นิตยสารรายสะดวก  Fiction  ๐๔ ตุลาคม ๒๕๔๗
รื่ น ร ส สุ ค น ธ า.....ทุติยบรรพ์
SONG-982
...ตีพิมพ์ครั้งแรก รวมเรื่อง​​สั้นอิโรติกชุด "รักร้อนซ่อนเงื่อน"
ตีพิมพ์ครั้ง​​ที่สอง รวมเรื่อง​​สั้นอิโรติกชุด "LUST:ร้อน" สำนักพิมพ์ ณ ถนนฯ ธันวาคม 49...
จันทร์เต็มเดือนดวงซีดแขวนค้างอยู่​กลางฟ้าตะวันออก เธอรู้สึกเสียวแปลบขึ้น​มา​ที่​ระหว่างขาอย่างช่วยไม่​ได้ ยังไม่ล่วงสู่สนธยากาลด้วยซ้ำ​แต่จันทร์เจ้ากลับจู่มาแจ้งเหตุแห่งรัก ดี​ที่เธอ​ใช้แผ่นอนามัยชิงซับมันไว้เสีย​แต่เนิ่น ไม่เช่นนั้น​​ความเคยชินคงย้อยเยิ้มเลย​เลอะถึงกระโปรงชั้นนอกให้​ได้อาย เร่งเลือกสรรสิ่งสำคัญสำหรับคืนวัน​พระใหญ่ด้วยการตีสีหน้าชาเฉย กลบจริต​ที่เต้นระริกอยู่​ภายใน

"​ถ้า​จะเปลี่ยนดอกไม้วัน​พระ น่า​จะซื้อ​ไปตั้งแต่เย็นวานนะคะ​คุณ" แม่ค้ามากคารมสอดแทรก​ความรู้สู่เธออย่างหวังดี ปรายตา​ไป​ที่ป้ายกระดาษ​ซึ่งปักไว้​ระหว่างก้านกล้วยไม้สีชินตา "วันนี้วัน​พระ" เทคนิคการขายพื้นบ้านคง​ได้ผลดีมาตั้งแต่​เมื่อวาน ​เพราะด้านหลังของป้ายกระดาษแผ่นเดียวกันนี้เขียนไว้ "พรุ่งนี้วัน​พระ" ​เป็นการบอกบุญอย่างหนึ่ง​​ที่คนส่งสารพลอย​ได้อานิสงฆ์ทันตา ขายดี​เป็นเทน้ำท่าเพิ่มขึ้น​​เป็นพิเศษอีกสองวัน

" ไม่รับกุหลาบหรือกล้วยไม้บ้างหรือคะ​วันนี้" ฉันแอบขัน​กับคำถาม ขณะ​ที่เธอคงรู้สึกตัว​ได้ว่ายืนเลือกหาสิ่ง​ที่​ต้องการนานเกิน​ไปเสียแล้ว​ จึงตวัดสายตาขึ้น​​ไปสบตาคนถาม​เอาบ้าง ​ความ​เป็นคู่ค้าซื้อขายกันมานานทำให้แม่ค้าหน้าฉ่ำเสมองมา​ที่ฉัน ฉันยิ้มให้แล้ว​ส่งเลย​​ไปทักทายเธอ​เป็นการเสนอไมตรี แค่นี้ฉันก็​ได้ติดสอยห้อยตามเธอมาด้วยอย่างสะดวก​ดาย

เธอหอบบัวชมพูทรงสวยดอกย่อม​ทั้งสามกำราว​กับซื้อหามันมาด้วยราคาสูงลิบลิ่ว ไม่เกรงเสื้อผ้า​จะเปื้อนเปรอะ ฉันแอบสังเกตเห็นว่าหลัง​ความมุ่งมั่นอหังการในสีหน้านั่น ไม่​สามารถเกลี่ยลบ​ความหวาดระแวงพะวงหวั่นในหวัง ​ที่ช่างเลือนรางอย่างร้ายกาจ ​เพราะ​ความรู้สึก​ที่ตามมาหลังจาก​ความเสียวกระสันรัญจวนจิต กลับ​เป็น​ความระบมตรมอก​ต้องแฝงฝืนกลืนกล้ำละล้าละลังด้วย​ความไม่แน่ใจว่าอยากให้วันนี้มันเวียนมาถึงอีกหรือไม่

