![]() |
![]() |
ยังวัน![]() |
ตอน : "Cyber Adventure"
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
วันนี้เขาหมดเงินค่าแท็กซี่จากสนามบินมาถึงบริษัทแห่งนี้เพียงเที่ยวเดียวแปดพันกว่าบาท ถ้าไปบอกเพื่อนว่า ค่ารถแท็กซี่เที่ยวเดียว เท่ากับเงินเดือนของพวกมันเกือบครึ่งเดือน คงจะถูกหาว่าขี้โม้แน่ แต่มันก็เป็นช่องทางเดียวที่เขาคิดออกในการเดินทางตามลำพังในมหานครแห่งนี้ในฐานะคนแปลกหน้า
จากสนามบินนาริตะ เขานั่งขดตัวอยู่ในเบาะหลัง สัมภาระของเขามีเพียงเป้เล็ก ๆ เพียงใบเดียวที่ใช้ใส่เสื้อหนาวตัวที่หนาที่สุดตอนออกจากกรุงเทพ และบัดนี้ เป้ใบนั้น เหลือเพียงของใช้จำเป็นชิ้นเล็ก ๆ อีกสองสามชิ้น เสื้อกันหนาวหนาและหนักตัวนั้นเขาเอามาสวมไว้แล้ว ฮีทเตอร์ในรถแท็กซี่ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นได้เพียงเล็กน้อย เขาจึงต้องห่อทุกสัดส่วนของร่างกายไว้ภายในร่างกายที่กอดงอจนมองดูคล้ายเศษผ้ากลม ๆ ไม่มีกะจิตกะใจจะชื่นชมกับทิวทัศน์ข้างนอกแม้แต่น้อย ถ้ามีคนมาให้บรรยายภาพสองข้างทางระหว่างสนามบินนาริตะ จนถึงกรุงโตเกียว เขาคงบรรยายได้เพียงว่า มีแต่สีน้ำเงินเข้มของเสื้อหนาว และสีดำ และเทาของเบาะรถและพื้นรถแท็กซี่ เขาอยากจะจบวันอันแสนทรมานนี้เร็ว ๆ เสียที ทั้งที่เพิ่งเหยียบย่างลงบนดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัยได้เพียงไม่ถึงสองชั่วโมง
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
เขาเดินมะงุมมะงาหราอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้าที่จ้ำเดินอย่างรีบเร่ง อากาศหนาวเหลือเกิน แม้จะตลบปกเสื้อขึ้นปิดต้นคอจนมิด แต่ก็ไม่ช่วยให้ความหนาวเย็นเบาบางลงได้เลย นี่ถ้าหากเป็นอยู่เมืองไทย เขาจะคงจะหลบแวะเข้าไปที่ร้านกาแฟเล็ก ๆที่เห็นตรงมุมถนน สั่งกาแฟร้อน ๆ มากินแก้หนาวสักแก้วใหญ่ แต่คำเตือนจากผู้สันทัดกรณีเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะกรุงโตเกียว ห้ามไม่ให้เขาทำเช่นนั้น ด้วยว่าราคากาแฟหนึ่งถ้วยของเมืองนี้ เทียบกับเงินบาทได้หลายร้อยบาททีเดียว สู้อดทนอีกสักนิด จัดการธุระที่คั่งค้างอยู่ให้จบ ๆ ไปเสีย ค่ำนี้รีบกลับด้วยเครื่องที่เขาจองตั๋วไว้แล้ว กลับถึงเมืองไทยคงจะราวพรุ่งนี้เที่ยง ๆ หรือบ่าย ๆ แม้จะเหนื่อยหน่อย ก็ยังดีกว่าทนอุดอู้อยู่ในเมืองใหญ่อันแสนจะแปลกหน้าอย่างมหานครกรุงโตเกียวแห่งนี้
สังเกตจากตัวอักษรบนแผ่นกระดาษ เทียบเคียงกับป้ายบอกถนน พบว่าเป็นตัวเดียวกันไม่ผิดแน่ ตัวอักษรตัวแรกเป็นรูปคล้าย ๆสี่เหลี่ยม มีขีดตรงกลางอีกสองขีด รวมเป็นหกขีด ตัวกลางมีหกขีด และตัวที่สามมีหลายขีด หน้าตาเหมือนถั่วงอกสองสามเส้นพันกัน อย่างน้อยก็อุ่นใจไปเปลาะหนึ่งแล้วว่า มาถูกถนน ไม่ใช่โดนเจ้าแท็กซี่หน้าเต้าหู้พามาปล่อยทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไว้ข้างทาง ปัญหาที่เหลือเพียงหา บริษัท ซังไง ดีเวลล็อปเม้นท์ ที่เขาต้องไปให้ถึงตามที่ได้นัดหมายไว้
