![]() |
![]() |
เปิดฟ้า ก้องหล้า![]() |
...มีโอกาส รีบไขว่คว้า เปิดฟ้า ก้องหล้า แป้งจอดรถ บี.เอ็ม. เก่งสีดำคันงามใต้ตนไม่ใหญ่ใบร่มเขียวชอุ่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปลูกเป็นแถวแนวรั้วของสถานฝึกฝีมื...
มีโอกาส รีบไขว่คว้าเปิดฟ้า ก้องหล้า.......
แป้งจอดรถ บี.เอ็ม. เก่งสีดำคันงามใต้ตนไม่ใหญ่ใบร่มเขียวชอุ่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปลูกเป็นแถวแนวรั้วของสถานฝึกฝีมือแรงงาน
แป้งสวมแว่นตาคันงามสีชา เปิดประตูด้านขวาก้าวลงมาเห็นรองเท้าเป็นเงามันวาววับสะท้อนพุ่งตรงสู่นัยน์ตาผู้คนบริเวณนั้นที่มุ่งมองมายังรถด้วยความสงสัยว่าเจ้าของรถเป็นผู้ใด
แป้งก้าวเท้าขวาลงมาตามด้วยเท้าซ้ายขณะมือจับขอบประตู พร้อมเอนศีรษะออกมาพ้นแนวหลังคารถ เมื่อก้าวย่างได้ถนัดแล้ว แป้งใช้กำลังขาดันตะโพกลุกขึ้นยืนออกมานอกรถ
แป้งยืนเด่นสง่าผมยาวพลิ้วเป็นฝอย ข้างใบหูเป็นจอนยาว ด้านหลังรวบมัดเป็นกระจุกอยู่คลอเคลียกับท้ายทอยที่แสนสวย ร่างสูงสง่า มาตรเข้ม คิ้วดกดำเรียว จมูกโด่งเป็นสันคมสวย
แป้งก้าวถอยหลังออกนอกเขตรัศมีประตูรถเปิดปิดแล้ว เธอปิดมันเบา ๆ เธอนำกระเป๋าสะพายบ่าข้างขวาอย่างสง่างาม พร้อมกับก้าวเดินไปตามถนน ประตูซ้ายน้องชายของเธอออกมาด้วยมาตรเข้มสูงใหญ่เช่นกัน เดินตามเธอไป เธอหันกลับมาไปที่รถพร้อมยื่นมือชี้ไปทางรถที่จอดอยู่ ในมือถือกุญแจรีโมท เธอกดให้คลื่นเลเซอร์ตรงไปยังรถ ซึ่งมีเครื่องรับสัญญาณติดอยู่ภายในพร้อมที่จะทำงานตามหน้าที่ เมื่อได้รับคำสั่งจากเจ้าของรถ ทันใดนั้นมันก็มีเสียงสัญญาณเตือนว่างานเรียบร้อยแล้วหนึ่งครั้ง มันลั่นกลอนประตูหน้าต่าง และล๊อครถอย่างมั่นคง ซื่อสัตย์ สมดังใจปรารถนาของเจ้าของรถ รับประกันความปลอดภัยจากการโจรกรรม
แป้งเดินถึงอาคารสามชั้น ห่างจากรถประมาณ 10 เมตร ชั้นล่างเป็นห้องโถง ห้องทางซ้ายเป็นโรงครัวและห้องน้ำ เธอได้ทักทายปราศรัยกับผู้ที่รู้จักกัน อย่างร่าเริงแช่มใส สนิทและสนุก เธอมีวาทะแหลมคม เป็นที่ประทับใจแก่ผู้ที่ได้ฟัง รู้สึกอบอุ่น เป็นกันเองตามสบาย
แป้งเดินขึ้นบันใดครึ่งทางเลี้ยวขวา วกกลับมาทางทิศทางที่เริ่มขึ้นบันไดมาเท่ากันถึงระเบียงหน้าห้อง แป้งเดินตรงไปยังห้องเรียนคอมพิวเตอร์
ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์กำลังสาละวนในการจัดอุปกรณ์ใช้ประกอบการสอนและฝึกฝนปฏิบัติการซ่อมให้นักศึกษาได้ปฏิบัติ
"สวัสดี ค่ะ " แป้งทักทายอาจารย์ผู้สอนด้วยไมตรีจิตด้วยความเคารพและสุภาพ
