![]() |
![]() |
รจนา ณ เจนีวา![]() |
ตอน : เหยียบเยอรมนี (แปด) - ว้านซลีเบ่น
ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมมาหลายตอนแล้ว คราวนี้ท่องเที่ยวซอกแซกเข้าบ้านฝรั่งดีกว่าค่ะพวกเราเที่ยวหอโอเปร่าเสร็จแล้ว แกร์ฮาร์ดก็มารับกลับบ้านไปเก็บของ แต่เขาเลี้ยงขนมเค้กที่ซื้อมาแต่เช้าให้เราทานก่อนเดินทาง เป็นน้ำใจที่น่ารักยิ่ง ขนมเค้กก็อร่อยจริง ๆ ไม่หวานจัด ชิ้นก็ไม่ใหญ่มากเกิน ทำให้เราได้รู้จักว่า คนที่นี่เขากินขนมอะไรกัน
ร่ำลาแล้วก็จากเดรสเด็นในตอนบ่ายหน่อย ๆ
คืนนี้พวกเราไปแวะค้างคืนและเยี่ยมเพื่อนนักเรียนเก่าของพ่อบ้าน (สมัยเรียนมหาวิทยาลัย) ที่เมืองเล็ก ๆ ชื่อว่า ว้านซลีเบ่น (Wanzleben) เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์พอใช้ได้ และมีปราสาทเก่าแก่หลังเล็ก ๆ ประดับอยู่หนึ่งแห่ง ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมระดับสี่ดาว
ว้านซลีเบ่นถือเป็นส่วนหนึ่งของ(อดีต)เยอรมนีตะวันออกค่ะ
เพื่อนของพ่อบ้านเป็นข้าราชการประจำกระทรวงค่ะ ชื่อว่า ฟร้างค์-มิคาเอล แต่เราเรียกสั้น ๆ ว่า ฟร้างค์ ส่วนภรรยาเป็นสูตินรีแพทย์ ชื่อว่า ชเต๊ฟฟี่ ฟร้าค์พูดภาษาอังกฤษใช้ได้ แต่ความที่ไม่ได้พูดนาน ๆ ก็จะเขิน ๆ ไม่ค่อยอยากพูดเท่าไร
ชเต๊ฟฟี่พูดภาษาอังกฤษได้นิดเดียว ก็เลยไม่ค่อยพูด ส่วนรจนาก็ได้เยอรมันไม่กี่คำ เราสองคนก็เลยใช้ภาษาใบ้ ภาษามือ ภาษาอังกฤษวันละคำ กับภาษาเยอรมันวันละคำ ได้พ่อบ้านช่วยแปลบ้างค่ะ
แต่ภาษาก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับความเป็นมิตรสนิทสนมค่ะ
สามปีก่อนเรามาเยี่ยมครอบครัวนี้เหมือนกัน หลังจากพ่อบ้านไม่เคยเจอกับเพื่อนเก่ามานับสิบปี เจอกันแล้วก็ดีใจ พวกเขาก็มาเยี่ยมเราที่เจนีวาเป็นการตอบแทนในปีถัดมา
ปีนี้เป็นคราวของเราผ่านไปเยี่ยมเขาบ้าง
อยากเล่าเรื่องการไปพักบ้านฝรั่ง (และการต้อนรับแขกที่บ้านของเราเองในเมืองนอก) ด้วยค่ะ
ปกติบ้านฝรั่งส่วนใหญ่จะมีห้องรับแขกว่างทิ้งไว้หนึ่งห้อง ให้ครอบครัวหรือเพื่อนฝูงมาเยี่ยม หากไม่มีห้องที่ว่า บางทีเขาก็เอาห้องนอนลูก (ที่โตแยกไปแล้ว) หรือห้องทำงาน (ที่ปรับเป็นที่นอนได้) ให้เราพัก
ที่บ้านฟรังก์มีหนึ่งห้อง เป็นห้องของลูกที่โตแล้วแยกไปอยู่ที่อื่น แต่เขายังเก็บห้องไว้ในสภาพเหมือนที่ลูกชายเคยพัก
