![]() |
![]() |
Anantra![]() |
...คนเรานี่ก็แปลกนะ ตอนรักกัน ทำดีต่อกันทุกอย่าง เห็นใจ ห่วงใย เข้าใจ แต่พอหมดรักแล้วก็ทำได้ทุกอย่างเหมือนกัน แต่เป็นไปในทางตรงกันข้าม ไม่เหลือสิ่งที่ดี ๆ ให้เห็นกันเลย...
ทำไมอ้นถึงต้องทำกับฉันแบบนี้ จริง ๆ แล้วเขาไม่จำเป็นต้องมารับฉันเลยก็ได้ ฉันจะยังเข้าใจมากกว่าที่เขาทำแบบนี้คนเรานี่ก็แปลกนะ ตอนรักกัน ทำดีต่อกันทุกอย่าง เห็นใจ ห่วงใย เข้าใจ แต่พอหมดรักแล้วก็ทำได้ทุกอย่างเหมือนกัน แต่เป็นไปในทางตรงกันข้าม ไม่เหลือสิ่งที่ดี ๆ ให้เห็นกันเลย
ตอนนี้ฉันรู้สึกแย่กว่าตอนที่เขาบอกเลิกซะอีก ความรักที่เรามีให้กันมาตลอดมันไม่เหลือความทรงจำที่ดีเลยหรือยังไง เขาถึงทำร้ายฉันได้ถึงขนาดนี้
..น้ำตาจ๋าอย่าเพิ่งไหลออกมาเลยนะ ฉันไม่อยากให้เขาทั้งสองเห็นความอ่อนแอของฉัน อีกไม่นานก็จะถึงที่ทำงานแล้ว อดทนไว้ก่อนนะ ฉันบอกกับตัวเองแบบนั้นไปตลอดทาง
อ้นจอดรถส่งฉันที่หน้าตึกเหมือนทุกวัน ฉันรีบลงจากรถทันที แต่ก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยคำขอบคุณตามมารยาท
"ไปละ..ขอบคุณมากนะคะ.."
"ไปก่อนนะคะ" ฉันโบกมือให้เธอคนนั้นด้วย แต่ดูเธอจะเฉย ๆ
"ตั้งใจทำงานนะ อร" อ้นพูด
เขามักจะพูดคำคำนี้กับฉันทุกเช้า เวลาที่เขามาส่งฉัน และฉันก็มักจะทำหน้าย่นล้อเลียนเขาแทบจะทุกครั้งเหมือนกัน แต่ครั้งนี้ฉันได้แต่มองหน้าเขา อยากจะบอกกับเขาเหลือเกินว่า
"ลาก่อนอ้นที่รัก ต่อไปนี้ฉันจะไม่รบกวนคุณอีกแล้ว ขอให้มีความสุขกับเธอคนนั้นนะ" หวังว่าเขาคงจะรับรู้ได้จากแววตาของฉัน
วันนี้ฉันเหมือนมีแต่ร่าง ไม่มีวิญญาณ จนเพื่อน ๆ ในแผนกสังเกตุเห็น แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามอะไร บางครั้งน้ำตามันก็ไหลออกมาเฉย ๆ จนฉันต้องแอบเอามือปาดน้ำตาอยู่บ่อย ๆ ไม่อยากให้ใครเห็น
จนในที่สุดมันอดรนทนไม่ได้ ฉันเลยลางานออกมาครึ่งวัน เหตุผลน่ะเหรอ ฉันบอกกับหัวหน้าว่าฉันรู้สึกไม่สบาย ขอตัวกลับบ้านก่อน
ออกมาจากที่ทำงานแล้ว ฉันไม่รู้จะไปไหน กลับบ้านก็ไม่ได้ ไม่อยากให้ที่บ้านสงสัย คิดอยู่นานฉันเลยตัดสินใจไปมหาวิทยาลัยที่ฉันกับอ้นจบมาด้วยกัน มหาลัยที่รวมเรื่องราวความรักของฉันไว้ สถานที่ที่ทำให้เราเจอกัน
ฉันไปนั่งใต้ต้นไม้ ติดกับทะเลสาป นั่งมองออกไปไกล ๆ ฉันเหนื่อยเหลือเกิน ทำไมมันถึงรู้สึกเหนื่อยแบบนี้นะ นี่ล่ะมั๊งอาการ เหนื่อยใจ เหมือนวิ่งตามอะไรบางอย่าง ยิ่งตามเท่าไหร่ยิ่งไกลออกไปกว่าเดิม ฉันขอพักก่อนแล้วกัน พักตรงนี้ ที่ที่มีแต่ความทรงจำที่ดีของเราสอง
