![]() |
![]() |
ไร้ตัวตน![]() |
...ฉันรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้อ่านข่าวที่ว่า "มีบ.เอกชนสร้างเครื่องบินที่สามรถออกไปนอกโลกได้สำเร็จแล้ว" แต่ทุกวันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่...
...
ฉันรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้อ่านข่าวที่ว่า "มีบ.เอกชนสร้างเครื่องบินที่สามรถออกไปนอกโลกได้สำเร็จแล้ว" ...
ครั้งหนึ่ง ฉันเคยคิดว่าการไปนอกโลกคงทำได้เพียงไปกับจรวด อย่างที่เห็นในทีวีเท่านั้น
การที่จะสร้างเครื่องบินที่บินไปดวงจันทร์แล้วกลับมาลงพื้นโลกอย่างปลอดภัยนั้น
คงทำได้เพียงแค่ในหนัง แต่หลังจากได้เห็นข่าวนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์
มากทีเดียว คงจะรู้สึกเหมือนกับตอนที่ทั่วโลกกำลังจับตานักบินอวกาศสหรัฐกำลังเหยีบ
ลงบนดวงจันทร์เหมือนหลายสิบปีก่อนนั่นหละ เพราะนี่จะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางไปสู่
อวกาศดินแดนที่ครั้งหนึ่งมีเพียงยานสำรวจเท่านั้นที่ไปถึง...
แต่หัวใจฉันกลับดำดิ่งลงเหมือนกับตกลงสู่เหวลึกทันทีที่มองกลับมาที่ตัวเอง...
ทุกวันนี้ตัวฉันกำลังทำอะไรอยู่... ทุกวันนี้เรากำลังทำอะไรอยู่...
ขณะที่ชาวต่างประเทศกำลังจะเดินทางไปสำรวจนอกโลก...
ทีวีไทยกลับมีแต่ละคร ตบตีกันแย่งผัว แย่งเมียอยู่อย่างนั้น...
เมื่อฉันกดไปดูช่องอื่นก็พบรายการเปิดโลกที่มีแต่ชาวต่างชาติมาพาไปดูสิ่งต่างๆรอบโลก แต่รายการไทย กลับมีแค่เกมโชว์ รายการเพลง และละครแย่งผัวเมียกัน...
สักวันอีกหลายปีข้างหน้า ในรายการทีวีคงจะมีชาวต่างชาติพาไปเที่ยวนอกโลก
และรายการไทยก็คงจะมีแค่เกมโชว์ รายการเพลง และละครแย่งผัวเมียกันเหมือนเดิม..
ฉันรู้ว่ารายการทีวีดีๆของไทยก็มีมาก แต่เมื่อเทียบกับเกมโชว์ รายการเพลง
และละครแย่งผัวเมียกันแล้ว สัดส่วนมันต่างกันแค่ไหน...
ฉันเองไม่ชอบดูทีวีเท่าไหรนักหรอก ปีหนึ่งคงดูไม่ถึง 100 ชั่วโมง จึงไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว
มันมีอะไรในนั้นบ้าง แต่จากที่ฉันได้อ่านข่าวจากเวปต่างๆ ฉันกลับพบแต่เรื่องเดิมๆเก่าๆ
ที่ไม่พ้นการฆ่ากันรายวัน และการทะเลาะกันของนักการเมือง เท่านั้น
คำถามจึงกลับมาที่... ทุกวันนี้ตัวฉันกำลังทำอะไรอยู่... ทุกวันนี้เรากำลังทำอะไรอยู่...
ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว มีคนถามฉันว่า อ่านการ์ตูนไปทำไม เล่นเกมไร้สาระไปทำไม
แทนที่จะเอาเวลาไปเรียนหนังสือ หางานทำ หาเงินเยอะๆ
ฉันมักจะแอบตอบเข้าข้างตัวเองเสมอๆว่า จริงๆแล้วการเรียน การทำงาน การหาเงิน
ก็ไม่ต่างอะไรกับการเล่นเกมไปวันๆ หรืออ่านการ์ตูนไร้สาระนั่นแหละ ไม่ว่าจะรวย
จะจน จะขยัน จะขี้เกียจ คนทุกคนล้าวมีเพียง 1 ชีวิตเท่านั้นที่จะทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองทำได้
เพราะเมื่อเราตายทุกอย่างที่เราทำมามันก็จะสูญเปล่าในทันที..
(ทางศาสนาจะบอกว่าสิ่งที่ติดตัวไปจะมีเพียงบุญกับบาป จึงให้ทำบุญกันเยอะๆ...)
เรามามองให้ลึกกว่านั้นอีก เราจะมองไปถึงชีวิตหลังความตายที่เราพูดถึงบุญ กับบาป...
หากตอนนี้เราทำแต่ความดี ทำบุญเยอะๆ ตายไปเราก็ได้เอาไปใช้ทั้งภพนี้และภพหน้านั้น
แต่เมื่อเราเข้าสู่นิพพาน บุญ และบาป ก็จะไม่มีเหลืออีกเช่นกัน ไม่ต่างอะไรไปกับเงินทองที่เรามุ่งเก็บสะสมในโลกมนุษย์เลย เราใช้เงินทองได้เพียงแค่มีชีวิต และใช้บุญบาป
ได้เพียงแค่ก่อนถึงนิพพานเท่านั้นเอง
(คำอธิบาย:
ที่ว่าบุญและบาปไม่มีเมื่อนิพพานนั้น เพราะนิพพานคือความไม่มี เมื่อไม่มีก็ไม่มีอะไรไปเกาะเกียวมันได้ไม่ว่าจะเป็นบุญหรือบาป นิพพานจะบอกว่ามีก็ไม่ใช ไม่มีก็ไม่ใช่ ด้วยเหตุนี้เอง
: นี่เป็นความเข้าใจส่วนตัวที่ไม่ต่างอะไรไปกับคนตาบอดที่มองไม่เห็นทาง)
(


เมื่อเงินทองไม่มีค่าหลังความตาย บุญบาปไม่มีค่าหลังนิพพาน ..
ไม่ว่าเราจะได้บินไปในอวกาศหรือนั่งขอทานบนถนน
ไม่ว่าจะไปค้นพบโลกใหม่ หรือตบตีกับใครแย่งผัว แย่งเมีย...
และไม่ว่าเราจะทำอะไรไป มันจึงไม่มีค่าเลย..
สุดท้ายแล้ว การที่เราได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ โดยไม่เบียดเบียนใคร คงจะดีที่สุด ...
เพราะเมื่อเราตายไปแล้ว เราจะได้ไม่รู้สึกเสียดายชีวิตที่ผ่านมานั่นเอง...
แล้วทุกวันนี้ตัวฉันกำลังทำอะไรอยู่... ทุกวันนี้เรากำลังทำอะไรอยู่...
เราได้ทำในสิ่งที่เราต้องการแล้วหรือยังหนอ...
เมื่อวันที่ : 07 ต.ค. 2547, 12.36 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...