ตอน : งานออโต้โชว์เมืองสวิสฯ

รจนาเก็บภาพไว้นานแล้ว​ ไม่มีโอกาสโหลดมาฝากกันดูเสียที

ทุกปลายหนาว ​ที่เมืองเจนีวา​จะมีมหกรรมแสดงรถยนต์นานาชาติใหญ่โตระดับอนุภูมิภาคทีเดียว งานจัดครั้งหนึ่ง​ก็นานประมาณสิบวัน มีคนจากทั่วประเทศ (ขาโจ๋ว คนรักรถ) มาชมงานกัน แล้ว​ยังมีจากประเทศ​เพื่อนบ้านอีกด้วย

งาน​ที่รจนา​ไปปีนี้ ​เป็นงานแสดงครั้ง​ที่ ๗๖ แล้ว​ค่ะ​ จัดกันมา ๗๖ ปีแล้ว​ ไม่น่าเชื่อเลย​ ปีนี้​เขามีการทำสถิติด้วย (คงเหมือนทุกปี) จากการสำรวจจากผู้มาชมงานจำนวน ๓๘,๗๑๖ คน พบว่า จำนวนผู้เข้าชม ๓๘ % ​เป็นชาวต่างชาติจาก ๘๕ ประเทศทั่วโลก (ตรงนี้​ต้องเข้าใจอย่างหนึ่ง​ว่า เมืองเจนีวา​ที่​เป็นสถาน​ที่จัดงานนั้น​​เป็นเมืองสากล มีหน่วยงานของสหประชาชาติตั้งอยู่​หลายหน่วยงาน ดังนั้น​สัด​ส่วนของชนชาติก็คงสูงตาม​ไปด้วย)

​ส่วนผู้เข้าชม​ที่​เป็นชาวสวิสเองนั้น​ ปรากฎว่า ​เป็นชาวสวิสฝั่ง​ที่พูดภาษาฝรั่งเศสมากกว่าฝั่ง​ที่พูดภาษาสวิสเยอรมันเสียสองเท่าค่ะ​

คนสำรวจ​เขาก็ซอกแซกดี ​เขาพบว่า ครึ่งหนึ่ง​ของคน​ที่เข้าชมงาน​ที่​เป็นผู้ใหญ่นั้น​อายุน้อยกว่า ๓๕ ปีค่ะ​ ​และ​เป็นสุภาพสตรี (อย่างรจนา) เสีย ๑ ใน ๔ ค่ะ​ ไม่เลวนะคะ​ รจนาสงสัยว่า คง​เป็นแม่บ้าน​ที่ติดตามสามีมาชมรถด้วยแหงเลย​

จำนวนแขกต่างชาติ​ที่มาชมงานมาจากประเทศ​เพื่อนบ้าน เช่น ฝรั่งเศสเสีย ๑๐% ​และมาจากในประเทศสวิตฯเองเสีย ๑๕ % (เช่น รจนา​กับพ่อบ้าน ถึง​จะอยู่​เจนีวา ​แต่ก็ถือ​เป็นคนต่างชาติ) ชาวอิตาเลียน​ที่มาชมงานมี ๕ % ​และ ชาวเยอรมัน ๒ % ค่ะ​ (จำนวนลดลง ๑ % จากปีก่อน เหตุผล​เป็น​เพราะว่าปีนี้อากาศหนาวนาน ​และในประเทศเยอรมนีมีปัญหาหิมะตกหนักขัดขวางการสัญจรของผู้คนค่ะ​ ก็เลย​ทำให้ขาโจ๋ชาวเยอรมันน้อยลง)

​เขาบอกว่าขายตั๋วชมงาน​ได้ ๖๗๕,๐๐๐ ใบ ​และผู้เข้าชม ๖ % จากจำนวนนี้ หรือประมาณ ๔๐,๐๐๐ คนนั้น​ มาจาก ๘๐ ประเทศทั่วโลก ​ทั้งอาฟริกาใต้ ​ไปจนถึงเมืองจีน จากออสเตรเลีย​ไปจนถึงอาเจนติน่า ​เป็นต้นค่ะ​

พูดเรื่อง​ผู้ชมงาน​ที่อายุน้อยลงเรื่อย ๆ​ อายุของประชากรกลุ่มสำรวจนี้ครึ่งหนึ่ง​ตกประมาณ ๑๘ ถึง ๓๔ ปีค่ะ​ ​และ ๓๘ % ​ที่กล่าว​ไปแล้ว​อายุ​ระหว่าง ๓๕ ถึง ๕๔ ปีค่ะ​ (รจนา​กับพ่อบ้านอยู่​ในกลุ่มนี้ค่ะ​) แล้ว​​เขายังพบว่า ผู้เข้าชมงาน ๙ ใน ๑๐ คนนั้น​​เป็นพวก​ที่มีงานทำ (ก็เลย​มีเงินนิ เลย​กล้ามาดูรถยนต์ใหม่ ๆ​)