นึกถึงวันนั้น วันที่ฉันเจอกับอ้นเป็นครั้งแรก วันนั้นฉันก็มานั่งใต้ต้นไม้ต้นนี้แหล่ะ ด้วยอาการเดียวกันแบบนี้ด้วย หลังจากวันที่ฉันเลิกกับชัย ฉันทำใจไม่ได้อยู่หลายวัน ฉันมักจะมาแอบนั่งร้องไห้ที่ใต้ต้นไม้ต้นนี้ทุกเย็น วันนั้นฉันร้องไห้จนเหนื่อย ก็เลยคิดว่าจะผ่อนคลาย นั่งมานาน มันชักเมื่อย ฉันถอดรองเท้าไว้ใต้ต้นไม้ เดินตรงไปที่ทะเลสาป กะว่าจะไปนั่งแช่น้ำซะหน่อย
ระหว่างที่ฉันกำลังจะยื่นเท้าลงไป ฉันได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า
"อย่า...โดด"
ไม่ทันที่ฉันจะหันไปมอง เขาคนนั้นก็มารวบตัวฉันไว้ เราสองคนเสียหลัก ตกลงไปในน้ำทั้งคู่ โชคดีที่ฉันเคยเรียนว่ายน้ำเมื่อตอนเป็นเด็ก ไม่งั้นคงจมน้ำตายไปแล้ว
พอขึ้นมาจากน้ำได้ ฉันต่อว่าเขาเป็นการใหญ่..
"นี่นาย จะบ้าเหรอ ทำอะไรน่ะ ถ้าฉันจมน้ำตายไปว่าไง ดูซิ เปียกหมดเลย"
" ก็คุณกำลังจะคิดสั้นนะ" เขารีบพูดขึ้นมา
"คิดสั้นบ้าบออะไร ฉันแค่จะไปแช่เท้าเฉย ๆ นายนั่นแหล่ะ จะทำให้ฉันแย่" ฉันต่อว่าเขาต่อ
"อ้าวเหรอ..งั้นผมขอโทษแล้วกันนะ" เขาทำตาโต พูดไป พลางเอามือลูบหัวตัวเองไป
เราสองคนมองหน้ากันอยู่นาน จนในที่สุดก็หัวเราะออกมาพร้อม ๆ กัน มันอดหัวเราะไม่ได้เมื่อมองเห็นสภาพของเราทั้งสองคนในตอนนั้น ดูไม่ได้เลย เปียกปอนเหมือนลูกหมาตกน้ำยังไงยังงั้น และฉันก็ขำในความเข้าใจผิดของเขา ไม่รู้คิดได้ยังไง
หลังจากวันนั้นเขาจะมานั่งคุยกับฉันที่นี่ทุกวัน นั่งฟังฉันระบายทุกสิ่งทุกอย่าง ปลอบใจฉัน ซื้อขนมมาให้ฉันทานเป็นประจำ
จนวันนึงเขาก็สารภาพกับฉันว่า เขาแอบชอบฉันมาตั้งนานแล้ว เขาเห็นฉันนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวบ่อย ๆ ที่นี่ อยากจะเข้ามาคุยด้วยแต่ก็ไม่กล้า ได้แต่มานั่งอยู่แถวนั้นมองดูฉันทุกวัน
อ้นดูจะผิดหวังเล็กน้อยเมื่อฉันบอกกับเขาว่า ฉันไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลย แม้ว่าเขาจะเรียนอยู่คณะเดียวกันกับฉัน ก็น่าจะเป็นแบบนั้นแหล่ะ ช่วงเวลานั้นฉันไม่เคยมองใครเลย นอกจากชัยคนเดียวเท่านั้น
ฉันตอบตกลงคบกับเขาในทันที บอกตรง ๆ ว่าในตอนนั้นฉันยังไม่ได้รักเขา ฉันยังไม่ลืมชัยเลยด้วยซ้ำ ฉันดึงอ้นมาเป็นตัวแทนของชัย เขาคนเดียวที่จะทำให้ฉันลืมชัยได้ ฉันคิดแค่นั้นจริง ๆ
แต่เขาก็ทำมันได้สำเร็จ ไม่เพียงแต่ทำให้ฉันลืมชัยเท่านั้น เขายังทำให้ฉันรู้จักคำว่ารักอย่างแท้จริง ไม่ใช่ความรักแบบเด็ก ๆ หรือความใคร่ อย่างที่แล้ว ๆ มา
อ้นเป็นคนรักที่แสนดีมาโดยตลอด เขามั่นคง สม่ำเสมอ และที่สำคัญเขาเข้าใจฉัน ฉันสามารถคุยกับเขาได้ทุกเรื่อง ซึ่งเขาก็คงเหมือนกัน เขาเคยบอกกับฉันว่า เขารักฉันมาก ฉันเป็นคนแรกที่ทำให้เขารู้สึกรักได้มากมายขนาดนี้
อ้นให้เกียรติฉันเสมอ ไม่เคยล่วงเกินฉันเลยซักครั้ง นั่นยิ่งทำให้ฉันรักเขา เขาจะเป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่ฉันรัก ฉันคิดแบบนั้น
