นิตยสารรายสะดวก  Articles  ๐๘ มีนาคม ๒๕๕๕
รางวัลซีไรท์ (S.E.A. WRITE AWARD) #13
จันทน์กะพ้อ
... ดอกไม้ ดอกไม้ ​จะบาน...​...​...​บริสุทธิ์ กล้าหาญ ​จะบานในใจ สีขาว หนุ่มสาว​จะไฝ่...​...​...​...​.แน่วแน่แก้ไข จุดไฟศรัทธา เรียนรู้ ต่อสู้มายา...​...​...​...​...

ตอน : จีระนันท์ พิตรปรีชา

ดอกไม้ ดอกไม้ ​จะบาน...​...​...​บริสุทธิ์ กล้าหาญ ​จะบานในใจ
สีขาว หนุ่มสาว​จะไฝ่...​...​...​...​.แน่วแน่แก้ไข จุดไฟศรัทธา
เรียนรู้ ต่อสู้มายา...​...​...​...​...​..ก้าว​ไปข้างหน้า เข้าหามวลชน
ชีวิต อุทิศยอมตน...​...​...​...​...​.ฝ่า​ความสับสน​เพื่อผลประชา
ดอกไม้บานให้คุณค่า...​...​...​...​จงบานช้าๆ​​ทว่ายั่งยืน
​ที่นี่​และ​ที่อื่นๆ​...​...​...​...​...​...​...​.ดอกไม้สดชื่น...​ยื่นให้มวลชน



จิระนันท์ พิตรปรีชา เกิด ​เมื่อวัน​ที่ 25 เดือนกุมภาพันธ์ 2498 ​ที่ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ​เป็นบุตรสาวคนเดียวในจำนวนพี่น้อง 3 คน บิดาชื่อ นิรันดร์ มารดาชื่อจิระเคย​เป็นครูแล้ว​ลาออกมาเปิดร้านขาย เครื่องเขียน แบบเรียน ​และหนังสือ ชื่อ ร้านสิริบรรณ

เรียนชั้นประถม​และมัธยม​ที่จังหวัดตรัง ​และมาเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี​ที่สาม ​ที่โรงเรียนสาธิตวิทยาลัยครูเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ ​ที่กรุงเทพฯ เรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปี​ที่ 4-5 ​ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

พ.ศ. 2515 -- 2518 เรียนคณะวิทยาศาสตร์ (แผนกเตรียมเภสัชศาสตร์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พ.ศ 2524 ศึกษาต่อ​ที่มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ สหรัฐอเมริกา สำเร็จปริญญาตรีเกียรตินิยม สาขารัฐศาสตร์ ​และศึกษาต่อจนจบในระดับปริญญาเอก ในสาขาประวัติศาสตร์

​เนื่องจากชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก ​เพราะ​ที่บ้านขายหนังสือ จึงสนใจงานเขียนมาตั้งแต่ชั้นประถม เริ่มเขียนกลอนในช่วงเรียนอยู่​ชั้นมัธยมศึกษาปี​ที่ 2 โรงเรียนสตรีประจำจังหวัด ​และประสบ​ความสำเร็จเบื้องต้น​ได้รับรางวัล ในการประกวดกลอนเรื่อยมา ส่งงานกลอน​ไปลงตามนิตยสาร ชัยพฤกษ์ ​และ วิทยาสาร



​เมื่อปี 2515 ถูกเลือกให้​เป็นดาวจุฬา​และวุ่นวาย​กับกิจกรรมชมรมต่างๆ​อยู่​พักหนึ่ง​ ก็เกิดสงสัยในคุณค่าของระบบการศึกษา​และสังคมมหาวิทยาลัย จึงผันตัวเองมาร่วมกิจกรรมการเมืองแบบกลุ่มอิสระ​ที่เริ่มต่อตัวในยุคนั้น​ จึง​ได้มีโอกาสรู้จัก​กับ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ผู้นำนักศึกษาในยุคนั้น​ จนกลาย​เป็น​ความรักใน​ที่สุด

หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 บทบาท​​และชื่อเสียงของจิระนันท์​เป็น​ที่รับรู้​ไปทั่ว งานเขียนในรูปของบทกวีบางชิ้น​ได้กลาย​เป็นหนึ่ง​ในวรรคทองของยุคประชาธิปไตย ​แต่สภาพการณ์ทางการเมือง​ที่เริ่มพลิกกลับในปีถัดมา มี​ส่วนผลักดันให้จิระนันท์​ต้องตัดสินใจ "เข้าป่าจับอาวุธ" ​พร้อมๆ​​กับคู่ชีวิตเสกสรรค์ ประเสริฐกุล ​และ​ได้เขียนผลงานฉันทลักษณ์ภายตามประพันธ์ "บินหลา นาตรัง" ช่วงชีวิต​ที่อยู่​ในป่ามีบุตรชายคนแรกชื่อ แทนไท ​เขา​ทั้งสองตัดสินใจออกจากป่าเข้ามาสู่เมือง​และยุติบทบาท​ทางการเมือง​เมื่อปี พ.ศ.2523 ​และเดินทาง​ไปศึกษาต่อ​ที่สหรัฐอเมริกา มีบุตรคน​ที่สองชื่อ วรรณสิงห์



ผลงาน​ที่ตีพิมพ์​และรางวัล​ที่​ได้รับ

-พ.ศ. 2532 ​ได้นำบทกวีมารวมเล่ม ชื่อ ใบไม้​ที่หาย​ไป ​ซึ่ง​ได้รับรางวัลซีไรท์ ประเภทกวีนิพนธ์ ​เมื่อ ปี 2532
-แปลบทกวีของ คิม ซีฮาร์
-งานเรียบเรียง ลูกผู้ชายชื่อ นายหลุยส์
-เรื่อง​แปล โจรร้าย​ทั้งห้า ห้องสีเหลือง​กับผู้หญิงคนนั้น​ ​และบทบรรยายภาพยนตร์ต่างประเทศ จำนวนมาก
-สารคดี โลก​ที่สี่ อีกหนึ่ง​ฟางฝัน
-รวมบท​ความเกี่ยว​กับภาพยนตร์ หม้อแกงลิงชะโงกดูเรา
-อีกหนึ่ง​ฟางฝัน...​บทบันทึกแรมทาง จาก จิระนันท์ พิตรปรีชา

นามปากกา จิระนันท์ พิตรปรีชา ​และ บินหลา นาตรัง
ปัจจุบัน​เป็นนักเขียน ​และผู้จัดทำบทบรรยายภาพยนตร์

...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​...​..

ข้อมูลจากหนังสืิอ 100 นักประพันธ์ไทย ของ ผศ. ประทีป เหมือนนิล

อีกหนึ่ง​ฟางฝัน...​บทบันทึกแรมทาง จาก จิระนันท์ พิตรปรีชา

บทกวีอื่นๆ​ในหนังสือ ใบไม้​ที่หาย​ไป

สานทราย

ตรงรอยต่อสีขาวเส้นยาวเหยียด
ทรายละเอียดพบสายแดดแผดรังสี
ระยับไหวในละอองทองธาตรี
ลามสุรีย์สุดระยะทะเลทราย

คนสัญจรอ่อนล้า กร้านกว่ากร้าน
เดิน​โดยสารเวลาหาจุดหมาย
​ความหวังตรงเส้นขาว ยาว, ท้าทาย
อาจละลายหลอมร้อนก่อนถึงมัน

แล้ว​สีเขียวแสนงามยามร้อนจัด
ปรากฏชัด, ธารใสเหมือนในฝัน
คนใกล้ตายตะกายวิ่งหาสิ่งนั้น​
ภาพอาถรรพณ์พลันดับ​ไป​กับตา

ทะเลทรายรูปขวานกร้านลมแดด
วนในแวดวงเก่า-เขลา, ไร้ค่า
ผู้แสวงหวั่นไหวไกลเกินคว้า
มี​แต่ล้ารอตายรอสายธาร

มิถุนายน ๒๕๑๖


บันทึกลับกระบือหนุ่ม

มา​จะกล่าวบท​ไป
ถึงกระบือฝูงใหญ่อนาถา
ถูกขังคอกแคบคับอัปรา
จนตายด้านชินชามานักแล้ว​

​เขาให้กินเศษกากซากเน่า
ด่าว่าโง่เง่า​ทั้งเถาแถว
หลอกล่อลวง​ใช้ไม่รู้แกว
สี่ขาตาแป๋วไว้ไถนา

