นิตยสารรายสะดวก  Memorandum  ๐๒ มกราคม ๒๕๕๐
เรื่องเล่าจากเจนีวา (ปีห้า) #53
รจนา ณ เจนีวา
...การ​เป็นสะใภ้ครอบครัวต่างชาติ​ที่เรา​ต้องทำตัวให้กลมกลืน​กับ​เขานี่ไม่ใช่เรื่อง​ง่ายเลย​ ​เป็นสะใภ้ของคนเยอรมัน​แต่พูด​ได้เฉพาะภาษาอังกฤษก็​ต้องทำใจนะคะ​...

ตอน : คริสต์มาสกับครอบครัวเยอรมัน (สอง)

ตอนนี้ว่าด้วยการประดับต้นคริสต์มาสค่ะ​

คลิกดูภาพขยาย

ต้นคริสต์มาส​ที่บ้านมาเรียน ​กับลูกสาวตัวน้อย "โซฟี" ...​.​จะเห็นว่าบ้านนี้​เขาประดับต้นคริสต์มาสแบบเรียบง่าย ไม่มีลูกแก้วแดง ๆ​ มากเหมือน​ที่เคยเห็น​ที่อื่น ข้างหลังต้นคริสต์มาสก็​คือเตาผิง

บ้านมาเรียน​เขา​ใช้เซรามิค​และของเล่นไม้​เป็นหลักในการประดับ ​และ​ใช้เทียนจริง ๆ​ ​กับเชิงเทียนค่อนข้างดี ไม่​ได้​ใช้ไฟราวประดับเหมือน​ที่เคยเห็น​ที่อื่น ​และไม่มีพู่สีแดง ๆ​ เขียว ๆ​ พันรอบต้นไม้...​.ก็​เป็นอีกสไตล์นะคะ​

คลิกดูภาพขยาย


คลิกดูภาพขยาย

รจนา​ไปยืนพิจารณาดูว่า​เขามีอะไร​ห้อยบนต้นคริสต์มาสบ้าง ก็เลย​​ได้เห็นตุ๊กตาจุ๋ม ๆ​ จิ๋ม ๆ​ มาฝาก หนูน้อยนั่งเล่นดนตรีอยู่​บน​พระจันทร์เสี้ยวบ้าง ​เป็นหนูน้อยนั่งเล่นดนตรีอยู่​บนดวงดาว มีเชิงเทียนประดับต้นคริสต์มาสอยู่​ข้าง ๆ​ มีขบวนรถไฟทำด้วยไม้ ทาสีสวยเชียวค่ะ​...​เข้าใจว่าน่า​จะ​เป็นของเล่นของเด็ก ๆ​ สมัยยังเล็ก ๆ​ กันอยู่​

คลิกดูภาพขยาย

หรือ กระดิ่งเซรามิคเนื้อดี...​..

เท่า​ที่ทราบ ​แต่ละบ้าน​เขาหลังจากเทศกาลผ่าน​ไป ​เขาก็​จะเก็บของประดับต้นคริสต์มาสไว้อย่างดี พอถึงเทศกาลในปีถัด​ไป ก็​จะ​เอามาประดับกันอีก อาจ​จะหาอะไร​มาเพิ่มเติมบ้าง แล้ว​​แต่แฟชั่นในปีนั้น​ ๆ​

​ที่บ้านรจนาก็มีของประดับต้นคริสต์มาสเหมือนกันค่ะ​ ​แต่​ได้​ใช้แค่สองครั้ง ตอนนี้ก็ยังนอนอยู่​ในกล่องในห้องใต้ดิน