เราสบตากันอย่างเข้าใจ​และเห็นใจ พวกฉันเอง​ที่อยู่​ในเหตุการณ์วันนั้น​ วัน​ที่คนรักของเธอจาก​ไปอย่างไม่มีวันกลับ วัน​ที่ซากศพกลาย​เป็นมหรสพอันโอชาของผู้สัญจร มนุษย์แร้งรุมทึ้งร่างไร้วิญญาณด้วยแสงไฟแฟลชนับไม่ถ้วน ภาพข่าวพาดหัววันรุ่งขึ้น​จึงมีพวกฉัน​เป็นองค์ประกอบสำคัญให้​ได้ฮือฮา ว่าสวยนักหนา​และระคนปนเศร้า ภาพนั้น​​คือ​เพื่อนฉันบางคน​กำลังโน้มลงซบซับ​กับกองก้อนเลือดอย่างไม่รังเกียจ บางคนเกลือนกระจาย​ไปบนถนน คอยระวังภัยให้​กับคน​ที่มือยังกุมกำก้านบัวไม่ปล่อย สองตายังเบิกโพลงด้วย​ความสงสัย​และห่วงหา ริมฝีปากยังอ้าเผยอ​เพื่อถามไถ่อะไร​จาก​ใครสักคำหากว่าเจ้าตัวไม่สิ้นใจ​ไปเสียก่อน

ไม่​ต้องบอกก็รู้ว่านั่น​คือเหตุให้เธอสงัดเหงาเศร้าตรมตรอม แป้งสีดินสอแต้มสิ่งสำอางฉาบเคลือบ​ได้เพียงสีหน้า​ที่ชาเฉย การงานในหน้า​ที่ลุล่วงรวดเร็วกว่าเคย​เพราะไม่มีอารมณ์ปรารถนา​จะวิสาสะ​กับ​ใครอื่น ประหนึ่ง​​ความเงียบทำให้เกิดสติ สมาธิทำให้เกิดปัญญากระนั้น​ ​ความสำเร็จในหน้า​ที่การงานจึงแปรผกผัน​กับ​ความหม่นหมองนองน้ำตาในอก ขั้นเงินเดือนถูกเลื่อนขยับให้สูงขึ้น​รวดเร็วจน​เป็น​ที่ระแวงแคลงใจของ​เพื่อนร่วมงาน เสียงนินทาลับหลังจึงมา​พร้อม​กับการโดดเด่นของ​ความดี เธอจึงยิ่งเงียบงำกรำทุกข์ เพียรรักษาใจกายไว้​เพื่อสิ่งเดียว​ที่หมาย ​คือการ​ได้​เขากลับคืนมา

เรายิ้มให้แก่กันอีกครั้งก่อนเธอ​จะกระซิบแผ่ว "เจ้านายชวนฉันอีกแล้ว​วันนี้ ภรรยา​เขา​ไปถือศีลทีวัดอย่างเคย ไม่รู้ว่าค้างคืน​ที่นั่นด้วยศรัทธากล้าแกร่ง หรือว่าอยากร่วมวงถกหัวข้อธรรมการนินทา​กับเหล่า​เพื่อนผองคุณนายเศรษฐีนีสามีไม่รักกันแน่" เธอแย้มรอยเยาะเล็กน้อยก่อน​จะกล่าวต่อ​ไป​โดยฉันยังทำตัว​เป็นผู้ฟัง​ที่ดีเช่นเคย "​ที่ฉันพลาด​ไปครั้งเดียวนั้น​ คงไม่มีหนสอง การทานมื้อค่ำแล้ว​ต่อด้วยการ​ไปนั่งในคลับหรู​ที่​เขา​เป็นหุ้น​ส่วนใหญ่ ไม่ยากเกิน​ไป​ที่​จะเดาทาง​ได้ถูก แล้ว​​เขาก็เดินหมากตานั้น​พลาด การทำรักอันเหยอะแหยะ​และเล็มเลีย​ไปนิ้วสั้น​และฝ่าเท้า ทำให้ฉันขยะแขยงมากกว่า​จะถวิลหา ​เขาหลั่งรินออกมา​ทั้ง​ที่ไม่ทัน​ได้ยักย้ายถ่ายเทสิ่งใดเข้า​ไปให้สมเหตุ มีหรือ​ที่​จะทำให้ฉันส่งสายตาโหยหา​ได้​เป็นครั้ง​ที่สอง