" สวัสดีครับ" ครูผู้สอนยกศีรษะขึ้นตรงพร้อมส่วนบนของร่างกายและหันหน้าไปทางเธอลูกศิษย์ยิ้มให้นิด ๆ
"หนูสายไปหรือเปล่านี่" แป้งแสร้งถาม เพื่อเรียกความสนใจ
" ยังไม่ถึงเวลา ครูมาเตรียมอุปกรณ์ก่อนเรียน " ครูตอบ
" เธอเลือกหา ที่นั่งเองได้เลย มีโต๊ะว่างอยู่ด้านหลัง" ครูแนะนำพร้อมชี้มือไปด้านหลังห้อง
" คะ ขอบคุณค่ะ " แป้งรับทราบพร้อมพยักหน้าแล้วเดินไปหลังห้องด้านที่ครูชี้
"สวัสดี พี่ชาย มาถึงนานแล้วหรือยัง" แป้นเริ่มการประชาสัมพันธ์ตามบทบาทประชาสัมพันธ์แบบพันธมิตร
" ประมาณ 10 นาทีแล้วละ" ดำดินตอบ พร้อมยิ้มอย่างละมัยต้อนรับเธอ
" เออ สองตัวนั้นแหละว่างอยู่ เชิญเถอะ " ดำดินบอก
" พี่เป็นช่างคอมพิวเตอร์หรือไม่ " แป้งถามด้วยความสนใจ
" ไม่หรอก แต่อยากจะเป็นช่างกับเขาด้วย จึงสมัครมาเรียนที่นี้ด้วยคน" ดำดินตอบ
" มีแรงบันดาลใจอันใดหรือที่ทำให้พี่อยากเรียนเป็นช่างซ่อมคอมพิวเตอร์" แป้งถามด้วยความอยากรู้ ตามประสาผู้ซุกซนในวัยเด็ก เพื่อประกอบความรู้ อันสร้างคนให้เกิดปัญญา รู้เท่าทันเหตุการณ์ต่าง ๆ และสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยความรู้
" คืออย่างนี้ เมื่อประกาศ 10 ปีมาแล้ว พี่ได้ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้ในรุ่นแรก ๆ ของจังหวัดนี้ที่ใช้กัน เพราะร้านจำหน่ายคอมพิวเตอรมีเพียงแห่งเดียวในจังหวัดนี้ และเป็นร้านจำหน่ายมาประมาณไม่ถึงหนึ่งปี" ดำดินเล่าพร้อมชำเลืองไปทางครูซึ่งกำลังยกคอมพิวเตอรตัวหนึ่งตั้งบนโต๊ะ
" เป็นอย่างไรหรือ " แป้งเร่งตามประสาคนอยากรู้
" วันหนึ่งมีหนูเข้าไปในคอมพิวเตอรและได้กัดสายแพของอารทดิสกับ สายซีพียู ขาด เมื่อเปิดเครื่องจึงไม่เห็นภาพใด ๆที่จอภาพ แต่หลอดไฟของเพาเวอร์ยังติด" ดำดินหยุดนิดหนึ่งพร้อมชำเลืองคนข้าง ๆ กำลังยืนขึ้น
" พี่ทำอย่างไร" แป้งเร้าให้พูดต่อ
"พี่เปิดฝาคลอบออกเห็นสายแพขาดก็ปิดกลับไว้ แล้วพี่นำเครื่องไปให้ช่างในเมืองซ่อมให้ บ้านพี่อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร"
" ก็ไม่ไกลนัก" แป้งเสริม " "แล้วผลเป็นอย่างไร ต้องเสียเงินเท่าไร"
" เพราะเรื่องเงินนี้แหละพี่ยังเจ็บปวดใจยิ่งนัก" ดำดินพูดอย่างมีอารมณ์ขึ้นเสียงดังขึ้นแต่ก็รู้ทันอารมณ์ตนอง และหยุดจังหวะนิดหนึ่งจึงเล่าต่อ
" คือพี่ต้องจ่ายค่าสายแพนั้นราคาเส้นละ หนึ่งพันบาท เมื่อพี่ไปกรุงเทพฯ แวะเที่ยวห้างพันทิพย์ปราซ่ามีวางจำหน่ายราคาเส้นละ 50 บาท ถึง 70 บาท เราโดนต้มแล้ว สุดเจ็บปวดทรมานเหลือเกินน้องเอ๋ย" ดำดินเล่าด้วยตาแดงนิด ๆ เลือดฉีดขึ้นหน้า "