อ้อ...​ลืมเล่าเรื่อง​การให้ของขวัญกันค่ะ​

พ่อบ้านบอกว่า เด็ก ๆ​ มัก​จะตื่นเต้นอยากเห็นของขวัญเร็ว ๆ​ ​และ​จะไม่มี​ความอดทน​ที่​จะรอทานข้าวเสียก่อน ทางฮารัลด์​กับมาเรียน (แฟน) ก็เลย​แจกของขวัญให้ลูก ๆ​ ก่อนทานข้าว ​แต่​เขาแจกไม่หมดค่ะ​ เลือก​เอาแค่บางชิ้น ใต้ต้นคริสต์มาส​จะมีของขวัญกองพะเนิน ​ส่วนพวกเราเองก็มีของขวัญมาสองถุงใหญ่ มาเรน (น้องสาว) ก็มีอีกสองตะกร้าใหญ่

รอบแรกนี้พวกเราไม่รู้ ก็ร่วมแจกของขวัญเสียหมด ​เพราะไม่ทราบว่า​จะมีอีกสองรอบ ​แต่ก็ค่อย ๆ​ ทะยอยให้ เรารอให้เด็ก ๆ​ ​ได้รับเกือบหมดเสียก่อน เราจึงค่อยหยิบมาให้ทีละอย่าง ​และร่วมกันตื่นเต้น ร้อง อูว์ อาว์ ให้​ได้บรรยากาศ มีการถ่ายรูป หัวเราะกันร่าเริง

คลิกดูภาพขยาย

แม่เวร่า​เอาของขวัญให้พ่อบ้านกล่องหนึ่ง​ ​แต่พอเปิดออกมากลาย​เป็นผ้าพันคอผู้หญิง พวกเราก็เลย​หัวเราะกันครืน แม่เวร่า​ต้อง​เอาของใส่กล่องคืน แล้ว​​เอา​ไปให้น้องจูเลียแทน สนุกสนานดีค่ะ​

พอรอบแรกเสร็จ เด็ก ๆ​ ก็สงบพอ​ที่​จะทานข้าว​ได้ ไม่งอแงรบเร้า หลังจากนั้น​ก็มาแจกกันอีกรอบ รจนาก็ประหลาดใจว่า ของขวัญมากมาย​ เด็ก ๆ​ ​ได้รับคนละไม่ต่ำกว่า ๑๐ อย่าง...​.มาทราบทีหลังว่า ของขวัญหลายชิ้นมาจากปู่ย่าตายายบ้าง จากญาติ​ที่ไม่​ได้มาร่วมบ้าง จาก​เพื่อนบ้าง จากพ่อของเด็ก ๆ​ (​ที่​กำลัง​จะหย่า​กับแม่) บ้าง...​.เห็น​ได้เลย​ว่า เด็ก ๆ​ ​ได้รับการทะนุถนอม​เอาใจ​และรัก​ใคร่แค่ไหน จากของขวัญ​ที่​ได้รับ

คลิกดูภาพขยาย

จูเลีย​ได้ผ้าคลุมไหล่สีดำสวย โซฟาแบบปรับ​เป็น​ที่นอน​ได้ หนังสือ สร้อยคอ ผ้าปู​ที่นอน ฯลฯ นับไม่ไหวค่ะ​ ​ส่วนน้องน้อยโซฟีก็​ได้เสื้อคลุมกันหนาว ผ้าปู​ที่นอน ชุดน้ำชาเด็กเล่น หนังสือ ​และอะไร​อีกมากมาย​ เรียกว่า ดูกันจนตาลายทีเดียว

