![]() |
![]() |
pilgrim![]() |
...โลโซอย่างฉันก็เลือกนั่งรถเกรย์ฮาวด์ แล้วปลอบใจตัวเองว่า นานแค่ไหนก็ไม่เป็นไร เพราะฉันไม่รีบ...ฮ่าๆๆๆๆ...
ตอน : บินข้ามฟ้า มหาสมุทร สุดปลายทางที่ออสเตรเลีย
1.เที่ยวไปตามใจฉันและตามคำเชื้อเชิญของเพื่อนๆ![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ฉันเคยไปออสเตรเลียมาครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ในปี ค.ศ.1995 ครั้งนั้น ไปประชุมว่าด้วยเรื่องกิจกรรมของสหภาพแรงงานด้านสาธารณูปโภคระหว่างประเทศ ณ เมืองบริสเบน แคว้นควีนส์แลนด์
จำได้ว่าเป็นการเดินทางไปประเทศฝรั่งประเทศแรกในชีวิต
แต่ไม่ใช่การเดินทางโดยเครื่องบินครั้งแรก
ฉันขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ก็ตอนที่เดินทางไปประเทศอินเดีย และเป็นการเดินทางที่น่าหวั่นกลัว เพราะเสียงลือเสียงเล่าอ้างของประเทศอินเดียที่เคยได้อ่านได้ฟังมานั้น มันน่ากลัวสุดๆ
แต่ก็กลับได้พบแต่กับคนดีๆที่รักและเมตตาต่อเรา
ในเมื่อออสเตรเลียเป็นประเทศฝรั่งประเทศแรกที่ฉันได้ไป ทำให้ฉันตื่นเต้นอยู่มิใช่น้อย
ในครั้งนั้น จำได้ว่า เมื่ออกจากสนามบินบริสเบน พวกเราก็เดินทางไปยังโรงแรมที่พักที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ใจกลางเมืองกัน
ฉันเหลือบมองดูสองข้างทาง แล้วก็รำพึงรำพันอยู่ในใจ...
นี่เหรอ ประเทศฝรั่ง ทำไมมันเหมือนชนบทเมืองไทยมากๆเลยอ้ะ
มองไปทางไหนก็มีแต่ป่าเขียวหรือพื้นที่สีเขียวแบบตามบ้านนอกของไทย จนกระทั่งเข้าเขตเมืองน่ะแหละ ถึงได้เห็นตึกรามบ้านช่อง
บริสเบนก็เป็นเมืองหนึ่งที่สวยงามไปด้วยแม่น้ำและสะพานข้ามแม่น้ำแบบต่างๆ
ตอนนั้น ฉันมีเพื่อนอยู่ออสเตรเลีย แต่อยู่ที่ซิดนีย์
ฉันโทร.ไปหาเพื่อนที่ซิดนีย์แล้วบอกว่า ตอนนี้มาประชุมอยู่บริสเบนนะ คิดถึงเลยโทร.มาคุยด้วย
ตอนนั้นมีเพื่อนอยู่สองคน คนหนึ่งคือ พี่แจ๊ว อีกคนหนึ่งคือ ปุ๋ม
พี่แจ๊วเคยทำงานที่ทำงานเดียวกัน แต่ลาออกจากงานติดตามสามีมาตั้งรกรากอยู่ออสเตรเลีย
ส่วนปุ๋มเป็นเพื่อนสมัยเรียนปริญญาโท นิสัยทะลึ่ง ทะเล้น เซี้ยวๆเหมือนฉัน แต่เราไม่เหมือนกันอยู่สองอย่าง คือ ปุ๋มไฮโซ แต่ฉันโลโซ
และปุ๋มสวย แต่ฉัน...ถึงจะไม่ขี้เหร่ แต่ก็หน้าตางั้นๆแหละ
แต่เราก็มาสนิทกันได้ เพราะนิสัยใจคอคล้ายๆกัน และความมีน้ำใจของปุ๋ม ไม่เคยดูถูกเพื่อนโลโซ
เมื่ออยู่ที่บริสเบน ฉันโทร.ไปหาทั้งพี่แจ๊วและปุ๋ม
ทั้งสองคนต่างร่ำร้องบอกให้ฉันไปซิดนีย์ด้วยเถิด
ไหนๆก็ได้นั่งเรือบินฟรีมาบริสเบนแล้ว ก็ขอได้โปรดควักกระเป๋าอีกสักหน่อย เดินทางไปให้ถึงซิดนีย์เพื่อเจอะเจอกัน
วิชาภูมิศาสตร์ฉันคงไม่ค่อยดี ฉันก็ตอบตกลง โดยไม่รู้ว่าซิดนีย์กับบริสเบนอยู่ห่างกันแค่ไหน
เพื่อนแนะว่า มีทางเลือกในการเดินทางสองทาง คือ นั่งเครื่องบินไปราวๆ 1 ชั่วโมงก็ถึง
แต่ถ้าจะนั่งรถโค้ชเกรย์ฮาวด์ก็นานหน่อย แต่ราคาถูกกว่า