" ทำไมหรือพี่" แป้งถาม
" นายช่างเป็นเพื่อนของพี่เอง พี่ก็เป็นผู้สนับสนุนมันด้วย แต่มันช่างใจดำเหลือเกิน มันทำกับเพื่อนได้ลงคอ นี้แหละมนุษย์ที่หวังแต่ผลประโยชน์อย่างเดียว คิดแต่ว่าเพื่อนโง่หลอกได้เท่าไรก็ได้" ดำดินเล่า
" เพื่อนพี่น่าสมเทจรอง ๆ เพราะเหตุอันใดพี่จึงช่วยเหลือเพื่อนพี่และถูกเพื่อนต้มเอาดื้อ" ปังแหย่ไปเรื่อย ๆ
" สมัยนั้นจังหวัดของเรามีเหตุการณ์วิกฤติทางการเงินเกิดฟองสบู่แตกทางเศรษฐกิจ มือแชร์ล้ม ทำให้คนงานว่างงานเยอะแยะ มีบริษัทหลายแห่งต้องปิดตัวเองลง เพราะไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ เพื่อนของพี่ก็ประสบมรสุมเช่นเดียวกัน" ดำดินถอนหายใจลึกนั่งนิ่งชั่วครู่หนึ่งจึงเล่าต่อ
" ด้วยความรักและสงสารเพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันมาก เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น คือจบมัธยมศึกษาปีที่หกพร้อมกัน รุ่นเดียวกันจากโรงเรียนราษฎร์ที่ได้รับการรับรองวิทยาฐานะ มีศักดิ์มีสิทธิ์เทียบเท่าโรงเรียนรัฐบาลทุกประการ ซึ่งในจังหวัดของเราโรงเรียนนี้เป็นโรงแรกและเป็นโรงเดียวในขณะนั้น น้องก็คงจะรู้"
" จ๊ะ น้องทราบ" แป้งตอบรับ
" พี่และเพื่อน ๆ จึงช่วยเหลือเขาโดยการซื้อหุ้นบริษัทของเขาคนละหุ้นสองหุ้น มีถึงสามหุ้นหุ้น ตามกำลังสามารถที่จะช่วยได้ ในราคาหุ้นละ หนึ่งหมื่นบาท ซึ่งเงินในสมัยนั้นมีค่ามากกว่าปัจจุบันเยอะ " ดำดินเล่า
" พี่ซื้อหุ้นช่วยเหลือเพื่อนตอนนั้นกี่หุ้น" แป้งถาม
" แค่ สามหุ้นเท่านั้น พี่ก็ไม่คอยมีเงิน ลูกก็เรียนหนังสือ ไหนจะต้องจ่ายค่าภาษีสังคม แต่ละเดือนเงินหมดไปเพราะจ่ายค่าภาษีสังคม เช่นงานแต่งงาน งานบวช ซึ่งมีเป็นฤดูกาล แต่งานศพ นี้มีตลอดปี พี่ได้ย้ายไปทำงานในสถานที่หลายแห่งในจังหวัดนี้ จึงมีคนรู้จักมากเป็นธรรมดา ตลอดจนเพื่อน ๆ ญาติ ๆ อีกมากเหลือสุดจะกล่าว สำหรับพี่ใช้จ่ายในครอบครัวนั้นจ่ายไม่ถึง เศษหนึ่งส่วนสี่ของเงินช่วยงาน" ดำดินมีอาการเกร็งเล็กน้อย
" สำนวนดีนี่ พูดเสียยืดยาวเลยนะพี่ " แป้งต่อว่า
" เห็นใจพี่เถอะ พี่มีโอกาสได้ระบายแล้วขอความกรุณาอภัยให้พี่ด้วยนะจ๊ะ น้องสาวคนดี" ดำดินกล่าวขอความเห็นใจเชิงขอร้อง
" ไม่มีปัญหาหรอกพี่" แป้งตอบโดยไม่ต้องคิด
" เชิญทุกท่านประจำที่ " ครูผู้สอนคอมพิวเตอร์บอกให้เตรียมความพร้อมในการเรียน
ทุกคนนั่งลง ที่เดินอยู่ก็กกลับมาที่นั่ง และคนยืนคุยกันข้างนอกก็รีบเข้าห้องมา
" เหตุนี้ละหรือที่พี่มาเรียนคอมพิวเตอร์" แป้งกระซิบ
