![]() |
![]() |
กางเขนดง![]() |
...เล่าเรื่องประสบการณ์การไปภูเก็ตพร้อม ๆ กับคลื่นยักษ์ วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 เวลาประมาณ 9 นาฬิกา...
ไปภูเก็ตคราวนี้มีภารกิจไปงานแต่งงานเพื่อนรุ่นน้องทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวค่ะ เลยจะถือโอกาสเที่ยวด้วย ตามโปรแกรมหลังไปงานแต่งงานแล้วจะเที่ยวที่เกาะเฮ หนึ่งวันก่อนไปที่เขื่อนเชี่ยวหลานและเขาสก จังหวัดสุราษฏร์ค่ะเดินทางขาไปโดยแอร์เอเชีย เช่ารถเที่ยวในเมืองภูเก็ต โดยแวะที่วัดฉลอง แหลมพรหมเทพ และกินอาหารริมทะเล (แพงมากๆ ค่ะ ขอบอก) พอตกเย็นก็ไปร่วมงานแต่งงาน และจองโรงแรมในเมืองนอนหนึ่งคืน เพื่อตอนเช้าจะไปเที่ยวเกาะเฮกันค่ะ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
แผนไปเที่ยวเกาะเฮ ภูเก็ต คราวนี้ ได้เฮจริง ๆ ค่ะ ไม่ใช่เฮฮานะคะ ตรงข้ามเฮโลวิ่งกันค่ะ คณะเดินทางไปกันทั้งหมดหกคน ซื้อทัวร์ดำน้ำเกาะเฮแบบวันเดียว ลงเรือที่อ่าวฉลอง เวลาประมาณ 8-9 โมง แบกเป้พร้อมถุงนอนไปหมดเลย ไม่อยากทิ้งไว้เพราะกลัวของหาย มีโน้ตบุ้คเพิ่งซื้ออย่างแพงของเพื่อนด้วย
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
พวกเราไปเกาะด้วยเรือเร็ว สิบห้านาทีถึง อากาศดีมาก แดดดี น้ำทะเลสวย บรรยากาศหนุกหนาน พอเท้ากำลังจะเหยียบน้ำได้รับโทรศัพท์จากพ่อเพื่อนอีกคนว่ามีแผ่นดินไหวที่ภูเก็ต แหม่เป็นไปได้ไง ไม่มี๊ น้ำสงบนิ่ง อากาศดี๊ดี แล้วก็ลงไปเตรียมตัวดำน้ำตามชายฝั่ง
เจ้าหน้าที่นำทัวร์ บอกพวกเราว่าให้ดำบริเวณที่มีทุ่นสี่เหลี่ยม นอกทุ่นจะมีเรือเข้าออกเดี๋ยวไม่เห็น มองไปตรงหาด แต่ละสี่เหลี่ยมตรงใกล้ ๆ มีแต่คนดำน้ำ มีมาเรียนดำน้ำ สกูบ้ากันด้วย เลยคิดว่าจะไปตรงไกลๆ หน่อยไม่มีคนดี เลยเดินไปริมชายหาด โดยเอาวางกระเป๋าไว้ตรงเก้าอี้ผ้าใบริมหาดบริเวณลงเรือ
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
เดินไปเรื่อยพอจะถึงสี่เหลี่ยมเป้าหมายก็มีคนมาบอกว่า ตอนนี้น้ำลด ดำน้ำไม่ได้ เดี๋ยวเหยียบปะการังหักหมด พวกเราเลยคิดกันว่า เออ ดำไม่ได้ก็เดินดูเอาก็ได้ มองไปในทะเล เฮ้ย ระดับน้ำลดต่ำจริง ๆ หนะแหละ เห็นปะการัง โผล่พ้นน้ำขึ้นมาเป็นแนวเลย พอเดินไปมองใกล้ ๆ ยังนึกเลยว่า เอ แล้วมันโผล่พ้นน้ำ โดนแดด ขนาดนี้ มันไม่ตายเหรอ ก็เลยคิดกันว่า จะไปดำน้ำตรงแถวอื่นที่น้ำไม่ลดมาก หันหลังเดินกลับขึ้นฝั่ง แป๊บเดียว
