![]() |
![]() |
รจนา ณ เจนีวา![]() |
...การปลูกสร้างใหม่ ๆ นั้นเขาก็ทำอย่างพิถีพิถัน วางผังเมืองอย่างดีเลิศ ปัญหาอะไรที่เคยมีในผังเมืองเก่าก็ถือโอกาสแก้ไขเสียเลย (เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส)...
ตอน : เหยียบเยอรมนี (สาม) - เบอร์ลิน ๓
พอวันรุ่งขึ้น (วันที่สามในเบอร์ลิน) อากาศดี แต่เราสองคนต้องย้ายออกจากสำนักงานของคริสตีนไปพักโรงแรม เพราะวันนี้เป็นวันทำงาน กว่าจะย้ายของเสร็จ เช็คอินที่โรงแรมแห่งใหม่เสร็จ ก็เกือบจะเที่ยง พวกเราก็รีบออกไปเที่ยวกัน เพราะอากาศดี ๆ อย่างนี้เหมาะแก่การออกนอกบ้านอย่างยิ่งเราตัดสินใจขึ้นรถเมล์ชมเบอร์ลินค่ะ เขามีพากษ์ให้ฟังทั้งภาษาเยอรมันและอังกฤษ ค่ารถคนละ ๑๕ ยูโร ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง โดยเราสามารถเลือกลงตามจุดต่าง ๆ และกลับมาขึ้นรถใหม่ทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง ก็นับว่าคุ้ม เพราะเบอร์ลินเป็นเมืองใหญ่ ประชากรเกือบสี่ล้าน เราเดินเที่ยวไม่ทั่วและคงไม่ไหวด้วย
สถานที่เราได้ดูนั้นมีหลายแห่ง ซึ่งตรงกับที่คริสตอฟพาไปดูจำนวนหนึ่ง แต่เราได้ดูตอนอากาศกำลังดี เป็นรถเมล์สองชั้น พวกเรานั่งกันชั้นบน อาบแดดไปด้วยค่ะ
จนปัญญาที่รจนาจะจำชื่อได้หมด แต่หลัก ๆ ที่ได้เห็น (จากภายนอก) ก็ได้แก่ โบสถ์อนุสรณ์ของไกเซอร์วิลเฮล์ม พระราชวังชาร์ล็อตเต้นบูร์ก (Schloss Charlottenburg) อนุเสาวรีย์ชัยวันที่ ๑๗ มิถุนายน (Victory Column 17 June) สถานีรถไฟเบอร์ลิน อาคารรัฐสภา หรือไรค์สทาก (Reichtag) คฤหาสน์เบลล์วู (Schloss Bellevue) ซึ่งเป็นอาคารที่พำนักของประธานาธิบดี
ถนนสายสำคัญของเบอร์ลินมีชื่อว่า เคอร์ฟูร์ชเต็นดัมม์ (Kurfürstendamm boulevard) ซึ่งเรียกกันสั้น ๆ ว่า คู-ดั้ม (Ku'damm) เป็นถนนสายธุรกิจที่สวยงามน่าเดินเที่ยวมาก ๆ เลยค่ะ เต็มไปด้วยอาคารสวย ๆ ร้านขายของทั้งแบบหรูสุด ๆ และแบบเก๋ ๆ ร้านอาหาร ร้านขายของกินเล่น ร้านกาแฟ สนองความต้องการทุกรูปแบบของผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยว เดินเที่ยวได้ทั้งวันไม่รู้เบื่อ
ร้านกาแฟที่ขึ้นชื่อที่นี่เขาเรียกว่า ไอน์ชไตน์คัฟเฟ่ (Einstein Kaffee) ค่ะ ชื่อเดียวกับท่านอัลเบิร์ต ไอน์ชไตน์นั่นแหละค่ะ หากจะเทียบก็คงแบบเดียวกับสตาร์บัคส์บ้านเรา คือมีสาขาอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่ดูเหมือนจะมีมากกว่า คือ แม้แต่ในถนนเล็ก ๆ ก็มีค่ะ
บนถนนสายคูดั้มนี้มีคาเฟ่อยู่สองแห่ง แห่งแรกชื่อ ครานซเล่อร์ ที่ทุกคนต้องไปลองนั่งดื่มหรือกิน เพราะอยู่บนระเบียงชั้นบน ในจุดที่มองลงมาเห็นสี่แยกคนเดิน กับอีกทีนึงคือที่โรงแรมเค็มปินสกี้ ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกันเท่าไร
พ่อบ้านกับรจนาไปนั่งที่โรงแรมเค็มปินสกี้ค่ะ เพราะว่าที่แรกคนแน่น หาที่นั่งไม่ได้
ต่อไป โม้น้อยหน่อย ดูภาพมากหน่อยแล้วกันค่ะ
