![]() |
![]() |
รจนา ณ เจนีวา![]() |
...คอนเฟิร์มเมชั่น (Confirmation) เป็นพิธีทางศาสนาของชาวคริสต์ เพื่อให้เด็กหนุ่มสาวที่ถึงวัยอันควร (ประมาณ ๑๓-๑๔ ปี) ที่ผ่านพิธีรับศีลมาแล้วได้ประกาศรับศาสนาอย่างเป็นทางการ ถือเป็นสมาชิกของโบสถ์อย่างเป็นทางการ และเป็นการก้าวเข้าสู่โลกของความเป็นผู้ใหญ่...
ตอน : ไปพิธีคอนเฟิร์มเมชั่น (Confirmation)
มีแฟน ๆ ต่อว่าว่ารจนาไม่ค่อยจะเขียนเรื่องเล่าจากเจนีวาเลย ต้องยอมรับด้วย
ไม่รู้ว่าคนไทยเราเคยได้ยินคำนี้กันบ้างหรือเปล่า คอนเฟิร์มเมชั่น (Confirmation) เป็นพิธีทางศาสนาของชาวคริสต์ เพื่อให้เด็กหนุ่มสาวที่ถึงวัยอันควร (ประมาณ ๑๓-๑๔ ปี) ที่ผ่านพิธีรับศีลมาแล้วได้ประกาศรับศาสนาอย่างเป็นทางการ ถือเป็นสมาชิกของโบสถ์อย่างเป็นทางการ และเป็นการก้าวเข้าสู่โลกของความเป็นผู้ใหญ่
รจนาเองเป็นคนพุทธ อาจจะแปลหรือเล่าได้ไม่ถูกต้องเต็มร้อย หากเพื่อนท่านใดเป็นผู้สันทัดกรณีจะแนะนำ ก็เชิญเลยนะคะ
พ่อบ้านของรจนาเป็นชาวคริสต์นิกายโปรเตสแต้นท์ค่ะ หากแปลตรงตัวก็คือ ผู้คัดค้าน รจนาเคยแซวพ่อบ้านว่า เธอนี่โปรเตสแต้นท์จริง ๆ นะ มีอะไรก็ชอบซักค้าน(รจนา)อยู่เรื่อย พ่อบ้านไม่โกรธค่ะ
ตั้งแต่แต่งงานกันมา รจนามีโอกาสได้ไปงานเช่นที่ว่าสองครั้งค่ะ ครั้งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์เป็นลูกชายของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เราก็ไปร่วมพิธีในโบสถ์ตอนเช้า แล้วก็ทานอาหารกลางวันกันกับครอบครัว ญาติ และเพื่อน สนุกสนาน จนบ่ายคล้อยก็เลิกรากันไปค่ะ งานนั้นผ่านมาสามปีแล้ว ค่อนข้างประทับใจ เพราะหลังจากพิธีแล้ว มีการทานอาหาร มีการจัดการละเล่นต่าง ๆ และเกมให้เด็ก ๆ เล่นกัน มีหีบเพลงแบบสวิสมาเล่นให้ฟังด้วย
การประกาศยืนยันนี้เขาจะทำรวม ๆ กันทีละหลายคนค่ะ ประมาณ ๒๐ คนต่อครั้ง และจะจัดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (อากาศอบอุ่นดี สดใส ดอกไม้สวย จัดงานกลางแจ้งได้) ในชุมชนหนึ่ง ๆ อาจจะจัดติดต่อกันทุกวันอาทิตย์ไปจนกว่าจะหมดจำนวนเด็ก ๆ ที่ถึงเกณฑ์ต้องมาบอกรับศาสนาค่ะ ก็คือก่อนหมดฤดูใบไม้ผลิค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
อีกงานหนึ่งรจนาเพิ่งไปมาที่เยอรมนีค่ะ ปลายเดือนมิถุนายน เป็นลูกสาวของแฟนของน้องชายของพ่อบ้านค่ะ (อย่าเพิ่งงงนะคะ) จะว่าเป็นญาติเราหรือเปล่าก็ไม่ใช่ แต่แฟนของน้องชายนี้มีลูกติดมาสองคนค่ะ เป็นหญิงทั้งคู่ ทั้งสามคนแม่ลูกเป็นคนงามมาก ๆ เด็ก ๆ สวย หวานน่ารัก แม่สวยสง่า แม่ชื่อมาเรียน ลูกสาวชื่อจูเลีย กับโซเฟียค่ะ แม่กำลังจะแยกทางกับพ่อ ที่ไปอยู่อีกเมืองหนึ่ง และแม่ก็มาตกหลุมรักน้องชายของพ่อบ้านค่ะ เราก็เลยได้มารู้จักครอบครัวนี้
