริง
๐๖.๓๐ นาฬิกาบุปผชาติแทบไม่อยากที่จะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่าบุรุษที่นั่งอยู่ตรงหน้าของเธอขณะนี้คือคนที่เธอฝันถึงเขามาตลอดทั้งคืน...
ใช่แล้ว..เมื่อคืนที่ผ่านมาเธอช่างฝันถึงเขาได้ฝันถึงเขาดีตลอดเวลาที่นอนหลับอยู่บนเตียงนอน แต่พอเธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาทีไร ก็ไม่ปรากฏร่างของชายหนุ่มให้เห็นเลยแม้แต่เงา
เมื่อเธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จและเดินลงมาเพื่อที่จะไปจ่ายตลาดเช้ากับนางบุหงาผู้มารดา ก็ปรากฏว่าฉันทวัฒน์ได้มานั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกก่อนแล้ว
ส่วนเจ้าข้าวเหนียวและเด็กชายบี๊บนั้นได้พากันออกไปวิ่งไล่กันกลางสนามหญ้าหน้าบ้านแต่เช้าตรู่ ส่งเสียงดังให้เกรียวกราวได้ยินก้องไปทั่ว ทั้งคู่ต่างก็มอมแมมไปด้วยน้ำค้างยามเช้าและเศษไม้ใบหญ้า หากเสียงที่ได้ยินนั้นบ่งบอกถึงความสนุกสนาน
สาวสวยในชุดสีชมพูยกมือขึ้นทาบอกแสดงถึงอาการตกตะลึงเมื่อเห็นหน้าแขกผู้มาเยือน...
ไม่รู้อะไรดลใจให้บุปผชาติสวมชุด พรชมพู เดินนวยนาดลงมาจากชั้นบนราวกับนางพญา ทั้งๆที่ไม่ได้นัดกันไว้สักนิดว่าวันนี้จะมีนัดออกไปไหนกับฉันทวัฒน์หรือใครก็ตาม นอกจากจะออกไปเดินตลาดเช้ากับมารดาเท่านั้น
เหตุผิดปกติอย่างนี้ทำเอานางบุหงารู้สึกคลางแคลงใจอยู่ครามครัน
"แม่บุบลงมาพอดีมาช่วยยกกาแฟไปให้คุณฉันแกหน่อยซีจ๊ะลูก" เสียงนางบุหงาร้องบอกบุปผชาติออกมาจากในครัวที่อยู่ติดกันกับห้องรับแขก
"ค่ะ..แม่"
กาแฟอะราบิก้าดอยคำส่งกลิ่นหอมฉุยออกมาจากในครัว ชายหนุ่มส่งยิ้มหวานจ๋อยให้กับสาวในชุดพรชมพูที่ยิ้มตอบรับเขาด้วยใบหน้าที่บานเป็นกะโล่จนหุบแทบไม่ลง ตาต่อตาประสานกันราวกับจะสื่อความหมายที่ซ่อนลึกอยู่ภายในหัวใจ ทำเอานางบุหงาที่ลอบมองออกมาจากในครัวอมยิ้มอย่างมีความสุขที่การคาดคะเนของนางไม่ได้พลาดไปเลยแม้แต่น้อย
"ขอบคุณครับคุณบุบ..กาแฟหอมกรุ่นเสิร์ฟโดยนางฟ้าในยามเช้าอย่างนี้เป็นความสุขที่หาไม่ได้ง่ายๆนะครับในโลกใบนี้"
อารมณ์ของฉันทวัฒน์ที่เอ่ยออกไปนั้นแม้แต่ตัวของผู้พูดเองก็ยังรู้สึกแปลกใจในคำพูดของตัวเองอยู่ลึกๆ ทำเอาหญิงสาวอายม้วนหน้าแดงหากแต่ก็โต้ตอบเขาด้วยคำพูดในอารมณ์ทำนองเดียวกัน
"สรรหาคำหวานมาโปรยแต่เช้าๆอย่างนี้เห็นทีว่ากาแฟถ้วยนี้คงไม่ต้องใส่น้ำตาลเป็นแน่แท้ หรือว่าหวานจนเคยชินเสียแล้วก็ไม่รู้"
นางบุหงาเกือบทำถ้วยกาแฟของเธอเองที่กำลังยกขึ้นดื่มตกลงแตกหากแต่ยั้งไว้ได้ทันจนเกือบสำลักเมื่อได้ยินคำพูดของบุตรี
"จริงๆนะครับคุณบุบ..วันก่อนที่บริษัทคุณบุบทำเอาผมตะลึงกับนางฟ้าสีชมพูมาครั้งหนึ่งแล้ว ไม่นึกว่าจะมาเจอนางฟ้าเจ้าเดิมเข้าอีกในเช้าวันนี้เป็นรอบที่สอง มีใครบ้างล่ะที่จะอดใจอยู่นิ่งได้ไหว?"