เขาเคยสัญญากับฉันในวันที่เราไปเที่ยวเขาใหญ่ด้วยกัน ท่ามกลางดวงจันทร์ และดวงดาวนับร้อย ๆ ดวง
เขาจับมือฉันขึ้นมาจูบ มองหน้าฉัน สบตาอยู่นานจนฉันอาย
"มองอะไรน่ะ อ้น..อรอายนะ" ฉันพูดพลางดันหน้าเขาให้มองไปทางอื่น
"อ้นรักอรนะ..ให้เจ้าป่าเจ้าเขา ให้ดวงดาวเป็นพยานก็ได้ ถ้าอรไม่เชื่อ"
"จะบ้าเหรออ้น พูดอะไรก็ไม่รู้ น่ากลัวจังเลย" ฉันรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที ก็เล่นอ้างอิงถึงสิ่งที่เหนือธรรมชาติแบบนั้น
"อร ไม่เชื่อหรือครับ" เขามองหน้าฉันเหมือนอยากรู้คำตอบ
"เชื่อสิคะ อรก็รักอ้นนะ"
เขารวบตัวฉันไปกอดในทันที ฉันรับรู้ได้ถึงความอบอุ่น ปลอดภัย และจริงใจจากเขา
"อ้นจะไม่มีวันทำให้อรต้องเสียใจ อรจะเป็นเจ้าสาวคนเดียวของผม เราจะแต่งงานกัน รอผมก่อนนะ ให้ผมพร้อมกว่านี้" เขาบอกฉันที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา
ช่วงเวลาแห่งความสุขที่เราอยู่ด้วยกัน คำพูดทุกคำที่เขาเคยบอกกับฉัน ฉันยังคงจำมันได้ทุกคำพูด แต่เขาคงจะลืมมันไปจนหมดสิ้นแล้วสินะ มันคงเป็นแค่ลม ที่พัดมาแล้วก็ผ่านไป
นึกแล้วก็ใจหาย นี่ฉันกับเขาจะต้องจบกันแล้วจริง ๆ เหรอ ฉันจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อไม่มีเขา ก็ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันฝันมันมีเขาอยู่ด้วยตลอด ฉันคงเหงา เศร้า เข็ดแล้วกับความรัก ฉันคงไม่กล้ามีความรักอีกแล้ว มันโหดร้ายเหลือเกินสำหรับฉัน เมื่อไหร่ฉันถึงจะลืมเขา ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฉันขอเลือกที่จะไม่รัก ไม่อยากเจ็บปวดอีก
ฉันนั่งอยู่ตรงนั้นจนถึงเย็น ท้องฟ้าค่อย ๆ สลัวลง กี่โมงแล้วเนี่ย อืมหกโมงกว่าแล้ว นี่ฉันนั่งนานขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันควรจะไปได้แล้วก่อนที่มันจะมืดไปกว่านี้
ฉันใส่ร้องเท้า ก้มลงหยิบกระเป๋าสะพาย ระหว่างนั้นฉันก็ได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกฉัน
"อร..นั่นแกรึเปล่า"
ฉันรีบหันตามเสียงไปทันที ใยจอยนั่นเอง อ้าวน้อตก็มาด้วยเหรอ ที่สำคัญอ้นก็มาด้วย มาทำไมกัน อย่าบอกนะว่ามาตามหาฉัน
"แกนี่แย่จริง ๆ เลยนะ ลางานออกมาก็ไม่บอก แล้วเนี่ยมือถือก็ไม่ยอมเปิดเครื่อง" ใยจอยต่อว่าฉันเป็นการใหญ่ "รู้ไม๊ว่าคนอื่นเขาเป็นห่วง..เนี่ยถ้าอ้นไม่บอกนะ ฉันก็ไม่รู้เลยนะเนี่ย"
อ้นเหรอ เขาจะเป็นห่วงฉันทำไมกัน เขาไม่ใช่เหรอที่เป็นต้นเหตุ ทำให้ฉันต้องมานั่งอยู่ที่นี่
"โตแล้วนะอร ไม่ใช่เด็ก ๆ มีอะไรก็น่าจะบอกกันมั่ง" นายน้อตก็อีกคน นี่มันอะไรกัน
"อะไรกันจ๊ะ ฉันก็แค่มานั่งเล่นแถวนี้เอง ทำเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตไปได้ พอดีฉันรู้สึกเบื่อ ๆ น่ะ" ฉันพูดขึ้นมาบ้างหลังจากที่ปล่อยให้พวกนั้นพูดกันไปต่าง ๆ นานา