อาการเฉยชาจากนั้น​ช่วยให้ฉันอยู่​ง่ายสบายตัวใน​ที่ทำงาน ตราบใด​ที่​ความลับ​ระหว่างรักของ​เขายังถูกเก็บงำไว้​ที่ฉัน ตราบนั้น​การงานก็ยังคง​จะมั่นคงต่อ​ไป​ได้ด้วยวิธีแสดงการให้​ความหวังอย่างหนึ่ง​อย่างใดไว้ก่อนแล้ว​ค่อยผ่อนปรน​ความละเมอเพ้อหานั้น​ด้วยสายตาของการข่มขู่ ​จะให้ฉันบอกเมีย​เป็นศรีนั่นให้รู้หรือว่าผัวเธอมักปฏิบัติต่อลูกจ้างใต้บัญชาการอย่างไร"



ดูเธอ​จะเข้าใจคำถามในสีหน้าฉัน จึงชิงตอบเสียก่อนว่า "คงขอผลัด​ไปวันหน้า ​เพราะวันนี้ว่า​จะมาหาซื้อดอกไม้​ไปจัด​ที่บูชา​พระน่ะค่ะ​" ฉันจึงยิ้มให้​กับวิธีการปฏิเสธเจ้านายของเธออีกคราว คง​ต้องรอให้แม่ยายตายแล้ว​เมีย​ต้อง​ไปค้างเหย้าเฝ้าศพเสียก่อนกระมังจึง​จะถึงฤกษ์งามยามปลอด ฉันอยากกระซิบตอบเธอ​ไปเหลือเกินว่า "จงรักษาตัวให้รอดปลอดภัยต่อ​ไปเถิด ​เพราะถึงวันนี้รอยร่องรูปร่างสรีระ​โดยเฉพาะนั่น คงเปลี่ยน​ไปตาม​การปฏิบัติบูชา​เป็นกิจอย่าง​ที่เธอเริ่มกระทำมาหลังจากคืนนั้น​"

เธอรีรอหลบมุมให้กรรมซัด อยากเห็นหน้า​เขาเหมือนเคย​คือ​ได้หนุ่มน้อยมอเตอร์ไซค์วินจอมกักขฬะนั่น ถึงคิวมัน​พอดี​กับภาระทุกข์สาหัส​ที่ก่อขึ้น​ด้วยวัยคะนองเนื้อ เธอเชื้อเชิญฉันให้ขึ้น​​ไปร่วมซ้อนท้ายด้วยกันอย่างเฉิดฉาย หลังไหล่กว้างขวางของหนุ่มน้อยร่างกำยำหลุบลู่ลงอย่างผิดสำนึก ราว​กับว่าเธอ​จะเริ่มป่าวประกาศ​ไปตลอดทางกระนั้น​ ว่าไอ้หน้าตัวเมียนี่มันเคยแอบ​เอามีดจี้รุนหลังฉันเข้า​ไปในบ้าน แล้ว​ลงมือข่มขืนด้วยวิธีการถ่อยวิตถารเท่า​ที่​จะสรรหา "ของเก่า" ​ที่​ที่รักของเธอเหลือทิ้งไว้ สำหรับการบรรเลงเพลงวิจิตรกามาสารพัดรูปแบบ

รอยเชือกรอยแส้ รอยซ้ำช้ำ​ที่บ้าง​เป็นด่างดวงแดง​เพราะพิษร้อนของเทียนหยด บ้างเขียวคล้ำของการขยำบดขยี้อย่างไม่ปรานี​และฟันขบ ทำให้เธอถึง​กับ​ต้องลางานนอนซมอยู่​หลายวัน ข้อเรียกร้องหนึ่ง​เดียวสำหรับไอ้หนุ่มทรงซาดิสซ์นี่​คือให้มันส่งข้าวส่งน้ำรองมือรองเท้าให้เธอ​ได้​ใช้สอยตาม​ต้องการ ​เพราะ​ทั้งหมดของ​ความรุนแรงยังแฝงไว้ด้วย​ความถูกจริตระเริงใจ


วันนี้มันพาเธอมาถึงบ้านอย่างเร็วกว่าปกติ เลิกตัดพ้อต่อว่า "พี่ทำไมไม่​ใช้บริการของผมแทน" มานานแล้ว​ตั้งแต่รุ่งของแรมหนึ่ง​ค่ำ​ที่อารมณ์ของเธอยังค้างคาแล้ว​มันมาเห็นสภา​พระเกระกะบน​ที่นอน ไอ้หนุ่มเหมือน​จะแหยะแหยง​เมื่อเธอบอกเล่าถึงวิธีการ แล้ว​จิกหัวมันลงบดเบียด​กับร่องรอยเลอะคราบเลือดคาว เลือก​เอาว่า​จะติดตะรางหรือ​จะเสร็จสมอย่างพิสดารอยู่​อย่างนี้

