![]() |
![]() |
pilgrim![]() |
ตอน : สุดแผ่นดินอังกฤษ: ซอมเมอร์เซ็ต-เดวอน-คอร์นวอล ทะเลตะวันตกฝั่งแอตแลนติก
Torquay มองไปคล้ายพัทยาบ้านเรา![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ตัวเมืองทอร์คีย์ที่อยู่บนเนินเขา ภาพนี้เบลอไปหน่อยค่ะ
จันทร์ 22 สิงหาคม 2005
คณะทัวร์ของพวกเรา นอนดึก ตื่นเช้ากันแทบทุกวัน คนอื่นไม่ค่อยนอนดึกหรอก พอหัวถึงหมอน เขาก็หลับกัน
มีแต่ฉันคนเดียวเท่านั้น ที่หลับยากหลับเย็น(แต่ชอบนั่งหลับในรถมาก แฮ่ๆๆ) ต้องหาหนังสือมาอ่าน มาเขียน ถึงจะนอนหลับได้ แล้วก็ต้องตื่นเช้าตามเขา เพราะทั้งสองสาวไม่ชอบไปโซ้ยกับการจราจรยามสาย
เช้าวันนี้ แคเรนบอกว่า เรากำลังมุ่งจะไปเมืองทอร์คีย์ (Torquay) กัน ซึ่งยังอยู่ในเขตแคว้นเดวอนแต่ค่อนลงมาทางใต้แล้ว
ตกสายๆ พวกเราก็ไปถึงเมืองทอร์คีย์ เลสลีย์จองที่พักไว้แล้วทางอินเตอร์เน็ท เราจึงรีบไปเช็คอินกันก่อน เพื่อให้เขาแน่ใจว่าเรามาแน่ๆ เพราะคณะทัวร์ของพวกเรานั้น เป็นอย่างที่เล่าคือ ไม่มืดค่ำ ไม่กลับที่พัก
ในทอร์คีย์นี้ เราไม่ได้พัก B&B แต่พักโรงแรมมีห้องน้ำในตัวเสร็จสรรพ ก็สะดวกสบายขึ้นหน่อย ชื่อว่าโรงแรม Sommerville เป็นโรงแรมเล็กๆ ไม่ไกลจากตัวเมืองนัก
จากนั้น พวกเราก็ไปเที่ยวหมู่บ้านจำลองแบ๊บบาโคมบ์ (Babacomb Model Village) สองสาวบอกว่า อยากให้ฉันได้ไปเห็นเมืองจำลองของที่นี่ เพราะเขาทำได้สวยน่ารักมาก
ที่แบ๊บบาโคมบ์นี้เป็นหมู่บ้านจำลองที่มีพื้นที่กว้างขวาง สร้างได้เหมือนเมืองจริงๆ มีสิ่งน่าสนใจหลายอย่าง มีทั้งบ้านจำลองทั้งแบบสมัยใหม่ สมัยเก่า โรงแรม สนามกีฬา ศูนย์การค้าแบบในลอนดอน
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ตุ๊กตุ่น ตุ๊กตาที่ปั้นเป็นตัวคน สิงสาราสัตว์ก็ทำได้น่ารัก สวนและภูมิทัศน์ก็จัดแต่งได้อย่างงดงาม เป็นระเบียบ พวกเราเดินดูในหมู่บ้านจำลองกันอย่างตื่นตาตื่นใจ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ชายหาดจำลอง มีหุ่นนอนอาบแดดกันเยอะเลยค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
สนามบอล สังเกตเห็นคนจริงๆกำลังมุดเข้าไปทำงานซ่อมบางอย่างไหมคะ เทียบให้ดูระหว่างสัดส่วนของคนกับสนามบอลจำลอง
จากนั้นพวกเราก็เดินทางต่อไป ค็อคคิงตัน คอร์ท (Cockington Court) ซึ่งเป็นเหมือนคฤหาสน์โบราณ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ปัจจุบันเปิดเป็นศูนย์อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม และงานช่างแบบเก่าๆ ของแคว้นเดวอน เช่น การตีเหล็ก การเป่าแก้ว การทำเครื่องเงิน เครื่องทอง เครื่องปั้นดินเผา การอบร่ำสมุนไพรไม้หอม การทำน้ำมันหอมระเหย การทำผ้านวมแบบ patchwork การเขียนลายมือเป็นแบบอักษรสวยงามโบราณ (calligraphy)
