![]() |
![]() |
รจนา ณ เจนีวา![]() |
ตอน : เยือนถิ่นเบรอตาญน์ (หนึ่ง)
ช่วงนี้พาเที่ยวอีกแล้วค่ะ ปีนี้รจนากับพ่อบ้านชีพจรลงเท้าจริง ๆ แต่ก็เดินทางไม่หนีไปไกลจากยุโรปเท่าไรคงจะเขียนไป คุยไป และเล่าเรื่องด้วยภาพไปนะคะ
เมื่อต้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมาพวกเราลางานสองอาทิตย์ไปพักผ่อนตากอากาศกับที่เมืองลาโบล (Labaule) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกค่ะ เส้นทางจากเจนีวาไปลาโบลก็ประมาณพันกิโลเมตร เหมือนขับรถลงปักษ์ใต้บ้านเรานะคะ
เราเดินทางออกจากเจนีวาเย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน ขับรถไปปารีสก่อน ประมาณ ๕๐๐ กิโล สี่ทุ่มกว่าก็หยุดพักค้างคืนที่โรงแรมเล็ก ๆ เช้าวันรุ่งขึ้นก็เดินทางต่อไปรับแม่สามีที่สนามบินปารีส ก่อนจะขับรถต่ออีก ๕๐๐ กิโลก็ถึงจุดหมายปลายทางค่ะ
เมืองที่เราไปนี้ถือว่าอยู่ในถิ่นที่เรียกว่า เบรอตาญน์ (Bretagne) ในภาษาฝรั่งเศส หรือ บริตานี (Brittany) ในภาษาอังกฤษค่ะ แว่นแคว้นนี้มีชื่อเสียงเรื่องไวน์ ไซเดอร์ (ไวน์หวานรสซ่าทำจากน้ำแอปเปิ้ล มีอัลกอฮอล์ประมาณ ๕ เปอร์เซ็นต์) ขนมที่เรียกว่า เครป ค่ะ (คนไทยน่าจะรู้จักดี) อาหารทะเล โดยเฉพาะหอยแมลงภู่ ส่วนอย่างอื่น ๆ ยังไม่ได้สำรวจมาค่ะ
ที่พักของพวกเราเป็นอพาร์ทเม้นท์ริมทะเล อยู่บนชั้นสี่ (หากนับแบบเมืองไทยถือว่าเป็นชั้นห้า) สองห้องนอน มีห้องครัว ห้องรับแขกกว้างขวาง ห้องสุขาหนึ่งห้อง ห้องน้ำแบบมีอ่างน้ำหนึ่งห้อง ห้องน้ำแบบอาบจากฝักบัวอีกหนึ่งห้อง ในห้องอาบน้ำทั้งสองนี้จะมีโถสำหรับปัสสาวะ มีเปิดน้ำล้างได้ แต่ทำธุระหนักไม่ได้ค่ะ ที่เล่าให้ฟังนี่เพราะสังเกตว่า คนฝรั่งเศสดูเหมือนจะไม่ให้ความสำคัญกับ "ห้องสุขา" เท่าไร และห้องสุขาส่วนใหญ่ที่รจนาเคยเห็นตามบ้านคนธรรมดา (ไม่ใช่ร้านอาหาร) ก็จะมีแต่โถส้วมจริง ๆ ไม่มีอ่างล้างมือค่ะ ต้องออกมาล้างมือข้างนอก รจนาชินกับห้องน้ำในบ้านที่มีอ่างล่างมือในตัว
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