"ไม่นึกเลยว่าคนที่จูงหมาจะมีอารมณ์ได้สุนทรีถึงปานนี้ ใครหนอจะเป็นคนที่โชคดีได้ยินมธุรสวาจาเช่นนี้อยู่เป็นประจำ?"
"ถ้าพวงบุปผชาติชอบถ้อยคำมธุรสเฉกเช่นนี้ จะมัวช้าอยู่ไยเล่านางฟ้าคนงามของเรียม เร่งเผยความในใจของนางออกมาเถิด ข้าน้อยคนจูงหมาพร้อมที่จะรับฟังและอ้าแขนรับนงรามอยู่แล้วทุกเวลา"
"จริงๆนะ..คนจูงหมาไม่ได้หลอกข้าเล่นดอกนะ ถ้าเช่นนั้นข้ายินดีที่จะเป็นคนผู้นั้นเสียเอง คงจะมีความสุขไม่น้อยเลยทีเดียว" นางฟ้าบุปผชาติเอ่ยตอบพร้อมด้วยรอยยิ้มและดวงตาเป็นประกายพลางยื่นมือส่งให้ด้วยความเต็มใจเมื่อแลเห็นชายหนุ่มคุกเข่าลงตรงหน้า
บทละครเรื่องนางฟ้ากับคนจูงหมาจบลงด้วยเสียงถ้วยกาแฟของนางบุหงาที่ทำตกลงแตกจนแล้วจนรอด ทั้งนี้เพราะซาบซึ้งและอินกับบทที่พระนางคู่นี้เล่นได้เสมือนจริง เพราะในขณะที่ถ้วยตกลงแตกนั้นพระเอกกำลังยกมือของนางฟ้าขึ้นจุมพิตพอดี ทำเอาฉันทวัฒน์รีบวางมือบุปผชาติลงแทบไม่ทัน
นางบุหงาเดินปรบมือเปาะแปะออกมาจากในครัวด้วยความยินดี นางแสร้งตีหน้าเศร้านิดหนึ่งเมื่อต้องเอ่ยคำขอโทษ
"แม่ต้องขอโทษที่ซุ่มซ่ามไปหน่อยจนทำถ้วยกาแฟตกแตก พ่อฉันกับแม่บุบไม่ต้องเกรงใจหรอกคุยกันต่อไปเถอะ เดี๋ยวแม่ขึ้นไปข้างบนสักครู่ แล้วจึงจะลงมาเก็บกวาดเอง"
พูดจบนางบุหงาก็เดินขึ้นบันไดไปชั้นบนทั้งนี้เพื่อเป็นการเปิดทางให้หนุ่มสาวทั้งสองได้มีโอกาสพูดความในใจของกันและกันให้อีกฝ่ายได้รับฟัง โดยนางนั้นรู้ดีด้วยประสบการณ์ของผู้ที่อาวุโสกว่า ว่าถ้านางยังขืนยืนอยู่ใกล้ๆทั้งคู่คงไม่กล้าที่จะพูดความในใจของกันและกันออกมาให้อีกฝ่ายได้รับฟังเป็นแน่แท้
"ผมต่างหากที่ทำอะไรรุ่มร่ามเอง ผมต้องขอโทษด้วยครับ ที่ออกจะฉวยโอกาสมากไปหน่อย" ฉันทวัฒน์พูดตามความจริง
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อันที่จริงบุบกลับยินดีด้วยซ้ำไปถ้าบทละครที่เราเสแสร้งแกล้งแสดงกันเมื่อกี้นี้จะเป็นความจริง"
"คุณบุบพูดจริงหรือนี่?"
"จริงซีคะ"
"นี่ผมไม่ได้ฝันไปแน่นะครับคุณบุบ?"
"คุณไม่ได้ฝันไปหรอกค่ะ และบุบก็ไม่ได้ฝันไปด้วยเหมือนกันใช่ไหมคะ?"
"ไม่..เราทั้งคู่ต่างอยู่ในโลกของความเป็นจริง"
"คุณฉันคนดีของบุบ!"
"โอ้..สุดที่รักของผม นางฟ้าคนดีของผม..นี่ผมพอที่จะพูดคำนี้ได้เต็มปากแล้วใช่ไหมครับ?"
"ค่ะ" บุปผชาติตอบรับพลางพยักหน้ายืนยันคำพูดสั้นๆนั้น
ทั้งสองหนุ่มสาวโผผวาเข้าสู่อ้อมกอดของกันละกันด้วยดวงใจที่สมปรารถนา น้ำตาแห่งความปิติเอ่อท่วมท้นเบ้าตาของบุปผชาติ
ฉันทวัฒน์จูบซับรอยน้ำตาให้กับนางฟ้าของเขาด้วยหัวใจที่พองโต...
ชายหนุ่มกระหยิ่มยิ้มย่องที่บัดนี้เขาสามารถกำดวงใจดวงน้อยดวงนี้ไว้ได้แล้ว...
ทั้งเขาและเธอต่างก็ให้สัญญาต่อกันว่า...