" ยังมีอีก ให้ว่างก่อนค่อยเล่าให้ฟัง ถึงเวลาของครูจะสอนแล้ว ตั้งใจฟังดี ๆ นะ รีบคว้าเอาความรู้ให้มากที่สุดนะน้องนะ"
" จ้า ขอบคุณค่ะพี่"
บทสนทนาของทั้งสองก็จบลงชั่วคราวเพียงเท่านี้
" สวัสดี นักศึกษาวิชาคอมพิวเตอร์ทั้งหลาย " ครูทักทาย
" ผมคิดว่าทุกคนมีแนวคิดก้าวหน้าในเรื่องเทคโนโลยีและเป็นผู้ตื่นตัว ทราบว่าบางคนเป็นช่างซ่อมคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว บางคนทำหน้าที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีความรู้ด้านการใช้เป็นเครื่องมือประกอบอาชีพ มิได้มีความรู้ในด้านการซ่อมแซมและบำรุง" ครุสาธยายเกริ่นอารัมภบท
"คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือด้านเทคโนโลยีที่เรียกว่า " โลกาภิวัตร" เพราะเครื่องนี้มีประมวลความจำ เป็นสมองที่สามารถจำแล้วดึงมาใช้ได้ทันใจ รวดเร็ว จนสามารถคำนวณเลข 10 หลักได้ถูกต้อง แม้จะเป็นเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ของตัวเลขก็ตาม" ครูอธิบาย
"คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือสื่อสาร ประกอบด้วย ฮาร์ดแวร์ และซอบแวร์ ฮาร์ดแวร์หมายถึงอุปกรณ์ภายนอก เช่นตู้ใส่เครื่อง เรียกว่า แกส แหล่งจ่ายไฟ ยูพีซี หรือแผงรวมวงจรที่เรียกว่า แมนบอร์ด ตลอดถึง เม้าส์ คีบอร์ด ฯลฯ"
" ซอฟแวร์ หมายถึงอุปกรณ์ภายในซึ่งไม่สามารถจับต้องได้ แต่สามารถเห็นได้ เช่น โปรแกรมวินโดว์ เกมส์ และโปรแกรมอื่น ๆ อีกมากมาย"
"ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย ยู.พี. ซี เป็นแผ่นสำหรับบรรจุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ประกอบเข้าเป็นคอมพิวเตอร์ อารทดิส เป็นส่วนสำคัญของคอมพิวเตอร์ในการใส่บรรจุโปรแกรมต่าง ๆ ไว้ใช้งาน ซีดี-รอม เป็นอุปกรณ์ในการอ่าน หรือเขียน แผ่นซีดี ใช้ในการดูหนัง ฟังเพลง ปลอบพี้ดิส เป็นอุปกร การอ่านเขียนแผ่นดิส มีความจุ 1.44 แมกกะไบท์ เป็นแผ่นสีเหลียมขนาด 3.5 นิ้ว ทั้งความกว้างและความยาว คีบอร์ด เป็นอุปกรณ์ สำหรับพิมพ์อักษรเป็นเรื่องราวต่างและจำนวนตัวเลข เม้าส์ เป็นอุปกรณ์ ใช้ติดต่อและตกลงกับโปรแกรมต่าง ๆ จอภาพ เป็นอุปกรณ์ สำหรับให้ภาพจากข้อมูลในเครื่องไปปรากฏตามที่ผู้ใช้งานกำหนดให้เป็นไป " ครูหยุดพูดพร้อมกวาดสายตาไปรอบ ๆ และนำอุปกรณ์มาแสดงให้นักศึกษาดูเป็นตัวอย่างครั้งละชิ้น ตามแต่เนื้อหาของบทเรียนเกี่ยวด้วยอุปกรณ์ชิ้นใด ให้ดูจนครบทุกชิ้น ทำให้ผู้เรียนมีความสบายใจ เห็นพร้อมภาพของจริง ทั้งที่จับต้องได้และที่จับต้องไม่ได้