วิวทิวทัศน์ชายหาดยามเย็น มีคนเล่นร่มวินด์เซิฟ หากได้ลมดี ๆ ทั้งคนทั้งวินด์เซิฟก็ลอยไปตามลมด้วย น่าตื่นเต้นดีค่ะ แต่น้ำทะเลที่นี่เย็นจริง ๆ เย็นเจี๊ยบ ทีแรกไม่กล้าจะลงเลย ต้องเอาน้ำลูบตัว ลูบแขน ลูบหน้าแล้วฝืนใจผลุบลงน้ำไป ทีแรกจะรู้สึกเย็นมาก แต่พยายามเคลื่อนไหวเข้าไว้ จากนั้นก็พอไหวค่ะ แต่เล่นสัก ๕-๑๐ นาทีก็พอแล้ว นานกว่านั้นจะเป็นหวัด พอขึ้นมาแล้วจะรู้สึกสดชื่นมาก เพราะน้ำเย็นทำให้เลือดสูบฉีด (ต่อ
สู้ความเย็นดี) พวกเราจะไปเล่นก็ตอนบ่ายร้อนเปรี้ยง ๆ ค่ะ จะได้มีแรงสู้กับความเย็น
จะบอกว่าเมืองลาโบลนี่เป็นสถานตากอากาศชายทะเลที่สวยงาม มีชายหาดยาวเหยียดถึง ๙ กิโลเมตร มีถนนใหญ่เลียบตลอดชายหาด เส้นทางสัญจรได้ทั้งสองด้าน และมีเลนสำหรับถีบจักรยานและให้คนเดินเล่นโดยเฉพาะตลอดความยาวค่ะ
ที่ต้องชมเทศบาลเขาคือ ชายหาดเขาสะอาดจริง ๆ เขามีการทำความสะอาดทุกวันโดยรถเกลี่ยทราย คนเก็บขยะ ตัวเนื้อทรายเป็นสีครีมนวล ๆ น้ำทะเลสีครามเข้ม (ตามแสงตะวัน) ทะเลค่อนข้างเรียบสงบ ไม่มีคลื่นใหญ่ ๆ (ส่วนหนึ่งเพราะเป็นลักษณะอ่าว และมีแนวปะการังคอยปะทะแรงน้ำไว้) ทำให้เล่นน้ำง่าย และน้ำก็ตื้นพอที่จะออกไปเล่นได้ไกล ๆ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
อพาร์ตเม้นท์ที่รจนาไปพักอยู่ด้านขวาด้านในสุดค่ะ (ติดทะเล) ชั้นที่สี่ มีระเบียงยาวทั้งด้านหน้าและด้านข้าง
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
โรงแรมใกล้ ๆ กับที่พัก อยู่ระหว่างทางเดินไปตลาด แม่สามีชอบใจโรงแรมนี้มาก แอบไปถามราคามา คืนละ ๑๐๐ ยูโร แพงไปหน่อย หากจะพักตั้งสองอาทิตย์ คิดว่าพวกเราเช่าอพาร์ตเม้นท์ถูกกว่าค่ะ
นอกจากนั้น เขาจัดระเบียบร้านขายอาหารเครื่องดื่มที่จะมาตั้งบนชายหาดอย่างดี อย่างแรก คือ ไม่มีจำนวนร้านมากมายหนาแน่น แต่มีกระจายเป็นระยะ ๆ บางแห่งขายแต่เครื่องดื่มกับของกินเล่นเบา ๆ แต่บางแห่งขายอาหาร ทุกร้านจัดสวยงาม มีมุมให้เห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลและรับลมได้ ไม่ต้องแย่งกัน ส่วนใหญ่ร้านเขาจะปูด้วยกระดานไม้ และปลูกสร้างแบบไม่ถาวร (แต่แข็งแรง) กะว่าพอหน้าหนาวมาเยือนก็แยกชิ้นส่วนเก็บไปได้เลย ร้านเหล่านี้ทำเงินได้ก็เฉพาะหน้าร้อนนี่แหละค่ะ ปีนึงก็สัก ๕-๖ เดือนเท่านั้น หากอากาศแย่ (ฝนตก พายุเข้า) ก็คงขาดทุน รจนาไม่ได้สอบถามเรื่องค่าเช่า เลยไม่รู้ว่าถูกแพงแค่ไหน