น้ำระดับตาตุ่มขึ้นมาถึงเอวภายในเวลาเสี้ยววินาที มองไปเห็นปลากระโดดกันใหญ่ ทุกคนงงกันมาก เลยรีบขึ้นฝั่งพอดีคนทางเกาะหน้าตาตื่นบอกว่า อย่าเพิ่งเล่นเลย น้ำขึ้นเร็วขนาดนี้เกิดมาไม่เคยเห็น เลยเดินแบบงง ๆ กลับไปตรงกระเป๋า สักพักน้ำก็ลด สักประเดี๋ยวก็เอ่อขึ้นมาอีก คราวนี้สูงกว่าเดิมสิ มีเรือมาส่งนักท่องเที่ยวชาวจีนพอถึงหาดก็ส่งภาษา ตื่นเต้นใหญ่เลย แต่ฟังไม่รู้เรื่อง ชักเริ่มแปลก ๆ พอเดินไปอีกคราวนี้น้ำเอ่อขึ้นมาพัดเตียงผ้าใบลอยไปเลย คนรีบวิ่งกรูกันเก็บของ ทีนี้ก็วิ่งกันใหญ่สิคะ เพราะในกระเป๋ามีโน้ตบุ้คด้วย
วิ่งไปบริเวณที่เดินมาแต่ทีแรก ไปไม่ได้แล้วเพราะน้ำเอ่อมาท่วมหมดเลย ต้องวิ่งผ่านทางรั้วลวดหนาม ไปเก็บกระเป๋า ตอนนี้ พวกเราแตกเป็นสองกลุ่ม ไอ้พวกวิ่งไปดูกระเป๋าก็วิ่งหายไป ไอ้พวกที่ตามมาก็นึกว่าหายไปในน้ำหรือเปล่า วิ่งไปเรียกกันไป พอไปถึง กระเป๋าเก็บโน้ตบุ้คเปียกน้ำตรงก้นไปแล้ว ทีนี้ก็ยังหายไปอีกคนนึง โอ้ย ทั้งวิ่งทั้งเดินหากัน แถวนั้นคนก็ตื่นกันใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน กับต่างชาติผมทอง
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
พอเจอกันครบ ๆ ก็เริ่มเก็บเป้ ถุงนอน และข้าวของสะพายไว้กับตัว ถามคนที่เกาะว่า เกาะนี้มีเขาไหม คือเตรียมปีนเขากันแล้วหละ น้ำ้ก็ขึ้น ๆ ลด ๆ อยู่ ชาวบ้านที่ขายของบนเกาะก็รีบวิ่งเก็บของหน้าตื่น บอกว่าเกิดมาไม่เคยเห็น ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราตื่นเข้าไปใหญ่
เจ้าหน้าที่ทัวร์ยังใจดีมาปอกแตงโม สับปะรด และน้ำโค้กให้กิน เลยกินกันใหญ่ นึกในใจว่า กินไว้ก่อนวุ้ย เผื่อต้องอยู่บนเขาอดข้าว อดน้ำ น้ำทะเลแถบชายฝั่งเป็นสีดำ และมีฟองคล้ายโฟมขาว ๆ ลอยฟ่อง
ในที่สุดเค้าก็บอกว่าต้องกลับแต่ต้องรอก่อนเพราะทางฝั่งอ่าวฉลองที่เราลงเรือก็พังเป็นแถบ ๆ จะเอาเรือใหญ่มารับ ให้รอพร้อม ๆ กัน ไอ้ระหว่างรอนี่ก็ฟังข่าววิทยุไปด้วย มีรายงานว่ามีคนตายที่เกาะพีพี แล้วข่าวแต่ละแหล่งก็สับสน บางข่าวว่าจะมีแผ่นดินไหวอีกครั้ง บางข่าวว่าไม่มีแล้ว แต่ให้ระวัง after shock ตื่นเต้น ๆ
เรารอจนกินข้าวกลางวันกันเสร็จ นักท่องเที่ยวค่อย ๆ ทยอยขึ้นเรือ จนพวกเราเกือบเป็นกลุ่มสุดท้าย กลุ่มเรามีชาวต่างชาติ ที่งง ๆ อยู่อีกสองคน เป็น หนุ่มสาวคู่หนึ่ง กับลุงแก่ ๆ จากเดนมาร์กอีกหนึ่ง
เรานั่งเรือเร็วกลับ ระหว่างทางเจอเรือที่ไม่มีคนแต่ไม่ได้แวะดู พอถึงอ่าวฉลอง เห็นเรือจม สะพานไม้พังไปหมดเลย ไม่ได้ดูอะไรมากมาย เพราะต้องรีบ มีประกาศเตือนว่าเดี๋ยวคลื่นมาอีกระลอกนึง