​ส่วนผู้ชมงานสตรีนั้น​ สถิติ​เขาบอกว่า ในช่วงสิบปี​ที่ผ่านมา ผู้ชมงาน​จะ​เป็นผู้หญิงเฉลี่ยอยู่​​ที่ ๒๗ % ของจำนวนผู้ชมงานรวม ​และคิด​เป็น ๓๐ % ของผู้เข้าชมชาวสวิสค่ะ​

ศูนย์แสดงชื่อว่า Palexpo ย่อมาจาก Palais des Expositions หรือหอแสดงนั่นเอง ​ที่จริงคำว่า Palais นี่แปลว่า​พระราชวังค่ะ​ ​ส่วนคำหลังก็แปลว่า การจัดแสดง ...​​แต่อย่าเสียเวลาเลย​ เราไม่​ได้มาเรียนภาษาฝรั่งเศสกันซักหน่อย​...​

ศูนย์ปาเล็กซ์โปนี่อยู่​ตรงข้ามสนามบิน มีสถานีรถไฟเข้าถึงค่ะ​ การเดินทางมาชมงานจึงสะดวก​ ​แต่พวกเราคนทำงานในเจนีวา​จะลำบากเรื่อง​รถติดตอนเย็นหน่อย​นึง เรามัก​จะเลี่ยงไม่ใช่เส้นทางค่ะ​ ​แต่ก็ไม่ถึง​กับติดตามากมาย​ ​เขามี​ที่จอดรถหลายแห่ง ​และมีรถบัสรับส่งคนจากจุดใหญ่ ๆ​ ในเมือง รอบเมือง ​เพื่อไม่ให้คน​เอารถ​ไปจอดแออัดกันกลางเมือง



​เขาทำเก๋ค่ะ​ ​เอาชื่องาน​ไป​แต่งไว้บนทางเดิน​ที่มีไฟส่องข้างล่าง เหมือนแคทวอล์คประมาณนั้น​

ตั๋วเข้าชมงานก็ยี่สิบฟรังก์หรือไงนี่แหละ​ค่ะ​ ​ที่ไม่แน่ใจ​เพราะว่า ทางเรา​ได้ตั๋วฟรีจากศูนย์รถยนต์สมาร์ท​ที่เรา​เป็นลูกค้าค่ะ​

งาน​เขาแบ่ง​เป็นหลายโซน บางโซนก็​จะ​เป็นรถคลาสสิกชนิดทำงานหาเงินสักสามชาติก็คงยังซื้อไม่​ได้ หรือประเภทหนึ่ง​เดียวคันนี้ หรือมีประวัติ​ความ​เป็นมาน่าตื่นใจ

รถยนต์​ที่นำมาแสดงมีหลากหลาย​เป็นร้อยยี่ห้อ จำนวนมากไม่​เป็น​ที่รู้จักในเมืองไทย หรือ​เป็น​ที่รู้จัก ​แต่มีอยู่​ไม่กี่คันค่ะ​ ​โดยเฉพาะรถยนต์ประเภทเปิดประทุน ดูแล้ว​​จะไม่ค่อยเหมาะ​กับสภาพดินฟ้าอากาศบ้านเราเท่าไร ​ที่นี่​จะ​เป็นรถยอดฮิต​และถือ​เป็นรถยนต์​ใช้สำรองเฉพาะหน้าร้อนหรือเวลาอากาศดี ๆ​ เท่านั้น​ ไม่​ได้​เป็นรถยนต์​ใช้สอยทุกวัน


คันนี้​คือ ลัมบอร์กีนี่ค่ะ​ สีสะใจดี...​..


นี่อัลฟาโรเมโอค่ะ​

บางโซนก็​เป็นรถ​ใช้สอยประจำวันรุ่นใหม่ ๆ​ รถขับเคลื่อนสี่ล้อ รถสำหรับครอบครัว รถ​ที่​ใช้ระบบไฟฟ้า ฯลฯ

หรือรถ​ที่​เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ยัง​เป็นโปรโตไทป์ Prototype ​คืออยู่​ในช่วงออกแบบ ทดสอบ ​เอามาให้ดูเฉย ๆ​ ยังไม่มีขาย รถพวกนี้มัก​จะมีไอเดียบรรเจิด ​แต่อาจ​จะยังแพงมากเกิน​ไป ทำออกมาไม่​ได้ พวกเราก็ดู​ไปแล้ว​ก็ฮือฮา​ไป​กับไอเดียค่ะ​




รจนาชอบหอแสดงของ​เขา ​เพราะสะอาด สวยงาม ​เป็นสัด​ส่วน มี​ส่วน​ที่เรา​ไปนั่งทานอาหาร​ได้ มี​ที่นั่ง​เป็นระยะ ​แม้คน​จะเยอะ ก็ไม่ถึง​กับ​ต้องเบียดเสียดเยียดยัดกัน ยังมี​ที่ให้เราเดินเล่นสบาย ๆ​ ​ได้ ห้องน้ำก็มีพอเพียงค่ะ​

​แต่​ที่ไม่ค่อยชอบ​คือ ​เขาไม่​ได้ห้ามสูบบุหรี่ค่ะ​ เราเห็น​ที่เขี่ยบุหรี่​เป็นระยะ ๆ​ ไม่มากเท่าไร ​แต่หมาย​ความว่าสูบ​ได้ ก็มีคนสูบบ้าง ​แต่ก็ยังนับไม่เยอะ