อย่างต่อไปคือ เขาห้ามคนเอาสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นในช่วงกลางวัน เพราะสุนัขมาเดินแล้วก็ถ่ายเลอะเทอะสิคะ (แต่ตอนเช้าตรู่กับตอนค่ำ ๆ รจนาเห็นมีคนจูงสุนัขกับขี่ม้าเล่นค่ะ) แล้วเขายังห้ามมาปิกนิกกับบนชายหาดอีกด้วย เรียกว่า ป้องกันเรื่องความสกปรกเลอะเทอะอย่างเต็มที่ ที่พูดว่าปิกนิกคือ เอาครื่องดื่ม อาหาร จานชามมานั่งกินเอิกเกริกนะคะ แต่น้ำดื่มหรือขนมติดตัวนี่โอเค หรือใครจะพกแซนด์วิชเล็ก ๆ มาทานไม่ประเจิดประเจ้อ เขาก็ไม่ว่า เพราะบนชายหาด จะมีคนเข็นรถขายไอศครีม เครื่องดื่มเย็น ๆ และเครป อยู่เหมือนกันค่ะ
ด้วยเหตุนี้ ชายหาดลาโบลจึงสะอาดจริง ๆ ไปเดินเล่นแต่ละครั้งยากที่จะเห็นแม้แต่ฝาขวดหรือถุงพลาสติคค่ะ
ช่วงเวลาสองอาทิตย์แห่งการพักผ่อน พวกเราก็ทำเหมือนอยู่บ้านจริง ๆ (คือไม่ทำอะไร) ตื่นนอนสาย ๆ แม่สามีก็ออกไปซื้อครัวซองต์ที่ตลาด รจนาก็เตรียมน้ำชา กาแฟ นม เนย แยม น้ำส้มคั้นไว้รอท่า ทานอาหารเช้ากันริมระเบียง พอเก็บถ้วยชามเข้าเครื่องล้า
จานแล้ว รจนาก็คว้าตะกร้าไปจ่ายตลาดค่ะ เป็นความสุขเล็ก ๆ ประจำวันจริง ๆ เมืองเจฯไม่มีตลาดสดแบบนี้ค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ตลาดลาโบลยามสาย ๆ ผู้คนไปจับจ่ายซื้อของกินหนาตา
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
แผงขายผักผลไม้หน้าตาดี
ที่ตลาดสดมีของขายทุกอย่าง สด สวยงาม คุณภาพดี น่าทานไปทั้งนั้นค่ะ ตอนไปถึงตลาดครั้งแรก รจนาตื่นตาตื่นใจมาก ถ่ายรูปมาทุกอย่าง มีทั้งตลาดปลา ตลาดเนื้อ ตลาดของหวาน ผลไม้ ผัก เสื้อผ้า ของใช้ ขนาดไม่ใหญ่มาก ประมาณ อตก บ้านเรา แต่สะอาดมาก ๆ ตลาดปลานี่เดินเข้าไปแล้ว ไม่เหม็นติดตัวติดรองเท้ากลับมาค่ะ เขาเปิดตลาดแค่ครึ่งวัน ประมาณเที่ยงกว่า ๆ ก็ปิดกลับบ้านไปแล้ว คงเหมือนตลาดหัวเมืองบ้านเรา
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ดอกอาร์ติโช้คค่ะ (Artichoke) หน้าตาสวย นิยมทานตรงใจกลาง เรียกว่า "หัวใจอาร์ติโชค" เนื้อกรอบ ๆ รสชาติเหมือนหน่อไม้ผสมกับมันเทศค่ะก็ไม่เชิง วิธีทำก็ไม่ยาก ตัดตามขวางเอาปลายแหลมออก ต้มในน้ำผสมมะนาวกันดำ ต้มสุกแล้วก็มาแกะทีละกาบ และทานเนื้อที่โคนกาบกับน้ำจิ้มไข่ต้มสับกับมะนาว น้ำมันมะกอกค่ะ พอทานกาบหมด ก็ได้ทานหัวใจค่ะ บ้านเราอาจจะมีแบบใส่ขวดแก้วแช่มาในน้ำมันหรือน้ำเกลือ บางทีเขาก็เอาหัวใจที่ดองมาแล้วไปใส่หน้าพิซซ่าค่ะ
