![]() |
![]() |
กาบแก้ว![]() |
ตอน : หยาดอนงค์คงคา สองรา-สมรัก
ด้วยเผลอใจใฝ่ปองน้องเนื้อเย็น แม่ชีเห็นใจหนุ่มที่ลุ่มหลง ถามฤาษีชีไพรไยยืนงง จะตกลงหรือไม่ให้บอกมา ฝ่ายฤาษีบุญยืนให้กลืนกล้ำ มิอาจทำฉันใดใคร่ปรึกษา จะตกลงปลงใจใคร่วิวาห์ ให้แก้วตายาจิตลูกคิดเอง อนาคตของเขาให้เขาคิด จะถูกผิดริษยาอย่าข่มเหง เรื่องตัดสินระบิลรักต้องนักเลง ขืนกลัวเกรงมิกล้าพาเสียการ ให้หัวใจเจ้าของเขาตรองตรึก เมื่อคิดลึกนึกรักอย่าหักหาญ แม้นรักเขาเรายอมพร้อมแต่งงาน รีบสมานสานรักมิพักรอ จึงบอกลูกถูกผิดจิตประจักษ์ เรื่องความรักหนักใจทำไมหนอ เรารักเขาเขารักเราเท่านั้นพอ ทั้งแม่พ่อขอช่วยอำนวยพร หยาดอนงค์ลงนั่งหลั่งน้ำตา กอดบาทาฤาษีที่พร่ำสอน แล้วโอบร่างนางชีศรีมารดร เอ่ยคำวอนอ้อนพะนอขอลาไกล ฝ่ายคงคาวารีงามพ่อทรามเชย กล่าวเฉลยเอ่ยย้ำซึ่งคำไข ขอชี้แจงแจ้งความจริงทุกสิ่งไป เรื่องความนัยให้สิ้นถิ่นเกิดกาย เกาะบิดงประมงถิ่นแผ่นดินเกิด ถือกำเนิดเกิดเพื่อสืบเชื้อสาย บิดาคือภุชงค์วงศ์เจ้านาย ชื่อเจ้าชายนาคินทร์ปิ่นลำเนา เช่นเดียวกันวันบรรจบครบกำหนด ผิวกายหดเหี่ยวย่นตามชนเผ่า ลอกคราบกายคล้ายมุนีฤาษีเรา ยามแก่เฒ่าเก่าไปใคร่บำเพ็ญ ตบะฌานคลานคู้อยู่ในถ้ำ คำสั่งซ้ำย้ำอยู่เหมือนดูเห็น ให้รอนาฎหยาดอนงค์เพื่อทรงเป็น ดั่งหนึ่งเช่นรานีที่จำนรรจ์ หรือต่อเมื่อคงคาศึกษาจบ ได้พานพบวิวาห์ตุนาหงัน กลับบิดงวันใดให้แจ่มจันทร์ ครองคู่กันสืบสายฝ่ายภุชงค์ ฟังฤาษีชีปะขาวถึงคราวอึ้ง นึกไม่ถึงซึ่งเห็นเช่นประสงค์ เจ้านาคินทร์ปิ่นญาณฌานดำรง สำเร็จองค์ทรงมีวิถีญาณ จึงกำหนดวันวิวาห์หน้าเกาะแก้ว ช่างเพริศแพร้วแววงามตามสถาน หยาดอนงค์คงคาต่างหน้าบาน เริงสำราญหวานแหววในแววตา สมภารจัดงัดกล่องสองคราบกาย มอบฤาสายด้วยประสงค์คืนพงป่า คราบมนุษย์สุดประเสริฐเลิศนภา แม้นคู่ฟ้าพนาดินถิ่นจึงควร เจ้าคงคาพานาฎหยาดอนงค์ คืนบิดงดำรงสุขไร้ทุกข์ถ้วน ปกครองผองชาวเลเห่เรืออวน ท่ามกลางสวนรุกขชาติดาษเดียร จำเรียงกานท์สานอักษรสุนทรครบ ขจรจบนบพร้อมขอน้อมเศียร จินตภาพ "คราบมนุษย์" ประดุจเทียน สืบการเขียนเรียนรู้ตามครูกลอนฯ :~ ***** อวสาน ***** ขอความสุขสวัสดี จงมีแด่ท่านผู้ที่ติดตามอ่านทุกท่านเทอญฯ ด้วยความปรารถนาดีจาก.........กาบแก้ว |
เมื่อวันที่ : ๐๖ พ.ย. ๒๕๕๐, ๐๒.๑๗ น.
จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง.... "หยาดอนงค์คงคา-สองรา-สมรัก".... แหม ไม่รู้จะตั้งชื่อทิ้งท้ายอย่างไรให้กินใจ สมกับความหวานที่ลุงปิงเรียบเรียงมาค่ะ ....
พี่แอ๊ดจ๋า... ช่วยเข้ามาแจมตั้งชื่อตอนสุดท้ายด้วยค่ะ......
ขอบคุณลุงปิงที่ขยันส่งผลงานคุณภาพมาให้อ่านนะคะ... ชอบจังเลยค่ะ ที่ลุงปิงถือเอางานเขียนกลอนเป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง.... รจนาก็คล้ายกันค่ะ เวลาได้เขียนอะไรที่ชอบก็จะใจจดจ่ออยู่ตรงนั้น... แต่เวลาทำงานจะก้อ... ใจไม่ค่อยจะอยู่กับร่องกับรอยเลย.....
... ตอนนี้ ลุงปิงคงต้องจะมีเวลาไปดูแลคุณแม่และคุณพ่อมากขึ้นใช่ไหมคะ? ฝากกราบท่านทั้งสองด้วย บอกว่า หลานรจนา ที่ไม่เคยเห็นท่าน ขอกราบเยี่ยมผู้มีพระคุณของบุคคลคุณภาพอย่างลุงปิงค่ะ ....