จะทะนุถนอมความรักและความงดงามที่บังเกิดขึ้นนี้ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่...
"ผมจะไม่มีวันลืมภาพของ นางฟ้าในฝัน ที่อยู่ใน ชุดสีชมพู คนนี้ได้เลยตลอดไป"
"คุณฉันพูดว่านางฟ้า ในฝัน หรือคะ?"
"ใช่..นางฟ้าในความฝัน ที่ผมฝันถึงทุกคืนนับจากวันที่ได้พบคุณบุบในชุดสีชมพูนี้ ซึ่งตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาผมก็เพียรเฝ้าฝันถึงนางฟ้าคนสวยที่สวมชุดสีชมพูคนเดิมอย่างนี้ทุกคืน"
บุปผชาติใจหายวาบขนลุกซู่หวนนึกไปถึงอาถรรพ์ของชุด พรชมพู ตามคำบอกเล่าของบุษบาผู้เป็นพี่สาวว่า ถ้าไม่เจอกับตัวเองจะไม่มีวันเชื่ออย่างเด็ดขาด
มาบัดนี้อาถรรพ์สวาทของชุดพรชมพูได้บังเกิดขึ้นกับตัวเธอเองแล้ว!
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!
เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในครั้งนี้ ต้องไม่ใช่เป็นการบังเอิญอย่างแน่แท้ เพราะใช่มีเธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เฝ้าฝันถึงใบหน้าของนายคนจูงหมาแต่เพียงฝ่ายเดียว หากฉันทวัฒน์ก็ยอมรับแล้วเช่นเดียวกันว่าได้เพียรเฝ้าฝันถึงเธอคืนแล้วคืนเล่าราวกับมีอะไรมาคอยดลใจให้คนสองคนต้องเฝ้าคิดถึงกันตลอดเวลาทั้งยามหลับแลยามตื่น...
ช่างเป็นปรากฏการณ์ที่เหลือเชื่อเสียจริงๆ...
"จริงหรือคะที่คุณฉันฝันถึงนางฟ้าในชุดสีชมพู?" บุปผชาติถามย้ำเพื่อที่จะได้ฟังให้แน่ใจ
"จริงซีครับ..ฝันถึงทุกๆคืนเลยนับตั้งแต่วันที่เห็นคุณในชุดนี้เป็นต้นมา"
"นางฟ้าที่เห็นในฝันนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร สวยมากไหมคะ?"
"สวยครับ..สวยมาก สวยเหมือนคุณบุบเปี๊ยบราวกับเป็นคนๆเดียวกันเลยครับ"
"ไม่น่าเชื่อ!?"
"ทำไมหรือครับ?"
"บุบก็เฝ้าฝันถึงคุณฉันทุกคืนเหมือนกัน หลายคืนมาแล้วจนนึกแปลกใจตัวเองว่า ไปฝันถึงเขาทำไมได้ทุกคืน?"
"คุณคงคิดถึงผมมากเช่นเดียวกันนั่นเอง!"
บุปผชาติไม่กล้าที่จะบอกชายหนุ่มว่า ด้วยอาถรรพ์ของชุด พรชมพู นี้ต่างหากที่ทำให้คู่รักหลายคู่ได้ลงเอยประสบสุขสมหวังในความรักกันมาแล้ว ดังเช่นคู่ของเธอและเขาเป็นตัวอย่าง...
ด้วยเธอกลัวเขาจะหัวเราะเอาได้ว่างมงายเพ้อเจ้อ หากแต่บุปผชาติเชื่อแล้วอย่างสิ้นสงสัยว่า เธอและเขาทั้งคู่ลงเอยได้ด้วยอาถรรพ์ของชุดสวย พรชมพู อย่างแน่นอน...
แต่ความจริงอย่างที่ฉันทวัฒน์พูดก็มีส่วนถูกต้องอยู่เหมือนกันที่ความคิดถึงคำนึงถึงกันอยู่ตลอดเวลานั้นอาจทำให้ฝันถึงกันได้ทุกวันเช่นเดียวกัน บุปผชาติจึงพยักหน้าตอบรับ...
"คงเป็นเช่นนั้นกระมังคะ"
"นี่แสดงว่าใจของเราทั้งสองผูกพันกันทั้งในยามหลับและตื่นเลยทีเดียว"
ชายหนุ่มรีบคลายมือที่โอบกอดหญิงสาวออกเมื่อได้ยินเสียงคนเดินลงบันไดมาจากชั้นบน ฉันทวัฒน์เสไปยกกาแฟอะราบิก้าดอยคำเย็นชืดที่เหลือครึ่งถ้วยขึ้นดื่มจนหมด...
*********
เมื่อวันที่ : ๑๑ ก.ค. ๒๕๕๑, ๐๖.๓๐ น.
ขอเอาชื่อรายการทีวีเก่ามารีไซเคิล "ฝันที่เป็นจริง" ค่ะ