พวกเราเคยเจอกันสองสามครั้ง แล้วก็หลงรักทั้งสามสาวหมดหัวใจ ทั้งแม่และน้องสาวของพ่อบ้านก็รู้สึกเช่นกัน พวกเราทุกคนก็เลยยินดีไปร่วมในงานพิธีนี้แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นญาติในทางใดเลย งานนี้เป็นงานของโซเฟีย
เมืองที่เราไปคือ โฮลซแกร์ลิงเง่น (Holzgerlingen) ใกล้กับชตุ๊ทการ์ต (Stuttgart) ค่ะ ขับรถไปจากเจนีวาก็ ๔๕๐ กิโลเมตร ช่วงที่เราไปอากาศสวยงาม ดอกไม้กำลังบาน แต่ยังหนาวกว่าที่สวิตฯค่ะ
เมืองนี้เป็นเมืองเล็กในหุบเขาตื้น ๆ ค่ะ น่ารักมากทีเดียว โบสถ์เขาก็สวยทีเดียว
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
พิธีง่าย ๆ เริ่มด้วยน้ำชาและของว่างที่บ้านของมาเรียน เจ้าของบ้านจัดบ้านอย่างสวยงาม อาหารการกินก็น่าทาน เป็นอาหารแบบชเวเบี้ยน Swebian เพราะมาเรียนมาจากแคว้นชเวเบียค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
สาวน้อยเสื้อดำคือ จูเลียเจ้าของงาน กำลังคุยกับคุณพ่อ ส่วนคุณแม่คนสวยยืนอยู่ห่าง ๆ ค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
หลังจากของว่างแล้ว ตอนเย็นพวกเราก็เดินทางไปโบสถ์กัน โบสถ์อยู่ห่างไปแค่สองสามกิโลเมตรเท่านั้น ภาพที่สองข้างบนนะคะ
พิธีตอนเย็นที่โบสถ์นั้นนานประมาณหนึ่งชั่วโมง พระท่านก็มาเทศน์ เป็นภาษาเยอรมัน สลับกับการร้องเพลงสวด ซึ่งจะมีหมายเลขบทที่จะร้องติดไว้ให้เห็นประจักษ์ ตอนท้าย ๆ ก็เป็นการเรียกเด็ก ๆ ที่จะทำพิธีรับศาสนาในวันรุ่งขึ้น (วันจริง) มาข้างหน้า ยืนล้อมเป็นตัวยู พระและเจ้าหน้าที่สตรีก็เดินจากหัวแถวไปท้ายแถวคนละด้านกัน เดินรอบแรกก็แจกขนมปังกรอบให้ทุกคน บางคนก็เอาเข้าปากเลย บางคนก็เก็บไว้ก่อน พอรอบต่อไปก็จะเป็นการเวียนไวน์แดงในแก้วเงินให้จิบกันค่ะ พระและเจ้าหน้าที่จะส่งแก้วให้จิบ รับแก้วกลับมา และส่งให้คนต่อไป
พอรอบของเด็ก ๆ จบลงก็เป็นรอบของครอบครัวค่ะ ก็เรียงกันไปล้อมวงครั้งละสัก ๒๐-๓๐ คน จนกว่าจะหมดผู้คนทั้งโบสถ์ ก็ใช้เวลานานหน่อยละค่ะ รจนานั่งดูเฉย ๆ ไม่ได้ไปร่วมกับเขา
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
รจนากับหนูน้อยโซเฟียค่ะ มีแฟน ๆ ขอดูภาพรจนาอีกครั้งหนึ่ง เลยเอายิ้มยิงฟัน ๓๒ ซี่มาโชว์เสียเลย แต่รจนายังสวยสู้หนูโซเฟียไม่ได้ค่ะ คิกคิก
พิธีนี้นัยยะทางศาสนาคือ ขนมปังถือเป็นร่างกายของพระเยซู และไวน์แดงคือเลือดของพระองค์ค่ะ เป็นการย้อนรำลึกถึงวันที่พระองค์ได้ทานอาหารร่วมกับบรรดาสาวกผู้ใกล้ชิดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถูกทหารโรมันจับตัวไปตรึงกางเขน