ใยจอยกับนายน้อตมองหน้ากัน แล้วก็หันมามองหน้าฉันกับอ้นเหมือนอยากจะถามอะไร แต่คงเปลี่ยนใจ
"เออ เออ ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ไปกันเถอะ หิวแล้วด้วย ไอ้เราก็ตกอกตกใจหมดเลย นึกว่ามีอะไร" ใยจอยบ่นอีก
"ไปครับ ไปหาอะไรทานกัน เดี๋ยวมื้อนี้ผมเลี้ยงเอง..ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ทุกคนต้องตกใจ" อ้นพูดขึ้นมาเหมือนสำนึกผิด
เราไปทานอาหารเย็นกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ใยจอย กับน้อต อร่อยกันใหญ่ ยกเว้นฉัน กับอ้นที่ดูเหมือนจะทานไม่ค่อยลง
"ทานอะไรหน่อยสิ อร..ไม่หิวเหรอ.. นี่ไงของโปรดของอรเลยนะ" อ้นพูดพลางคีบเทมปุระให้ฉัน
นี่เขายังจำได้เหรอว่าฉันชอบทาน นึกว่าจะจำหน้าฉันไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ ฉันส่ายหน้าตอบเขาโดยไม่พูดอะไร ฉันแอบเห็นสีหน้าผิดหวังของเขา
พอร้านเลิกอ้นอาสาไปส่งฉันกับจอยที่บ้าน ส่วนน้อตขับรถมาเอง
แต่ใยจอยรีบปฏิเสธขึ้นมาทันที
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวจอยกลับกับน้อตได้ อ้นไปส่งอรแล้วกัน ฝากด้วยนะ" ใยจอยพูดพลางบีบมือฉันไม่ให้พูดอะไร
จอยคงอยากเปิดโอกาสให้ฉันกับอ้นปรับความเข้าใจกัน จอยคงยังไม่รู้เรื่องเมื่อเช้า แต่ก็ดีแล้วล่ะ ไม่งั้นอ้นอาจจะโดนใยจอยต่อว่าเจ็บ ๆ ไปแล้วก็ได้ ถึงแม้เขาจะทำร้ายความรู้สึกของฉัน แต่ฉันก็ยังรักเขา ไม่อยากให้ใครมาว่าเขาอยู่ดี
บรรยากาศในรถยังคงเงียบงัน เหมือนเมื่อตอนเช้า ไม่มีใครพูดอะไร เครื่องปรับอากาศในรถเย็น จนฉันต้องเอามือขึ้นมากอดไว้
"หนาวเหรอ อร.." อ้นพูดพลางเอื้อมไปหมุนองศาให้เบาลง "ดีขึ้นไม๊"
ฉันไม่ตอบ ได้แต่พยักหน้าเท่านั้น
"คราวหลังอรอย่าทำแบบนี้อีกนะ อ้นเป็นห่วงรู้ไหม อ้นโทรหาอรทั้งวันเลย โทรไปที่บริษัท เขาก็บอกว่าอรออกมาแล้ว โทรเข้ามือถือก็ไม่ยอมเปิด อ้นก็เลยตัดสินใจโทรไปหาจอย เผื่อว่าอรจะไปหาเขา แต่ก็ไม่มี"
เชอะ! ห่วงเหรอ พูดออกมาได้ แล้วที่เมื่อเช้าทำน่ะมันคืออะไร
"อร..ที่อ้นพูดน่ะ เข้าใจไม๊ครับ" เขาถามย้ำ
"เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะคะ พอดีไม่ได้ตั้งใจฟัง" ฉันยวนเค้า
"นี่อร ยังโกรธอ้นอยู่ใช่ไม๊" เขาหันมามองฉัน แล้วก็ถอนหายใจ
"เมื่อเช้าอ้นไม่ได้ตั้งใจนะ..เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่อ้นก็ไม่รู้ มาดักรออ้นระหว่างทาง"เขาพยายามแก้ตัว
"พอแล้ว..ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว..อรไม่อยากฟัง" ฉันเสียงดังขึ้นมาทันที
