นิตยสารรายสะดวก  Fiction  ๑๐ กรกฏาคม ๒๕๕๑
คนจูงหมา #19
ปักษิณ
...​เมื่อขณะ​ที่ผ้าผูกตาถูกเปิดออกนั้น​ ฉันทวัฒน์ยังคงถือสายจูงเจ้ามะลิหมาน้อยอยู่​ในมือ ​เขามองเห็นตัวเองยืนอยู่​ภายในห้องเพดานสูงโล่ง เบื้องหน้าขอ...

ตอน : ตกเป็นจำเลย

​เมื่อขณะ​ที่ผ้าผูกตาถูกเปิดออกนั้น​ ฉันทวัฒน์ยังคงถือสายจูงเจ้ามะลิหมาน้อยอยู่​ในมือ ​เขามองเห็นตัวเองยืนอยู่​ภายในห้องเพดานสูงโล่ง เบื้องหน้าของ​เขา​เป็นแท่นหรือโต๊ะ​ที่สร้างคล้าย​กับคอกพยานหรือคอกจำเลย​ในศาล ​โดยมีผู้​ที่นั่งสูงกว่าอยู่​บนบัลลังก์ทางด้านขวามือเช่นเดียวกัน​กับบัลลังก์ของผู้พิพากษา

ชาย​ที่นั่งอยู่​บนบัลลังก์นั้น​อายุประมาณห้าสิบเศษ ใบหน้าเคร่งขรึมวางท่าคล้ายผู้มีอำนาจ สวมแว่นตาขอบกระเลนส์สีชาอ่อน

บนโต๊ะเบื้องหน้าของชายผู้นั้น​มีค้อนไม้ ​ที่หัวค้อนหุ้มด้วยยางสีดำวางทับอยู่​บนหนังสือเล่มโตคล้ายคัมภีร์หรือหนังสือตำราอะไร​สักอย่าง

ขนาบข้างบัลลังก์​ทั้งสองด้าน​คือสุดใจ​และแป้น ​ทั้งคู่ยืนกอดอกวางสีหน้าคล้าย​กับโกรธ​ใครมาสักร้อยปี...​

ดวงตาของคน​ทั้งสองดูถมึงทึง จ้องตรงแน่ว​ไปข้างหน้าเหมือนรูปปั้นหุ่น​ที่ไม่มีชีวิตจิตใจ...​

คน​ที่ยืนอยู่​ใกล้ๆ​​กับฉันทวัฒน์​เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ออก​ไปทางท้วมนิดๆ​ สวมเสื้อเชิ้ตลายพร้อยมีเสื้อแจ็คเก็ตสีขี้ม้าสวมทับอีกทีใบหน้ายิ้มแสยะอยู่​ตลอดเวลา

ชายคนดังกล่าวเดินเข้ามาใกล้คอก​ที่ฉันทวัฒน์ยืนอยู่​พลางชะโงกหน้าเข้ามาจนเกือบชิดใบหน้าของขายหนุ่ม เอ่ยถามด้วยเสียงดังกังวาน​ได้ยินก้อง​ไป​ทั้งห้อง

"นายชื่อนายฉันทวัฒน์ใช่ไหม?"

"ใช่!"

"นาย​ไป​ที่สมาคมชาวไร่อ้อย​ที่อำเภอท่ามะกาทำไม?"

"​ไปเ​ที่ยว!"

โครม!

เสียงค้อนหัวยางของชาย​ที่อยู่​บนโต๊ะผู้พิพากษาทุบเปรี้ยงลงบนหนังสือตำราเล่มใหญ่นั้น​!

"ตอบให้ตรงคำถามหน่อย​คุณฉันทวัฒน์"

เสียงของคน​ที่นั่งอยู่​ข้างบนบัลลังก์นั้น​บัญชาลงมาคล้าย​กับพยายาม​ที่​จะทำสำเนียงให้มีอำนาจอันทรงพลัง

"ขอถามใหม่อีกที..นาย​ไป​ที่สมาคมชาวไร่อ้อยเขตเจ็ดทำไม..นายฉันทวัฒน์?" นายคนเสื้อลายถามใหม่อีกครั้งหนึ่ง​

"บังเอิญผมผ่าน​ไปแถวนั้น​​พอดี"

"โกหก..อย่าลืมว่าคนของเราเห็นนายจูงหมาน้อยตัวนี้เข้าคิวซื้อปาท่องโก๋ตั้งแต่เช้า​ ก่อน​ที่​จะเข้า​ไปนั่งฟังการอภิปรายด้วย"

"ซื้อปาท่องโก๋กิน มี​ความผิดด้วยหรือ?"