พวกฉันเคยแสดงการคัดค้าน​และไม่ยินยอม​พร้อมใจมาตั้งแต่ครั้งแรกๆ​ ​ที่เธอทำท่าว่า​จะเสียจริต มันช่างอ้างไม่ขึ้น​เสียเลย​​กับพุทธบูชา​และอานิสงฆ์ เธอว่าคน​ที่รักยังวนเวียนมาหา​เพราะยังไม่​ได้​ไปผุดเกิด ด้วยห่วงโซ่สุดท้าย​ที่หมายยังมั่งคงอยู่​ในจิต วิญญาณจึงจำ​ต้องสถิตย์อยู่​​เพื่อล้างกรรมสุดท้ายให้บริสุทธิ์หมดสัญญาเวทนาสงสาร วิธีการนั้น​ยังประกาศชัดอยู่​ในกำมือยามสิ้นลม คราวหนึ่ง​​ที่พวกฉันยอมหักไม่ยอมงอ​กับพิธีการบ้าบอเช่นนี้เธอยังกล้าอรรถาธิบาย

เข้าใจผิดมานานว่าสิ่ง​ที่​เขา​ต้องการ​คืออะไร​ เธอเพียรเปลี่ยนดอกไม้บูชา​พระให้​เขา​ทั้งวัน​พระน้อย​พระใหญ่ แน่นอนว่า​จะ​ต้อง​เป็นบัวสีดอกสวย​ที่เกิด​แต่ตมแล้ว​บาน​เป็นบุปผชาติสะอาดตา ​แต่แล้ว​​ความฝันนั้น​ยังชัดขัดตา ​เขา​ที่รักยัง​ต้องทนวนเวียนทรมา​กับกรรม ร่ายเปลือยของชายสมบูรณ์แบบถูกขึงตรึงไว้ด้วยใยบัว บรรดาเหล่าเสนาหน้าม้าหน้าวัวเฝ้าโบยตีด้วยแส้หนามบัวอยู่​ไม่รู้วาย เธอสงสาร​เขาจับใจในฝันอยากรับวิบากกรรมนั้น​ไว้เองเสีย​ทั้งสิ้น ​เพราะรู้อยู่​เต็มอกว่าคืน​ที่​เขาตายทำไม​เขายังกุมกำก้านบัว การเล่นรักอย่างใหม่​ที่ท้าทาย​กับบาปมหันต์จนทำให้​เขา​ต้องทนทรมานอยู่​อย่างนี้

แววตาแห่ง​ความแน่วแน่ปลิด​ความหวาดหวั่นทิ้งเสียตั้งแต่ประตูหน้าบ้าน ราว​กับเธอปลดมันแขวนคล้องไว้​กับคอของเจ้าหนุ่มวินมอเตอร์ไซค์นั่น ​เพราะก่อน​ที่มัน​จะเร่งเครื่องจาก​ไปฉันยังทัน​เป็นสีหน้าอันกระอักกระอ่วนจนบอกไม่ถูกว่าคืนนี้มัน​จะกลับ​ไปจินตนาการถึงเธอ​ได้ด้วยอารมณ์ไหน รอยยิ้มน้อยๆ​ ​ที่โปรยไว้ให้ก่อนยื่นเงินค่า​โดยสารให้ตามมารยาทมันคงปวดร้าวเสียยิ่งกว่าการก่นด่าถึงบุพการี "เศษเงิน" ​ซึ่ง​เป็นเหรียญด้วยซ้ำ ​ที่​ได้​เป็นค่าตัว ค่าแรง​และค่าปิดปาก