(กล่าวคือ หมดไส้หมดพุงที่จะบรรยายแว้วววว )
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
โบสถ์ที่ระลึกแห่งพระเจ้าไกเซอร์วิลเฮล์มค่ะ เขาสร้างอาคารเหลี่ยมประกบสองข้าง ข้างหนึ่งเหมือนแท่งลิปสติค อีกข้างหนึ่งเหมือนตลับแป้งทรงสูงค่ะ - ชาวเบอร์ลินเขาเรียกของเขาอย่างนั้นจริง ๆ รจนาป่าวโม้นา
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ประตูเมืองบรานเด็นบูร์ก หนึ่งใน ๑๓ ประตูเมืองที่เหลืออยู่
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
อาคารรัฐสภาแห่งชาติ หรือ ไร้ค์สทาก (Reichstag) ความภูมิใจแห่งชาวเยอรมัน
อาคารแห่งนี้กลายเป็นรัฐสภาของเยอรมนีในปี ค.ศ. ๑๙๙๑ หลังจากมีการโหวตในคะแนนโดยชนะอย่างฉิวเฉียดที่กรุงบอนน์ (เมืองหลวงเดิม)
อาคารนี้กลายเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกก็เพราะในช่วงประมาณ ๑ อาทิตย์ในช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. ๑๙๙๕ (ไม่นานนี้เอง) ศิลปินนามว่า คริสโต ได้นำเอาผ้าใบสีเงินมาห่อหุ้มตัวอาคารไว้ทั้งหมด ในระหว่างการบูรณะตึก ทำให้เกิดภาพอันแปลกน่าดู ผู้คนก็เลยแห่แหนกันมาดู (ไม่รู้ว่ามีการขูดหาตัวเลขด้วยหรือเปล่า ) มีการทำโปสเต้อร์ขาย มีภาพลายเส้นขาย ขนาดพ่อบ้านยังซื้อภาพขนาดใหญ่มาใส่กรอบไว้ที่บ้านเลยค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
บนกรอบคอลัมน์หน้าประตูหินทางเข้าหลักนั้น เขาจารึกวลีไว้ว่า "Dem Deutschen Volke" หรือแปลว่า "เพื่อชาวประชาเยอรมัน" ค่ะ ฟังแล้วน่าประทับใจมาก
และจุดขายอีกอย่างหนึ่งก็คือ โดมกระจกตรงกลางตึก ซึ่งจัดวางทางวิศวกรรมอย่างเลอเลิศทำให้ได้แสงสะท้อนสว่างไสวลงไปยังห้องประชุมรัฐสภา ราวกับจะเป็นสัญญลักษณ์คอยฉายส่องความโปร่งใสของผู้แทนราษฎรประมาณนั้น
วันนึง ๆ มีคนเข้าชมเป็นพัน ๆ คนค่ะ (ไม่ต้องเสียเงิน) วันนั้นเราไปถึงแล้วเห็นคิวยาวต้องรอประมาณ ๑ ชั่วโมง จึงจะได้เข้า ก็เลยตัดสินใจไม่เข้าไป แต่เดินดูรอบ ๆ แทน คริสตีนมาบอกที่หลังว่า หากเราทำหน้าตายบอกว่า จะเข้าไปทานอาหารในภัตตาคารด้านในเขาก็จะให้เข้าไปได้เลย แบบนี้ไม่ต้องรอคิว
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
อนุสาวรีย์ชัยสำคัญอีกแห่งหนึ่งซึ่งก่อสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยของแคว้นปรัซเชีย ตั้งอยู่บนถนน ๑๗ มิถุนา
เป็นอนุสาวรีย์ที่งดงามอลังการมาก มองเห็นได้แต่ไกล มีชื่อเรียกขานว่า Golden Elsa ซึ่งที่จริงแล้วเป็นรูปปั้นของเทพีวิคตอเรียที่มีน้ำหนักถึง ๓๗ ตัน และสูงเกือบ ๙ เมตร ใช้รองเท้าเบอร์ ๙๒
เหตุที่เรียกกันว่า แม่เอลซ่าทอง ก็เพราะคนดูเขาพิจารณาแล้วว่า หน้าตาของรูปปั้นเทพีนั้นเหมือนกับหน้าตาของลูกสาวคนออกแบบยังกับแกะนั่นแหละค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ เขาก็เลยเหน็บแนมเสียเลย
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
