นิตยสารรายสะดวก  Fiction  ๑๕ เมษายน ๒๕๕๑
ขุนจาม #26
ปักษิณ
...๑๑.๔๕ นาฬิกา ใกล้เ​ที่ยงหมวยเกี้ยลูกสาวเจ๊กทู้ ก๋วยเตี๋ยวผัดไทเจ้าอร่อย​พร้อม​ทั้งตัวเจ๊กทู้เองพากันหอบหิ้วสัมภาระเครื่องก๋วยเตี๋ยว​ซึ่งมีหม้ออ...

ตอน : เปิดปมปริศนา

๑๑.๔๕ นาฬิกา
ใกล้เ​ที่ยงหมวยเกี้ยลูกสาวเจ๊กทู้ก๋วยเตี๋ยวผัดไทเจ้าอร่อย​พร้อม​ทั้งตัวเจ๊กทู้เองพากันหอบหิ้วสัมภาระเครื่องก๋วยเตี๋ยว​ซึ่งมีหม้ออลูมิเนียมใบใหญ่บรรจุก๋วยเตี๋ยวผัดไท​ที่ผัดเสร็จใหม่ๆ​ควันฉุย

มีชาวบ้านสองสามคนอาสาช่วยยกถังไอศกรีมกะทิสดของนางบุญปลูกเมียหมอเช้า​ขึ้น​มาบนโรงพักด้วย ตัวนางบุญปลูกเดินยิ้มร่าตามมาข้างหลัง​พร้อมอุปกรณ์

หมวยเกี้ย​และเจ๊กทู้ช่วยกันตักช่วยกันเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวตลอดเวลาจนจบรายการ ​ส่วนนางบุญปลูกนั้น​บริการตักเสิร์ฟไอศกรีมกะทิสด​แต่เพียงผู้เดียว สร้าง​ความพออกพอใจให้​กับผู้​ที่มาร่วมงานในการพิจารณาคดีครั้งนี้​เป็นอันมาก

เจ๊กทู้ผู้มีอารมณ์ดียืนยันรับปาก​กับผู้กองยุทธนา​และท่านกำนันอนุกูลว่า หากการสืบสวนสอบสวนยังคงยืดเยื้ออยู่​อย่างนี้ เวลาบ่ายห้าโมงเย็นหรือ ๑๗.๐๐ นาฬิกา ​เขา​จะทำข้าวต้มปลารถเด็ดมาบริการให้อีกหนึ่ง​รอบ​พร้อม​ทั้งของหวาน​คือบัวลอยน้ำขิงตบท้าย ทำให้​ได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้องด้วย​ความซาบซึ้งใน​ความเอื้ออาทร​และมีน้ำใจของพ่อค้าผู้มีอารมณ์ดีผู้นี้


*********


๑๓.๐๐ นาฬิกา
หลังจากคณะของเจ๊กทู้​และคณะของนางบุญปลูกต่างพากันทยอยเก็บสัมภาระกลับ​ไปหมดแล้ว​ ก็​พอดีกัน​กับ​ที่รถสองแถวเลี้ยวเข้ามาส่ง​พระภิกษุ​ทั้งสามรูป อันมี​พระสังเวียน ​พระสมชาย​และ​พระบัญชา ก้าวลงจากรถเดินนำหน้าเจ้าแกละ​ซึ่ง​กำลังแบกลาก​เอาห่อผ้าใบสีขี้ม้าห่อใหญ่ลงจากรถสองแถว

​เมื่อเห็นดังนั้น​จ่าสุนทร หมู่สมบุญ​และทิดแร่สารวัตรกำนันต่างพากันรีบลง​ไปช่วยเจ้าแกละประคอง​เอาห่อผ้าใบขึ้น​​ไปยังห้องสอบสวนทันที

​เมื่อคลี่ผ้าใบออกเผยให้เห็นสิ่งของ​ที่อยู่​ภายใน อันมีขวาน​และมีดปาดตาลอย่างละ ๒ เล่ม หีบเหล็ก ๑ ใบ ​และชุดหมีสักหลาดขนสัตว์แท้สีขี้ม้าแบบมีฮู้ดคลุมหัวอีก ๑ ตัว

ทองตีบหยิบไม้บรรทัดจากโต๊ะสิบเวรเดิน​ไป​ที่ของ​ทั้งหมด​ที่วางอยู่​บนโต๊ะของกลาง ​เขา​เอาไม้บรรทัดชี้​ไป​ที่ของกลาง​แต่ละชิ้น​และเริ่มสาธยายต่อ​ไป