สิ่งแรกในบ้าน​ที่มองเห็น​ได้​โดยง่าย​คือ​พระบูชาองค์งามปางประทานพรบนหิ้งบูชาใกล้เพดาน ​ทั้งองค์หมองลงบ้าง​เพราะละอองฟ่องฝุ่น ​แต่ยังประกาศสัจ​จะในโลกไว้ชัดแจ้งด้วยหัตถ์ขวายกเสมออุระ ​พระอังคุตจรด​พระดัชนีแสดงสัณห์แห่งกงธรรมในวัฏฏะสงสาร เธอทรุดกายลงกราบเต็มตามเบญจางคประดิษฐ์​โดยมีฉันอยู่​เคียงข้าง อมยิ้มอิ่มสุข​กับบุญปฏิบัติ​ที่​จะ​ได้กระทำต่อ​ไปในเวลาอันใกล้ รูป​เขา​ที่รักในอาการเปี่ยมสุขแย้มยิ้มทรงเสน่ห์ ถูกตั้งต่ำลงมาบนตั่งเตี้ย โกฏแก้วหนาวขนุนสีครามขุ่นตั้งเคียง​กับกระถางธูป​และแจกันดอกไม้

เธอกราบ​เขาลงตรงหน้า รินน้ำตาอย่างสุดระงับ "ฉันเลิกฝันถึงพี่ พี่คง​ไปดีตั้งแต่ฉันเริ่มทำอย่างนั้น​...​ใช่ไหมจ๊ะ​" เธอกระซิบถาม​กับภาพนิ่งจนฉันร้อนวูบวาบ​ไป​ทั้งตัว รู้​ได้ในชะตาตน เธอยังกล่าวต่อ​ไปด้วย​ความโศกสลด "​เมื่อไหร่หนอพี่ถึง​จะหมดเวรหมดกรรม พี่มากระซิบบอกฉันใช่ไหม​เมื่อเช้า​ ฉันไม่ลืมหรอกนะพี่ รอสักหน่อย​เถิดนะขอให้ฉัน​ได้จัดดอกบัวพวกนี้บูชา​พระท่าเสียก่อนนะจ๊ะ​"

พวกฉัน​ทั้งสามกำถูกคลี่คลายจากเส้นตอก เธอแผ่ใบ​ที่ห่อกันช้ำรองไว้ แล้ว​จึงเลือกหนึ่ง​ในพวกฉัน​ที่เธอคิดว่า ​เป็นดอกบัวดอกย่อม​ที่งาม​ที่สุดใน​ทั้งหมดเก้าดอก ​เพื่อปักแจกัน​ทั้งสาม ฉันลุ้นระทึกอยู่​ในใจว่าอย่าให้รูปกายทรงหยดน้ำนี้งามเข้าตาจนพลาด​การปฏิบัติบูชา​เพื่อไถ่บาปอีกแบบ ​ทั้งเก้าดอก​ที่ไม่มีฉัน​เป็นหนึ่ง​ในนั้น​ถูกเธอสอดกลีบพับทับซ้อนให้กลาย​เป็นดอกบัวบานเผยเรณูเกสรสีนวลสวย แล้ว​ปักจัดลงอย่างชำนาญด้วย​ใช้ดอกไม้ประเภทฉันอยู่​อย่างเดียวมานานนัก สองแจกันถูกเทินอันเชิญสู่หิ้งสูงว่างไว้เบื้อง​พระพาหาซ้ายขวาขององค์​พระปฏิมา

อีกหนึ่ง​ตั้งไว้ข้างคนรัก รวบ​ที่เหลือเข้า​ไปโปรยไว้บนเตียงนอนก่อนลับตัวเข้า​ไปในห้องอาบน้ำ​เพื่อชำระสรีระร่างให้สะอาดหมด ทิ้งฉันให้นอนทอดกายระทวยระทึกรออยู่​ด้วยใจไม่​เป็นส่ำ โอ้ละหนอ...​คนเราช่าง​เป็น​ไป​ได้ ด้วยรักตัวเดียวจึงทำให้ดวงตาดวงใจมืดบอดงมงาย​ได้ขนาดนี้ ก็ศาสนาใดในโลกเล่า​จะมาหักห้ามหมิ่นยาม​ความรักของผู้คน​ได้...​.ก็เธอไม่ใช่ผู้มี​ความรักมั่น​ที่แท้หรอกหรือ...​จึงกล้ากระทั่ง​จะทำทุกวิถีทาง​เพื่อ​จะลบภาพฝันอันมีคน​ที่รักสุดหัวใจทนทรมานอยู่​ในนั้น​

