![]() |
![]() |
กัลปจันทรา![]() |
...ชายลึกลับบนรถไฟ ค่ำเมื่อวาน ผมส่งรถของผมกลับไปเมือง "รุเอ็น" ผมตั้งใจจะเดินทางไปที่เมืองนั้นทางรถไฟ เพื่อจะได้ไปเยี่ยมเยือนเพื่อนฝูงที่อาศัยอยู่ตาม...
ตอน : อาร์ซานน์ ลุปัง เสียท่า
ค่ำเมื่อวาน ผมส่งรถของผมกลับไปเมือง "รุเอ็น" ผมตั้งใจจะเดินทางไปที่เมืองนั้นทางรถไฟ เพื่อจะได้ไปเยี่ยมเยือนเพื่อนฝูงที่อาศัยอยู่ตามฝั่งแม่น้ำ "ลาแซนน์"
ที่มหานคร "ปารีส์" ก่อนที่รถไฟจะออกสักครู่หนึ่ง มีชายเจ็ดคนเข้ามาที่ห้อง (ในตู้รถไฟ) ที่ผมนั่งอยู่ ห้าคนนั้นสูบบุหรี่เป็นควันคลุ้ง ผมไม่ชอบบุหรี่


ห้องนี้มีสุภาพสตรีคนหนึ่งนั่งอยู่ เมื่อเห็นผมเข้ามา เธอทำท่ารำคาญนิดๆอย่างปิดๆแต่ผมก็สังเกตุเห็น โน้มตัวไปกระซิบอะไรกับสุภาพบุรุษคนหนึ่งที่ยังยืนอยู่บนขั้นบันได ผมทายว่าคงเป็นสามีของนางอย่างไม่ต้องสงสัย สุภาพบุรุษคนนั้นหันมามองผมอย่างพินิจ คงเห็นว่าหน้าตาของผมไม่ทำให้เขาสงสัยอะไรมากเพราะเขายิ้มกับภรรยาของเขาและพูดกับเธอด้วยท่าทีเห็นได้ว่าในบรรยากาศที่ปลอบเด็กที่กำลังกริ่งเกรงอะไรสักอย่าง

ได้ยินสามีบอกว่า
"ฉันมีนัดสำคัญนะที่รัก รออีกไม่ได้นะจ้ะ แล้วค่อยเจอกันนะจ้ะ"
เขาจุมพิตเธออย่างรักใคร่ และจากไป ภรรยาของเธอทำมือส่งจุมพิตอีกหลายครั้งให้เขาและโบกลาด้วยผ้าเช็ดหน้า เสียงหวูดรถไฟดังขึ้น รถไฟออกจากสถานี
และในนาทีนั้นเองชายคนหนึ่งรีบร้อนเข้ามาในห้องของเราทั้งที่ยามก็พยายามห้ามไว้แล้ว สุภาพสตรีเพื่อนร่วมตู้ซึ่งกำลังยืนจัดกระเป๋าบนชั้นเหนือศีรษะให้เข้าที่สะดุ้งอุทาน

แต่ลักษณะของผู้เข้ามาใหม่ก็ทำให้คลายความสงสัยไปได้บ้าง เขาแต่งกายอย่างสง่างาม ผ้าผูกคอมีรสนิยมดี ใส่ถุงมืออย่างที่ยอมรับในสังคม และหน้าตาก็สะอาดสะอ้านดูเฉลียวฉลาด เอ...ผมเห็นหน้านี้มาก่อน เห็นมาก่อนที่ไหนนะ? ผมมั่นใจว่าเคยเห็นมาก่อน เพียงแต่ความจำยังขุ่นมัว และรู้สึกว่าไม่ควรเสียเวลาพยายามนึก

ผมหันไปสนใจสุภาพสตรีผู้นั้น นางนั่งหน้าซีดเต็มไปด้วยความไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด เมียงมองผู้ที่เพิ่งเข้ามา...นางและชายคนนั้นนั่งด้านเดียวกัน นางมีท่าทางระแวงจนมือสั่นน้อยๆ ยื่นมือข้างหนึ่งไปกระเป๋าใบเล็กที่วางอยู่ข้างๆบนที่นั่งห่างนางไปไม่กี่นิ้ว ดึงมันมาใกล้ๆตัวนาง เราสบตากัน

