![]() |
![]() |
ปักษิณ![]() |
...เมื่อขณะที่ผ้าผูกตาถูกเปิดออกนั้น ฉันทวัฒน์ยังคงถือสายจูงเจ้ามะลิหมาน้อยอยู่ในมือ เขามองเห็นตัวเองยืนอยู่ภายในห้องเพดานสูงโล่ง เบื้องหน้าขอ...
ตอน : ตกเป็นจำเลย
เมื่อขณะที่ผ้าผูกตาถูกเปิดออกนั้น ฉันทวัฒน์ยังคงถือสายจูงเจ้ามะลิหมาน้อยอยู่ในมือ เขามองเห็นตัวเองยืนอยู่ภายในห้องเพดานสูงโล่ง เบื้องหน้าของเขาเป็นแท่นหรือโต๊ะที่สร้างคล้ายกับคอกพยานหรือคอกจำเลยในศาล โดยมีผู้ที่นั่งสูงกว่าอยู่บนบัลลังก์ทางด้านขวามือเช่นเดียวกันกับบัลลังก์ของผู้พิพากษาชายที่นั่งอยู่บนบัลลังก์นั้นอายุประมาณห้าสิบเศษ ใบหน้าเคร่งขรึมวางท่าคล้ายผู้มีอำนาจ สวมแว่นตาขอบกระเลนส์สีชาอ่อน
บนโต๊ะเบื้องหน้าของชายผู้นั้นมีค้อนไม้ ที่หัวค้อนหุ้มด้วยยางสีดำวางทับอยู่บนหนังสือเล่มโตคล้ายคัมภีร์หรือหนังสือตำราอะไรสักอย่าง
ขนาบข้างบัลลังก์ทั้งสองด้านคือสุดใจและแป้น ทั้งคู่ยืนกอดอกวางสีหน้าคล้ายกับโกรธใครมาสักร้อยปี...
ดวงตาของคนทั้งสองดูถมึงทึง จ้องตรงแน่วไปข้างหน้าเหมือนรูปปั้นหุ่นที่ไม่มีชีวิตจิตใจ...
คนที่ยืนอยู่ใกล้ๆกับฉันทวัฒน์เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ออกไปทางท้วมนิดๆ สวมเสื้อเชิ้ตลายพร้อยมีเสื้อแจ็คเก็ตสีขี้ม้าสวมทับอีกทีใบหน้ายิ้มแสยะอยู่ตลอดเวลา
ชายคนดังกล่าวเดินเข้ามาใกล้คอกที่ฉันทวัฒน์ยืนอยู่พลางชะโงกหน้าเข้ามาจนเกือบชิดใบหน้าของขายหนุ่ม เอ่ยถามด้วยเสียงดังกังวานได้ยินก้องไปทั้งห้อง
"นายชื่อนายฉันทวัฒน์ใช่ไหม?"
"ใช่!"
"นายไปที่สมาคมชาวไร่อ้อยที่อำเภอท่ามะกาทำไม?"
"ไปเที่ยว!"
โครม!
เสียงค้อนหัวยางของชายที่อยู่บนโต๊ะผู้พิพากษาทุบเปรี้ยงลงบนหนังสือตำราเล่มใหญ่นั้น!
"ตอบให้ตรงคำถามหน่อยคุณฉันทวัฒน์"
เสียงของคนที่นั่งอยู่ข้างบนบัลลังก์นั้นบัญชาลงมาคล้ายกับพยายามที่จะทำสำเนียงให้มีอำนาจอันทรงพลัง
"ขอถามใหม่อีกที..นายไปที่สมาคมชาวไร่อ้อยเขตเจ็ดทำไม..นายฉันทวัฒน์?" นายคนเสื้อลายถามใหม่อีกครั้งหนึ่ง
"บังเอิญผมผ่านไปแถวนั้นพอดี"
"โกหก..อย่าลืมว่าคนของเราเห็นนายจูงหมาน้อยตัวนี้เข้าคิวซื้อปาท่องโก๋ตั้งแต่เช้า ก่อนที่จะเข้าไปนั่งฟังการอภิปรายด้วย"
"ซื้อปาท่องโก๋กิน มีความผิดด้วยหรือ?"
"ซื้อปาท่องโก๋นั้นไม่ผิดหรอก..แต่พวกเราอยากรู้ว่าที่นายไปที่นั่น นายมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?"
"ก็ไปฟังไปดูเหมือนคนอื่นเขานั่นแหละ"
"นายพบเห็นใครที่นายรู้จักหรือคิดว่ารู้จักบ้างหรือเปล่า?"
"ไม่เห็นทั้งคนที่รู้จักและคนที่คิดว่าผมรู้จักเลยสักคนเดียว"
"นายรู้จักนายบุญธรรมผู้ตายหรือไม่?"
"นายบุญธรรมตายแล้วหรือ?"
"นี่นายแกล้งทำเป็นไม่รู้จักหรือว่านายไม่รู้ว่าเขาตายแล้วจริงๆ?"
"นายบุญธรรมที่ว่านี้ ใช่คนที่มาพูดจาไกล่เกลี่ยในฐานะเป็นตัวแทนเจ้าของโรงงานน้ำตาลและพ่อค้าส่งน้ำตาลออกไปขายต่างประเทศใช่ไหม?"