ปลาที่เขาเอามาขายนี่ก็เป็นปลาที่จับมาสด ๆ แต่ละวัน เวลาเราจะซื้อก็ต้องเข้าคิว (แบบไม่เป็นทางการ แต่เป็นอันรู้กันว่าใครมาก่อนมาหลัง) แม่ค้าก็จะถามว่า วันนี้จะทานอะไรคะ เราก็บอกว่าอยากได้ปลายี่ห้อนี้ หรือกุ้ง หรือกั้ง หรือล็อบสเตอร์ หรือปู หรือปลาหมึก หรือหอย แล้วแต่ว่าเราชอบอะไร แม่ค้าจะเป็นคนหยิบเลือกให้เรา เราจะจู้จี้จุกจิกหน่อยก็ได้เช่น ตัวใหญ่ไป เล็กไป เอาตัวนี้ดีกว่า เขาก็จะเปลี่ยนให้ หากเป็นปลา เขาก็จะถามด้วยว่า เราจะให้ขอดเกล็ด ควักพุงออก แล้วเขาก็ทำให้
ที่น่ารักคือ เราจะจ่ายด้วยเงินสดก็ได้ ด้วยบัตรเครดิตก็ได้ หรือด้วยเช็คธนาคารก็ได้ ประเทศฝรั่งเศสอาจจะกล่าวได้ว่า เป็นประเทศเดียวที่เหลือในยุโรปที่คนยังนิยมเขียนเช็คกันอยู่ ลองนึกภาพคนเขียนเช็คหน้าเคาน์เตอร์ขายปลาสิคะ รจนาเห็นมากับตา ทุลักทุเลนิดหน่อยเพราะไม่รู้จะวางสมุดเช็คตรงไหนไม่ให้เปียกสิคะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
อาหารทะเลตัวใหญ่ ๆ กุ้งหอยปูปลา
ผลไม้เบิกบานเลยค่ะ (เอ๊ะ นี่จะพาเที่ยวหรือพากิน) โดยเฉพาะเชอร์รี่หลากหลายราคาและรสชาติ รจนาลองซื้อแบบถูกบ้าง แบบแพงบ้างเพื่อเปรียบเทียบรสชาติ พบว่า แบบแพงนั้นรสชาติอาจจะไม่กินขาดแบบราคาถูกเสมอไป แต่จะลูกใหญ่มาก ๆ ได้เนื้อเยอะจริง ๆ ค่ะ อร่อยก็ตรงนี้แหละ แล้วยังมีสตรอเบอร์รี่เรียงรายเต็มไปหมด ลูกแอปริค็อตก็สด เต่งตึงเหมือนสาวแรกรุ่น สีส้มสวยมาก ๆ ผลไม้อื่นเท่าที่จำได้ก็ลูกเบอร์รี่ทั้งหลาย ตามฤดูกาล แคนตาลูปซึ่งหวานฉ่ำเหมาะกับหน้าร้อน ลูกพีชนี่เพียบเลยค่ะ แล้วยังมีเนคทารีนให้เห้นด้วย รจนายังเห็นเขาเอามะพร้าวห้าวมาขายด้วย และมีกะทิกระป๋องของไทยวางคู่กันไว้ให้คนซื้อรู้ว่าหน้าตากะทิเป็นอย่างนี้นะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ปลาซาร์ดีนสด ๆ ค่ะ บ้านเราเคยเห็นตอนอัดมาในกระป๋องมาแล้ว ที่นี่เขาทานสด ๆ ในช่วงหน้าร้อน อร่อยที่สุดคือเอาไปเผาทั้งตัวค่ะ พรมเกลือนิดนึง ทานกับมะนาวบีบ และข้าวเปล่า
