...ถนนสายนี้ คือ ถนนสายที่นโปเลียนใช้เดินทัพกลับมาเพื่อครองอำนาจอีกครั้งหนึ่ง โดยเริ่มเดินทางจากโกลเฟ ฮวน (Golfe Juan) ไปถึงเมืองเกรอะ-โน้-บละ (Grenoble)...
ตอน : ตามรอยนโปเลียน
ขึ้นต้นชื่อเท่ ๆ อย่างนี้ เพียงแต่จะบอกว่า เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ระหว่างที่กระดานเสวนาหนาแน่นไปด้วยประเด็นพระเจ้า ศาสนา และข้อสงสัยที่ยังหาคำตอบไม่ได้นั้น รจนาก็ไปเย็นฉ่ำกับสายฝนบาง ๆ และอากาศสดชื่นของขุนเขาในแถบโพรวองซ์ตอนเหนือของฝรั่งเศสค่ะ ขากลับก็กลับบ้านด้วย
"ถนนสายนโปเลียน" หรือ Route Napoléon อันเลื่องชื่อของฝรั่งเศส ซึ่งมีหมายเลขกำกับทางหลวงที่ 85 (RN Route nationale 85)
ถนนสายนโปเลียน นั้นแน่นอนว่า ได้ชื่อตามอดีตจักรพรรดิเรืองนามของฝรั่งเศส คือ นะโปลีอ็ง โบนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte) ตามเสียงฝรั่งเศส ถนนสายนี้ คือ ถนนสายที่นโปเลียนใช้เดินทัพกลับมาเพื่อครองอำนาจอีกครั้งหนึ่ง โดยเริ่มเดินทางจากโกลเฟ ฮวน (Golfe Juan) ไปถึงเมืองเกรอะโน้บละ (Grenoble) โดยผ่านเมืองกราสส์ (Grasse ซึ่งลือชื่อเรื่องดอกลาเวนเดอร์) เมืองดิญญ์ (Digne) และเมืองกัป (Gap) นโปเลียนมีผู้ติดตามเพียงเล็กน้อย และใช้เส้นทางภูเขาเพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองลีอ็งส์ (Lyons) ใช้เวลาเดินทางหกวันได้ระยะทาง ๓๒๔ กิโลเมตร และไปถึงเมืองตุยเลอรีส์ในวันที่ ๒๐ มีนาคม ค.ศ. ๑๘๑๕ ตามแผน
แน่นอน เราทราบว่า สุดท้ายนโปเลียนก็ยึดอำนาจคืนไม่สำเร็จ แต่เส้นทางสายที่ใช้และได้รวบรวมไพร่พลไปตลอดในครั้งนั้นก็กลายเป็นเส้นทางสายประวัติศาสตร์ และปัจจุบันถือเป็นถนนหลวง (รองจากถนนสายด่วน หรือ
ออโต้รู้ท Autoroute) ที่ตัดผ่านทัศนียภาพที่งดงาม ขุนเขาแอลป์สอันสูงชัน มีจุดชมวิวที่งดงามหลายแห่ง เป็นถนนสายที่นิยมของการแข่งจักรยานตูร์เดอฟร็องซ์ (Tour de France) ด้วยแห่งหนึ่ง
เวลารจนาไปเที่ยวฝรั่งเศสหรือโพรวองซ์ก็จะใช้เส้นทางสายนี้บ่อย ๆ ค่ะ ถือเป็นถนนสายโปรดเลยทีเดียว ช่วงหนึ่งใกล้เมือง Grenoble มีรูปปั้นนโปเลียนบนหลังม้าอยู่ริมทะเลสาปด้วย ซึ่งเป็นจุดที่นโปเลียนพักเอาฤกษ์เอาชัย บนถนนสายนี้มีหลายช่วงที่คดเคี้ยวไต่ขึ้นเขาน่าหวาดเสียว จนนึกออกถึงความยากลำบากในการเดินทางครั้งนั้น แต่สำหรับเรามีรถก็ถือว่า สวยงาม คุ้มค่า ความสนุกของการเดินทางก็อยู่ตรงเส้นทางที่ใช้นี่แหล่ะค่ะ เราขับรถผ่านสถานที่สวยงามมากมาย เที่ยวนี้พวกเราไปด้วยรถเปิดประทุน เจอสภาพอากาศเกือบทุกแบบ ขับผ่านเมฆที่ปกคลุมยอดเขา ฝ่าสายฝนโปรยปราย อากาศเดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น เดี๋ยวร่ม เดี๋ยวแดดร้อนเปรี้ยง ได้ครบทุกรสชาติจริง ๆ