"​คือเรื่อง​ราวมัน​เป็นอย่างนี้ เริ่มจากคดีลุงก้อนดีกว่า ก่อนอื่นผม​ต้องขอสรุป​เอาเองว่าลุงก้อนนั้น​แอบขโมยขุดกรุมาตั้งแต่สองปีก่อนด้วย​ความโลภ ​โดยร่วมมือ​กับ​ใครอีกคนหนึ่ง​ ​ได้ของออกมามากมาย​ สันนิฐาน​เอาจากในวัน​ที่ลุงก้อนตายนั้น​ แกยังคงแบกจอบอัน​เป็นสัญลักษณ์ของนักขุด ​ทั้งสองคน​เอาของ​ไปแอบขาย​ได้​แต่เพียงทองคำรูปพรรณ​ที่​เป็นสร้อย​และเข็มขัดทอง​ที่ไม่มีลวดลาย​เพราะ​จะ​เอาของเก่าไว้ขายโก่งราคาให้พวกนักสะสมในภายหลัง...​"

"...​​เนื่องจาก​เขาไม่รู้ถึงตำนานของแหวนคู่บ้าน ลุงก้อนจึง​เอาแหวนวงหนึ่ง​ยกให้ป้าเปลื้องเมียของแกเอง ​ส่วนแหวนอีกวงนั้น​ลุงก้อน​ได้​เอา​ไปให้นางสำรวยยอดชู้คู่รักหรือแฟนเก่าของแก ​ส่วนของ​ที่เหลือนี่ก็เหลือเฉพาะ​ที่​เป็นลวดลายวิจิตรงดงาม เท่า​ที่เห็นอยู่​นี้​เป็นของล้ำค่า ลวดลายละเอียดสวยงามมาก​โดยฝีมือช่างทองจากราชสำนักหลวง​พระบางในสมัยโบราณเลย​ทีเดียว ของ​ที่​ได้นี้​เป็นของร้อนทำให้ผู้​ที่ขโมย​ไปไม่มี​ความสุขเลย​​แม้​แต่น้อย ​ต้องอาศัยสุรา​และสิ่งเสพติด​เป็นเครื่องย้อมใจอยู่​ตลอดมา...​"

"แล้ว​ทำไมแกจึงถูกฆ่าตายเล่าครับ​ แล้ว​​ใคร​เป็นคนฆ่า?"

"คง​เป็นเหตุผล​ส่วนตัวหรือหักหลังอะไร​กันสักอย่าง ​ต้องเกี่ยวข้อง​กับเรื่อง​สมบัติ​ที่แบ่งไม่ลงตัวอย่างแน่นอน คนฆ่าก็​คือหุ้น​ส่วนผู้​ที่รู้เห็นด้วยนั่นเองแหละ​..คนใกล้ตัว!"

"แล้ว​คดีของนางสาวสำเนียงล่ะ หล่อนตายยังไง?"

"​ส่วนคดีของนางสาวสำเนียงแฟนของหลวงพี่สังเวียน ขออภัยด้วยนะครับ​หลวงพี่​ที่​ต้องเอ่ยชื่อ ด้วย​ความโกรธ​และอิจฉา​เป็นทุนเดิมอยู่​แล้ว​ ​เมื่อมาเห็นนางสาวสำเนียงสวมแหวนพลอยสวยเหมือนกัน​กับของเธอมางานศพในคืนแรกป้าเปลื้องจึงออกอุบายแอบกระซิบบอกสำเนียงว่าตอนสองยาม​พระสังเวียน​จะ​ไปรอพบอยู่​​ที่ท่าน้ำของวัดหลังซุ้มกระดังงา แล้ว​ก็บอกคนร้ายอีกคนให้​ไปหลอก​พระสังเวียนในลักษณะเดียวกัน แล้ว​จึงลอบทำร้าย​พระสังเวียน​และฉุด​เอาสำเนียง​ไปข่มขืน​จะ​ได้แหวนวงงาม​เป็นรางวัล ป้าเปลื้อง​คือผู้ชักใย​แต่ไม่ใช่ฆาตกรอยู่​ดีตามข้อสันนิฐานของผมในข้อนี้ ​ซึ่งก็อาจ​จะผิดก็​ได้...​​แต่คนร้ายรายนี้​ได้​ใช้ชุดหมีอำพรางใน​การปฏิบัติการครั้งนี้...​"

"...​​และคนร้ายชะล่าใจถึง​กับ​ได้ทำการปล้นชิงทรัพย์นายสมปองต่อ​ที่ศาลเจ้าโพธิ์ไทรจนกระทั่งทำแหวนหาย​โดยไม่รู้ตัว จึงทำให้น้ายุพินเก็บ​ได้ตาม​ที่เราทราบกันดีอยู่​แล้ว​...​"