รจนาเดินเที่ยวตลาดเสร็จ ซื้อปลา ซื้อผัก ผลไม้ไว้ทำอาหารกลางวันกับอาหารเย็น ก็ออกชมร้านขายของที่ระลึกต่อค่ะ ใกล้ ๆ ตลาดจะเป็นถนนคนชอปปิ้ง มีร้านเสื้อผ้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านรองเท้า ร้านกระเป๋า ร้านเครื่องครัว ร้านขายมีดชื่อดังของฝรั่งเศส ร้านขนมปัง ร้านไอศครีม ร้านขายเครปกับวัฟเฟิ้ล ร้านหนังสือพิมพ์ ร้านกาแฟ ธนาคาร ตู้กดเงิน สมกับเป็นย่านท่องเที่ยวค่ะ ถนนสายนี้เขาให้รถวิ่งทางเดียว และก็ไม่มีรถเข้ามาวิ่งมากเท่าไร ทำให้เราเดินเที่ยวชมของได้อย่างสบายใจ
แวะไปร้านขายของที่ระลึก ได้ผ้ากันเปื้อนสีถูกใจ ผูกมัดง่ายมาหนึ่งผืน ไหน ๆ ก็รักการทำอาหารแล้ว สะสมผ้ากันเปื้อนไว้ก็ไม่เสียหายค่ะ ได้ใช้ทุกโอกาสอยู่แล้ว
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
มุมดื่มน้ำชา ดื่มไปชม(แฟชั่นของ)คนเดินตลาดไปด้วย รจนาไม่ได้ดื่มค่ะ แต่แวะไปซื้อใบชาที่ร้านนี้
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
นี่เป็นชั้นขายโถใส่เกลือค่ะ ลืมเล่าไปว่า ใกล้ ๆ กับลาโบลมีนาเกลือฝรั่ง ที่นี่เลยมีการขายเกลือเป็นของฝากด้วย แต่เขาทำหีบห่อดี ดังนั้นเกลือของถูก ๆ จึงกลายเป็นของแพงไป แถมมีเกลือผสมสาหร่ายทะเลหรือสมุนไพรรสชาติต่าง ๆ ใส่ถุงกระสอบจิ๋วลวดลายสวย ๆ และมีไถ้เซรามิคใส่เกลือกับช้อนไม้เล็ก ๆ รจนาคนชอบทำกับข้าวก็เลยซื้อมา ๒-๓ ชุดค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ร้านขายตะกร้าสานเอาไว้จ่ายตลาดค่ะ รจนาเองยังซื้อกลับบ้านหนึ่งใบ และได้ใช้งานเอาไปจ่ายกับข้าว ใส่ชุดว่ายน้ำไปชายหาดด้วย จะเห็นว่า ชาวฝรั่งเศสนิยมใช้ของธรรมชาติ ไม่ค่อยชอบใช้ถุงพลาสติคเวลาไปซื้อของ หรือจะใช้ถุงที่แข็งแรงเวียนแล้วเวียนอีก ไม่ทิ้งง่าย ๆ ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ ๆ ก็จะมีถุงพลาสติครีไซเคิลออกแบบสวยงาม ใส่ของจุ สีสดใสขายในราคาถูก ใครลืมเอาตะกร้ามาก็ซื้อถุงนี่ ใส่กับข้าวกลับบ้าน และก็ใช้งานต่อจนหลายปี หรือกว่าจะขาดจะเปื่อยกันไปข้างหนึ่ง รจนาเองก็ซื้อถุงที่ว่านี้ไว้หลายใบหลายสีค่ะ เวลาเดินทางเอาไว้ใส่ของกิน น้ำดื่ม ผ้าเช็ดมือ กระติกน้ำชา ฯลฯ สะดวกดีนักแล
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ร้านขายของที่ระลึกแห่งหนึ่งค่ะ เขาจัดชั้นเรียบร้อยสวยงาม มีของกิน ของใช้ ของแห้ง ขนมหวานที่ระลึก ของใช้ในครัว ไวน์ น้ำมันมะกอก
