จิ๊บๆ​
ฉันร้องแบบนี้หมาย​ความว่า สวัสดี

จิ๊บๆ​ๆ​
ฉันร้องแบบนี้หมาย​ความว่า ขอบคุณ

จิ๊บๆ​ จิ๊บๆ​
ฉันร้องแบบนี้ก็หมาย​ความอีกว่า ดีใจจัง

กิ่งขนุนไหวเอนตามแรงลม เกาะดีๆ​ นะ​ที่รัก ระวัง​จะตกลง​ไป
นกตะกอด 2 ตัว นอนขดตัวบนกิ่งขนุน​ที่เล็ก​ที่สุด
นกตะกอด 2 ตัว มีทีท่า​จะมี​ความสุข ​ถ้าวันนั้น​ นกตะกอดตัวหนึ่ง​ไม่​ไป​ได้ยินมนุษย์พูดกันว่า
"ว่า​จะตัดต้นขนุนต้นนี้ทิ้งซะ หลายปีแล้ว​ไม่ออกลูกเลย​"

นกตะกอด 2 ตัว รักต้นขนุนมาก ​เพราะมันช่วยต้านลมหนาวยามแรงลมของ​ความหนาวมาเยือน
ช่วยบังแดดให้ร่มเงา​เมื่อฤดูร้อนแผดมาใกล้ๆ​ อีก​ทั้งช่วยรองรับละอองฝน​ที่สาดกระเด็นกระดอน

​ทั้งหมดนี้ ทำให้เช้า​วันหนึ่ง​
​ที่กิ่งขนุนทุกกิ่งมีรังนกน้อยๆ​ ของนกตะกอดทำไว้อย่างสวยงาม
เสียงร้องจิ๊บๆ​ ทักทายยามเช้า​

มนุษย์ตื่นตาตื่นใจ​กับรังนกน้อยๆ​ เหล่านั้น​
พลางประทับใจ​กับเสียงร้องของนกตะกอด

มันร้องดัง จิ๊บๆ​ๆ​

มนุษย์เจ้าของต้นขนุน ชื่นชม​กับสิ่งนี้ไม่นาน รังนกก็แห้งกรอบ บ้างตก บ้างสลาย บ้างหาย​ไป

ไม่ช้าไม่นาน ต้นขนุนก็ตก​ที่นั่ง​ต้องโดนตัดอีกครั้ง

นกตะกอดเฝ้าขบคิดหาวิธีการช่วยต้นขนุน

วัน​ที่แดดร้อนวันหนึ่ง​ นกตะกอด 2 ตัวบิน​ไป​ที่เกาะไกลโพ้น หลบพักใต้ต้นขนุนอีกต้น เผลอแล้ว​หิวก็จิกกินผลขนุน​ที่สุกๆ​ ละอองเล็กๆ​ จากเกสรกลิ่นหอมอ่อนๆ​ ปลิวมาติดตามปีกของนกตะกอด

แดดร่ม ลมตก
นกบินกลับ

วันนี้​เมื่อยจัง วันไหนหนอ ​ที่ต้นขนุน​จะถูกตัด
ว่าพลางสะบัดขน 2-3 ทีแล้ว​ก็นอน

ไม่ช้าไม่นาน
เสียงมนุษย์เจ้าของต้นขนุนก็ดังแหวกอากาศยามเช้า​

"ขนุนออกลูกแล้ว​ นั่นไงๆ​"
ใช่แล้ว​ มันออกลูกแล้ว​
มนุษย์รอกินผลสุก

​แต่นกตะกอด 2 ตัว ร้องดัง จิ๊บๆ​ จิ๊บๆ​

นกตะกอด 2 ตัว​จะมี​ความสุขต่อ​ไปอีกนานเท่านาน ตลอด​เมื่อต้นขนุนยังอยู่​