น้ำตามันเริ่มไหลออกมาอีกแล้ว ฉันโมโหมากที่เขาพูดเรื่องที่มันจี้ใจ ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น เรื่องเมื่อเช้ามันแสดงให้ฉันเห็นแล้วว่า เขาแคร์ผู้หญิงคนนั้นมากกว่าฉัน
"อ้นขอโทษนะอร แต่อ้นไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ" เขาพูดอีก
"ไม่เป็นไรหรอก อรเข้าใจดี" ฉันบอกเขาว่าเข้าใจ แต่หัวใจของฉันมันกลับไม่ยอม ฉันพยายามที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ แต่มันไม่อยู่ ฉันปล่อยโฮออกมา มันคงหยุดไม่ได้แล้วล่ะ
อ้นจอดรถข้างทางทันที เขาดึงฉันเข้าไปกอด ลูบหัวฉัน มันยิ่งทำให้ฉันร้องไห้หนักเข้าไปอีก ฉันกอดเขาตอบ ขอเถอะ ขอฉันได้กอดเขาอีกสักครั้ง เป็นครั้งสุดท้าย
"อ้นขอโทษ..อ้นจะไม่ทำแบบนี้อีก..อ้นสัญญา" เขาพูดพลางลูบหัวฉัน
ฉันเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ นี่เขากำลังจะหมายความว่าอะไร
"อ้นไม่ควรทำแบบนี้เลย อ้นทำให้อรเสียใจ อ้นมันเลวเอง..แต่ต่อไปมันจะไม่มีอีกแล้วนะอร ให้โอกาสอ้นอีกสักครั้งนะ เรามาเริ่มกันใหม่ อ้นรู้แล้วว่า คนที่อ้นรักคืออร..อรคนเดียวเท่านั้น"
"จริงหรืออ้น อ้นไม่ได้หลอกอรนะ" ฉันถามย้ำเพื่อความแน่ใจ เขาพยักหน้าตอบฉันด้วยรอยยิ้ม
ในที่สุดเขาก็กลับมาเป็นอ้นคนเดิมของฉันแล้ว ไม่มีอะไรจะสุขมากไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ฉันก็ยังคงแคลงใจอยู่ดีในเมื่ออ้นเลือกฉัน แล้วผู้้หญิงคนนั้นล่ะ เขาจะทำยังไงกับเธอ
"เอ่อ..อ้น แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะคะ" ฉันถาม
อ้นเงียบไปพักนึง ก่อนที่จะตอบว่า " อ้นจะบอกเขาเอง..อรไม่ต้องเป็นห่วงนะ"
ฉันเชื่อเขา เพราะฉันรักเขา ฉันคงอยู่ไม่ได้ถ้าขาดเขา เขาเปรียบเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจฉัน แต่ฉันก็อดที่จะนึกถึงผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ ถึงยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันกับฉัน ถ้าเธอรู้เธอก็คงเสียใจไม่แพ้กัน อืม..แต่คงน้อยกว่าฉันเพราะเธอเพิ่งจะคบกับอ้นไม่เท่าไหร่ ถ้าเทียบกับฉันแล้ว เธอคงทำใจได้ง่ายกว่า
ช่างเถอะ ฉันจะคิดมากมายไปทำไมกัน ก็ในเมื่ออ้นรักฉัน เลือกฉัน อีกคนก็ต้องเสียใจมันเป็นเรื่องธรรมดา มีคนแพ้ก็ต้องมีคนชนะ ไม่เขาก็ฉันคนใดคนหนึ่ง
อ้นหันมามองหน้าฉัน เขาคงจะได้ยินเสียงท้องของฉันร้อง..
"หิวล่ะสิอร ก็เมื่อกี้ไม่ยอมทานอะไรเลยนี่ มัวแต่งอนตุ๊บป่องอยู่" เขาพูดไปหัวเราะไป
"แหม..ก็นิดหน่อยน่ะค่ะ ขอโทษนะ" ฉันตอบอย่างอาย ๆ
" ไป เดี๋ยวเราไปหาอะไรทานกันนะครับ"
ความรักของฉันกลับคืนมาอีกครั้ง ขอให้มันเป็นรักที่จีรังยั่งยืน ตลอดไปด้วยเถอะ ฉันคิดแบบนั้นในใจ
เมื่อวันที่ : 18 พ.ย. 2547, 16.00 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...