"เอ..พอ​จะเข้าเค้าเหมือนกันแฮะคุณทองตีบ แล้ว​คดีสุดท้าย ​คือคดีเสืออ่อนนั้น​​เป็นอย่างไรล่ะ ใช่ฆาตกรคนเดียวกันหรือเปล่า?" ผู้กองยุทธนาเห็นคล้อยตามพลางซักเข้าหาจุดหมาย

"อ๋อ..ของมันแน่นอนอยู่​แล้ว​ ตามรูปการ​และร่องรอย​ที่​ได้ชันสูตรแล้ว​ว่าเสียชีวิตจากอาวุธชนิดเดียวกัน" หมอเช้า​แพทย์ประจำตำบล ​ซึ่ง​ได้​เป็นผู้ชันสูตรศพ​ทั้งสามร่วม​กับเจ้าหน้า​ที่ตำรวจรีบตอบทันที​และพูดเสริมอีกว่า

"​แต่​จะมาจากสาเหตุใดไม่รู้?"

"แสดงว่าพวกนี้​เป็นพวกเดียวกันซีนะ?" กำนันอนุกูลออก​ความเห็นบ้าง

"คุณทองตีบว่าอย่างไรล่ะ?" ผู้กองยุทธนาหันมาถามทองตีบสันติบาลไร้สังกัด

"ผมคิดว่าเสืออ่อนผู้ตายอาจ​จะมาพบ​กับฆาตกร​โดยบังเอิญหรือนัดพบกันก็ไม่รู้​แต่​ต้องผิดใจอะไร​กันสักอย่างหนึ่ง​อย่างแน่นอน จึงถูกสังหารโหดเช่นเดียวกัน อันนี้ยาก​ที่​จะเดา​ต้องคอยถามตัวฆาตกร​เอาเองแล้ว​ล่ะครับ​"

"แล้ว​ทีนี้​จะบอก​ได้หรือยังว่า​ใคร​คือฆาตกร​ที่​ต้องสงสัยกันแน่หือ..ทองตีบ?" ผู้ใหญ่เต้รุกฆาต

"​เขา​ทั้งสองคนนั้น​ก็​คือมรรคนายกบรรจง​และนายสอนพ่อค้าของเก่าคนนี้!" ทองตีบเอ่ยชื่อระบุตัวฆาตกร​พร้อม​ทั้งชี้มือ​ไปยังคน​ทั้งสองอย่างมั่นอกมั่นใจ


*********


มรรคนายกบรรจงหน้าซีดลุกขึ้น​ยืนกำหมัดแน่นทำหน้าตาถมึงทึง เอ่ยตะโกนออกมาใส่หน้าทองตีบด้วยเสียงดังราวฟ้าถล่ม

"ผมไม่ใช่ฆาตกรอย่างแน่นอน คนอย่างผมธรรมะ ธรรมโม เข้าวัดทุกวัน​จะ​เป็นผู้ร้ายฆ่าคน​ไป​ได้อย่างไรกัน แกบ้า​ไปแล้ว​นายทองตีบ!"

"ใจเย็นๆ​ซี่ท่านมรรคนายกทิดจง! ผมก็พูด​ไปตาม​ความเห็น​ที่​เป็น​ไป​ได้เท่านั้น​ ​จะฟังต่อไหมล่ะครับ​ผู้กอง ผม​จะชี้ให้เห็นว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น​​ได้อย่างไร?"

"เชิญต่อเลย​ครับ​คุณทองตีบ!" ผู้กองยุทธนาสนับสนุนทันที

จ่านายสิบตำรวจสุนทร​และนายสิบตำรวจโทสมบุญรีบตรงเข้าหาคน​ทั้งสอง​พร้อม​กับสวมกุญแจมือในทันที!

แล้ว​​ทั้งสองคนก็ถูกนำ​ไปนั่งเก้าอี้แทน​ที่ครูจำรัส​และสมปองตรงกลางห้องสอบสวน!