"ซื้อปาท่องโก๋นั้น​ไม่ผิดหรอก..​แต่พวกเราอยากรู้ว่า​ที่นาย​ไป​ที่นั่น นายมีจุดประสงค์อะไร​กันแน่?"

"ก็​ไปฟัง​ไปดูเหมือนคนอื่น​เขานั่นแหละ​"

"นายพบเห็น​ใคร​ที่นายรู้จักหรือคิดว่ารู้จักบ้างหรือเปล่า?"

"ไม่เห็น​ทั้งคน​ที่รู้จัก​และคน​ที่คิดว่าผมรู้จักเลย​สักคนเดียว"

"นายรู้จักนายบุญธรรมผู้ตายหรือไม่?"

"นายบุญธรรมตายแล้ว​หรือ?"

"นี่นายแกล้งทำ​เป็นไม่รู้จักหรือว่านายไม่รู้ว่า​เขาตายแล้ว​จริงๆ​?"

"นายบุญธรรม​ที่ว่านี้ ใช่คน​ที่มาพูดจาไกล่เกลี่ยในฐานะ​เป็นตัวแทนเจ้าของโรงงานน้ำตาล​และพ่อค้าส่งน้ำตาลออก​ไปขายต่างประเทศใช่ไหม?"

"ใช่..คนนั้น​แหละ​"

"ผมก็เพิ่งเคย​จะเห็นหน้า​เขาวันนี้เหมือนกัน"

"ไม่จริงมั้ง..อย่าหลอกเราเสียให้ยากเลย​..นายรู้จัก​กับ​เขาดีแค่ไหน มีคนเห็นว่า​เขามองหน้านายแล้ว​ยิ้มทำท่าคล้าย​กับคน​ที่รู้จักกัน?"

"มีคนเห็นด้วยรึว่า​เขายิ้ม​กับผม?"

"ใช่!"

"​ใครกัน?"

"คนของเรา​ที่อยู่​​ที่นั่นในวันนี้!"

"​เขา​เป็นอะไร​ตาย?"

"ถูกยิงตาย!"

"ถูกยิงตาย?"

"อ้าวนี่นายไม่รู้จริงๆ​หรือว่าแกล้งทำ​เป็นไม่รู้กันแน่?"

"ขอโทษ..ผมไม่ทราบเรื่อง​เลย​​เป็น​ความสัตย์จริง"

"​เขาถูกยิงตอน​ที่​กำลังเดินสวนกัน​กับนาย..นายฉันทวัฒน์!"

"แปลก..ไม่ยักรู้เรื่อง​เลย​"

"ไม่รู้เรื่อง​​ทั้งๆ​​ที่ตอนนั้น​​เขาทำท่ายิ้มให้นายด้วยอย่างนั้น​หรือ?"

"ใช่..เดินสวนกันแล้ว​ก็เห็น​เขาหันหน้ามามองทำท่า​จะยิ้มให้ ผมก็รีบเดินเลย​​เพื่อ​ไป​เอารถ​ซึ่งจอดอยู่​ข้างนอก​ที่ศูนย์แทร็กเตอร์ท่ามะกา"

"นายบุญธรรมถูกยิงตอนนั้น​แหละ​!"

"นี่..พวกคุณสงสัยว่าผม​เป็นฆาตกรกระนั้น​หรือ?"

"นายพูดเองนะ!"

"ไม่ใช่ผมอย่างแน่นอน เลิกคิดเรื่อง​นี้​ได้เลย​ ​ถ้าผม​เป็นฆาตกร​ที่ยิงนายบุญธรรมจริงในตอนนั้น​ ก็คงมีคนเห็นบ้าง​และแจ้ง​ความ​กับตำรวจจับผม​ไปแล้ว​"

"ตอนนั้น​มันชุลมุน แล้ว​ก็มีพวกเดินขบวนมามากมาย​เดินกันให้ขวักไขว่ คงไม่มี​ใครสนใจ​ใครกันหรอก!"