พ่อบ้านบอกว่า สมัยก่อนจะเป็นขนมปังอบก้อนโต ๆ และให้บิชิ้นเล็ก ๆ มาทาน แต่สมัยนี้วัดก็ประยุกต์ใช้ขนมปังแบบแครกเก้อร์แทน รจนาติดใจเรื่องดื่มไวน์จากแก้วเดียวกัน แอบกระซิบถามพ่อบ้านว่า หากเราไม่อยากดื่มไวน์ต่อจากคนอื่นจะทำอย่างไรดี พ่อบ้านบอกว่า ถ้าใครไม่อยากใช้แก้วร่วมกับคนอื่นเพราะกลัวสกปรกหรือตัวเองเป็นหวัดไม่อยากให้ติดคนอื่น ก็เก็บขนมปังไว้ก่อน อย่าเพิ่งทาน แล้วพอไวน์เวียนมาถึงตัวเองก็เอาขนมปังนั่นจุ่มลงไปแล้วเอาเข้าปากค่ะ
แต่รจนาสังเกตเห็นว่า พอจิบไวน์ได้สี่ห้าคน ไวน์หมด พระหรือเจ้าหน้าที่วัดที่ถือแก้วไวน์เวียนก็จะนำแก้วไปเติม และเช็ดปากแล้วไปพร้อมกัน เฮ้อ...โล่งใจค่ะ พ่อบ้านแอบกระซิบว่า เธอไม่ต้องกลัวเชื้อโรคหรอก เพราะเชื้อโรคเจออัลกอฮอล์ก็ตายแล้ว
ตอนเย็นนี่ทุกคนแต่งตัวมีสีสันพอสมควร แต่ก็ยังสีทึม ๆ อยู่เพราะอากาศยังหนาว
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
จูเลียออกไปกล่าวคำถามทางศาสนาที่กลางโบสถ์ค่ะ (รจนาฟังไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว เพราะเป็นภาษาเยอรมัน รู้แต่ว่าน้องเขาเสียงหวานดี)
พอเสร็จพิธีที่โบสถ์สักสองทุ่มครึ่งพวกเราก็ไปทานอาหารเย็นกันที่โรงแรมค่ะ โชคดีว่าญาติหลายคนพูดภาษาอังกฤษได้ รจนาก็เลยมีคนคุยด้วย เย็นวันนั้น รจนาสั่งหน่อไม้ฝรั่งขาว (แอสปารากัส) กับซอสฮอลลันเดสค่ะ เพราะเป็นหน้าหน่อไม้พอดี
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
นี่ชื่อเด็ก ๆ ที่เขาทำประดับไว้รอบประตูทางเข้าโบสถ์ค่ะ น่ารักดี
วันรุ่งขึ้นพวกเราไปโบสถ์กันอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ทุกคนแต่งตัวเป็นทางการเต็มยศค่ะ ผู้ชายก็สูทสีเข้มออกดำ ผู้หญิงก็ใส่เสื้อผ้าสีเคร่งขรึม หนักออกทางขาวดำค่ะ
พิธีตอนเช้านี้นานประมาณ ๒ ชั่วโมง มีร้องเพลงสวดหลายบท มีพระเทศน์หนึ่งกัณฑ์ (ขออนุญาตใช้ศัพท์ไทยนะคะ) เด็ก ๆ ที่มาประกาศรับศาสนาก็ออกไปพูดแสดงข้อคิดหรือคำถามทางศาสนากันคนละบทสองบท บางทีก็ออกไปคนเดียวเดี่ยว ๆ บางทีก็ออกไปสองสามคน รจนาเดาว่าอาจจะเป็นญาติสายเดียวกันหรือเพื่อนซี้กัน เด็ก ๆ แต่งตัวสีขรึม ๆ กันทุกคน ผิดกับเย็นวานที่แต่งตัวตามสบายมีกางเกงยีนส์ด้วย
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ภาพของเด็ก ๆ ที่เข้าร่วมพิธีในวันนี้
หลังจากชั่วโมงกว่าผ่านไป ก็เริ่มนั่งขยุกขยิกหลายเที่ยวเพราะเมื่อยค่ะ อยู่ไม่เป็นสุขค่ะ จะร้องเพลงกับเขาก็ร้องไม่เป็น จะฟังว่าเขาพูดอะไรก็ฟังไม่ออก นาน ๆ น้องสาวพ่อบ้านก็แปลให้เสียทีนึง ก็ได้แต่อาศัยทำใจเป็นกุศลไปกับพวกเขาด้วย บางทีไม่รู้เรื่องมาก ๆ ก็นั่งหลับตาทำสมาธิไป ตอนหลังเริ่มแย่หน่อยเพราะอากาศเริ่มอุดอู้มากขึ้นเรื่อย ๆ หายใจไม่ค่อยจะออกค่ะ แต่สุดท้ายพิธีก็เสร็จอย่างเรียบร้อย มีการประกาศว่าเงินบริจาควันนี้จะนำไปช่วยเหลือเด็กเร่ร่อนข้างถนนค่ะ