"​คืออย่างนี้ครับ​...​ผมขอเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่แรกอีกครั้งก็แล้ว​กันนะครับ​...​" ทองตีบยืดอกสูดลมหายใจลึกๆ​​เพื่อเพิ่ม​ความมั่นใจให้ตัวเองอีกครั้ง ​เอามือเท้าโต๊ะของกลางหันหน้า​ไปทางคน​ทั้งสอง​ที่นั่งอยู่​กลางห้อง

"ลุงก้อน​ได้ขุดกรุร่วม​กับนายบรรจงด้วย​ความโลภในทรัพย์สมบัติ​ที่ตนเอง​ได้ร่วมรู้เห็น ​โดยลุงก้อนนั้น​​เป็นผู้หนึ่ง​​ที่ร่วมบรรจุลงกรุ​พร้อม​กับ​เพื่อนอีก ๔ คน​ที่หลวงพ่ออั้นท่านไว้วางใจ ลุงก้อน​เป็นคน​ที่พานายบรรจงมา​เป็นมรรคนายกวัดหนองแข้นี้เอง ​ทั้งนี้ก็​เพื่อ​ที่​จะ​ได้อยู่​ใกล้ชิด​กับสมบัติ​ที่หมายตาไว้​โดยไม่มีผู้ใด​ได้ระแคะ​ระคายเลย​...​"


"มิน่าล่ะ!" นายตี๋โชเฟอร์สิบล้อจอมโวยอุทานออกมาเบาๆ​

"คืนวันเกิดเหตุลุงก้อนออกจากบ้านลุงสิงห์ก็กะว่า​จะ​ไปขุดอีกครั้งตาม​ที่​ได้นัดแนะ​กับนายบรรจงไว้แล้ว​ ​แต่นายบรรจงกลับหักหลัง​โดยร่วม​กับนายสอนหวัง​จะฮุบ​เอาสมบัติ​ทั้งหมด​โดยไม่แบ่งให้ลุงก้อน จึงร่วมกันสังหารลุงก้อนอย่างโหดเหี้ยมด้วยมีด​และขวานตาม​ความถนัด นายบรรจง​ใช้มีดแทงปาดคอแล้ว​นายสอน​ใช้ขวานฟันซ้ำแล้ว​ก็หลบหนี​ไป...​"

"โหดจริงๆ​พับผ่าซีวะ!"

ผู้ใหญ่สมนึกทำตาโตพูดออกมาด้วยเสียงอันดัง ทำให้ผู้ฟัง​ที่อยู่​ในห้องพลอยฮือฮากัน​ไปด้วย!

"ในคืนวันงานศพลุงก้อนวันแรก ก็ดัง​ที่ผมเคยเล่าให้ฟังแล้ว​ว่าป้าเปลื้องทำ​ไป​เพราะ​ความอิจฉาริษยาลูกสาวป้าสำรวยคู่รักคู่แค้นเก่า​ที่เคยแย่งกันครองใจลุงก้อนสมัยยังหนุ่มยังสาวติดพันมาจนถึงทุกวันนี้ ​แต่ดัน​ไปเข้าล็อกของสองคนนี่ นายสอนในชุดหมีจึงเล่น​พระสังเวียนเสียหมอบแล้ว​ช่วยกันฉุดนางสาวสำเนียง​ไปข่มขืน​ที่ลับตาคนแล้ว​ก็เลย​สังหารเสียด้วยกลัวว่าเธอ​จะโพนทะนาบอกให้คนรู้​ไปทั่ว ​โดยพยายาม​ที่​จะป้าย​ความผิด​ไปให้แก่นายเหลือมเพียงผู้เดียว ​เพราะรู้ว่าตอนนั้น​ทางตำรวจ​กำลังปักใจเชื่อว่าฆาตกรโหด​คือนายเหลือมแห่งบ้านลำน้ำเจิง ขากลับเจอนายสมปองนั่งอยู่​​ที่หน้าศาลเจ้าโพธิ์ไทรจึงรัดคอปล้นเสียด้วยเลย​ ​เพราะเห็นมีกระเป๋าเลย​นึกว่ามีเงินมีทองเยอะ...​"

"เลวเช็ดเลย​ไอ้พวกเปรต!" ผู้ใหญ่เต้รำพึงให้หมอเช้า​ฟังเบาๆ​

"พวกนี้ตาย​ไป​ต้องไม่​ได้ผุด​ได้เกิดอีกอย่างแน่นอน" เสียงหมอเช้า​คล้อยตาม

"​แต่คน​ที่ซวย​ที่สุดก็​คือ​พระสังเวียน​ที่โดน​ทั้งขึ้น​​ทั้งล่อง เจ็บตัวมีรอยแผลคล้าย​กับฆาตกรแล้ว​ยังถูกนางสำรวยจ้องจับผิดอีก เสีย​ทั้งคนรักเจ็บ​ทั้งตัวอีกต่างหาก กราบนมัสการนิมนต์หลวงพี่สังเวียนช่วยกรุณาเล่าเรื่อง​ราวเหตุการณ์​ที่เกิดขึ้น​ให้ฟังหน่อย​ซีครับ​"

