![]() |
![]() |
รจนา ณ เจนีวา![]() |
ตอน : อินเตอร์ลาเก้น (Interlaken) (สอง)
มาเล่าต่อเรื่องไปเที่ยวกับรถนะคะวันแรกพวกเราขับรถแข่งแรลลี่ขึ้นเขา ระหว่างทางก็ค่อนข้างเครียดเพราะต้องดูเส้นทางให้ถูกต้อง บางทีเราก็เลี้ยวตามคนอื่นเพราะคิดว่าเขาไปถูก แต่ปรากฎว่า เขาเลี้ยวผิด เราก็เลยพลอยผิดไปด้วย ต้องไปอ้อมเสียไกลเลยค่ะ
แต่เราก็ไปถึงจุดพักจุดแรกจนได้ในที่สุด เป็นโรงแรมบนภูเขา สวยงาม ห้องน้ำสะอาด หน้าโรงแรมเขามีเพิงมาขายชีสด้วย (โอท็อป) ก็มีคนไปซื้อนิดหน่อย เรียกว่า เขาต้องการให้เราเพลิดเพลินเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยพร้อมกัน
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
โรงแรมแบบชาเล่ต์สวิส ซ่อนอยู่บนยอดเขา บนเส้นทางที่เงียบสงบ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
เพิงขายชีส คนขายใส่เสื้อแบบพื้นเมืองสวิส มีลายปักดอกไม้ตรงคอเสื้อ น่ารักเชียวค่ะ แล้วก็มีป้ายยี่ห้อรถแขวนไว้ด้วย กะว่าจะได้ลูกค้าเป็นเจ้าของมาเซอราติโดยเฉพาะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
รถยนต์รุ่นคลาสสิกที่น่าสนใจ เก๋าดีนะคะ
พวกเรามีเวลาทานอาหารกลางวันเกือบสองชั่วโมง แล้วก็เริ่มการแข่งรอบบ่าย เส้นทางตอนบ่ายก็สวยงามเช่นกันค่ะ แต่รจนาต้องคอยดูแผนที่ตลอดเวลา เลยได้ดูวิวน้อยหน่อย และแทบไม่ได้ถ่ายรูปเลย
ระหว่างการเดินทาง เราก็ make friends เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนั่งทานข้าวก็มี เรากลับถึงโรงแรมไม่เย็นจนเกินไปนัก พ่อบ้านก็นอนพักเอาแรงเพราะขับรถมาทั้งวัน รจนาก็ออกไปเดินดูของในเมืองค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
รถม้าสำหรับนักท่องเที่ยวในเมืองอินเตอร์ลาเก้นค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
บริเวณนั่งเล่นในสวนสาธารณะหน้าโรงแรม ดูสงบดีจัง แต่หนาวหน่อย ๆ
ค่ำวันนั้นเขามีงานเลี้ยงอีกแบบ คือ เลี้ยงที่คาสิโนข้างโรงแรม ชื่อว่า คาสิโนคูร์ซาล (Kursaal Casino)
คาสิโนที่ว่าเป็นตึกไม้กึ่งชาเล่ต์สวิส (ดูคล้ายเรือนล้านนาของเรา) มีห้องจัดเลี้ยงหลากหลายรูปแบบ และจัดประชุมสัมมนาด้วย แน่นอนว่า เขามีห้องเล่นการพนันด้วย แต่รจนาไม่ได้ไปดูว่าอยู่ตรงไหนอย่างไร รู้สึกเขาจะไม่ทำอะไรโจ่งแจ้งแบบเรียกลูกค้า(เล่นพนัน)เท่าไร ซึ่งรจนาก็คิดว่าดีค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
นาฬิกาดอกไม้หน้าคาสิโน
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ตัวตึกคาสิโน่ดูสวยดี มีน้ำพุตรงกลางลานด้วย
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
วันนั้นเขาก็มีการดื่มเรียกน้ำย่อยหน้าคาสิโน มีชีสให้ทานหลายแบบ และของกินเล่นต่าง ๆ แล้วก็มีคนมาเล่นเครื่องดนตรีพื้นบ้านให้เราฟังด้วย เครื่องนี้เรียกว่า "อัลปฮอร์น (Alphorn)" ก็เป็นธรรมดาว่า คนเล่นก็เล่นไป คนคุยก็คุยไป ไม่ค่อยมีใครได้ฟังเขาหรอกค่ะ รจนากับพ่อบ้านเดินไปขอบคุณเขาตอนท้ายนิดนึง ประมาณว่าให้กำลังใจ แต่เขาคงชินกับการแสดงที่ไม่มีใครฟังแล้วนิ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
และระหว่างอาหารเย็นที่เป็นแบบพื้นบ้านอีกเหมือนกัน เขาก็มีการละเล่นให้เราได้เพลิดเพลินด้วย มีดนตรีแบบต่าง ๆ มาแสดง ส่วนใหญ่ใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการเกษตรกรรมก็มี