​ส่วนรจนาเอง​ได้รับอะไร​หลายอย่าง แม่เวร่าให้ถ้วยน้ำชา​กับถ้วยใส่คุ๊กกี้ลายขาวดำเข้าชุดกัน สวยถูกใจมาก ๆ​ มาเรนให้เทียนหลากสีชุดใหญ่ ​กับรวมเรื่อง​สั้น​ที่เขียน​โดยคนไทย ​แต่​เป็นภาษาอังกฤษ ขายในเทศกาลหนังสือไทยในฮัมบูร์ก (รจนาตะลุยอ่านจนเสร็จในสองวัน ยอมรับว่าเขียน​ได้ดีมาก ​แต่บางอย่างออก​จะไม่ตรง​กับธรรมเนียมไทยเท่าไร ​แต่อาจ​จะ​เป็น​เพราะเขียนให้ฝรั่งอ่านก็เลย​​ต้องปรับให้เข้า​กับ​ความเข้าใจของคนอ่านก็​ได้) ฮารัลด์ให้เทอร์โมมิเตอร์สำหรับวัดอุณหภูมิน้ำชา (ถูกใจมาก) ​กับโถใส่ใบชา ​และชารสคริสต์มาส (มี​ส่วนผสมของเครื่องเทศ ดอกไม้ ผลไม้) พ่อบ้านแอบ​ไปซื้อกระเป๋าถือใหม่สีเทอร์ควอยซ์ เก๋ถูกใจอีกเช่นกัน ​และยังมีของจุกจิกอื่น​ที่นับไม่หมด

คลิกดูภาพขยาย

สิ่ง​ที่รจนาพบว่า​เป็น​ความลำบากในการอยู่​ร่วม​กับครอบครัวต่างชาติในช่วงคริสต์มาสก็​คือ วาระนี้​เป็นวาระของครอบครัว ทุกคนก็อยาก​จะแลกเปลี่ยนข่าวสาร คุยกัน​เป็นภาษาของตัวเอง การ​จะพูดภาษาอังกฤษนาน ๆ​ ​เพื่อรจนาคนเดียวกลาย​เป็นเรื่อง​ลำบากสำหรับ​เขาใน​ที่สุด ​และก็อาจ​จะ​เพราะเหนื่อยด้วย ทุกคนก็เลย​ลืมพูดภาษาอังกฤษ​กับรจนา​ไปชั่วคราว ทำให้เราวางตัวลำบาก ​เพราะไม่รู้ว่า​เขาพูดอะไร​กันก็เลย​ไม่อาจ​จะมี​ส่วนร่วมด้วย แล้ว​ก็​เพราะเหนื่อยด้วยเหมือนกัน (ดึกแล้ว​) รจนาก็เลย​ถือโอกาสผล็อยหลับ​กับไหล่พ่อบ้าน​ไปพักใหญ่ (​จะหนี​ไปอ่านหนังสือก็ไม่​ได้ ​เขาถือว่าผิดธรรมเนียมแขก​ที่ดี) ทุกคนก็ถามพ่อบ้านว่า รจนา​เป็นอะไร​​ไป (​เพราะ​ที่จริง​ต้องถือว่าเสียมารยาท​ที่มาหลับคอพับคออ่อนในบ้าน​เขา) พ่อบ้านก็เลย​บอกว่า ก็ไม่มี​ใครคุย​กับรจนาเลย​สักคน ​เขาก็เบื่อ​และหลับ​ไป​เป็นธรรมดา...​..นี่​คือ การต่อว่าแบบพ่อบ้านค่ะ​...​.

คลิกดูภาพขยาย

​ที่จริงรจนาไม่​ได้ถือโทษหรอกค่ะ​...​.รับ​ได้ว่า​เป็นเรื่อง​ปกติ หากพ่อบ้านมาสังสรรค์​กับครอบครัวรจนา เราก็คงว่าภาษาไทยสนุกสนานกันเหมือนกัน ​แต่คนเยอรมันนั้น​ อย่าง​ที่รู้ว่าเจ้าระเบียบ​และมากมารยาท...​.​เขาเองรู้ตัวว่า การไม่พูด​กับแขกด้วยภาษา​ที่แขกเข้าใจนั้น​ถือว่า เสียมารยาท​และขาดการศึกษาค่ะ​...​.​แต่หลังจากดื่ม กิน คุยกัน​ทั้งค่ำ ​เขาก็ย่อมเหนื่อย​และอยากพูดภาษาตัวเอง​เป็นธรรมดา...​..อีกอย่างเรามีเด็ก ๆ​ สองคน​ที่ยังไม่เก่งภาษาอังกฤษด้วย...​..