"คุณนายไม่สบายหรือครับ? ผมเปิดหน้าต่างให้เอาไหมครับ?"
นางทำสัญญาณลับๆว่านางกลัวคนที่อยู่ข้างนาง ผมยิ้มให้อย่างตั้งใจปลอบ...แบบที่สามีนางยิ้มให้เธอเมื่อครู่ ยักไหล่ อธิบายด้วยท่าทางว่า ไม่มีอะไรน่าห่วงน่ากลัว ผมอยู่เป็นเพื่อนทั้งคน และนอกจากนั้นชายคนนั้นดูเป็นสุภาพบุรุษดี คงไม่ไม่ปัญหาอะไร และแล้วขณะนั้นเองที่ชายคนนั้นหันมามองเราทั้งสองอย่างสำรวจตั้งแต่ศีรษะถึงเท้า และแล้วเขาก็ไม่สนใจอีก นั่งอย่างสงบในมุมของเขา
และแล้วสุภาพสตรีก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางว่าเธอพยายามเรียกร้องความกล้าอย่างสุดความสามารถ พูดกับผมเสียงเบาหวิวว่า

"คุณทราบว่าใครกำลังอยู่ในรถไฟสายนี้กับเราไหมคะ?"
"ใครครับ?"
"เอ้อ...เขา...เขา...อยากจะบอกว่า..."
"ใครครับคุณนาย?"
"เมอร์สิเออร์อาร์ซานน์ ลุปังค่ะ"

ด้วยสายตาที่ยังไม่คลาดไปจากชายคนนั้น นางเอ่ยนามของลุปัง

"เมื่อวาน ศาลตัดสินเขาโดยที่จำเลยไม่ได้ไปศาล ให้จำคุกอาร์ซานน์ ลุปัง ยี่สิบปี ให้ใช้เวลาในคุกทำงานหนัก ดังนั้นผมว่า ลุปังควรจะระมัดระวังตัวมากครับ และตั้งแต่เขาหนีจากคุก "เดอ ลา ซองเท" หนังสือพิมพ์ที่ประเทศเตอรกีก็ประกาศว่าเห็นเขาปรากฎตัวที่นั่น"

"แต่เขาอยู่ในรถไฟขบวนนี้ค่ะ" นางยืนยัน อย่างต้องการให้ชายคนนั้นได้ยินด้วย "สามีของฉันเป็นคนหนึ่งของผู้บริหารหน่วย
การกุมขังลงโทษ และผู้บริหารกรมรถไฟเป็นคนบอกเราเองว่า อาร์ซานน์ ลุปัง กำลังถูกค้นหาในรถไฟขบวนนี้"

"อาจจะเข้าใจผิดก็ได้ครับ..."
"ไม่หรอกค่ะ มีคนเห็นเขาที่ห้องพักผู้โดยสาร เขาซื้อตั๋วชั้นหนึ่งไปเมือง "รุเอ็น"
"และเขาก็หายตัวไป ยามที่ห้องพักผู้โดยสารไม่เห็นเขาออกมา คิดกันว่าเขาคงขึ้นรถด่วนที่จะออกสิบนาทีหลังรถขบวนนี้"
"งั้นเดี๋ยวก็จับกุมตัวได้ละครับ"
"แต่เขาก็รีบเข้ามาขบวนนี้ได้ถ้ารอจนเกือบออก กระโดดข้ามมาที่ขบวนเราได้นะคะ...เป็นไปได้...ฉันว่าคงทำอย่างนั้นแน่เลย"
"ถ้าทำอย่างนั้นเดี๋ยวก็ถูกจับได้เหมือนกันครับ เพราะผมเชื่อว่ายามและพนักงานคงเตรียมพร้อมเฝ้าสังเกตกันอยู่ ยังไงก็พอถึงเมืองรุเอ็น ก็จับเขาได้ที่นั่น"
"อืม...คงไม่หรอกค่ะ คงหนีได้อีก"
"งั้นก็...เราก็อวยพรให้เขาดีกว่าครับว่า "บอง วัวยาจจ์"