เวลาเราไปพัก เขาก็จะทำเตียงนอนไว้ให้อย่างดี จะเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนใหม่ ส่วนผ้าห่มมักจะเป็นแบบผ้านวม ยัดไส้ขนเป็ด ขนห่าน นุ่น หรือใยสงเคราะห์ ตามแต่งบประมาณหรือความชอบ โดยเขาจะใส่ปลอกผ้าห่มให้ใหม่
ฝรั่งบางคนแพ้ขนเป็ดขนห่านก็ใช้ใยสงเคราะห์ไป แต่ใยสงเคราะห์นั้นเวลานอนแล้วจะอุ่นจริง แต่ไม่ระบายอากาศดีเท่าขนห่านค่ะ (เป็นความรู้เฉย ๆ)
ผ้านวมเหล่านี้จะต้องนำออกผึ่งแดดบ่อย ๆ และควรซักทุกปี (อย่าเพิ่งตกใจค่ะ อากาศเมืองนอกหนาว ไม่มีฝุ่นมาก นอนก็เหงื่อไม่ออก และต้องใส่ปลอกนอนทุกครั้ง ผ้านวมจึงไม่สกปรกง่าย)
แม้เราจะไปพักคืนเดียว เขาก็ทำให้ครบเหมือนพักโรงแรม พอเรากลับไปแล้ว เขาก็ถอดซักทั้งหมดค่ะ รจนาก็ทำแบบเดียวกัน
เขาถือว่าหากให้แขกมาใช้ของเก่าจากคนอื่นเป็นเรื่องไม่สุภาพค่ะ แม้เราจะคิดว่าสะอาด หรือคิดว่าแขกไม่รู้ก็ตาม
บ้านฝรั่งไม่มีแจ๋วประจำ (อย่างมากก็อาทิตย์ละครั้ง) ดังนั้นหน้าที่นี้จึงเป็นของแม่บ้าน (เช่น รจนา หรือ ชเต๊ฟฟี่) ซึ่งงานเปลี่ยนที่หลับปัดที่นอนนี้ไม่ใช่งานเบา ๆ เลยนะคะ เพราะแต่ละชิ้นก็ใหญ่ ๆ ทั้งนั้น ซักแล้วยังต้องรีดอีก
และแขกที่ดีส่วนใหญ่ เวลาจะเดินทางกลับ ก็จะถอดผ้าปลอกหมอน ผ้าปลอกนวม ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว พับเก็บกองไว้ให้เจ้าของบ้านนำไปซักค่ะ
แต่บางทีเจ้าของบ้านเขาก็บอกว่า ไม่ต้อง แขกก็ไม่ต้องเก็บ แต่ควรทำที่นอนไว้ให้ดูเรียบร้อย อย่าขยุกขยำไม่น่าดูต่อสายตาค่ะ
นอกจากนั้น เจ้าของบ้านมักกันห้องน้ำไว้ให้เราใช้หนึ่งห้อง (หากเขามีมากกว่าหนึ่ง) จะหาผ้าเช็ดตัวไว้ให้เสร็จสรรพ พวกสบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม ฯลฯ เราเอาของเราไปเองอยู่แล้ว แต่จะใช้ของเขา เขาก็ไม่ว่าค่ะ
หากมีแขกหลายคนจริง ๆ ห้องน้ำห้องเดียวไม่พอ เราก็ใช้ห้องน้ำรวมกับเจ้าของบ้านได้
เล่าเสียยาวเลย แค่จะชวนเที่ยวบ้านฟรังค์กับชเต๊ฟฟี่เท่านั้นเอง
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
หน้าบ้านเพื่อน อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
เจ้าของบ้าน เขารักเครื่องปั้นดินเผามากค่ะ จะมีชั้นเรียงรายรอบบ้าน ตั้งเครื่องปั้นดินเผาชิ้นเล็ก ๆ แบบต่าง ๆ
ที่บ้านนี้แหละค่ะ ที่เขาชงชาอีสเฟรเชียนให้รจนาทาน แล้วเขาไม่ได้บอกว่าต้องทานอย่างไร เราก็ดื่มเปล่า ๆ ขมน่าดูเลยค่ะ ที่จริงเขาต้องใส่น้ำตาลกรวด กับครีม โดยไม่ต้องชง ให้จิบไปเรื่อย ๆ ชั้นแรกมีรสครีม เรียกว่า "ฟ้า" ชั้นกลางเป็นรสชา เรียกว่า "น้ำ" ส่วนชั้นสุดท้ายเป็นรสน้ำตาลกรวด เรียกว่า "แผ่นดิน"