​ที่เล่าให้ฟัง​เพราะอยากสะท้อนว่า การ​เป็นสะใภ้ครอบครัวต่างชาติ​ที่เรา​ต้องทำตัวให้กลมกลืน​กับ​เขานี่ไม่ใช่เรื่อง​ง่ายเลย​ ​เป็นสะใภ้ของคนเยอรมัน​แต่พูด​ได้เฉพาะภาษาอังกฤษก็​ต้องทำใจนะคะ​ ข้อดีก็​คือ ไม่​ต้องรับฟังปัญหาในครอบครัวของ​เขาให้ปวดหัว​ไปด้วย มองโลกอย่างนี้ดีกว่านิ

คลิกดูภาพขยาย

วัน​ที่ ๒๕ พวกเราตื่นกันสายหน่อย​ ​แต่ก็ไม่ช้ากว่า ๑๐ โมง ​เพราะโรงแรมเสิร์ฟอาหารเช้า​ถึง ๑๑ โมงเท่านั้น​

พอทานข้าวเช้า​เสร็จ แค่รองท้องกันหิว พวกเราก็เช็คของออกจากโรงแรม แล้ว​ก็​ไปพบ​กับครอบครัว​ที่บ้านมาเรียน พวกเรา​จะออก​ไปทาน brunch ด้วยกันค่ะ​ ฮารัลด์จองโต๊ะไว้สำหรับพวกเรา​ทั้งหมด ๘ คน ประกอบด้วยผู้ใหญ่ ๖ เด็ก (โต) ๒ คน

ร้านอาหาร​ที่​ไปก็ครึกครื้นด้วยผู้คน​ที่ล่วงหน้า​ไปถึงก่อนเราแล้ว​ เราจองโต๊ะไว้ตอนบ่ายโมง อาหารมื้อเช้า​ควบกลางวันนี้ ​เขาทานกัน​ได้จนถึงเกือบสี่โมงเลย​ค่ะ​

ในร้าน​เขาก็​ใช้ไฟแรงต่ำ ​และประดับเทียน​เป็นหลัก รจนาไม่ค่อยชอบไฟสลัว ๆ​ เท่าไร ​โดยเฉพาะสำหรับทานอาหารกลางวัน ​แต่ดูทุกคนก็พอใจ​กับบรรยากาศกันดี คง​ได้อารมณ์คริสต์มาส ข้างนอกฟ้าก็ยังครึ้มเต็ม​ไปด้วยหมอก ไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวันเลย​ค่ะ​

​แต่อาหารของ​เขาก็เยี่ยมมาก มีพวกของกินเรียกน้ำย่อยให้ชิมเกือบสิบอย่าง เหมือนบุฟเฟ่ต์ชั้นดีทั่ว​ไป มีขนม ๗-๘ อย่าง ​ส่วนอาหารจานหลัก​คือ เป็ดอบ​ที่หนังกรอบละลายเวลาเข้าปาก ​และเนื้อนุ่มนวลเหมือนสำลีเลย​ค่ะ​ รสชาติก็เค็มหวาน​กำลังอร่อย ​และมีพวกปลาอบให้ทาน ​กับพาสต้า​และซอสเนื้อสับให้เด็ก ๆ​ ​ที่อร่อยอีกอย่างหนึ่ง​ก็​คือซุปฟักทองค่ะ​ ​เขามีเม็ดฟักทองคั่วให้โรยด้วย ​ส่วนขนมหวานก็มีวาฟเฟิ้ลโรยน้ำตาลไอซิ่ง เข้าใจว่า​เป็นของกินเช้า​วันคริสต์มาสตามธรรมเนียมเยอรมัน ​แต่ก็มีขนมอื่น ๆ​ ให้ชิมด้วย เช่น ลูกพลัมกวน ไอศครีมกลิ่นอบเชย เครมบรูเลย​์แบบฝรั่งเศส (เหมือนคาราเมลหน้าน้ำตาลไหม้) ​และอะไร​อีกสองสามอย่างจาระไนไม่หมดค่ะ​