ประเทศสวิสฯ​จะโหวตในไม่ช้าว่า​จะให้สูบบุหรี่ในร้านอาหาร​ได้หรือไม่ ​เพราะประเทศอิตาลี​เขาล่วงหน้า​ไปแล้ว​ ​คือ ห้ามสูบ รจนาก็รอลุ้นอยู่​ค่ะ​ ไม่​ได้รังเกียจคนสูบ ​แต่รังเกียจกลิ่นบุหรี่ ​โดยเฉพาะในร้านอาหาร ​เพราะว่าเมืองนอกเมืองหนาวนี้ร้าน​จะปิดประตูหน้าตาในช่วงอากาศเย็น ​แม้ว่า​จะมีการระบายอากาศ ​แต่ออกจากร้านทีไรเสื้อผ้าติดกลิ่นหึ่งเลย​ค่ะ​ แล้ว​คนก็สูบกันเสียจริง ๆ​ ​ทั้งผู้ชายผู้หญิง ​เป็นเหตุให้รจนาไม่ค่อยอยากทานอาหารนอกบ้านเท่าไร ​จะดีหน่อย​ก็ตอนหน้าร้อน ​ที่ร้านอาหารต่าง ๆ​ ​จะมีมุมนั่งข้างนอกร้าน ทำให้เราไม่​ได้นั่งอบอยู่​​กับบุหรี่นาน ๆ​ ค่ะ​

นอกเรื่อง​เสียแล้ว​เรา...​.

มาดูภาพรถยนต์สวย ๆ​ กันต่อค่ะ​

รถมินิรุ่นเก๋า แบบเปิดท้ายนั่งปิกนิก​ได้ เท๋จริง ๆ​ ค่ะ​


เห็นคุณผู้ชายยืนล้อมเครื่องยนต์ อ้าปากค้าง ชื่นชม สนใจเหมือนเห็นสาวสวยอยู่​ข้างหน้าแล้ว​ก็ขำดีค่ะ​


บรรยากาศคึกคักในงานค่ะ​


นี่ก็บีเอ็มอีกรุ่นนึงนะคะ​


รจนาเห็นคันนี้สีเขียวเรืองแสงดี ชื่องามว่า นางสาว Identity



คันนี้เปิดประทุนสี่ประตูค่ะ​ เรียกว่า เริ่ดสุด ๆ​ ​แต่ยังไม่​ได้ผลิตออกมาจำหน่ายค่ะ​ คัน​ที่เห็นนี้ยัง​เป็นโปรโตไทป์อยู่​




Mille Miglia แปลว่า พันไมล์ รจนาเห็น​เขาเขียนติดไว้หน้ารถคลาสสิครุ่นหนึ่ง​ก็เลย​ถ่ายมาดูเล่น ๆ​



เมอร์ซิเดสรุ่นเก๋า




รถสปอร์ตแบบเปิดประตูขึ้น​ด้านบนนี้ท่าทาง​กำลังฮิตมาก ๆ​ มอง​ไปทางไหนก็เห็นค่ะ​ สงสัย​จะสะดวก​ดีเวลา​ไปจอด​ที่แคบ ๆ​ ​จะ​ได้ออกจากรถ​ได้สะดวก​



รถยนต์งาม ๆ​ ก็มัก​จะคู่​กับตุ๊กตาหน้ารถงาม ๆ​ งานรถยนต์ก็มัก​จะคู่​กับสาวเชียร์รถ รจนาเห็นสาวคนนี้สูงยาวเข่าดี หน้าตาเรียบร้อย​ ​แต่ใส่แว่นตาแบบคงแก่เรียน ท่าทางเขิน ๆ​ ก็เลย​นำภาพมาฝากค่ะ​...​..

พวกเราสองคนเดินชมงานกันประมาณ ๔ ชั่วโมง สรุปว่างานน่าสนใจดี รถสวย ๆ​ ก็เยอะ ​แต่เซลล์​ที่ขายรถแพง ๆ​ ยี่ห้อคลาสสิค​จะดูหยิ่งกว่า แก่กว่า หรูกว่าเซลล์ประจำซุ้มรถเล็ก ๆ​ สำหรับครอบครัวหรือคนหนุ่มสาว ด้วยเหตุนี้ พอเราแวะ​ไปพัก​ที่ซุ้มรถสมาร์ท จึงพบว่า บรรยากาศอบอุ่น​เป็นมิตรดี ​เขามีมุมนั่งเล่น นั่งคุย (ให้เซลล์มาอธิบายเรื่อง​รถให้เราฟัง) แล้ว​ยัง​เอาน้ำชากาแฟ​กับของกินเล่นมาเสิร์ฟให้ด้วย ประทับใจจริง ๆ​ ค่ะ​



ปิดท้ายด้วยภาพรถสมาร์ทรุ่นบราบุสแล้ว​กันนะคะ​ รถยนต์สำหรับยุคน้ำมันแพง ​ที่จอดรถหายาก ​และชีวิตคนเมืองใหญ่ค่ะ​

สวัสดีค่ะ​