![]() |
![]() |
รจนา ณ เจนีวา![]() |
...ตอนก่อนเล่าเรื่องการเดินทางทางรถไฟอย่างละเอียด แล้วก็พาเที่ยวพระราชวังไร้กังวลไปแล้ว จะพากลับมาเที่ยวเบอร์ลินเมืองหลวงต่อค่ะ...
ตอน : เหยียบเยอรมนี (สอง) - เบอร์ลิน ๒
ตอนก่อนเล่าเรื่องการเดินทางทางรถไฟอย่างละเอียด แล้วก็พาเที่ยวพระราชวังไร้กังวลไปแล้ว จะพากลับมาเที่ยวเบอร์ลินเมืองหลวงต่อค่ะอากาศที่เมืองนอกนี้เอาแน่เอานอนไม่ได้ วันแรกที่เราไปถึงแดดแจ่ม ค่อนข้างร้อน แต่วันถัดมา ฝนตกทั้งวัน
วันนี้เพื่อนอีกคนหนึ่งมาพาเราเที่ยว คือ คริสตอฟ ซึ่งเคยไปประชุมที่เจนีวา และมีโอกาสได้ชิมอาหารไทยฝีมือรจนาด้วย นอกจากนั้นเรายังไปเดินย่ำหิมะบนภูเขาด้วยกันในช่วงนั้น
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
คริสตอฟทำงานอยู่กระทรวงแรงงานของเยอรมนี ประจำอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน รู้สึกสถานที่ต่าง ๆ เป็นอย่างดี เราได้เดินเที่ยวกันท่ามกลางสายฝน ร่มคนละหนึ่งคัน เสื้อกันหนาวอย่างดี รองเท้าอย่างหนา รจนาใส่รองเท้าผ้าใบแบบใช้วิ่งจ๊อกกิ้งเลยทีเดียว ส่วนพ่อบ้านกับคริสตอฟใส่รองเท้าธรรมดา ก็เลยกันน้ำไม่ค่อยจะอยู่เท่าไร ขณะที่รจนาเดินสบายเท้าไม่เปียกตลอดการท่องเที่ยว
คริสตอฟพาเดินดูสถานที่สำคัญหลายแห่ง แต่ที่แห่งนึงซึ่งไม่อยู่ในโปรแกรมท่องเที่ยวแต่ต้องไปดูคือ ร้านขายชอคโกแล็ตค่ะ ทีแรกรจนาก็งง ๆ ว่าทำไมเขาพาเข้าร้านนี้ พอเข้าไปแล้วก็ถึงบางอ้อ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
คือเขาทำชอคโกแล็ตเป็นรูปตึกและโบสถ์วิหารสำคัญ ๆ ของเบอร์ลินค่ะ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราได้ไปเห็นของจริงในภายหลัง
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ต้องชมความช่างคิดของคริสตอฟจริง ๆ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ร้านนี้เขาขายขนมที่ทำจากถั่วอัลมอนด์บด เรียกว่า มาซิพาน ด้วย น่ารักทีเดียวค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ค
ริสตอฟพาเรารู้จักสถานที่สำคัญ ๆ เผื่อว่าเราจะมาดูเพิ่มเติมอีกในภายหลัง เราเดินกันตั้งแต่เที่ยงจนบ่ายสองโมงกว่า ๆ ก็พากันไปกินแซนด์วิชในร้านขายขนมปังแห่งหนึ่งค่ะ ทานกันง่าย ๆ รองท้องกันหิว ก่อนจะพากันไปที่แกลเลอรี่ศิลปะแห่งชาติแห่งใหม่ ซึ่งมีนิทรรศการเบอร์ลิน-โตเกียวจัดแสดงอยู่ เหตุที่เราไปที่นี่เพราะคริสตีน (เพื่อนพ่อบ้าน) แนะนำว่าน่าจะไป เนื่องจากเป็นอะไรที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านศิลปะระหว่างสองเมืองใหญ่นี้ที่นับย้อนหลังไปได้หลายสิบปี และงานแสดงนั้นก็หลากหลายรูปแบบดูกันไม่เบื่อ
งานแสดงนี้น่าสนใจจริง ๆ ค่ะ ค่าเข้าชมคนละ ๑๐ ยูโร คริสตอฟก็ออกให้ จะคืนเงินให้เขาก็ไม่เอา ต้องขอบคุณเขาอีกครั้ง ณ ที่นี้
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
การไปดูงานศิลป์ เที่ยวพิพิธภัณฑ์ ชมโอเปร่า หรือเข้าชมพระราชวังเมืองนอกนี่ก็ลำบากนิดนึง คือ หากเรามีสัมภาระมาก ๆ เขาจะไม่ยอมให้เอาเข้าไปด้วย ต้องฝากกระเป๋า ร่ม ถุง เสื้อกันหนาวตัวหนา ๆ ไว้ที่ห้องรับฝาก ซึ่งก็ต้องเสียเงินอีก บอกไว้เป็นความรู้ค่ะ และการจอดรถไม่ว่าที่ไหน ๆ ก็มักจะเสียเงิน ยกเว้นไปกับคนรู้ทาง ก็พอหาที่จอดแบบไม่เสียเงินได้
