![]() |
![]() |
โดโรที![]() |
เหงาแบบที่เราเป็นเลย .....................................
เมื่อเท้า 2 ข้างแตะแผ่นดินใหม่ที่ไม่ไกลจากเมืองไทยเท่าไหร่ คำถามแรกที่เข้ามาในใจคือ "นี่นะหรือคือ Sydney ?" เราวาดภาพเอาไว้ว่ามันคงใหญ่โต วุ่นวาย เหมือนกับที่หลายๆคนเล่าให้ฟัง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับกรุงเทพแล้วต้องบอกว่ากรุงเทพวุ่นวายและดูยิ่งใหญ่กว่ามากมาย เราเดินทางเข้าบ้าน ทำความรู้จักกับสมาชิกใหม่ในบ้านซึ่งเป็นคนไทยด้วยกันทั้งหมด ชีวิตใหม่กำลังจะเริ่มต้นแล้ว เราไม่รู้อนาคตของเราแน่นอนว่ามันจะเป็นอย่างไร ได้แต่บอกตัวเองว่าเมื่อตัดสินใจมาแล้วก็ต้องลุย สองอาทิตย์ผ่านไปชีวิตยังคงสงบนิ่งในห้องสี่เหลี่ยมกับทีวีและเครื่องเล่น DVD เราเริ่มการเรียนรู้ภาษาที่สองจากอุปกรณ์สองตัวนี้ ความเหงาและความโดดเดี่ยวเข้ามาในใจอีกแล้ว "เรากำลังทำอะไรอยู่ที่นี่ เราตัดสินใจถูกหรือผิดที่มาที่นี่?" คำถามที่ชวนให้เราปวดหัวเข้ามาวนเวียนอยู่รอบตัวเรา ลูกน้องที่โรงงานส่ง e-mail มาคุยทำให้คลายความเหงาไปบ้างแต่ก็เพียงชั่วครั้งคราวเท่านั้น คนคนหนึ่งเคยทำงานมาตลอดหกวันต่ออาทิตย์แบบหามรุ่งหามค่ำต้องมานั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแบบนี้ตลอดเวลา ถ้าเป็นคุณคุณจะทำอย่างไร ? สมาชิกในบ้านล้วนแต่มีกิจกรรมของแต่ละคน หันมามองตัวเราไม่ต่างอะไรไปจากคนว่างงานเลย บ่อยครั้งที่เราบอกกับตัวเองว่าคิดในแง่ดีไว้เวลานี้คือเวลาพักผ่อนของเราเพราะเราเหนื่อยมาหลายปีแล้วกับการเป็นสาวโรงงาน แต่บ่อยครั้งที่เราก็ทำใจไม่ได้เพราะเราเป็นคนที่อยู่เฉยๆไม่เป็น จากความเหงา ความโดดเดี่ยวเจ้าความเครียดก็แอบปรากฏขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย เย็นวันหนึ่งของอาทิตย์ปลายเดือนเราลงมาช่วยพี่ๆ เตรียมครัวเพราะจะมีงานเลี้ยงที่บ้าน เราลงมาพบกับหนุ่มสูงยาวตัวขาวกำลังยืนหั่นผักอย่างคล่องแคล่วตามประสาคนเคยเป็นผู้ช่วยกุ๊กในร้านอาหารไทยจาก Tasmania พี่คนหนึ่งแนะนำให้เรารู้จักกับมือหั่นผักคนนี้





เราได้แต่อมยิ้มแอบปลื้มอยู่ลึกๆว่าหน้าเด็ก.....................
ด้วยความที่คนสองคนที่พึ่งมาใหม่ถึงแม้จะต่างวัยมาเจอกันก็ทำให้กลายเป็นคู่หูกันอย่างรวดเร็ว การสัญจรนอกบ้านของเรากับฟาร์มก็เกิดขึ้น ด้วยความที่ทุกอย่างใน Sydney มันแพงเหลือเกิน สองสหายจึงเลือกการเดินทางแบบ on foot คือการเดินด้วยขาใหญ่ๆบนเท้าบานๆ เราเดินไปที่แรกที่เราไปสำรวจคือในเมือง ไปดูสองห้างใหญ่ในเมืองมาต้องเน้นนะว่าไปดู ไม่ได้ซื้ออะไรเลยแม้แต่นิดเดียวเพราะมันแพงเหลือเกิน ห้างใหญ่แรกที่จะแนะนำในเมืองนี้ก็คือ David Jones ห้างนี้ถือว่าเป็นห้างที่เก่าแก่ที่สุดของชาว Aussie เลยทีเดียว ส่วนอีกห้างที่ใหญ่ไม่แพ้กันก็คือ Myer ถ้าจะมาซื้ออะไรที่นี่ขอแจ้งล่วงหน้าว่าเตรียมสตางค์มาให้หนักๆเลย วันต่อมาเราสองคนไปเที่ยวต่อที่ Sydney Aquarium ซึ่งอยู่แถวๆ Darling Harbour เราเอารูปมาลงไว้ให้ดูนะเผื่อมีโอกาสแวะเวียนมาเมืองนี้ก็ลองไปดูกัน
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
อันนี้คือมุมหนึ่งของ Darling Harbour นกตัวนี้มันคงโดดเดี่ยวเหมือนที่เรารู้สึก
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
อันนี้คือส่วนหนึ่งของ Aquarium ข้างในก็จะมีสัตว์น้ำมากมาย
หลังจากการเที่ยวผ่านไปไม่กี่วันก็มาถึงสิ้นเดือนพอดี และแล้วเราก็กลับมาชีวิตเหงาๆอีกครั้งเนื่องจากเพื่อนของเราต้องกลับไปสยามเมืองยิ้มซะแล้ว เหลือแต่เราที่อยู่แบบไร้รอยยิ้มใน Sydney.................
เมื่อวันที่ : 02 มี.ค. 2548, 22.38 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...