เธอก้าวออกมา​พร้อมร่างเปลือย แตะเกลี่ยไล่ไล้ทุกก้านดอก​ที่ทอดรอ ส่งใน​ไปยังห้องหน้าภาวนาเชื้อเชิญวิญญาณคนรักมาให้เห็น "ฉัน​จะทำ​เพื่อเธอ...​.ฉัน​จะทน​เพื่อเธอ...​.ไม่ว่าเธอ​จะเจ็บปวดแค่ไหนในภพภูมินั้น​...​ฉันขอรับมันไว้เสียเอง...​ฉันขอรับ​ความเจ็บปวดรวดร้าวของเธอ​เอาไว้​ทั้งหมด...​ฉัน​จะยอมทำทุกอย่าง​เพื่อให้เธอหลุดพ้น​ไปสู่สุคติภพนะ...​​ที่รักของฉัน" ​ระหว่างคำเธอค่อยเคลื่อนกายขึ้น​มาบนเตียง ไม่เกรงว่าหนามสั้น​จะกดย้ำให้ช้ำเนื้อ

"ขอพี่จงรับรู้...​ฉันทนเจ็บทนปวดอย่างนี้​เพื่อพี่...​เวรกรรมอันใดฉันขอรับไว้คนเดียว...​" สิ้นคำเธอก็​ใช้สองมือจับก้านยาว​ซึ่งเต็ม​ไปด้วยราวหนามนั้น​ตีฟาด​ไปตาม​ส่วนต่างๆ​ ของร่างขาวอวบอัด ลายเลือดซิบขึ้น​​เป็นทางทุกครั้ง​ที่ฟาดลง เสียงซี๊ดครางลอดไรฟันออกมาอย่างสุดระงับ ​เมื่อก้านหนึ่ง​หักลง อีกก้านหนึ่ง​ถูกหยิบขึ้น​มา​ใช้แทน​เพื่อกระหน่ำฟาดอย่างไม่ยั้งแรง น้ำตาริน​พร้อมเลือดอาบ​แต่เธอก็ยังมิหยุดกระทำการ จนยี่สิบกว่าก้านหักราญ​เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ใยบัวพาดสาย​ไป​ทั้งร่าง จึงยังมีบางก้านสั้นๆ​ ห้อยเกาะอยู่​ตามลู่ไหล่​และราวนม เธอบรรจงรวบใยบัว​ทั้งนั้น​​เป็นสายเดียว จนมันเหนียวแน่นเหมือนด้ายป่านแล้ว​ผูกรัด​เอาไว้​กับปลายถันกระตุกดึงหลายครั้งจน​ความเจ็บแปลบซ่านลึกเข้า​ไปกลั่นหยาดหยดแห่ง​ความเศร้าหมองให้ซับซึมออกมาตามช่องทาง เธอรวบเริ่มหักก้านเล็กก้านน้อยนั่นอีกครั้ง​เพื่อให้​ได้ใยบัวสายใหม่สำหรับผูกพันกระสันรัด​กับติ่งไตในรอยแยก ​ความเบาบางแทบปาดให้ขาดหลุดถูกกระดุกดึงขึ้น​ลงจน​ต้องระริกกายขึ้น​ไต่ตาม มันเจ็บแปลบ​และกระสันสุดเสียวในคราวเดียวกัน ​แต่​ทั้งหมดนี่คงไม่เท่าทัณฑ์ทรมาน​ที่​เขา​ที่รัก​ได้รับใน​ความฝัน "​ที่รักฉัน​จะทนเจ็บปวดรวดร้าว​ได้ยิ่งกว่านี้...​​เพื่อเธอ"

ตลอดเวลาตั้งแต่เธอก้าวขึ้น​มาบนเตียง ฉันรอดพ้นการพลีกาย​เพื่อการกระทำเหล่านั้น​มา​ได้​เพราะอยู่​ไกลเกินเอื้อมถึงปลายเตียง ขณะนี้ไม่มีบัวน้อยดอกไหนอีกแล้ว​​ที่คงเหลือสภาพ​พร้อมพอสำหรับพิธีการขั้นสุดท้าย เรามองกันด้วยอารมณ์​ที่แตกต่าง สีหน้า​และแววตาของเธอมันฟ้องร้องออกมาชัดเจนว่าเธอลืม​ไปแล้ว​ด้วยซ้ำว่า​กำลังกระทำสิ่งเหล่านี้​เพื่อ​ใคร ฉันมองต่ำลงมา​ที่รอยปริแยกเยิ้มฉ่ำ เธอแยกสองเข่าออกกว้าง​ที่สุดเท่า​ที่ฉันเคยเห็นมาในชีวิต จับจ้องมา​ที่ฉันอย่างหิวกระหาย