เด็ก ๆ หน้าตาแจ่มใส่มีความสุข พ่อแม่ก็เบิกบานกันดี พอออกมานอกโบสถ์ก็มีการถ่ายรูปกัน คุยกัน แสดงความยินดี รจนาเห็นเขาร้อยชื่อเด็กติดไว้หน้าประตูโบสถ์น่ารักดี ก็เลยถ่ายภาพมาด้วยค่ะ
หลังจากงานที่โบสถ์ พวกเราก็ไปทานอาหารกลางวันกันที่ร้านอาหารในพิพิธภัณฑ์กลางเมือง ซึ่งเป็นตึกกระจกทั้งหลัง ร้านอาหารอยู่ชั้นบนสุด มองเห็นวิวของเมืองอย่างสวยงาม เอาภาพมาฝากด้วยค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
นี่ก็เทียนที่ติดชื่อจูเลียไว้ด้วย ฝีมือจูเลียกับคุณแม่ช่วยกันทำ และแชมเปญฉลอง (รจนาอดดื่ม เพราะไม่ดื่มเหล้าค่ะ)
ที่นี่ก็มีการดื่มแสดงความยินดีแก่จูเลียอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็มีการเปิดของขวัญต่าง ๆ ที่ได้รับจากญาติ อาหารกลางวันเป็นเซ็ทค่ะ โต๊ะจัดสวยงาม มีชื่อของเราวางไว้เรียบร้อย รจนาก็นั่งคู่พ่อบ้าน น้องชายพ่อบ้านสั่งต้มข่าไก่เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย (แต่รสชาติห่างไกลความเป็นต้มข่าไก่จริง ๆ คะ) ส่วนอาหารจานหลังเป็นเนื้อลูกวัวอบแบบชเวเบี้ยนค่ะ ของหวานคือทิรามิซุกับผลไม้ (มีเพื่อน ๆ ขอสูตรมานานแล้ว รจนายังไม่เคยลองทำค่ะ) เรื่องอาหารนี้รจนาจะเอาไปเขียนในคอลัมน์รจนาเข้าครัวแล้วกันนะคะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
บรรยากาศและวิวจากโต๊ะอาหารกลางวันค่ะ
เล่ามาเสียยืดยาวก็เพื่อให้เห็นบรรยากาศของการรวมญาติ และพิธีทางศาสนาของฝรั่งค่ะ เขาเองก็เน้นเรื่องการพบญาติ การทานเลี้ยงแบบเบา แบบหนัก ไม่แพ้คนไทยเราเหมือนกันนะคะ ที่หนักหน่อยก็ไวน์และแชมเปญ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ภาพจูเลียตอนยังเล็ก ๆ ค่ะ ทางคุณแม่เอามาจัดแต่งที่บ้าน ดูสวยน่ารักทีเดียว ก้านไม้ดอกเขียว ๆ ที่เห็นนั้น เป็นดอกไม้พิเศษสำหรับเดือนพฤษภาคมค่ะ รจนาเองก็จำชื่อไม่ได้เสียแล้ว
ขอร่ำลาไปแต่เพียงเท่านี้ก่อนค่ะ
เมื่อวันที่ : ๑๖ พ.ค. ๒๕๔๙, ๐๘.๕๖ น.
สวัสดีค่ะ วันนี้ตื่นสายอีกตามเคยเพราะหอบเอาร่างตุ้ยนุ้ยไปเรียนไม่ไหว ยังคงต้องพักอีกหนึ่งวันค่ะ รีบเข้ามาศาลาพบว่ามีรูปมาลงแล้วเลยรีบตามมาอ่าน เห็นรูปแล้วต้องขออนุญาตเรียกพี่คงไม่ว่ากันนะคะ
ถึงแม้จะต่างวัยกับหนูน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆ แต่ความน่ารักไม่แพ้กันค่ะ ฟันสวยจริงๆ โดโรทีฟันห่างค่ะ
เมื่อไหร่จะได้เห็นรูปตัวน้อยน่ารักแบบน้องโซเฟียจากพี่รจและคุณพ่อบ้านบ้างนะ รอ รอ รอ............
ขอให้เดินทางไปเที่ยวอังกฤษให้สนุกนะคะ จพี่รจจะมีโอกาสได้เจอพี่พิลไหมเนี่ย