พวกเราค่อย ๆ​ กิน ค่อย ๆ​ คุยกัน​ไป ​ที่อิ่มแล้ว​อิ่มอีกก็ยังทานต่อ​ไป​ได้เรื่อย ๆ​ (ประมาณว่าเสียดายตังค์ ​เพราะ​เขาคิดหัวนึงตั้ง ๓๐ กว่ายูโร ไม่นับค่าเครื่องดื่ม) ​เนื่องจากคุยกันออกรสดี

คลิกดูภาพขยาย

หลังจากมื้อกลางวันอันแสนหนักแล้ว​ เราก็แวะ​ไปบ้านมาเรียน​เพื่อดื่มกาแฟกัน ก่อน​จะร่ำลา การประดับโต๊ะ​ที่บ้านมาเรียนก็สวยน่ารักเช่นเคย

คลิกดูภาพขยาย

ขนาดอิ่มแล้ว​ก็ยังมีคุ้กกี้คริสต์มาส​ที่มาเรียนทำเอง ​และชุดน้ำชากาแฟ​ที่แสนน่ารัก กระดาษเช็ดปากก็ลายคริสต์มาสค่ะ​

มีขนมคริสต์มาสแบบเยอรมันผสม​กับปันฟอร์เต้ของรจนาค่ะ​ แบบเยอรมันเรียกว่า คริสชตอลเล่น มีสีเหลืองอ่อน ​เป็นเค้กเนื้อนุ่ม สอดไส้อัลม่อนด์กวน​และใส่ลูกเกด

คลิกดูภาพขยาย

​ส่วนปันฟอร์เต้​คือ ขนมชิ้น​ที่สีเข้ม ๆ​ ​เป็นเค้กผลไม้แห้งสารพัดชนิดผสม​กับถั่วหลายชนิด ให้น้ำผึ้ง​เป็นตัวประสาน ​และโรยผงช็อคโกแล็ตก็เลย​ออกสีเข้ม (​ใครอยาก​ได้สูตรก็​ต้องเปิด​ไป​ที่คอลัมน์ "เปิดครัวรจนา" นะคะ​)

ทานอิ่มแล้ว​ก็กลิ้งออกจากบ้าน​เขา ร่ำลาเจ้าของบ้าน พวกเราเดินทางต่อ​ไปคุ๊กซฮาเฟ่น บ้านของคุณแม่เวร่า เรา​ไปพัก​กับแม่เวร่าสามคืน คุณแม่ก็ดูแลอย่างดี ​แม้ว่าเรา​จะทานน้อยลง ​แต่ก็ยังจุกทุกมื้ออยู่​ดี ​ระหว่างอยู่​บ้านแม่เวร่า พวกเรานอน​กับกิน ​และอ่านหนังสือกัน​เป็นหลัก เรียกว่าพักผ่อนกันจริง ๆ​ นอนเกือบตีหนึ่ง​ทุกวัน ​และตื่นประมาณ ๑๐ โมง...​แฮ่ม เรียกว่านอนกินบ้านกินเมืองจริง ๆ​ ค่ะ​

​เนื่องจากแม่เวร่า​ต้องเหน็ดเหนื่อยดูแลพวกเรา เราก็เลย​ชวนออก​ไปทานข้าวนอกบ้านเสียบ้าง คุณแม่​จะ​ได้ไม่​ต้องทำ​กับข้าว ร้านรวงต่าง ๆ​ ปิดวัน​ที่ ๒๕ ​และ ๒๖ เราก็เลย​​ไปกันวัน​ที่ ๒๗ ​เป็นวันพุธ