พอขึ้นฝั่ง เค้าก็ให้ขึ้นรถกระบะพาไปส่งศูนย์สุขภาพ แล้วบอกว่าจะมีรถมารับ เรานั่งรอกันที่ศูนย์สุขภาพคิดเรื่องแผนที่จะไปสุราษฏร์ แต่ว่าคงไปไม่ได้เพราะข่าวมาว่า สะพานสารสินร้าว เดินทางไปไหนไม่ได้ เลยคิดกันว่าจะเข้าเมืองไปนอนในโรงแรมภูเก็ต แต่ไม่มีรถพาไป มีแต่พาขึ้นเขาหน้าเกิด
เลยต้องขึ้นไปกะเค้าด้วย เพราะเค้าขนชาวต่างชาติที่อยู่โรงแรมแถวป่าตอง ซึ่งเป็นพื้นที่อันตรายกลับไปไม่ได้แล้ว ไปนั่งอยู่ริมทางขึ้นข้าง ๆ พงหญ้า เอาถุงนอนมาปูนั่ง รออยู่จนเกือบจะเย็นแล้ว ยังนึกอยู่ว่าจะได้ลงไปเมื่อไหร่ เพราะนอนบนนั้นคงจะแย่แน่ หนาว ยุงกัน ไฟไม่มี อาหารและน้ำอีกหละ โทรศัพท์ติดต่อยากมาก เน็ตเวิร์ค บีซี่ ตลอด ต้องเซฟแบตบางเครื่องเผื่อไว้ด้วย
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
พยายามโทรติดต่อเพื่อนเจ้าบ่าวเมื่อคืนที่อยู่ภูเก็ตจนติด ให้เขาเอารถมารับลงไป จากนั้นเพื่อนพาไปบ้านพี่ชาย ที่เกาะสิเหร่ ระหว่างทางไปต้องผ่านสะพานข้าม เห็นเรือประมง ลอยมาอัดเต็มสะพานเลย มีข่าวว่าสะพานร้าว พอไปถึงบ้าน พี่ชายเค้าก็ว่านี่มานอนเฝ้าระวังอยู่เพราะทางด้านหลังเป็นป่าชายเลน
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
นั่งอยู่ข่าวที่บ้านอยู่สักพัก เพื่อนบอกว่าให้เก็บของรีบไปกัน เพราะสะพานร้าวจริง ๆ เดี๋ยวขาดแล้วไปเกาะใหญ่ไม่ได้ เลยรีบแจ้นเก็บของกัน ไปนอนบ้านในเมืองภูเก็ตตอนดึกคืนนั้นเลยเก็บเสื้อผ้าบางส่วนไปบริจาค
นอนได้คืนนึงกะว่าตอนเช้า จะไปบขส ไปสุราษฏร์ แต่ว่าข่าวว่าคนแน่นมาก เพราะชาวบ้านไปนอนจอดรถระหว่างทางเพราะหนีคลื่นยักษ์เยอะมาก และเขาสกที่จะไปก็มีคนหนีขึ้นไปเต็ม และทางบ้านชาวคณะเดินทางก็ห่วงความปลอดภัยอยากให้กลับบ้าน พวกราเลยตัดสินใจกลับกรุงเทพกัน โทรบอกพวกที่รออยู่ที่สุราษฏร์
โชคดีมากที่จองตั๋วนกแอร์ได้ กลับตอนเย็น ช่วงเช้าเลยไปช่วยงานที่ศาลเจ้าปุดจู้ในเมืองภูเก็ต ช่วยหั่นผัก ทำกับข้าว เพื่อผัดหมี่ เตรียมใส่กล่องไปให้ผู้ประสบภัย พอตอนเย็นก็เลยมาสนามบินภูเก็ต ซึ่งมีคนเยอะมาก
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
|
![]() |
||
![]() |
![]() |
![]() |
พวกเราก็กลับมาได้อย่างปลอดภัย ยิ่งได้ดูข่าวยิ่งรู้สึกว่าพวกเราโชคดีที่รอดชีวิตกลับมาได้เมื่อเที่ยบกับผู้สูญเสียอื่น ๆ จึงขอแบ่งปันประสบการณ์ให้ท่านผู้อ่านฟัง ไม่มีใครคิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะรุนแรงและพรากชีวิตคนได้มากขนาดนี้ ขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ เช่นนี้ขึ้นอีกเลย
เมื่อวันที่ : 30 ธ.ค. 2547, 20.13 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...