ซึ่งคงจะจริงของเขา เพราะตอนที่ดื่มเปล่า ๆ นั้น ครึ่งแก้วแรกยังพอทน แต่ก้นแก้วจะขมเกินไป
คราวนี้รู้แล้ว คราวหน้าไม่พลาดแน่
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ห้องกระจก มุมนั่งเล่นอันน่าสุโขในบ้าน
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
สวนสวย กับดอกไม้นานาพันธุ์
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ทางเดินข้างบ้าน ทอดไปที่โรงรถ และเก้าอี้สนาม
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
แม้แต่หน้าต่าง (ด้านข้าง) โรงรถ เขาก็นำดอกเจอราเนียมไปปลูกอย่างสวยงาม
เก้าอี้สนาม มุมน่านั่งดื่มน้ำชากาแฟ ถ่ายจากทางเข้าบ้าน ด้านติดถนน จะเห็นทางเดินปูด้วยหิน น่ารักมากเลยค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ดอกไม้สวย ๆ ตรงบันไดเดินขึ้นบ้าน (บันไดข้างหลัง ติดกับโรงรถ)
เฮ้อ เห็นแล้วอยากให้บ้านเราสวยอย่างบ้านเขาบ้าง
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
แมวน้อยชื่อว่า คิตตี้ ชเต๊ฟฟี่บอกว่าอายุ ๑๕ ปีแล้ว ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่าแมวจะมีอายุยืนขนาดนี้ หน้าตายังหนุ่ม ๆ อยู่เลย
พวกเขาต้อนรับเราอย่างดีเยี่ยม พอไปถึงก็เสิร์ฟชาอีสฟรีเชียน ตอนเย็นก็พาไปทานอาหารที่ปราสาทเก่าแก่ ปราสาทนี้อยู่ใกล้ ๆ ใช้เวลาเดินแค่ห้านาทีก็ถึงค่ะ ถือเป็นการออกกำลังกายทั้งขาไปและขากลับ
เรานอนหลับสบาย รจนาขอตัวเข้านอนก่อน ประมาณห้าทุ่มกว่าแล้ว ส่วนพ่อบ้านคุยกับเพื่อนต่อจนตีหนึ่งตีสอง
ตอนเช้ากว่าจะตื่นก็สายเกือบเก้าโมง เจ้าของบ้านรออยู่แล้ว เรารีบทำสปีดอาบน้ำแต่งตัว เขาเลี้ยงอาหารเช้าตามอย่างเยอรมันที่ดี มีไข่ต้ม แฮมต่าง ๆ ไส้กรอกหั่นแว่น ชีสต่าง ๆ แยม เนย นม น้ำส้ม เกรปฟรุตสด ๆ ขนมปังเลิศรส
สังเกตว่า อาหารเช้าแบบเยอรมันจะไม่มีเบค่อนทอดหรือไข่ทอดค่ะ เขานิยมทานไข่ลวกหรือไข่ต้มมากกว่า ไปบ้านเยอรมันบ้านไหน จะได้ไข่ต้มตอนเช้าประจำ (นอกเหนือจากอาหารอื่น) จนบางทีต้องของดไม่ทาน เพราะทุกเช้าก็ไม่ไหว
ต้องขอบคุณฟร้างค์และชเต๊ฟฟี่มา ณ ที่นี้อีกครั้ง สำหรับที่นอนอันอบอุ่น และการต้อนรับที่ดีเยี่ยม
เมื่อวันที่ : ๒๒ ก.ย. ๒๕๔๙, ๑๕.๕๑ น.
คิดเหมือนพี่รจเลย...อยากมีแบบนี้สักหลัง โดยเฉพาะห้องนั่งเล่น