คลิกดูภาพขยาย

​ที่เมืองนี้ พวกเราชอบ​ไปทานกุ้งต้มทะเลเหนือตัวเล็ก ๆ​ ก็เลย​ชวนแม่เวร่า​ไป​ที่นั่น ​เขาเสิร์ฟกุ้งต้ม​กับไข่เจียว (​ซึ่งทอดออกมาหน้าตาถูกใจคนไทย) ​กับมันฝรั่งผัด​กับเบค่อนรองอยู่​ข้างล่างค่ะ​ ขนาดรจนาสั่งจานเล็กสำหรับคนแก่ก็ยังทานแทบไม่หมดเลย​ค่ะ​

วันสุดท้าย ๒๘ ธันวา พวกเราลาแม่เวร่าหลังอาหารเช้า​ แล้ว​ขับรถสองชั่วโมงกว่ามาขึ้น​เครื่องบิน​ที่ฮัมบูร์ก ​ระหว่างทาง​ได้เจอหิมะตก​เป็นครั้งแรกของปีนี้ ​แต่อากาศแย่ค่ะ​ ครึ้มตลอด ก็เลย​ไม่ตื่นเต้นเท่าไร

​ที่ฮัมบูร์กเรา​ไปเดินซื้อของกันอีกครั้ง ​เพราะพ่อบ้านชอบซื้อเสื้อผ้า​ที่เยอรมนีมากกว่า ​เนื่องจากมีไซซ์ใหญ่ถูกใจโก๋...​..

คลิกดูภาพขยาย

เดินผ่านร้านเบอร์เก้อร์คิงของฮัมบูร์ก ก็เลย​เก็บรูปมาฝาก ​เพราะอาจ​จะกล่าว​ได้ว่า ​เป็นร้านอาหารจานด่วน​ที่​ได้ทำเลสวยมาก​ที่สุดร้านหนึ่ง​...​ออกจากโบราณ คลาสสิกผิด​กับภาพลักษณ์ของ​ความ​เป็นร้านแฮมเบอร์เก้อร์ทีเดียว

​ความทรงจำเล็ก ๆ​ น้อย ๆ​ ของคริสต์มาสในเยอรมนี​กับคนเยอรมันนะคะ​

 

F a c t   C a r d
Article ID S-1938 Article's Rate 121 votes
ชื่อเรื่อง เรื่องเล่าจากเจนีวา (ปีห้า) --Series
ชื่อตอน คริสต์มาสกับครอบครัวเยอรมัน (สอง) --อ่านตอนอื่นที่ตีพิมพ์แล้ว คลิก!
ผู้แต่ง รจนา ณ เจนีวา
ตีพิมพ์เมื่อ ๐๒ มกราคม ๒๕๕๐
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ ฉันเขียนให้เธออ่าน
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๓๙๖ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๕ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม ๕๐๐
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : เก็จแก้ว [C-10307 ], [203.144.155.215]
เมื่อวันที่ : ๐๒ ม.ค. ๒๕๕๐, ๐๒.๓๗ น.

แก้วตามมาชมบรรยากาศฉลองคริสต์มาสต่อค่ะ​​

น่าสนุกดีนะคะ​​...​​ ​​โดยเฉพาะตอน​​ได้ของขวัญนี่แหละ​​ค่ะ​​...​​ อิ อิ

แก้วขอชื่นชมคุณรจนะคะ​​...​​ คุณรจ​​เป็นสะใภ้ต่างชาติ​​ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลจริงๆ​​ค่ะ​​...​​ คุณรจมองโลกในแง่บวก ​​และปรับตัว​​ได้อย่างกลมกลืน เข้า​​กับครอบครัวเยอรมัน​​ได้ดีเยี่ยมเชียวค่ะ​​ ...​​.​​ความรักนี่สร้างสรรค์สิ่ง​​ที่สวยงามจริงๆ​​นะคะ​​...​​ แก้วขอบอกว่า พ่อบ้านของคุณรจโชคดีมากค่ะ​​ ​​ที่มีภรรยาน่ารักๆ​​แบบคุณรจอ่ะค่ะ​​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๒ : ปอ เปลือกไม้ [C-10317 ], [203.188.63.202]
เมื่อวันที่ : ๐๒ ม.ค. ๒๕๕๐, ๒๓.๓๐ น.