บริษัท ซังไง แห่งนี้ โด่งดังในด้านการพัฒนาเกมส์คอมพิวเตอร์ เกมส์แนววางแผน หรือ RPG ของบริษัทแห่งนี้ ดังเป็นเกมส์ยอดนิยมระดับโลกมาแล้วหลายสิบเกมส์ แต่ละเกมส์มียอดจำหน่ายหลายล้านก้อปปี้หนุ่มภากรจึงอดแปลกใจไม่ได้ว่า เหตุใด บริษัท ซังไง จึงส่งอีเมล์ พร้อมกับเงินค่าตั๋วเครื่องบินให้เขาเดินทางมาพบ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับเกมส์ใหม่ที่เขาเขียนขึ้น
เรื่องทั้งหมดเริ่มขึ้นตอนที่เขาส่งตัวอย่างเกมส์สองสามฉากแรกให้บริษัทแห่งนี้ เมื่อเผอิญไปอ่านเจอประกาศเรื่อง ประกวดการออกแบบเกมส์จากกลุ่มข่าวเกี่ยวกับเกมส์ที่เขาเป็นสมาชิกอยู่ (News group) เขาจึงลองเอาเกมส์ที่เขียนขึ้นครั้งทำโครงงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ขึ้นมาแก้ไขขัดเกลา เท่าที่เวลาสองอาทิตย์ที่มีอยู่จะพอทำได้ แล้วส่งแนบมาทางอีเมล์ ต่อจากนั้นทุกอย่างก็เงียบหาย จนเขาคิดว่า ผลงานแบบเด็กเล่นของเขาคงถูกโยนลงตะกร้าไปเสียแล้ว
จนเมื่อเดือนอาทิตย์ก่อน จู่ ๆ ก็มีอีเมล์จากบริษัท ซังไง แจ้งให้เขารู้ว่า ผลงานของเขาได้รับการตัดสินให้ชนะเป็นอันดับหนึ่ง และบริษัทดังกล่าวอยากจะขอซื้อลิขสิทธิ์เกมส์ดังกล่าวไปผลิตจำหน่าย ทั้งที่เกมดังกล่าวมีเพียงชื่อที่เขาตั้งขึ้นเล่น ๆ ว่า "Cyber Adventure" พร้อมกับข้อเสนอให้ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพ -- โตเกียว กับเขาหนึ่งที่นั่ง และนั่นคือเหตุผลทั้งหมดของการเดินทางเที่ยวนี้ของเขา
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
เขาถลกแขนเสื้อโค้ทหนาเตอะดูนาฬิกาอีกครั้ง มันชี้บอกเวลา 8.35 น.แล้ว บริษัทน่าจะเปิดได้แล้ว แต่เหตุใดประตูกระจกยังปิดสนิทอยู่ไม่มีวี่แววของพนักงานสักคน ที่เขาเคยได้ยินกิตติศัพท์ของชาวญี่ปุ่นเรื่องการตรงต่อเวลา จะมีข้อยกเว้นเฉพาะบริษัทแห่งนี้เชียวหรือ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจกดกริ่งที่อยู่ใกล้ประตู เพราะเริ่มรู้สึกว่าลมหายใจของเขากำลังจะเป็นน้ำแข็งไปแล้ว
รออย่างกระวนกระวายในความหนาวเย็นแค่อึดใจเดียว ก็มีเสียงคนมาเปิดประตู เป็นพนักงานชายวัยไล่เลี่ยกับเขา เพียงแต่ผอมบางกว่า สวมแว่นหนากว่า เขาทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นที่เขาไม่เข้าใจ และไม่ประสงค์จะเข้าใจ รีบเบี่ยงตัวหลบเข้าไปข้างในก่อนที่จะแข็งตาย เขายื่นอีเมล์สองภาษา อังกฤษ-ญี่ปุ่นให้กับชายหนุ่มคนนั้น เขารับไปอ่าน แล้วผายมือไปที่โซฟาเล็ก ๆในห้อง เป็นทำนองให้เขานั่งรอที่นั่น ส่วนตัวเองเดินหายออกไปทางประตูด้านหลังของห้องสีครีมเล็ก ๆ ห้องนั้น