"ผมขับรถออกมาจากศูนย์แทร็กเตอร์ท่ามะกา ผ่านมาตรงหน้าทางเข้าสมาคมก็เห็นคนมุงดูบางสิ่งบางอย่างกันเต็ม​ไปหมด หากผมก็ไม่​ได้หยุดรถดูว่าเกิดเหตุการณ์อะไร​ขึ้น​ในขณะนั้น​"

"เราเห็นนาย​เป็นคน​ที่อยู่​ใกล้ชิดเหตุการณ์ ในช่วงเวลา​ที่เกิดเหตุ นายเห็นอะไร​หรือเห็น​ใคร​ที่น่าสงสัยหรือเปล่า?"

"ไม่เห็น​ใครเลย​!"

"นายเห็นคนของเรา​ที่นั่นหรือเปล่า?"

"อาจ​จะเห็น​แต่ไม่รู้จัก..เลย​ไม่​ได้สนใจ"

"​แต่​เขารู้จักนายดี"

"​ใครกัน?"

"​เอาไว้ให้นายเห็นหน้าแล้ว​นาย​จะรู้เองนั่นแหละ​..นายฉันทวัฒน์"

"อย่างนี้ก็​เอาเปรียบกันชัดๆ​ เล่นแอบดูเราอยู่​ข้างเดียว"

"ไม่ใช่มี​แต่เพียงเราเท่านั้น​นะ ยังมีคนอื่นอีกกลุ่ม​ที่แอบดูนายอยู่​เหมือนกัน"

"นี่ยังอุตส่าห์มีคนพวกอื่น​ที่แอบดูผมอีกหรือ?"

"คนของเราเห็นว่ายังมีคนอื่นอีก​ที่สะกดรอยตามนาย​ไปด้วย"

"สะกดรอยตามผม​ไปหรือ?"

"ใช่แล้ว​พวก​เขาซุ่มรอดูนายตั้งแต่เช้า​เช่นเดียวกัน​กับคนของเรา"

"พวก​เขาเหล่านั้น​ ​เป็น​ใครกันแน่ ผมพอ​จะรู้จักสักคนไหม?"

"คิดว่านายคงรู้จักหนึ่ง​ในสามคนนี้อย่างแน่นอน"

"รู้จักหรือ?"

"ใช่..​เขา​เป็นคนของนายเอง!"

"คนของผมเอง..ทำไมผมถึงไม่เห็น​เขาล่ะ?"

"​เขาซ่อนตัวอยู่​ในรถกระบะสองตอนขับเคลื่อนสี่ล้อติดฟิล์มดำมืด คัน​ที่จอดอยู่​ตรงข้าม​กับสมาคมฯ"

"เห็นมีรถกระบะจอดอยู่​หน้าสมาคมเหมือนกัน ​แต่ก็ไม่​ได้สังเกต"

"นายรู้หรือเปล่าว่าพวก​เขาสะกดรอยติดตามนายมาทำไม?"

"พวก​เขาเกี่ยวข้อง​กับการฆาตกรรมด้วยใช่ไหม?"

"ข้อนี้แหละ​​ที่เราอยาก​จะรู้จากปากของนาย!"


*********

 

F a c t   C a r d
Article ID S-2698 Article's Rate 36 votes
ชื่อเรื่อง คนจูงหมา --Series
ชื่อตอน ตกเป็นจำเลย --อ่านตอนอื่นที่ตีพิมพ์แล้ว คลิก!
ผู้แต่ง ปักษิณ
ตีพิมพ์เมื่อ ๑๐ กรกฏาคม ๒๕๕๑
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ เรื่องยาว ซีรีส์
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๒๔๒ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๒ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม ๑๖๓
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : fishbud [C-14182 ], [206.227.160.12]
เมื่อวันที่ : ๑๑ มิ.ย. ๒๕๕๑, ๒๑.๕๗ น.

"ตก​​เป็นจำเลย​​"

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๒ : ปักษิณ [C-14185 ], [58.10.216.218]
เมื่อวันที่ : ๑๒ มิ.ย. ๒๕๕๑, ๑๘.๐๔ น.

O.K.ครับ​​คุณfishbud..

"ตก​​เป็นจำเลย​​"

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น