![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
สิ่งที่ เจ เค โรว์ลิ่งบอกกับเรา
เมื่อถึงฤดูกาลที่บัณฑิตใหม่เดินเข้าแถวรับปริญญา ฉันเห็นบัณฑิตหลายคน โดยเฉพาะบัณฑิตสาว ตื่นขึ้นมาแต่ตีสาม ตีสี่ เพื่อลุกขึ้นมาแต่งหน้าทำผม เพื่อต้อนรับวาระสำคัญอีกวันหนึ่งในชีวิต
ผู้หญิงเราจะมีสักกี่วัน ที่จะลุกขึ้นมาแต่งหน้า ทำผม อย่างเต็มรูปแบบแต่เช้าตรู่ เพื่อให้สวยใสในวันสำคัญ เท่าที่ฉันเห็น มักจะมีแต่วันรับปริญญากับวันแต่งงาน
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
มิตรร่วมงานคนหนึ่งของฉันกล่าวว่า ...อยากให้บัณฑิตใหม่ มีความมุ่งมั่นกับการทำงานให้ดีที่สุด ให้เหมือนกับความตั้งใจที่ลุกขึ้นมาแต่งหน้า ทำผมกันแต่ตีสาม ตีสี่...
ฉันคิดว่า เป็นคำพูดที่กินใจไม่น้อย....
มิตรรักอีกคนหนึ่ง ส่งสุนทรพจน์ของ J.K. Rowling ซึ่งกล่าวในวันรับปริญญาของบัณฑิตมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มาให้ฉันอ่าน
...เมื่อฉันอ่านจบ น้ำตาฉันไหลคลอตา ซาบซึ้งกับความช่างคิดของผู้หญิงที่เป็นนักเขียนคนหนึ่ง...ผู้ที่เคยประสบความล้มเหลวในชีวิต แต่เธอไม่ย่อท้อ
ขณะเดียวกัน มุมมองแห่งชีวิตของเธอช่างมีแง่ที่งดงาม ฉันจะขอตัดข้อความบางตอนมาให้พวกเราอ่าน ณ ที่นี้
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
.... ในขณะที่พวกคุณยืนอยู่บนธรณีประตูของสิ่งที่บางครั้งเรียกว่า "ชีวิตจริง" ฉันก็อยากจะยกย่องความสำคัญของจินตนาการ
ถ้าคุณเลือกที่จะใช้สถานภาพและอิทธิพลของพวกคุณในการเปล่งเสียงแทนคนที่ไม่มีเสียง ถ้าคุณเลือกที่จะไม่อยู่ข้างผู้มีอำนาจฝ่ายเดียว แต่อยู่ข้างผู้ไร้อำนาจด้วย
ถ้าคุณรักษาความสามารถที่จะจินตนาการว่าคุณเป็นคนที่ไม่มีความได้เปรียบต่างๆ ที่คุณมี
ถ้าคุณทำอย่างนั้นได้ คนที่จะสรรเสริญการดำรงชีวิตของคุณก็จะไม่จำกัดอยู่เพียงครอบครัวของคุณ แต่รวมถึงคนนับพันและนับล้านที่คุณช่วยเปลี่ยนแปลงความจริงของพวกเขาให้ดีกว่าเดิม
เราไม่ต้องใช้เวทมนตร์ในการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้หรอก เรามีพลังที่จะทำอย่างนั้นอยู่ในตัวเราทุกคนอยู่แล้ว -- เรามีพลังที่จะจินตนาการโลกที่ดีกว่าเดิม
มนุษย์แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกใบนี้ตรงที่สามารถเรียนรู้และเข้าใจได้โดยที่ไม่ต้องประสบกับเหตุการณ์นั้นๆ ด้วยตัวเอง มนุษย์สามารถคิดจากจิตใจของคนอื่น จินตนาการว่าตัวเองยืนอยู่ในพื้นที่ของคนอื่น
แน่นอนว่าสิ่งนี้คืออำนาจที่เป็นกลาง เหมือนกับเวทมนตร์ในนิยายของฉัน คนอาจจะใช้ความสามารถแบบนี้ในการชักใยหรือควบคุม หรือใช้มันเพื่อสร้างความเข้าใจหรือความเห็นอกเห็นใจ
คนจำนวนมากไม่อยากใช้จินตนาการของพวกเขาเลยเสียด้วยซ้ำ พวกเขาเลือกที่จะอยู่อย่างสุขสบายภายในพรมแดนของประสบการณ์ส่วนตัว ไม่เคยกวนใจตัวเองให้สงสัยว่า ชีวิตจะเป็นอย่างไรถ้าเกิดมาเป็นคนอื่น
พวกเขาสามารถปฏิเสธให้ไม่ต้องได้ยินเสียงร้องโหยหวนหรือจ้องมองเข้าไปในกรง
พวกเขาสามารถปิดสมองและใจให้ไม่ต้องรับรู้ถึงความทุกข์ทรมานใดๆ ก็ตามที่ไม่ได้กระทบพวกเขาโดยตรง พวกเขาสามารถปฏิเสธที่จะรู้
ฉันอาจจะถูกจูงใจให้อิจฉาคนที่ใช้ชีวิตแบบนั้น เพียงแต่ฉันไม่คิดว่าพวกเขาฝันร้ายน้อยกว่าฉัน การเลือกที่จะใช้ชีวิตในพื้นที่คับแคบอาจนำไปสู่โรคกลัวพื้นที่โปร่งโล่ง ซึ่งมาพร้อมกับความสยองขวัญของมันเอง
ฉันคิดว่าคนที่ไร้จินตนาการเพราะไม่ยอมใช้มันมองเห็นสัตว์ประหลาดมากกว่า พวกเขามักจะหวาดกลัวมากกว่า
ยิ่งไปกว่านั้น คนที่เลือกที่จะไม่เห็นอกเห็นใจคนอื่นอาจทำให้สัตว์ประหลาดเกิดขึ้นจริงๆ เพราะถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยกระทำสิ่งเลวร้ายกับมือ เราก็สมรู้ร่วมคิดกับมันด้วยความไม่แยแสของตัวเอง
ชีวิตก็เหมือนกับนิทาน.....ไม่สำคัญว่ามันยาวแค่ไหน หากสำคัญว่ามันดีเพียงใด
(As is a tale, so is life: not how long it is, but how good it is, is what matters)


ต้นฉบับภาษาอังกฤษ:graduation wisdom
ฉันคิดว่า บทส่งท้ายของสุนทรพจน์นี้ดีพอ ที่ฉันจะไม่ต้องเอ่ยคำใด ณ ที่นี้อีก....

![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
ด้วยความปรารถนาดี

Pilgrim
จากใจ..บรรณาธิการ,
๒๕ กรกฏาคม ๒๕๕๑
![]() | |
![]() | |
editorial | นิตยสารรายสะดวก |
เมื่อวันที่ : 25 ก.ค. 2551, 15.25 น.
จริงอย่างพิลว่านะคะ หากเราจะทำทุกวันของเราให้เหมือนวันรับปริญญาและวันแต่งงาน (คือเตรียมพร้อมอย่างดีที่สุด ด้วยหัวใจเบิกบานที่สุด) ทุก ๆ วันคงเป็นวันแห่งความสุขความสำเร็จ.... แหม แต่ตื่นตีสามตีสี่นี่ไม่ค่อยจะไหวแล้ว
รจเองก็ประทับใจกับสุนทรพจน์ของเจ เค โรว์ลิ่งค่ะ... มันแสดงถึงวุฒิภาวะของผู้กล่าวที่ลึกซึ้งยิ่งนัก....
ขอบคุณค่ะ