"แต่คุณคะ ตอนนี้ก่อนถูกจับน่ะ เขาทำอะไรก็ได้"
"อะไรล่ะครับ?"
"ไม่ทราบค่ะ แต่เขาคงทำอะไรก็ได้"

สุภาพสตรีผู้นี้เป็นกังวลมาก และผมก็พอเข้าใจนะครับ เข้าใจความรู้สึก และพูดปลอบไปว่า
"บางที่ก็มีเหตุสอดคล้องแปลกๆได้นะครับ ไม่ต้องกลัวหรอกครับ อาร์ซานน์ ลุปัง รู้แล้วว่ามีคนรู้ว่าเขาอยู่ในขบวนรถไฟนี้ เขาน่าจะซ่อนตัวเงียบๆมากกว่า คงอยากเดินทางไปอย่างสงบเงียบมากกว่านะครับ"
คำพูดของผมไม่เป็นผลเท่าใด นางนิ่งเงียบไป ผมเปิดหนังสือพิมพ์ที่ซื้อมาอ่านข่าวการขึ้นศาลของ อาร์ซานน์ ลุปัง แต่ก็ไม่มีอะไรใหม่ เลยไม่สนใจกับข่าวนั้นนัก และผมก็เหนื่อยและง่วงด้วย หนังตาหนักและศีรษะห้อยลง

"อุ๊ย...เมอร์สิเออร์ คุณต้องไม่หลับนะคะ"
นางหยิบหนังสือพิมพ์ของผมส่งสายตาเกรี้ยวมาให้
"ครับๆ...ไม่หลับครับ" ผมตอบ
"ถ้าคุณหลับละก็ไม่มีความระมัดระวังอะไรเลยสิคะ"

"ครับ...ถูกต้องครับ มาดาม" ผมเห็นด้วย
ผมพยายามจะตื่นตัว มองไปนอกหน้าต่างเห็นทุ่งหญ้า และ เมฆ ลอยไปเรื่อยๆและก็ทำให้ผมง่วงมากขึ้น สิ่งที่เห็นไม่มีความชัดเจนขึ้นทุกที การเป็นห่วงเรื่องสุภาพสตรีร่วมห้องผู้โดยสารและสุภาพบุรุษที่ทำท่าง่วงเหลือแสนไม่สามารถทำให้ผมตื่นอยู่ได้ ผมหลับลึกอย่างผาสุข และผมก็ฝันถึงสิ่งที่รบกวนความสงบสุข ฝันถึงนายคนนั้นที่ชื่อว่า "อาร์ซานน์ ลุปัง" เป็นตัวเด่นในความฝัน


ผมมองไม่ชัดเพราะดวงตาเต็มไปด้วยสายเลือด ผมเห็นสุภาพสตรีคนนั้นตัวแข็งด้วยความกลัว ผมไม่มีกำลังจะป้องกันตัวเองเลย ศีรษะหนักและปวดตุบๆ


โอ...เจ้านั่นทำกับผมอย่างเชี่ยวชาญ...ชั้นมืออาชีพเชียวละ แน่นอน...เจ้านี่ต้องเป็นขโมยมืออาชีพอย่างไม่ต้องสงสัย เขาทำแบบไม่ต้องชะงักหรือต้องคิดอะไรเลย ทำอย่างใจเย็นและกล้ามาก ตอนนี้...ผมก็ได้แต่นอนบนม้านั่ง ถูกมัดหนาแน่นขยับไม่ได้ราวกับตัวมัมมี่อียิปจ์...ผมนะครับ...ผมเอง อาร์ซานน์ ลุปัง ครับผม...


![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
เมื่อวันที่ : ๒๖ ก.ย. ๒๕๕๐, ๑๒.๔๑ น.
แฟนลุปังมาเกาะหน้าจอรออ่านตอนต่อไปค่ะ