เที่ยวนี้เราไปเมืองกัปและขับรถไต่ยอดเขาในแถบแคว้นที่เรียกว่า แวค์ด็ง (Verdon) ดังนั้น ภาพที่เอามาฝากจึงมีภูเขาเสียเป็นส่วนใหญ่นะคะ
เส้นทางที่มียอดเขาและฟ้าสีครามเป็นจุดหมาย
ตอนนี้วิ่งบนยอดเขาผ่านสายหมอก นี่เห็นในกระจกส่องหลังคือรจนาที่พยายามเก็บภาพประทับใจเหนือขุนเขาค่ะ
วันนี้เอายอดเขามาฝากนะคะ พร้อมฟ้าสวย ๆ
นี่ก็อีกยอดหนึ่ง ถ่ายจากหน้าปั๊มน้ำมันบนทางด่วนค่ะ
แล้วก็แพะภูเขากำลังทำหน้าตาเอาเรื่องกับพ่อบ้านค่ะ
หมู่บ้านที่สร้างบนไหล่เขาหรือไหล่เหวก็ไม่รู้นิ มูสติเอร์ส์ แซนท์ มารี (Moustiers Sainte Marie)
แล้วก็ทะเลสาปสวย ๆ Lac de Sainte Croix ลัค เดอ แซนท์ ครัวส์
สะพานที่กำลังมีบันจี้จัมพ์ค่ะ ตอนรจนาผ่านไปเขากำลังกระโดดพอดี น่าหวาดเสียวตื่นเต้นค่ะ
มีภูเขาแล้วก็ต้องมีเหวมาฝากสินะ เขาว่า บริเวณเหวนี้จะมีอีแร้ง หรือคุณแร้งมาบินวนเวียนให้เห็น แต่รจนาไม่เห็นค่ะ ข้างล่างของหุบเหวคือแม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่คนนิยมไปเดินเท้าเลียบลำน้ำกันมาก น้ำจะเขียวสวยใสเหมือนมรกต จึงได้ชื่อว่า คอหอยแห่งแวค์ด็ง (Gorges de Verdon) จะมีจุดเล่นน้ำได้หลายที แต่รจนากับพ่อบ้านเป็นแบบชอบขับรถไม่ชอบเดินค่ะ เลยอดไปเล่นน้ำ (แหะ แหะ เห็นหุบเขามันชั้นชัน ไม่ใคร่อยากจะปีนป่ายลงไปเลย รออ่านเรื่องของพิลกริมที่ไปเดินเขากันดีกว่า)
การเดินทางในสภาพอากาศทุกแบบ ทั้งฟ้าแจ่มและฟ้ามืด จะเห็นว่าตอนนี้เราอยู่ในระดับเดียวกับเพดานเมฆเลย
นี่ก็ทางผ่านระหว่างยอดเขาอีกทางหนึ่ง ซึ่งสูงกำลังเบาะ ๆ แค่ ๘๓๘ เมตรจากระดับน้ำทะเลเท่านั้น ยังต่ำว่าดอยอินทนนท์ ชื่อว่า โคล เดสปินูส (Col d'Espinouse) โคล เป็นภาษาฝรั่งเศส และว่า Pass หรือทางผ่านค่ะ
ทุ่งนาที่เกี่ยวหญ้าจากข้าวสาลีมัดรวมกันเป็นก้อนกลม ๆ แล้ว และทุ่งลาเวนเดอร์ที่ร้างดอกแล้ว อยู่ตรงข้ามกับป้ายแปดร้อยเมตรนั่นแหละค่ะ สไตล์โพรวองซ์จริง ๆ ค่ะ
บรรยากาศด้านหลังโรงแรมเล็ก ๆ ที่เราไปนั่งดื่มน้ำชา พ่อบ้านนอนยาวพักเหนื่อยจากการขับรถมาหลายร้อยโค้งตลอดเส้นทาง คาดว่า นโปเลียนเองก็คงได้พักเหนื่อยแบบนี้เหมือนกัน พ่อครัวทำสลัดมาให้ทานมีชีสนมแพะกับแฮมหลากรส อร่อยค่ะ แต่ทานไม่หมดเพราะจานใหญ่
เก็บภาพลูกเดื่อมาฝาก เป็นผลไม้รสอร่อยอีกอย่างหนึ่งของแถบโพรวองซ์และเมดิเตอเรเนียน นี่ยังไม่สุกดี หากสุกแล้วจะเป็นสีม่วงจัด ทานเปล่า ๆ ทานกับแฮมรมควันหรือไปตากแห้ง ทำขนมได้หลายอย่าง ส่วนใหญ่รจนาทานสด ๆ กับแฮมรมควันค่ะ
ลงท้ายด้วย ถนนสายนโปเลียนแห่งยุคสมัยนี้ พร้อมกับขุนเขาที่ยืนหยัดท้าทายกาลเวลาค่ะ
ฉบับนี้โม้น้อยหน่อย (เอ๊ะ หรือไม่น้อย?) ใส่รูปมากหน่อย ไม่ว่ากันนะคะ

เมื่อวันที่ : ๓๐ ส.ค. ๒๕๔๘, ๐๙.๕๐ น.
ภาพสวยค่ะ ลูกมะเดื่อเหรอคะ