มีควายย่อมมีคนบนหลังควาย
เคี่ยวเข็ญ​เป็นนายควายเบิ่งบ้า
​เขาทวงคุณขุนเลี้ยงอย่างเลี่ยงนา
ตัวไหนกล้าปฏิวัติ-ซัดด้วยปืน

กูก็​เป็นควาย...​
งมงายตามประสาหน้า​ต้องฝืน
​แต่เลือดกูหลายหยดเคยรดพื้น
​เพราะมันขืนดัดจริต​จะขวิดคน

วันนี้กูเกิดเบื่อ
ไม่อยากทำเชื่องเชื่อ​เมื่อ​เขาพ่น
แอกหนักขึ้น​ทุกวันมันเกินทน
เกลียดสายสนตะพายอยากคลายทิ้ง


"​เขาแหลมหรือ​จะสู้ดาบปลายปืน"
กูยืนฟังคำกล้ำนิ่ง
ทางเดียวหรือ​ที่มีจริง
จับกูพิงยิงเป้าให้พ้นเวร

นิสิตนักศึกษา กรกฎาคม ๒๕๑๖


ไฟ-วิญญาณ;
งาน-ชีวิต


ทะเล ภูเขา เทาท้องฟ้า
นกน้อยปรารถนาบินให้ถึง
คาบธุลีจากหาวดาวดึงส์
มาเกลือกกลึงรอยไถในลุ่มนา
ท้าทายอหังการ์ท่าที
ไม่หนีลมคลื่นฝืนฝ่า
สองปีกนี้มี​กำลังปกบังฟ้า
รักษามิให้ล่มถมมวลชน
​และสำเนียงอมตะ​จะถี่ก้อง
เพลงนกร้องเฉียบเข้มเต็มข้น
กล่อมน้ำตาแห้งคาตาคนจน
สาปอธรรมทุกข์ทนอัปยศ
กล้าหาญ กล้าหาญ
ปราการเบื้องหน้าปรากฏ
ปราการฐานันดร์หลั่นลด
จักฝ่า​ไปปลดพันธนา
ฝันถึงสัจ​จะอิสรภาพ
วันโลกอาบอิ่มงามตามคุณค่า
คน​คือคนลุกฟื้นคืนชีวา
สืบตำนานสะท้านฟ้าผาดินดาว

พรุ่งนี้แล้ว​พรุ่งนี้...​
ปีกนกหลุบหรี่เหน็บหนาว
ถอนใจรับดับฝันอันสกาว
​และปวดร้าว​กับเลือดเนื้อ​เมื่อหมดแรง

(คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ)

อหังการของดอกไม้

สตรีมีสองมือ
มั่นยึดถือในแก่นสาร
เกลียวเอ็นจัก​เป็นงาน
มิใช่ร่านหลงแพรพรรณ

สตรีมีสองตีน
ไว้ป่ายปืน​ความใฝ่ฝัน
ยืนหยัดอยู่​ร่วมกัน
มิหมายมั่นกินแรง​ใคร

สตรีมีดวงตา
​เพื่อเสาะหาชีวิตใหม่
มองโลกอย่างกว้างไกล
มิใช่คอยชม้อยชวน

สตรีมีดวงใจ
​เป็นดวงไฟไม่ผันผวน
สร้างสมพลังมวล
ด้วยเธอล้วนก็​คือคน

สตรีมีชีวิต
ล้างรอยผิดด้วยเหตุผล
คุณค่าเสรีชน
มิใช่ปรนกามารมณ์

ดอกไม้มีหนามแหลม
มิใช่แย้มคอยคนชม
บานไว้​เพื่อสะสม
​ความอุดมแห่งผืนดิน !

ประชาธิปไตย ๔ พฤศจิกายน ๒๕๑๖

ใบไม้​ที่หาย​ไป

 

F a c t   C a r d
Article ID S-1883 Article's Rate 929 votes
ชื่อเรื่อง รางวัลซีไรท์ (S.E.A. WRITE AWARD) --Series
ชื่อตอน จีระนันท์ พิตรปรีชา --อ่านตอนอื่นที่ตีพิมพ์แล้ว คลิก!
ผู้แต่ง จันทน์กะพ้อ
ตีพิมพ์เมื่อ ๐๘ มีนาคม ๒๕๕๕
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ ภาพยนตร์ เพลง บันเทิง
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๕๙๙๒ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๗ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม ๓๙๓๔
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : จันทน์กะพ้อ [C-9952 ], [203.188.29.226]
เมื่อวันที่ : ๓๐ พ.ย. ๒๕๔๙, ๒๒.๓๒ น.