งานหล่อออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกของเบอร์ลิน
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
งานออกแบบริมท้องถนนโดยนักออกแบบชื่อดัง เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ของเมือง(อันหนึ่ง) ที่รจนาถ่ายรูปไว้ก็เพราะเหลือบไปเห็นป้ายขนาดใหญ่บอกทางไปใช้บริการ "Thai massage" ค่ะ เห็นแล้วภูมิใจดีเหมือนกัน นวดไทยโกอินเตอร์แล้ว
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
และก็แนวกำแพงเบอร์ลินที่หลงเหลืออยู่
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
กับแนวกำแพงเบอร์ลินที่ยังเหลืออยู่อีกแห่งหนึ่งที่มีการระบายสีสันเป็นที่ระลึก
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
นี่ก็เช็คพ้อยท์ชาลีที่ลือลั่น รถทัวร์ทุกคันหากไม่ได้พาลูกทัวร์มาที่นี่จะถือว่ายังไม่ถึงเบอร์ลินค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
จุดข้ามลำน้ำที่มีคนเคยพยายามว่ายข้ามเพื่อหนีไปฝั่งตะวันตก และถูกยิงตาย เขาเลยทำอนุสรณ์ไว้เป็นเครื่องเตือนใจ จุดนี้อยู่ไม่ไกลจากอาคารรัฐสภา
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
หอวิทยุแห่งแรกของเบอร์ลิน อยู่ตรงไหนก็มองเห็น
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
นี่ก็หอแสดงงานศิลป์แห่งชาติ(เก่า)ค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
พระตำหนักเบลล์วู (วิวงาม) ที่ปัจจุบันกลายเป็นที่พำนักของประธานาธิบดีค่ะ วันนั้นเรานั่งรถผ่านไปได้เห็นท่านประธานาธิบดีเดินเข้าบ้านพอดี
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
พระราชวังชาร์ล็อตเต็นบูร์ก
จะเห็นว่ารจนานำเสนอแต่ตึกราม อาคาร โบสถ์ และสถาปัตยกรรมทั้งนั้นเลย
อาจเป็นเพราะชาวเบอร์ลินภูมิใจที่ได้รักษาอนุสรณ์สถานไว้ได้หลายแห่ง แม้ว่าบ้านเมืองจะถูกทำลายจากสงครามแทบจะเรียกว่ายับเยินก็ตาม
และการปลูกสร้างใหม่ ๆ นั้นเขาก็ทำอย่างพิถีพิถัน วางผังเมืองอย่างดีเลิศ ปัญหาอะไรที่เคยมีในผังเมืองเก่าก็ถือโอกาสแก้ไขเสียเลย (เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส) ดังนั้นสิ่งก่อสร้างใหม่ ๆ จึงเก๋ไก๋ ดูไม่ขัดตา และสอดรับกับวิถีชีวิตเป็นอย่างดี
เที่ยวเบอร์ลินกับรจนาคงเหนื่อยแล้วนะคะ พาเดินเสียทั่วเมืองเลย
ตอนหน้าเปลี่ยนไปเที่ยวเดรสเด็นกันดีกว่า
เมื่อวันที่ : ๑๖ ก.ย. ๒๕๔๙, ๐๓.๓๘ น.
เสียดายจัง โบสถ์พระเจ้าไกเซอร์วิลเฮล์ม มีอาคารใหม่ตระหง่านขึ้นมาเสียแล้ว
ตอนพิลไปเมื่อปี 2001 ยังมีแต่โบสถ์ยอดกุดอย่างเดียว พิลเห็นแล้วประทับใจมาก เพราะมันเป็นอนุสรณ์สถาน ซากสงครามที่เหลืออยู่
แต่อย่างว่า คนเยอรมันอาจจะอยากลืมความหลัง แล้วมาเริ่มกันใหม่ ใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่า
ก็ต่างคนต่างความคิดนะ เพราะพิลว่า เก็บไว้อย่างเดิมก็ดูขลังๆดีนิ