เราชมนิทรรศการกันเพลินจริง ๆ ค่ะ เกือบ ๆ สองชั่วโมงเห็นจะได้ จนเมื่อยแล้วเมื่อยอีก แต่ก็ยังไม่เบื่อ เขามีห้องแสดงหลายห้อง และก็จัดแต่งผลงานได้ดี มีภาษาอังกฤษกำกับให้ด้วย ทำให้รจนาพอรู้เรื่องบ้าง มีทั้งงานภาพเขียน งานภาพถ่าย ตัวอย่างงานออกแบบ งานสถาปัตยกรรม งานวิศวกรรม ภาพยนต์ เครื่องยนต์กลไก ผลงานที่สะท้อนความน่ากลัวของสงคราม ฯลฯ การใช้สีสันดี แสงเงาเหมาะเจาะ ลานที่ยืนชมก็กว้างพอ ไม่ต้องเบียดกัน ยกเว้นตอนเข้าไปอ่านข้อความใกล้ ๆ ก็ต้องแทรกนิดหน่อย
งานนี้เขาไม่ให้ถ่ายรูปค่ะ ทีแรกว่าจะซื้อหนังสือรวมผลงานที่แสดงไว้เหมือนกัน แต่ดูแล้ว เล่มหนาประมาณสมุดโทรศัพท์ (หนัก) กับเป็นภาษาเยอรมันล้วน ๆ (ไม่รู้เรื่อง) ก็เลยล้มเลิกความคิดไป จะคอยให้พ่อบ้านแปลให้ฟังก็คงไม่ไหว
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ออกจากแกลเลอรี่ ฝนก็ยังไม่หยุดตก คริสตอฟก็พาเราไปบ้านเขา ซึ่งเขาได้ซื้อขนมเค้กและพายเตรียมไว้รับรองเราตอนบ่าย ต้องบอกว่า สำหรับคนเยอรมันแล้ว ธรรมเนียมการดื่มน้ำชากาแฟกับทานเค้กตอนบ่ายนี้คงเป็นที่นิยมไม่แพ้ไฮท์ทีของอังกฤษ รจนาไปเที่ยวเยอรมนีสองอาทิตย์ ได้ทานเค้กตอนบ่ายเกือบทุกวัน จนไม่อยากทาน แต่ก็ยังทาน เพราะรู้สึกว่า ช่างเข้ากับบรรยากาศเสียจริง ๆ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
บ้านของคริสตอฟเป็นแฟลตชั้นเดียว อยู่ชั้นล่างสุด แต่แฟลตที่นี่เขาปลูกสร้างกันอย่างดี งดงาม และอยู่ในถนนสายย่อยที่ไม่มีการจราจรพลุกพล่าน รจนาชอบถนนที่นี่ที่มีต้นไม้ปกคลุมเขียวสดใสไปเสียทุกหนทุกแห่ง โดยเฉพาะบริเวณที่อยู่อาศัย ซึ่งเขาก็จอดรถกันริมถนนใต้ต้นไม้เหล่านี้
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
รจนาได้รับความรู้เรื่องการก่อสร้างอีกอย่างหนึ่งคือ ตึกเรือนจำนวนมากเขาจะปลูกสร้างเป็นสามแถว แถวแรกที่ติดกับถนนจะราคาแพง เพราะได้วิวถนน ต้นไม้เขียว ๆ แถวที่สองจะอยู่ถัดเข้าไป ต้องใช้ประตูเข้าจากตึกแถวแรก ที่ว่างระหว่างตึกแถวแรกกับแถวสองก็จะมีสวนหย่อมเขียว ๆ ให้หน่อยนึง หรือบางทีก็เป็นลานหินปู แล้วแต่งบประมาณการก่อสร้างและรสนิยม ถัดจากแถวที่สองก็เป็นแถวที่สาม หรือแถวในสุด ซึ่งก็จะมีลานตรงกลางเหมือนกัน โดยอีกด้านนึงก็จะเป็นตึกแถวที่สามจากถนนอีกสายหนึ่งที่ขนานกันจากอีกด้าน
เหตุผลที่เขาก่อสร้างเช่นนี้ก็เพราะเพื่อประหยัดพื้นที่ ประหยัดงบประมาณการสร้างถนนย่อยให้ไปถึงหน้าบ้านทุกคน และเจตนาหลักก็เป็นที่อยู่อาศัยในคนรายได้น้อย คือคนที่รวยกว่าก็จะอยู่แถวหน้า คนจนหน่อยก็อยู่แถวในถัดไป (ไม่มีวิว) ไม่ค่อยได้เห็นเดือนตะวันเท่าไร เพราะตึกมันบังกันอยู่ ด้วยเหตุนี้เอง ในสมัยก่อนผู้คนจึงเจ็บป่วยด้วยโรคปอดบวมกันมากเนื่องจากความชื้นที่สะสมในตึกด้านใน
เดี๋ยวนี้เขาก็พัฒนาขึ้นมาก ทำให้น่าอยู่ ดูดี มีแสงสว่างส่องถึง ข้อดีของตึกด้านในก็น่าจะเป็นเรื่องไม่มีเสียงดังจากถนน
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
เราทานน้ำชากับขนมเค้กน้ำใจคริสตอฟ ชายหนุ่มโสดอายุเกือบห้าสิบที่ยังโทรศัพท์คุยกับพ่อแม่ทุกค่ำ วันนั้นคริสตอฟซื้อพายหน้าลูกพลัม และเค้กเชอร์รี่ อร่อยมาก ๆ และปริมาณมากมายค่ะ ทานกับอิ่มแปร้เลย ถึงกระนั้นตอนค่ำ พวกเราก็ยังมีแรงออกไปทานอาหารเย็นกันอีก
ตอนหน้าจะพาชมอาคารสถานในเบอร์ลินต่อค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
เมื่อวันที่ : ๐๖ ก.ย. ๒๕๔๙, ๑๗.๓๘ น.
สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมชมค่ะ ขอบคุณที่นำภาพงามๆ มาฝากนะคะ ชอคโกแล็ต น่ากินจังเลยค่ะ
อ่านแล้วเพลินและพลอยมีความสุขไปด้วยค่ะ