เกิดวัน​​ที่ ๖ ตุลา ๒๕๑๙

จิระนันท์ พิตรปรีชา


​​เมื่อสายใยในชาติขาดสะบั้น
สิ้นสายครรภ์มาตุคามไร้​​ความหมาย
ก่อนกำหนดกฎกำเนิดเกิด​​เพื่อตาย
เพียงลิ่มเลือดเละร้ายคล้ายเศษคน

ร่างทารกอัปลักษณ์ทะลักหลุด
ซากมนุษย์​​ที่ชีวิตถูกปลิดปล้น
ประจานเหตุประเทศนี้เกิดวิกล
เกลื่อนถนนก่นสังหาร..ลูกหลาน​​ใคร ?

​​เป็นตราบาปคราบบ้า​​ที่ปรากฏ
ประทับรอยอัปยศครั้งยิ่งใหญ่
ภาพนรกหกตุลาจึงพร่า​​ไป
(สะดวก​​ใจ​​ถ้าไม่​​ต้องเหลียวมองดู)

หากทารกหกตุลายังเหลือรอด
เด็ก​​ที่คลอดกลางลานประหารหมู่
กระสุนกราดสาดสั่งเสียงพรั่งพรู
สอนให้รู้หลังตระหนกหกตุลา

​​เป็นวันเกิด​​ที่มา​​กับการดับสิ้น
​​ต้องขาดวิ่นสูญวัยไร้เดียงสา
น้ำตาหยาดหมาดแล้ว​​ในแก้วตา
​​เมื่อแผ่นดินมารดากระด้างเกิน

เติบโต​​และแตกต่างอย่างแกร่งกร้าว
ปวดร้าวคราวปะทะระหกระเหิน
ดาวศรัทธา​​ที่ส่องสร้างเส้นทางเดิน
ร่วงลับเนิน...​​ฝังสหายอีกหลายคน

​​คือตำนานเดือนตุลา(​​ถ้า​​จะนับ)
ยี่สิบเจ็ดปี.. ​​ที่เกิดดับยังสับสน
ยี่สิบเจ็ดปี...​​​​ที่คนขลาดพิฆาตคน
​​และวิญญาณวีรชนยังวนเวียน

​​ใคร​​คือ"คนตุลา"?.. อย่าถามไถ่
​​ถ้าโลกไร้​​ซึ่งศรัทธากล้าพูดเขียน
ประวัติศาสตร์ขาดหน้าในห้องเรียน
รอแสงเทียนแห่งปัญญามาส่องทาง

ยี่สิบเจ็ดปี.. นิรนามสนามรบ
กี่ร้อยศพกลบหายใน​​ความว่าง
เพียงรำลึกรอยอดีต​​เอาหรีดวาง
ทับรอยจางสีเลือดเหือดไร้รอย..

4 ต.ค.2546

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๒ : จันทน์กะพ้อ [C-9953 ], [203.188.29.226]
เมื่อวันที่ : ๓๐ พ.ย. ๒๕๔๙, ๒๒.๔๐ น.

" อีกหนึ่ง​​ฟางฝัน : บันทึกแรมทางของชีวิต"
จีระนันท์ พิตรปรีชา

​​เป็นบันทึกเรื่อง​​ราวในลำดับเหตุการณ์ นับตั้งแต่เธอก้าวเท้าเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย รู้จัก​​และเคียงคู่​​กับเสกสรรค์ ประเสริฐกุล ผู้นำนักศึกษาในยุคนั้น​​ ผ่านเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 จนกระทั่ง​​ต้องรอนแรมเข้า​​ไปอยู่​​ในป่า ​​และออกจากป่า

ชีวิตของจิระนันท์ ​​และเสกสรรค์ยังคงขึ้น​​อยู่​​​​กับการรอนแรมเดินทาง ​​ความรัก​​ที่​​ทั้งคู่มอบให้กัน ​​คือ "หลัก" อันมั่นคงอีกอย่าง ​​ที่ช่วยให้ร่วมต่อสู้ฟันฝ่า นอกเหนือ​​ไปจากอุดมการณ์​​และ​​ความหวัง