โลโซอย่างฉันก็เลือกนั่งรถเกรย์ฮาวด์ แล้วปลอบใจตัวเองว่า นานแค่ไหนก็ไม่เป็นไร เพราะฉันไม่รีบ...ฮ่าๆๆๆๆ
ฉันจัดแจงไปเลื่อนตั๋วเครื่องบินสำหรับการเดินทางกลับ และขอไปขึ้นเครื่องกลับที่ซิดนีย์เลย
แล้วก็ไปจองตั๋วรถโค้ช ค่อยยังชั่วหน่อย มีคุณผู้ชายอีกท่านหนึ่งที่ไปประชุมด้วยกัน แกบอกว่า แกอยากจะไปหาเพื่อนที่ซิดนีย์เหมือนกัน ขอไปกะฉันด้วยได้ไหม ฉันก็รีบตอบรับด้วยความเต็มใจ เพราะคนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย
แล้วเราก็ออกเดินทางไปสถานีรถโค้ชกันแต่เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่เสร็จสิ้นการประชุม รถออกหกโมงเช้า
โอ้โฮ...นั่งรถรอนแรมอย่าให้พูดเลยค่ะ เอาเป็นว่า เราไปถึงซิดนีย์กันตอนห้าทุ่ม พี่แจ๊วมารอรับอยู่ที่สถานีขนส่งซิดนีย์
คิดดูเอาแล้วกันค่ะ นั่งรถตั้งแต่หกโมงเช้ายันห้าทุ่ม
ได้พักสองหนคือ ตอนมื้อกลางวันกับมื้อเย็น เขาจอดพักให้พวกเรารับประทานอาหารกลางวันกับอาหารเย็นกันที่สถานีบริการ แบบที่มีทั้งปั๊มน้ำมันและร้านอาหาร
ที่เหลือนั่น ก็นั่งรถชมวิวกันไปตลอด ฉันนั่งริมหน้าต่างที่นึง คุณผู้ชายท่านนั้นก็จับจองที่ริมหน้าต่างอีกที่หนึ่ง เพราะเราอยากจะดูวิวด้วยกันทั้งคู่ เลยนั่งแยกกันดีกว่า
ฉันได้เห็นวิวแทบทุกแบบของออสเตรเลีย เดี๋ยวก็เป็นบ้านเรือนผู้คน เดี๋ยวก็เป็นป่าทึบ เดี๋ยวก็เป็นป่าสน เดี๋ยวก็เป็นชายหาดท้องทะเล มีเรือยอทช์จอดลอยลำอย่างหรูหรา...
แล้วเขาก็จอดเปลี่ยนคนขับเป็นระยะๆเหมือนกัน
จนกระทั่งห้าทุ่มก็มาถึงซิดนีย์อย่างที่บอก พี่แจ๊วรับฉันขึ้นรถพร้อมคุณผู้ชายคนนั้น แล้วพาแกไปส่งที่บ้านเพื่อนแก
ฉันบอกพี่แจ๊วว่า ไม่คิดเลยว่าจะได้นั่งรถนานอย่างนี้
พี่แจ๊วบอกว่า ออสเตรเลียมันเป็นประเทศก็จริง แต่มันเป็นทวีปด้วยนะจ๊ะ
เมืองใหญ่ๆแต่ละเมืองจึงอยู่ห่างกันมาก
จนมาปีนี้ ฉันก็มีโอกาสได้ขึ้นเรือบินฟรีไปออสเตรเลียอีก แต่เป็นการเดินทางอย่างเป็นทางการจะไปแค่แคนเบอร์รากับเมลเบิร์น
ฉันก็บอกพี่แจ๊วว่าฉันกำลังจะได้ไปออสเตรเลียอีก แต่คงไม่ได้แวะซิดนีย์
พี่แจ๊วก็บอกว่า ไหนๆก็มาแล้ว ก็แวะมานอนบ้านพี่แจ๊วที่ซิดนีย์ซะหน่อยสิ
ตอนนี้ เหลือพี่แจ๊วคนเดียว เพราะปุ๋มเรียนจบกลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว
ฉันก็ตามใจพี่แจ๊วอีกตามเคย บอก...เอาก็ได้ จะแวะนอนที่ซิดนีย์นะ
แล้วการเดินทางของฉันก็เริ่มต้นอีกครั้งหนึ่ง.........

เมื่อวันที่ : ๐๙ ธ.ค. ๒๕๕๐, ๑๗.๐๗ น.
เริ่มต้นก็น่าสนุกแล้ว นั่งรถตั้ง ๑๘ ชั่วโมง... ว้าว... พิลใจเย็นยอดเยี่ยมเลย....
ใครว่าพิลหน้าตายังงั้น ๆ.... รจว่า เวลาพิลยิ้มแล้ว พิลดูน่ารักมากที่สุดเลย โลกก็พลอยยิ้มไปด้วย จำได้ไหม ภาพถ่ายที่ร้านอาหารจีนในลอนดอน.....
แล้วจะติดตามตอนต่อไปค่ะ
ตอนนี้รจเขียนรายงานส่งมหาลัย หูตูบเลย... ตาลายด้วย จ้องหน้าจอมากเกินไป...