ก็แค่นี้เอง เขาน่าจะกดกริ่งนั่นตั้งแต่แรกแล้ว มัวแต่เกรงใจอยู่ได้เสียตั้ง
นาน
อากาศในห้องอบอุ่นด้วยเครื่องทำความร้อน อุ่นพอที่เขาจะคลายมือที่กอดรัดอกไว้แน่นตั้งแต่ตอนลงจากแท็กซี่ แม้จะรู้ว่า เวลานัดของเขาคือ 9.50 น. ยังอีกตั้งชั่วโมงเศษ เขาก็พอใจจะนั่งรออยู่ในห้องอุ่น ๆ ห้องนี้ ดีกว่าออกไปตะลอนอยู่บนถนนที่หนาวจนแทบจะแข็งตายอย่างข้างนอกนั่น
ที่เขาติดตัวมาจากเมืองไทย นอกจากเงินเยน ที่ได้รับจากการแลกเงินบาทจำนวนสามหมื่นบาทสุดท้ายที่เขาถอนออกมาจากธนาคารเมื่อสองวันก่อนแล้ว ยังมีแผ่นดีวีดี บรรจุเกมส์ "Cyber Adventure" อีกสองแผ่น และพ็อกเก็ตพีซีตัวโปรดที่เดินทางไปทุกแห่งกับเขาซุกอยู่ในเป้ใบเก่ง
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ยังไม่ทันจะคิดอะไรต่อ ประตูบานเล็กหลังห้องก็เปิดออก ผู้ที่ก้าวเข้ามาเป็นชายวัยกลางคน สวมสูทสีเทา ท่าทางภูมิฐาน
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
"ขอบคุณครับ" ภากรตอบเป็นภาษาอังกฤษ สำเนียงไทยแลนเดอร์ และส่งยิ้มสยามให้เขา ก่อนจะลุกขึ้นเดินตามเข้าไปอย่างว่าง่าย รู้สึกใจชื้นขึ้นเป็นกอง
*******************************************************
หมายเหตุจากผู้เขียน
1. นิยายเรื่อง "ปลายทางมายา" นี้ เขียนขึ้นจากการค้นคว้าศึกษาเรื่องเกี่ยวกับ ระบบอินเตอร์เน็ต, การเขียนโปรแกรม, การทำงานของระบบเน็ตเวิร์ค, พฤติกรรมในการใช้อินเตอร์เน็ตของเด็กไทย ฯลฯ ที่ผู้เขียนศึกษาด้วยตนเองในระยะเวลาอันจำกัด หากผู้อ่านท่านใดพบข้อความอ้างอิงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไม่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ได้โปรดทักท้วงด้วยจักเป็นพระคุณยิ่ง
2.ในบางบทบางตอนของนิยาย ผู้เขียนมีความจำเป็นต้องบรรยาย และใส่ภาพประกอบ เรื่องที่เกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศบ้าง ก็เพื่อให้สอดคล้องสมจริงกับพฤติกรรมของหนุ่มสาวส่วนหนึ่งที่ใช้อินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน จึงหวังว่าท่านผู้ปกครองจะได้โปรดแนะนำตักเตือนบุตรหลานที่ยังอยู่ในวัยเยาว์ ให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านนิยายเรื่องนี้ด้วย
ขอขอบพระคุณ
ยังวัน - ผู้เขียน
เมื่อวันที่ : ๑๕ มี.ค. ๒๕๕๐, ๑๓.๓๙ น.
ตามมาลุ้นค่ะว่าคุณภากร จะมีหวานใจ
เป็นสาวไทยหรือสาวญี่ปุ่น อิอิ แต่ว่าปกติคนขับแท็กซี่ที่ญี่ปุ่นนี่มารยาทดีมากเลยนะคะ คุณภากรนี่โชคร้ายจริงๆ เจอตาแก่หน้าตาเหมือนเต้าหู้อีกต่างหาก หุหุ...และสุดท้ายค่ะ ตอนที่คุณภากรนั่งแท็กซี่ น่าจะเป็น "ถ้ามีคนมา..." หรือเปล่าเอ่ย