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
โรงตีเหล็ก
บริเวณคฤหาสน์ร่มรื่น เหมือนสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เขียมชอุ่มตา ทำให้ฉันทึ่งคนอังกฤษเหมือนเคย ที่เขารักษาความเขียวของพื้นที่ไว้ได้ดีแท้
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
สามสาวนอนกันเขลง
งานฝีมือของเขาแต่ละอย่างก็งดงาม ฉันชอบงานเป่าแก้วของเขามาก เพราะเป็นงานฝีมือที่ละเอียด และออกแบบได้อย่างสวยงามทางศิลปะ แต่ไม่ได้ซื้อเลยสักชิ้น เพราะเรายังต้องรอนแรมอีกหลายวัน กลัวว่าจะซื้อเอามาทำแตกเสียเปล่าๆ
แต่เลสลีย์กับแคเรนซื้อแจกันแก้วเป่า สีสันและลวดลายสวยมาหนึ่งใบ เพราะตั้งใจจะนำไปเป็นของขวัญแต่งงานของลูกสาวคนที่โบสถ์ สองสาวเลยต้องคอยระวังกันสุดฤทธิ์ เรียกว่า ทะนุถนอม ประคับประคองกันอย่างดี
ที่ Cockington Court นี้ มีร้านน้ำชาเล็กๆน่ารัก พวกเราก็แวะเข้าไปกิน cream tea คือ ขนมสะโกนกับชาคาโมไมล์และ clotted cream เหมือนเดิม
ที่ Cockington Court นี้ มีโบสถ์ประจำหมู่บ้านแห่งหนึ่งด้วย เป็นโบสถ์ที่อุทิศให้แด่ St George และ St Mary ถือเป็นโบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่ง ซึ่งมีรากฐานโครงสร้างสืบทอดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1210 และถูกระเบิดเสียหายบางส่วนทางทิศใต้ของโบสถ์ในสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งทุกวันนี้ยังมีร่องรอยอยู่
จากนั้น เลสลีย์ก็พาพวกเรานั่งรถม้าชมบริเวณสวนและหมู่บ้านรอบๆคฤหาสน์ ตามประวัติกล่าวว่า หมู่บ้านนี้ มีมานับแต่สมัยพวกแซกซอน(Saxson) มาตั้งรกรากในอังกฤษ ตัวคฤหาสน์สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1679 และมีการลดขนาดให้โอ่อ่าน้อยลง ในปี ค.ศ. 1820 เนื่องจากสมัยนั้น มีการเก็บภาษีหน้าต่าง (Window Tax)
ได้ยินก็ขำดี เพราะคนสมัยก่อน เข้าใจคิดหาวิธีเก็บภาษีแปลกๆ
ที่เขาเก็บภาษีหน้าต่าง นั่นเป็นเพราะ สมัยก่อน การผลิตแก้วและกระจก ถือเป็นงานที่ใช้ต้นทุนสูง เขาบอกว่า ภาษีนี้ริเริ่มมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1696 สมัยพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 เรียกว่า คิดขึ้นมาเพื่อกะเล่นเงินจากคนรวยโดยเฉพาะ เนื่องจากสมัยก่อน คนอังกฤษไม่ค่อยอยากจะจ่ายภาษีรายได้ส่วนบุคคล
การเลี่ยงภาษี คือ ไม่ยอมบอกถึงรายได้ที่แท้จริงของตัวเอง ทำเป็นอมพะนำซะ เพราะถ้าขืนบอกไป รัฐก็รู้ว่ารวยแล้วก็จะมาเรียกเก็บล้วงเงินในกระเป๋าออกไป (แหม ทำไมมันช่างเหมือนสมัยนี้จริงๆ)