มีภาพ​​และบรรยากาศสวยๆ​​มาให้ชม​​พร้อมเรื่อง​​ราวในต่างแดน​​ที่มีคุณค่า ส่งมาให้อ่านมากๆ​​นะครับ​​ ขอขอบคุณล่วงหน้า

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๓ : รจนาตอบจดหมาย [C-10419 ], [83.180.93.228]
เมื่อวันที่ : ๐๗ ม.ค. ๒๕๕๐, ๑๘.๒๕ น.

ตอบคุณเก็จแก้ว - ขอบคุณค่ะ​​ ​​ใช้เวลาตั้ง ๕ ปีกว่า​​จะมาถึงจุดแห่ง​​ความเข้าใจค่ะ​​ สุขบ้าง ทุกข์บ้าง สับสนบ้าง ท้อแท้บ้าง รื่นเริงบ้าง ขึ้น​​ ๆ​​ ลง ๆ​​ ครบทุกรสชาติคิ...​​.สิ่ง​​ที่ช่วย​​ได้มาก​​ที่สุด​​คือ ธรรมะ...​​.​​และคิดว่ายังคง​​ต้อง​​ใช้เวลาตลอดชีวิต​​แต่งงาน​​เพื่อปรับตัวให้เข้า​​กับคู่ชีวิตของเราค่ะ​​

ตอบคุณ ปอ เปลือกไม้ - ขอบคุณสำหรับ​​กำลังใจ​​และบทกลอน​​ที่เขียนให้ค่ะ​​ รจนาเองสนุก​​กับการถ่ายทอดเรื่อง​​ราวต่างแดนให้​​เพื่อน ๆ​​ ​​และหวังว่า​​จะ​​ได้รสชาติ​​ที่แตกต่าง​​ไปจากหนังสือนำเ​​ที่ยวทั่ว ๆ​​ ​​ไป...​​.

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๔ : พี่ปุ๊(กทม.) [C-11602 ], [124.121.147.116]
เมื่อวันที่ : ๒๙ พ.ค. ๒๕๕๐, ๐๓.๓๑ น.

เรียน คุณรจนา
​​ได้เข้ามาอ่านเรื่อง​​ราวต่าง ๆ​​​​ที่คุณรจ..​​และ​​เพื่อน ๆ​​ เขียนในเว็บ"ศาลานกน้อย"แล้ว​​ ขอแสดง​​ความชื่นชม..ขอบคุณ​​ที่​​ได้มอบสิ่งดีๆ​​ ให้​​กับ​​เพื่อน ๆ​​ คนไทย คุณรจ เอง ​​เป็นคนน่ารัก มี​​ความคิด​​และทัศนะ​​ที่ดี ​​และสมควร​​เป็นคนไทย​​ที่น่ายกย่อง ทำต่อ​​ไปนะคะ​​ พี่​​จะคอยติดตามผลงานตลอด​​ไป

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๕ : รจนาตอบพี่ปุ๊ (กทม) [C-11624 ], [83.176.62.125]
เมื่อวันที่ : ๐๖ มิ.ย. ๒๕๕๐, ๑๙.๒๑ น.

ขอบคุณพี่ปุ๊​​ที่เข้ามาให้​​กำลังใจค่ะ​​ รจนาเชื่อว่าการมอบสิ่งดี ๆ​​ ให้แก่กัน​​เป็นสิ่งไม่เหลือวิสัยจริง ๆ​​ ค่ะ​​ ​​ที่จริงแล้ว​​ การมอบสิ่งไม่ดีให้กันนั้น​​ทำยากกว่ามากมาย​​...​​..

ขอให้พี่ปุ๊มี​​ความสุขมาก ๆ​​ เช่นกันค่ะ​​

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น