![]() |
![]() |
![]() |
วันนี้ขอนำบทความเล็กๆสั้นๆเรื่อง วจีสุจริต เข็มทิศการสื่อสาร ที่เขียนโดย อาจารย์ ญาณภัทร ยอดแก้ว มาให้อ่านค่ะ สามนาทีก็จบแล้ว
วจีสุจริตสำคัญมากทั้งในการคุยกันต่อหน้าหรือผ่านโลกเสมือนจริง เช่น เฟซบุ้ค ไลน์ อินสตาแกรม ทวีตเตอร์ อีเมล์ และสื่อออนไลน์อื่นๆ ที่พวกเรามักหลงเพลิดเพลิน บางครั้งก็แสดงออกจนลืมรักษาความสุจริตในการสื่อสารไป เนื่องจากอะไรที่เม้าท์ๆมอยๆมันๆ มันช่างน่าฟัง น่าติดตาม น่าสนุก น่าไล้ค์ น่าสะใจ น่าแชร์ โดยเฉพาะการวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นโดยบิดเบือนข้อเท็จจริงเสียเล็กน้อย ตีความตามอารมณ์ตัว ยกตนว่าข่มท่าน คนไม่รู้ที่ไปที่มาก็หลงเชื่อ เพราะคนเรามักจะชอบฟังข่าวเสียๆของคนอื่น
ยิ่งมีคนเชื่อในวจีอันไม่สุจริตมากเท่าไร อกุศลวิบากของผู้สร้างข่าวยิ่งแรงเท่านั้น
คำพูดหรือการเขียนเป็นวจีกรรมหนึ่ง โดยมีมโนกรรมเป็นตัวกำหนด มโนกรรมที่เป็นสุจริตก็จะส่งวจีสุจริตให้เกิด กายสุจริตให้เกิด มโนกรรมที่เป็นทุจริตก็สร้างวจีทุจริต และกายทุจริต (หรือการกระทำทุจริต) ให้เกิดในแนวเดียวกัน
แต่ไม่เสมอไป บางคนแม้มีมโนทุจริตก็ยั้งได้เสียทันเพราะศีลยังรักษา ยังพอมีสติรู้คิดอยู่บ้าง เช่น มีคนมาบอกว่าเพื่อนคนนั้นเอาเราไปนินทา นึกโกรธเพื่อนที่ถูกอ้างถึง อยากด่าประจานใจแทบขาด แต่ยังพอมีสติ คิดได้ว่า ตัวเองไม่ได้ยินมาโดยตรง มีแต่คนอื่นมาเล่า จริงแค่ไหนยังไม่รู้ ไม่ควรใช้อารมณ์โต้ตอบ เพราะจะมิใช่ปิยะวาจา มิใช่ทางสร้างสรรค์ มิใช่ทางแก้ปัญหา แถมยังผิดศีลข้อมุสาวาทอีก จึงยั้งเสียได้ รอไว้เคลียร์กับเพื่อนตอนใจเย็นกว่านี้
หรือบางคนมีใจวูบ เห็นทรัพย์ที่เขาวางเผลอไว้ เอาไปก็ไม่มีใครเห็น แต่ยั้งเสียได้ไม่ยอมละเมิดศีลข้อลักทรัพย์ เพราะสำนึกได้ว่าของๆใคร ของใครก็รัก ไม่ยอมตามอำนาจฝ่ายต่ำ อย่างนี้ ก็ถือเป็นผู้ฝึกตนที่มีสติและหิริโอตัปปะในระดับหนึ่ง
บางคนมีมโนทุจริตแล้ว ไม่มีศีลหนักแน่นพอห้ามปรามตัวเองได้ สติก็อ่อนแอ จึงหลงแสดงออกซึ่งวจีอันไม่สุจริต กล่าวคำที่สร้างความเคลือบแคลง ความร้าวฉาน ยุยง หวังสร้างความแตกแยก บิดเบือนข้อเท็จจริง พูดเอาตัวเองดูดี คนอื่นดูเสีย คนเหล่านี้เชื่อว่าเพื่อนๆคงดูออกไม่ยากในโลกออนไลน์ทั้งหลาย
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
และสำคัญที่สุด เขาผู้นั้นได้สร้างมโนทุจริต วจีทุจริต และกายทุจริต สำเร็จแล้ว ไม่มีใครต้องลงโทษต่อว่าเขา เพราะอกุศลกรรมที่ทำไว้ จะบันทึกไว้ในคู่มือวิบากกรรมของเขาเอง ไม่มีใครมาลบออกได้ ยกเว้นว่าเขาจะสำนึกในสิ่งที่ทำ และพยายามสร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่มากพอที่จะทำให้อกุศลวิบากนั้นเป็นอโหสิได้ หรือเจ้ากรรมนายเวรยอมอโหสิให้
คนเหล่านี้มีอยู่ในโลกจริงและโลกออนไลน์มากมาย เปรียบเหมือนบัวสี่เหล่าที่พระพุทธองค์เปรียบเทียบไว้
ดังนั้น จึงขอชักชวนเพื่อนๆเรามารักษาวจีสุจริต เพื่อให้เข็มทิศแห่งการสื่อสารของเราไม่บิดเบี้ยว เราจะได้ไม่หลงทางเสียเวลากัน
ความมีวจีสุจริตจะทำให้โลกออนไลน์ของเราน่าอยู่ ปลอดมลพิษทางวาจาด้วย ถือเป็นกุศลใหญ่ที่ทำง่ายนิดเดียว
โดย รจนา ณ บ้านธิ
จากใจ..บรรณาธิการ,
๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
![]() | |
![]() | |
editorial | นิตยสารรายสะดวก |