![]() |
![]() |
กาลตรงกัน![]() |
แรกก้าวที่ฉันมาพบคุณ ฉันเห็นความเป็นธรรมชาติในตัวคุณ วัวฝูงเดินฝ่าไฟแดง
แพะหน้าทะเล้น ร้องแบร่ๆ ก่อนเล็มหญ้าเกาะกลางถนน
ไก่ 2-3 ตัวเดินจิกแมลงคลุกฝุ่น
ทิวสนเก้าต้น ที่เป็นตำนานก็เป็นประวัติที่ฉันอยากค้นหาคำตอบ
ดอกเข็มสีแดงสดปลูกไว้สะท้อนเงาจากแสงจันทร์
ปลาตีนร้องรำทำเพลง ต้อนรับโคลนที่เพิ่งสะบัดน้ำ
ฉันใจเต้นระทึก หยีตาเพียงข้างเดียวแล้วตรวจดูเอกสารบางฉบับว่านำติดตัวมาแล้ว
ฉันกำลังนำความตื่นเต้นมาบรรเลงผสมสีธรรมชาติที่นี่ ฉันจะทำได้ดีหรือเปล่า นั่นคือคำถามแรกสุด เมื่อฉันจับมือทักทายปัตตานี
ฉันคลายมือลงอย่างหลวมๆ พร้อมกับฝากเนื้อฝากตัว
ปัตตานีมีเสน่ห์อย่างประหลาด
หากเปรียบปัตตานีว่าคล้ายหญิงสาว ก็จะเหมือนหญิงสาวที่มีเสน่ห์ล้ำลึก ความไม่ช่างพูดดูจะทำให้น่าสนใจมากขึ้น ความเรียบง่ายทำให้อยากทำอะไรก็ได้ให้คงสภาพแบบนั้นไว้
หากเปรียบปัตตานีว่าคล้ายชายหนุ่ม ก็คงเหมือนชายหนุ่มที่ดูขรึมพอเหมาะ ยิ้มยวนในหน้าอย่างท้าทาย บทจะเอื้อนเอ่ยใดๆ ออกมา ต้องตั้งใจฟังอย่างไม่รู้ตัว และเผลอไผลมองหน้าทุกครั้งไป
ฉันชอบปัตตานีเมื่อแรกพบหรือเปล่า
เป็นคำถามที่ถามทวนไปมา
หลายคนที่ฉันพาไปรู้จัก ต่างบอกว่า ฉันกล้าหาญที่ทนอยู่กับคุณได้
ฉันยิ้มกับคำบอกเหล่านั้น ไม่เคยมีใครรู้ว่า เราไม่ต้องกล้าหาญและอดทนใดๆ เมื่ออยู่กับสิ่งที่เรารัก
ภาพเพื่อนหลายคนโพกผ้า ปกปิดเส้นผม
ภาพเพื่อนบางคนนุ่งโสร่ง แล้วเริ่มไว้หนวดเครา
ภาพเหล่านั้น ทำให้จดหมายที่ฉันเขียนผ่านระยะทางไกลดูมีสีสันมากขึ้น
ก้าวสุดท้ายที่จากปัตตานีมา
ปัตตานีไม่เคยเปลี่ยนไป? หรือมีเพียงฉันที่เปลี่ยนไป
ฉันอยากบอกว่า ฉันรักปัตตานีไม่เคยเปลี่ยน อะไรๆ ทุกอย่างยังเกาะติดอยู่ในความทรงจำเสมอ
หากว่าใครจะมองว่าคุณโหดร้ายไม่เหมือนเก่า
ฉันไม่เคยมองเช่นนั้นเลย
แต่ฉันเพียงแต่อยากรู้ว่า ฉันจะมีโอกาสไปพบหน้าคุณอีกได้ไหม
วงเล็บ ในตลอดเวลาที่คุณเป็นปัตตานีแบบเก่าที่ฉันหลงรัก วงเล็บปิด
ฉันรอด้วยความหวัง...
เมื่อวันที่ : 10 มี.ค. 2547, 11.25 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...