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
กั้งสด ๆ ยังดิ้น ๆ อยู่เลยค่ะ เขาเรียกว่า "ลองกูสตีน" (Langoustines) กิโลละ ๑๖ ยูโร (เอา ๕๐ คูณ) เอาไปนึ่งในน้ำเดือดสัก ๕ นาทีก็ออกมาทานได้ กับมายองเนสค่ะ แต่แกะลำบากกว่ากุ้ง ได้เนื้อน้อยกว่า แต่เนื้อหวานอร่อยค่ะ เป็นอาหารทะเลขึ้นชื่อของย่านนี้ค่ะ ร้านอาหารทุกร้านจะมีขึ้นไว้ในเมนู บางทีเขาต้มไว้แล้วเอาไปแช่เย็น เสิร์ฟทานเย็น ๆ ค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
และที่ขาดไม่ได้คือ หอยแมลงภู่แห่งเบรตาญน์ที่ส่งไปขายทั่วยุโรป เนื้อเหลืองสวย แน่น หวาน อร่อย ผสมรสเค็มของน้ำทะเล นอกจากหอยแมลงภู่แล้ว หอยนางรมก็ขึ้นชื่อมาก ๆ ค่ะ เขาทานกันสด ๆ แค่บีบมะนาวใส่เท่านั้นเอง ไม่มีหอมเจียวหรือใบกระถินแบบบ้านเรา
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
นี่ก็หัวไชเท้าจิ๋วค่ะ รสแบบหัวไชเท้าจริง ๆ ฝรั่งเอาไปทำสลัด หรือเอาไปจิ้มเกลือกินสด ๆ รจนาทานเข้าไปสองสามอัน ไม่ไหวค่ะ ทั้งฉุนทั้งเผ็ด แต่หน้าตาสวยดีจริง ๆ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
บ้านใครไม่รู้ เห็นสวยดีค่ะ อยู่ใกล้ ๆ ทางไปตลาดเหมือนกัน
ระหว่างอยู่ลาโบล เป็นช่วงฟุตบอลโลกรอบสองพอดี ปกติรจนากับสามีไม่ค่อยได้ติดตามข่าวกีฬ่าเท่าไร แต่คุณแม่สามีเป็นนักเทนนิส และยังเล่นเก่งแม้อายุจะมากแล้ว คุณแม่อยากดูฟุตบอลคู่ที่เยอรมนีเล่น พวกเราก็เลยได้ดูพร้อมกันไปด้วย และไหน ๆ ดูแล้วก็พาลดูคู่ของฝรั่งเศสไปด้วย ความที่ไม่มีอย่างอื่นให้ดู ช่วงนั้นฝรั่งเศสชนะตลอดจนถึงรอบสี่ทีมสุดท้าย พอฝรั่งเศสชนะแต่ละครั้ง ผู้คนก็จะยินดี ออกมาร้องรำทำเพลง บีบแตรตามท้องถนน วัยรุ่นก็ขับรถเร่งเครื่องเสียงดังจนดึกดื่น เรียกว่า พลอยทำเอาพวกเราอดนอนไปด้วย แต่ก็ยินดีไปกับทีมฝรั่งเศสด้วย (ตอนนั้นยังไม่ถึงรอบชิงฯ)
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
นี่ภาพกองเชียร์ฝรั่งเศสออกมาร้องรำทำเพลงกลางถนนยามดึกค่ะ
สรุปว่า ตอนนี้เล่าแค่ชีวิตนักท่องเที่ยวในลาโบลไปก่อนนะคะ คราวหน้าจะพาออกไปชมทิวทัศน์ในเมืองใกล้ ๆ ค่ะ
เมื่อวันที่ : ๒๙ ก.ค. ๒๕๔๙, ๒๑.๐๗ น.
อ่านสนุกดีจังค่ะ รู้สึกเหมือนได้ตามคุณรจไปเที่ยวด้วยเลย