"ฉันตอบข้อกังขาของคนรุ่นหลังแล้ว​​อมยิ้มอยู่​​ในใจ อย่างน้อยฟางฝันเส้นนั้น​​ก็ไม่​​ได้จมหายสาบสูญในห้วงอนธการ ฉันเพียง​​แต่ปล่อยให้มันล่องลอย​​ไปสู่อิสรเสรี ​​แม้ว่าตัวตนของฉัน​​จะไร้​​ซึ่ง​​ที่ยึดเหนี่ยวไขว่คว้า ​​และอาจดิ่งจมลงสู่ห้วงลึกของกาลเวลาใน​​ที่สุด"

นี่​​คือบทจบของหนังสือเล่มนี้

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๓ : เก็จแก้ว [C-9961 ], [202.12.118.36]
เมื่อวันที่ : ๐๑ ธ.ค. ๒๕๔๙, ๑๐.๔๗ น.

ขอบคุณพี่แอ๊ด​​ที่นำเรื่อง​​ราวของคุณจีระนันท์ฯ มาให้อ่านนะคะ​​

เรื่อง​​ราวของวีรชนเดือนตุลาน่าสนใจจังค่ะ​​

บทกวีของคุณจีระนันท์ฯอ่านแล้ว​​รู้สึกฮึกเหิม...​​ มีพลังอยู่​​ในข้อ​​ความนั้น​​นะคะ​​...​​ ท่านมี​​ความคิด​​ที่เฉียบคม ​​และกล้าหาญมากเชียวค่ะ​​

แก้วขอมอบ ให้พี่แอ๊ดด้วยค่ะ​​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๔ : Mr.BeeN [C-12372 ], [203.155.232.194]
เมื่อวันที่ : ๒๒ ส.ค. ๒๕๕๐, ๒๐.๕๓ น.

5555555

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๕ : Mr.BeeN [C-12373 ], [203.155.232.194]
เมื่อวันที่ : ๒๒ ส.ค. ๒๕๕๐, ๒๐.๕๓ น.

5555555

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๖ : ป๋อมแป๋ม [C-16228 ], [118.175.88.161]
เมื่อวันที่ : ๐๗ ก.ย. ๒๕๕๒, ๑๔.๕๒ น.

สุดยอดเลย​​ สมควร​​ที่​​จะ​​ได้รับรางวัล​​เป็นอย่างยิ่ง

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๗ : มีกลวิธีในการแต่ง การใช้ภาษา ประเมินค่ากวีนิพนธ์บทนี้ ตีความ/แปลความ [C-19023 ], [223.206.190.171]
เมื่อวันที่ : ๐๕ ก.พ. ๒๕๕๗, ๒๑.๑๕ น.

บันทึกลับกระบือหนุ่ม

มา​​จะกล่าวบท​​ไป
ถึงกระบือฝูงใหญ่อนาถา
ถูกขังคอกแคบคับอัปรา
จนตายด้านชินชามานักแล้ว​​

​​เขาให้กินเศษกากซากเน่า
ด่าว่าโง่เง่า​​ทั้งเถาแถว
หลอกล่อลวง​​ใช้ไม่รู้แกว
สี่ขาตาแป๋วไว้ไถนา

มีควายย่อมมีคนบนหลังควาย
เคี่ยวเข็ญ​​เป็นนายควายเบิ่งบ้า
​​เขาทวงคุณขุนเลี้ยงอย่างเลี่ยงนา
ตัวไหนกล้าปฏิวัติ-ซัดด้วยปืน

กูก็​​เป็นควาย...​​
งมงายตามประสาหน้า​​ต้องฝืน
​​แต่เลือดกูหลายหยดเคยรดพื้น
​​เพราะมันขืนดัดจริต​​จะขวิดคน

วันนี้กูเกิดเบื่อ
ไม่อยากทำเชื่องเชื่อ​​เมื่อ​​เขาพ่น
แอกหนักขึ้น​​ทุกวันมันเกินทน
เกลียดสายสนตะพายอยากคลายทิ้ง


"​​เขาแหลมหรือ​​จะสู้ดาบปลายปืน"
กูยืนฟังคำกล้ำนิ่ง
ทางเดียวหรือ​​ที่มีจริง
จับกูพิงยิงเป้าให้พ้นเวร

นิสิตนักศึกษา กรกฎาคม ๒๕๑๖

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น