ฉันถูกคว้ามาหักกลางอย่างไม่ปรานี ​ทั้งสองท่อนยังโยงยึดไว้ด้วยใยเหนียวอัน​เป็นคุณสมบัติพิเศษของพืชนี้อย่างฉัน เธอหมุนทวนสอง​ส่วนของฉันเหมือนปั่นด้าย แล้ว​ลดมือลงผูกพันเยื่อใยของฉันไว้​กับติ่งเนื้อสีสดงาม​ที่โผล่พ้น คราวนี้เธอคลึงดึงใยบัวของฉัน​ไปมาทางซ้าย​และขวาสลับกันอย่างสุขสม น้ำตาแห่ง​ความตรอมตรมยิ่งเอ่อท้นทะลักริน เธอหยุดการกระทำ​ทั้งหมด​พร้อมสูดหายใจลึกๆ​ เรียกสติ เตรียม​พร้อมรับจุดมุ่งหมายสุดท้ายแห่งยัญพิธี

สองมือประคองฉัน​ที่มีก้านเหลือแค่คืน ไม่เกรงว่าเยื่อใย​ที่พันค้างอยู่​ปลายตึ่ง​จะถูกกระตุกขาด​ไปอย่างไร รูปทรงหยดน้ำของกายฉันเหมือนถูกออกแบบมาให้ง่าย​เป็นพิเศษสำหรับการนี้ ฉันรู้สึก​ได้ถึงกระไอร้อนผะผ่าว​เมื่อแรก​ที่ปลายดอก​ได้สัมผัส​ระหว่างสองกลีบแดงระเรื่อ ดอกไม้อีกชนิดหนึ่ง​ตรงหน้า ​กำลัง​จะกลืนกินฉันเข้า​ไป​ทั้งตัว ​แม้มัน​จะมีท่าไม่เต็มใจ​เพราะขนาดของฉันก็ไม่น่า​จะล่วงผ่านเข้า​ไป​โดยง่าย ​แต่เจ้าของดอกไม้อันมีเพียงสองกลีบแดงฉ่ำกลับพยายามยัดเยียดตัวฉันเข้า​ไปสู่ภายในอย่างเต็มตื้น การบีบรัดกระชับแน่นทำให้ร่างฉันแทบแหลกสลายในคราวแรก​ที่ก้าวล่วง

ดี​ที่เธอรีบดึงฉันให้ถอยหลังผลุบออกมาเสียก่อน ก่อน​ที่​จะดุนดันมันเข้า​ไปอีกครั้งด้วย​ความง่ายดายกว่าครั้ง ​แม้ฉัน​จะบอบช้ำ​แต่ก็ไม่ถึง​กับ​ต้องปลิดกลีบกระจาย ฉันสบายตัวขึ้น​​กับการชักพาในครั้งหลังๆ​ เสียงเธอกระเส่าครางครวญชวนรัญจวนใจจนฉันอยากแปลงกาย​เป็นผู้ชาย​จะ​ได้โถมทับกระแทกกระทั้นฟาดฟันเฟ้นฟอนให้เธอ​ได้สมอยาก ก่อนพายุร้าย​จะดับลง​พร้อม​กับการแหลกสลายของร่ายกายฉัน เธอยังโยกควงซ้ายขวาให้ก้านหนามสั้นนั่นขูดครูด​ไปรอบรอยกลีบ แล้ว​เธอก็กรีดร้องออกมาสุดเสียงก่อน​จะคร่ำครวญแผ่วเบาเต็มสุข ราว​กับเพิ่ง​จะโผพุ่งหลุดพ้นจากมาหานรกอเวจี

พิธีกรรมของเธอจบลง​พร้อมคราบ​ใคร่​ที่ไหลเลอะ ทุกรกิริยาเยี่ยงนี้ไม่รู้อุบัติขึ้น​มาในโลกตั้งแต่​เมื่อใด ฉันรู้​แต่เพียงว่า...​บัดนี้ฉันรู้แล้ว​...​​ที่ตายแห่งฉันมิใช่เพียงโรยรา​ไป​กับสายน้ำ หรือทอดทบนบอยู่​​กับแทบบาท​​พระศาสดาเท่านั้น​ ​เพราะ​ที่​ระหว่างขาของเธอขณะนี้ ฉัน​ได้ตายยับอัปราชัยลง​ได้อย่าง​เป็นสุข ​แม้​จะพ่ายแพ้แก่ตัณหาบังตา​ไปชั่วครู่ ​แต่ก็ยังอิ่มใจ​ได้ว่าฉัน​ได้นำพาเธอ​ไปสู่ชัยชนะใน​ความรักอันยิ่งใหญ่ อันเหนือ​ความเจ็บปวด เหนือ​ความเชื่อถือศรัทธา​ซึ่งบางครั้งก็ยาก​จะสำมะหาสาระอันใด​ได้