เสียงฮือฮาเอะอะของผู้​ที่มาร่วมประชุมกันนั้น​ฟังไม่​ได้สรรพ จนกำนันอนุกูล​ต้องลุกขึ้น​ยืนขอร้องให้เงียบเสียง ​โดยมีนายตี๋โชเฟอร์สิบล้อจอมโวยช่วยกระจายเสียงแปดหลอดของ​เขาอีกที จึงทำให้​ความเงียบกริบกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง​

​พระสังเวียนจึงกล่าวอย่างสำรวมต่อหน้า​ที่ประชุมสัมมนาปัญหาฆาตกรรมซ้ำซากด้วยสีหน้าปกติ

"เจริญพรญาติโยมทุกท่าน อาตมาขอลำดับเหตุการณ์ตาม​ความ​เป็นจริงดังนี้​คือ ในคืนงานศพโยมก้อนคืนแรก พอสวด​พระอภิธรรมเสร็จทิดจงก็​ได้มากระซิบบอกอาตมาก่อนเข้าจำวัด​ที่กุฏิว่า คืนนี้เวลาสองยามโยมสำเนียง​จะมาดักรออาตมา​ที่ท่าน้ำ ​ซึ่งอาตมาก็หลงเชื่อ ​ทั้ง​ที่ยังไม่​ได้ถามถึงเหตุผลเลย​สักนิดเดียว อาจ​เป็น​เพราะเห็นว่าทิดจง​เป็นคน​ที่น่านับถือ...​"

"ไอ้คนหลอกลวง หลอก​ได้​แม้กระทั่ง​พระ!" เสียงทิดแร่สารวัตรกำนันสบถพึมพำ

"...​ครั้นพอเวลาสองยามตรง อาตมาก็เดินลง​ไป​ที่ท่าน้ำ ​แต่ก็​ได้ถูกคน​ที่สวมชุดขนสัตว์รัดคอจนหายใจไม่ออกหน้าทิ่มลง​ไปบนบันไดทางลงท่าน้ำ​และสลบ​ไป มารู้สึกตัวอีกทีก็ยามสามแล้ว​จึง​ได้รีบกลับขึ้น​กุฏิ​เพราะมองไม่เห็นมี​ใครเลย​สักคน"

"หลวงพี่ไม่เห็น​ใครเลย​หรือครับ​?" นายร้อยตำรวจเอกหนุ่มถามขึ้น​บ้าง

"ไม่เห็นมี​ใคร​แม้​แต่คนเดียวครับ​ อาตมาก็เลย​กลับขึ้น​กุฏิ​ทั้งๆ​​ที่เจ็บแผล​ที่ใบหน้า มารู้ตัวอีกทีก็ในวันรุ่งขึ้น​แล้ว​ ว่าคืนเดียวกันนั้น​โยมสำเนียงก็ถูกฆาตกรรม​ที่บ้านใต้ข้างศาลเจ้าโพธิ์ไทร ทำให้อาตมาไม่​สามารถ​ที่​จะทำใจออก​ไปสวด​พระอภิธรรมศพของเธอ​ได้ ขออโหสิกรรมด้วยเถิดโยม"

หลวงพี่สังเวียนพูดจบก็ก้มหน้าลงมองพื้นแสดงท่าทางอาการซึมเศร้าอย่างน่าสงสาร ​เพราะท่านคงพยายามทำใจมาหลายวันแล้ว​


*********

 

F a c t   C a r d
Article ID S-2640 Article's Rate 34 votes
ชื่อเรื่อง ขุนจาม --Series
ชื่อตอน เปิดปมปริศนา --อ่านตอนอื่นที่ตีพิมพ์แล้ว คลิก!
ผู้แต่ง ปักษิณ
ตีพิมพ์เมื่อ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๑
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ เรื่องยาว ซีรีส์
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๒๘๗ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๒ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม ๑๖๑
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : ม่านแพร [C-13901 ], [118.174.59.89]
เมื่อวันที่ : ๓๐ มี.ค. ๒๕๕๑, ๐๖.๕๘ น.

สนุกมากค่ะ​​ มาร่วมตั้งชื่อตอนด้วย ​​เป็น "เปิดปมปริศนา"นะคะ​​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๒ : ปักษิณ [C-13903 ], [58.10.216.195]
เมื่อวันที่ : ๓๐ มี.ค. ๒๕๕๑, ๑๓.๓๒ น.

ยินดีครับ​​คุณม่านแพร​​ที่มาร่วมสนุกช่วยตั้งชื่อตอนให้

"เปิดปมปริศนา"

ขอบคุณครับ​​

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น