"ใช่..คนนั้นแหละ"
"ผมก็เพิ่งเคยจะเห็นหน้าเขาวันนี้เหมือนกัน"
"ไม่จริงมั้ง..อย่าหลอกเราเสียให้ยากเลย..นายรู้จักกับเขาดีแค่ไหน มีคนเห็นว่าเขามองหน้านายแล้วยิ้มทำท่าคล้ายกับคนที่รู้จักกัน?"
"มีคนเห็นด้วยรึว่าเขายิ้มกับผม?"
"ใช่!"
"ใครกัน?"
"คนของเราที่อยู่ที่นั่นในวันนี้!"
"เขาเป็นอะไรตาย?"
"ถูกยิงตาย!"
"ถูกยิงตาย?"
"อ้าวนี่นายไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งทำเป็นไม่รู้กันแน่?"
"ขอโทษ..ผมไม่ทราบเรื่องเลยเป็นความสัตย์จริง"
"เขาถูกยิงตอนที่กำลังเดินสวนกันกับนาย..นายฉันทวัฒน์!"
"แปลก..ไม่ยักรู้เรื่องเลย"
"ไม่รู้เรื่องทั้งๆที่ตอนนั้นเขาทำท่ายิ้มให้นายด้วยอย่างนั้นหรือ?"
"ใช่..เดินสวนกันแล้วก็เห็นเขาหันหน้ามามองทำท่าจะยิ้มให้ ผมก็รีบเดินเลยเพื่อไปเอารถซึ่งจอดอยู่ข้างนอกที่ศูนย์แทร็กเตอร์ท่ามะกา"
"นายบุญธรรมถูกยิงตอนนั้นแหละ!"
"นี่..พวกคุณสงสัยว่าผมเป็นฆาตกรกระนั้นหรือ?"
"นายพูดเองนะ!"
"ไม่ใช่ผมอย่างแน่นอน เลิกคิดเรื่องนี้ได้เลย ถ้าผมเป็นฆาตกรที่ยิงนายบุญธรรมจริงในตอนนั้น ก็คงมีคนเห็นบ้างและแจ้งความกับตำรวจจับผมไปแล้ว"
"ตอนนั้นมันชุลมุน แล้วก็มีพวกเดินขบวนมามากมายเดินกันให้ขวักไขว่ คงไม่มีใครสนใจใครกันหรอก!"
"ผมขับรถออกมาจากศูนย์แทร็กเตอร์ท่ามะกา ผ่านมาตรงหน้าทางเข้าสมาคมก็เห็นคนมุงดูบางสิ่งบางอย่างกันเต็มไปหมด หากผมก็ไม่ได้หยุดรถดูว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในขณะนั้น"
"เราเห็นนายเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์ ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ นายเห็นอะไรหรือเห็นใครที่น่าสงสัยหรือเปล่า?"
"ไม่เห็นใครเลย!"
"นายเห็นคนของเราที่นั่นหรือเปล่า?"
"อาจจะเห็นแต่ไม่รู้จัก..เลยไม่ได้สนใจ"
"แต่เขารู้จักนายดี"
"ใครกัน?"
"เอาไว้ให้นายเห็นหน้าแล้วนายจะรู้เองนั่นแหละ..นายฉันทวัฒน์"
"อย่างนี้ก็เอาเปรียบกันชัดๆ เล่นแอบดูเราอยู่ข้างเดียว"
"ไม่ใช่มีแต่เพียงเราเท่านั้นนะ ยังมีคนอื่นอีกกลุ่มที่แอบดูนายอยู่เหมือนกัน"
"นี่ยังอุตส่าห์มีคนพวกอื่นที่แอบดูผมอีกหรือ?"
"คนของเราเห็นว่ายังมีคนอื่นอีกที่สะกดรอยตามนายไปด้วย"
"สะกดรอยตามผมไปหรือ?"
"ใช่แล้วพวกเขาซุ่มรอดูนายตั้งแต่เช้าเช่นเดียวกันกับคนของเรา"
"พวกเขาเหล่านั้น เป็นใครกันแน่ ผมพอจะรู้จักสักคนไหม?"
"คิดว่านายคงรู้จักหนึ่งในสามคนนี้อย่างแน่นอน"
"รู้จักหรือ?"
"ใช่..เขาเป็นคนของนายเอง!"
"คนของผมเอง..ทำไมผมถึงไม่เห็นเขาล่ะ?"
"เขาซ่อนตัวอยู่ในรถกระบะสองตอนขับเคลื่อนสี่ล้อติดฟิล์มดำมืด คันที่จอดอยู่ตรงข้ามกับสมาคมฯ"
"เห็นมีรถกระบะจอดอยู่หน้าสมาคมเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้สังเกต"
"นายรู้หรือเปล่าว่าพวกเขาสะกดรอยติดตามนายมาทำไม?"
"พวกเขาเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมด้วยใช่ไหม?"
"ข้อนี้แหละที่เราอยากจะรู้จากปากของนาย!"
*********
เมื่อวันที่ : ๑๑ มิ.ย. ๒๕๕๑, ๒๑.๕๗ น.
"ตกเป็นจำเลย"