 

F a c t   C a r d
Article ID A-555 Article's Rate 7 votes
ชื่อเรื่อง รื่ น ร ส สุ ค น ธ า.....ทุติยบรรพ์
ผู้แต่ง SONG-982
ตีพิมพ์เมื่อ ๐๔ ตุลาคม ๒๕๔๗
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ เรื่องสั้น
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๙๖๗ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๓ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม ๓๕
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : ลุงเปี๊ยก [C-1690 ], [210.86.188.6]
เมื่อวันที่ : 05 ต.ค. 2547, 06.37 น.

หมายเหตุบ.ก.

ครั้งแรก​ที่ song982 ส่งต้นฉบับ​ "รื่นรสสุคนธา" มาให้อ่าน ​ความรู้สึกชัดๆ​​ที่เกิดขึ้น​หลังจากอ่านจบบอกออกมาว่า นี่​คืองานวรรณกรรม​ที่เขียนอย่างปราณีตเรื่อง​หนึ่ง​ ฉากรัก​กับดอกบัว​ที่ผู้เขียนถ่ายทอดมันออกมา​เป็นเรื่อง​ราว ถือ​ได้ว่า​เป็นแนวคิด"ต้นแบบ"​ที่สั่นสะเทือน​ความดิบเถื่อนในใจคนอ่านรุนแรง ​ความรู้สึกคล้าย​กับครั้งแรก​ที่​ได้อ่านฉากคนถีบสามล้อในงานเขียนอื้อฉาว "เอมมานูเอล" ​ที่มารยาท กระแสสินธุ์ เคยเขียนมันออกมา​เมื่อหลายสิบปีก่อน

​ความคิด​ต่อมา​คือ ​จะ​เอามาเผยแพร่บนศาลานกน้อย​ได้ไหม? ​ถ้ายอมให้ลง​ได้มัน​จะกลาย​เป็นเรื่อง​ ดับเบิ้ลสแตนดาร์ด หรือเปล่า? เออ..แนะ ท้าทาย​ความคิดดีครับ​ ​และ​ที่สุด​เพื่อนๆ​ก็​ได้อ่านเรื่อง​ๆ​นี้ อย่าง​ที่เห็น

เหตุผลของบ.ก. ไม่มีอะไร​มาก​ไปกว่าสิทธิ์ในการตัดสินใจ ใน​เมื่อมองว่านี่​คืองานวรรณกรรม​ที่ดี ก็อยาก​จะยืนยันในมุมมองนั้น​ ​และเชื่อว่าผู้อ่านทุกคน​จะมองเห็น​ความระมัดระวังในการ​ใช้ภาษา​ที่ผู้เขียน​ใช้บรรยายภาพเชิงสังวาสฉากนี้ มัน​เป็น​ความพยายาม​ที่​จะ​เอาศิลปะแห่งภาษา มาห่อหุ้มเรื่อง​ราวทางเพศ​ได้อย่าง​จะแจ้ง​และคลุมเครือ​ไป​พร้อมๆ​กัน

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๒ : ชาร ทิคัมพร [C-5324 ], [203.151.140.111]
เมื่อวันที่ : 15 ก.ค. 2548, 07.57 น.

​เป็นบทอัศจรรย์ร้อยแก้วคลาสสิค​ที่เรียงร้อยภาษา​ได้งดงามมาก ไม่นึกว่าในยุคคอมพิวเตอร์​จะ​ได้เห็นเรื่อง​แบบนี้ ผมชื่นชมครับ​ เดี๋ยวนี้เปิดเว็บ​แต่ละทีก็มี​แต่ อิๆ​ เหอๆ​ หุๆ​ 555

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๓ : นู๋หลิ่ง [C-17155 ], [58.137.199.126]
เมื่อวันที่ : 01 ก.ค. 2553, 15.06 น.

​เป็นเรื่อง​​ที่สุดยอดมากๆ​ จาก​ที่เคยอ่านเรื่อง​สั้นมา​ทั้งหมด
​แต่ละคำช่างไพเราะ ปลุกอารมณ์ให้วาบหวาม

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น