ทางรัฐก็เลยหาทางจนได้ มาเก็บภาษีกระจกหน้าต่างซะเลย เพราะมันเห็นกันจะๆ ก็ประเมินกันง่าย ดังนั้น ยิ่งบ้านเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ มีหน้าต่าง มีกระจกมาก ก็ต้องจ่ายซะดีๆ
แต่ชาวอังกฤษผู้ขี้เหนียว เอ๊ย ที่รู้จักประหยัด ก็หาทางเลี่ยง ด้วยการสร้างบ้านให้มีหน้าต่างน้อยที่สุด หรือก่ออิฐขึ้นมาเป็นรูปช่องหน้าต่างแทน โดยจะเห็นได้จากบ้านเรือนสมัยโบราณ ที่มืดๆทึมๆ
เขาบอกว่า ท้ายสุด ภาษีหน้าต่างนี้ก็ยกเลิกไปในปี ค.ศ.1851 เพราะมีการเรียกเก็บภาษีโรงเรือนแทน
เขายังบอกอีกว่า สำนวนที่ว่า "ปล้นกันกลางวันแสกๆ" (daylight robbery) ก็อาจจะได้มาจากภาษีหน้าต่างนี้แหละ เพราะมันเหมือนกับถูกปล้นเอาแสงแดดไปซะเฉยๆ จะทำหน้าต่างรับแสงเสียหน่อยก็ไม่ได้
โธ่ ก็เป็นที่รู้กันนะว่าอังกฤษน่ะ วันๆจะหาแสงแดด ก็ยากเต็มที โดยเฉพาะในฤดูหนาว
เมื่อได้นั่งรถม้าชมสวน ทำให้ฉันหวนคิดถึงตอนที่ไปเที่ยวปราสาทฟองแตนโบล ของนโปเลียนที่ฝรั่งเศส เพราะบรรยากาศคล้ายคลึงกันมาก นั่งรถม้าไปตามสวนป่าเขียวๆ มีดอกไม้บาน ผ่านบ้านชาวบ้านหลังคามุงด้วยต้นหญ้า (thatched cottages) ซึ่งน่าจะเป็นบ้านของข้าทาสบริวารของขุนนางสมัยก่อน
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
สารถีรถม้า ยังชี้ชวนให้เราดูบ้านของเขาด้วย เขาอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์มากนัก ฉันคิดในใจว่า คุณลุงสบายจัง ทำงานแบบสบายๆ เช้าขึ้นก็ขับรถม้ามาคอยรับนักท่องเที่ยว อากาศรึก็แสนจะบริสุทธิ์ ไม่ต้องแก่งแย่ง รีบร้อนกับใคร
ตกเย็น พวกเราก็อำลาจาก Cockington Court แล้วขับรถเข้าเมือง
เลสลีย์และแคเรนชวนไปดูหนังเรื่อง Charlie and the Chocolate Factory เพราะพวกเขายังไม่ได้ดูกัน เขาอยากให้เนโอมีลูกสาวได้ดูด้วย
ส่วนฉันน่ะดูแล้ว แต่ก็ไม่ขัดข้องที่จะดูอีก เพราะเรื่องนี้ก็สนุกดี พวกเราก็เลยแห่กันเข้าไปในโรงหนัง พอหนังเลิก ก็เดินไปดูชายหาดเมืองทอร์คีย์ แต่ก็มองไม่ค่อยเห็นอะไรมากนัก เพราะโพล้เพล้แล้ว
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
เมืองทอร์คีย์ยามค่ำ มีแสงไฟสว่างเรือง ตัวเมืองเรียงรายทอดตัวอยู่บนเนินเขา เป็นเมืองชายทะเลใหญ่เปรียบได้กับพัทยาบ้านเรา เพียงแต่แสงสีและอบายมุขของเขาคงจะน้อยกว่า
ฉันรู้สึกเฉยๆ ไม่ประทับใจเมืองนี้มากนัก เพราะความที่เป็นเมืองใหญ่ ดูจอแจมากเกินไป ชมชายหาดเสร็จ พวกเราก็มาหาของกินในเมือง เย็นนี้ ตกลงกันได้ว่า กินพิซซ่ากันดีกว่า ก็เลยเดินเข้าร้าน Pizza hut แล้วก็ปีนขึ้นเนิน เดินกลับโรงแรม ฉันก็นอนห้องเดียวกับแคเรนเหมือนเดิม
พรุ่งนี้ เราจะไปให้ถึงคอร์นวอล ดินแดนอันสวยงามน่ารักของอังฤษ
เมื่อวันที่ : ๐๑ มิ.ย. ๒๕๕๐, ๒๒.๒๑ น.
ด้วยความระลึกถึงทุกๆท่านค่ะ