เราได้นั่งโต๊ะกับคนหนุ่มสาวอีกคู่ เป็นโต๊ะนั่งสี่คน (ออเรลกับชุงเขาถูกจัดให้ไปดินเน่อร์กับอีกกลุ่มนึงที่โรงแรมไม่ได้มากับกลุ่มเรา) เป็นชาวเยอรมันทั้งคู่ แต่ผู้สาวมีเชื้อสายอินเดียค่ะ เนื่องจากเป็นคนสมัยใหม่ หนุ่มสาวของเราก็เลยรู้สึกไม่ค่อยสนิทใจกับดนตรีพื้นบ้านเท่าไร ขณะที่รจนาเพลิดเพลินเชียวค่ะ ชายหนุ่มชื่อคริสค่ะ ส่วนหญิงสาวชื่อแองเจล่า
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
มีการละเล่นอันนึงที่เขาเอาเหรียญห้าฟรังก์มากลิ้งไปรอบขอบถ้วย เรากลิ้งเองไม่ไปค่ะ ต้องให้เขากลิ้งให้ แล้วเราก็รับถ้วยมา เราแค่ขยับถ้วยเบา ๆ เหรียญก็คงยังกลิ้งอยู่อย่างนั้นค่ะ สนุกดีค่ะ พอเราเอามาถือเราก็ทำเหรียญตกเป็นธรรมดา จนคนเล่นเขาต้องกลิ้งให้ดูใหม่
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
แขกในงานที่เป็นพวกเรากันเองก็ออกไปร้องรำทำเพลง ตามคำเชิญของนักแสดง เรียกว่า เขาพยายามให้พวกเรามีส่วนร่วมกันเต็มที่
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
นี่คือการเอากระดิ่งคอวัวมาเล่นเป็นเพลงค่ะ เพลงที่เขากำลังร้องคือเพลง Elderweiss อันโด่งดัง พวกเราก็ร้องคลอกันไปด้วยจนจบเพลง รจนายังบันทึกเป็นเสียงไว้ด้วยเลยค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
อาหารค่ำแบบสวิสในเย็นนั้น หม้อนี้เป็นหม้อซุปผัก เสิร์ฟมาให้ถังสังกะสีแบบชาวบ้านกินทีเดียว หนุ่มสาวของเราท่าทางกินกันไม่ลงค่ะ คือพวกเขาคงไม่เคยกินอาหารแปลก ๆ ส่วนพี่รจนากับพ่อบ้านสบายมาก
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
แม้จะเป็นค่ำคืนแบบสวิส แต่อาหารจานหลักกลับเป็นฟองดูแบบจีน (Fondue chinois) คือ มีเนื้อแผ่นบาง แช่เย็นเจี๊ยบมาให้ถ้วยใหญ่ มีซุปน้ำใสร้อน ๆ ให้เราเอาเนื้อไปจุ่ม กินกับแตงกวาดอง และผักดอง และซอสออกครีม ๆ อันนี้รจนาทานได้ก็จริง แต่ยอมรับว่าไม่อร่อยลิ้นเลยค่ะ.....ห่างไกลสุกี้ยากี้ที่เรารู้จักค่ะ จานนี้สงสัยคนสวิสเขาคงมาปรับทำเองแล้วเรียกว่า ฟองดูจีน
พวกเรายอมรับว่าออกจะผิดหวังกับอาหารจานหลัก เพราะคิดว่า เขาน่าจะเสิร์ฟฟองดูชีส (Fondue de fromage) มากกว่าให้สมกับเป็นเมืองชีส แต่ก็เป็นไปได้ว่า เสิร์ฟยุ่งยากกว่า ต้องเตรียมการมากกว่า และคนจำนวนหนึ่งอาจจะไม่ชอบชีสก็ได้ (ซึ่งน่าจะเป็นไปได้ยากสำหรับฝรั่ง)
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
บรรยากาศในร้านอาหาร พวกเราก็รื่นเริงกันดี ส่วนนักแสดงก็กำลังร้องเพลงกล่อมพวกเรา
จะเห็นก้อนชีสวางเรียงรายอยู่มุมไกล ๆ มีชีสยังประดับธงชาติสวิสพร้อมดอกไม้ประจำชาติ รจนาก็เดาไม่ได้ว่าชีสจริงหรือปลอม แต่พ่อบ้านบอกว่าจริง เพราะชีสเป็นอาหารที่เก็บรักษาไว้ได้นาน แต่รจนายังไม่ปลงใจ เพราะอุณหภูมิในห้องจัดเลี้ยงน่าจะอุ่นเกินไปสำหรับเก็บชีส
ถือว่าเป็น cultural night จริง ๆ เลยค่ะ
เมื่อวันที่ : ๒๑ พ.ย. ๒๕๔๙, ๐๙.๐๖ น.
ตามมาเที่ยวค่ะคุณรจ....เมืองอินเตอร์ลาเก้นนี่สวยนะคะ
....ภาพด้านหน้าคาสิโนก็ดูสวยค่ะ....เข้าใจว่าด้านหลังน่าจะเป็นทิวเขานะคะ....บรรยากาศดูโรแมนติกเหมือนในหนังเลยค่ะ....
)
เหมือนเดิมค่ะ
โอ๊ะ โอ!...แก้วอยากนั่งรถม้าเมืองอินเตอร์ลาเก้นจังค่ะ.....อุ๊ย! เครื่องดนตรีของเมืองนี้ก็ดูแปลกตานะคะ...อยากลองเล่นมั่งจังง่ะ (นี่สมมตินะคะ....ถ้าให้แก้วเล่นจริงๆ มีหวังแขกคงกระเจิงไปคนละทิศละทางแหง๋มๆ...ชัวร์ป้าดดดดดนิ่ม เลยค่า อิ อิ
ทริปนี้มอบ