ครูได้อธิบายถึงหน้าที่การทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่นแมนบอร์ด หรือที่เรียกว่า แผ่นติดตั้งอุปกรณ์อีเลคโทรนิคมากมาย เช่น อาร์ทดิส เป็นส่วนสำคัญในการสร้างหรือติดตั้งโปรแกรม ต่าง ๆ ในการใช้งาน หรือค้นหาความรู้จากอินเตอรเนต
ไอซี เป็นแผนวงจรไฟฟ้าเล็ก ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อทดแทนอุปกรณ์วงจรใหญ่ ๆ มีรูปสี่เหลี่ยม มีเข้าตั้งแต่ 4 ขา 6 ขา 8 ขา 10 ขา ฯ และหลาย ๆ ขา ที่ใช้ในเครื่อง คอนเด็นเซอร์ รีซีสเตอร์ ยูพีซี แหล่งจ่ายไฟ ขาเสียบอุปกรณ์ (สลอต) ซีดีรอม ฯลฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใช้ดูหนัง ฟังเพลง มโนราห์ ฯลฯ และกิจกรรมอื่น ๆที่ได้ถ่ายทำเสนอ
" คอนเดนเซอร์ เป็นเครื่องจัดกระแสไฟเป็นช่วงลบและบวก อาศัยช่วงละครึ่ง กลืนประสานสัมพันธ์การเป็นตัวเหนียวนำกระแสไฟฟ้า และดึงกระแสไฟฟ้า"
" รีซิสเตอร์ เป็นตัวต้านทานกระแสไฟฟ้า
คอยเป็นขดลวดพันกัน เมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านจะเหนียวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้า
สล๊อต เป็นสี่เหลี่ยมที่มีความกว้างความยาว มีขาไว้สำหรับเสียงอุปกรณ์เป็น สิบ เป็นร้อย ไว้สำหรับติดตั้ง สายแพ และสายอื่น ๆ
สิบสองนาฬิกาแล้วเชิญนักศึกษาทุกท่านได้พักรับประทานอาหารมื้อกลางวัน ทราบว่าบางคนคดข้าวห่อ มานั้นไปรับประทานที่ร้านอาหารใกล้ ๆ นี่
สำหรับท่านที่คดข้าวห่อก็ไปรับประทานที่โรงอาหาร เรามีพัดลม มีโทรทัศน์ และน้ำดื่มบริการ และเป็นวันปิดเรียนของนักเรียนเขา เพราะท่านมาเรียนวันเสาร์ อันอาทิตย์
" พี่ มีแกงอะไร คะ" แป้งถาม
" แกงคั่วเผ็ดครับ" ดำดินตอบ
" ไหนพี่บอกว่าจะเล่าอะไรต่อ" แป้งประท้วงแกมหยอก
" กินพลางเล่าพลาง เป็นการสร้างและประสานความรักสามัคคีภายในครอบครัว ที่นี้ก็เช่นเดียวกัน"
หลังจากรับทานอาหารเสร็จ เราช่วยกันทำความสะอาด กวาดเก็บเรียบร้อย ตอนเย็นเราช่วยกันชวนเพื่อน ๆ ในชั้นเรียนเดียวกันให้คดข้าวห่อ ถ้าสถานการณ์เหมาะสม ทุกคนก็ตอบรับด้วยความยินดี
รุ่งขึ้นเมื่อมาเจอกันในห้องเรียน ทุกคนได้คดข้าวห่อมาร่วมรับประทานมื้อกลางวันกัน แต่มีบางท่านยังไม่พร้อมและได้มีความพร้อมในวันต่อมา
ทุกเทียงวันเรามาร่วมรับประทานอาหารกันที่โรงอาหารของศูนย์พัฒนาแรงงาน เพียงสามวันทุกคนต่างคดข้าวห่อกันครบ ได้นั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนานในระหว่างรับประทานอาหาร
จากภารกิจอันนี้ทำให้เรามีความสนิทสนมกันดุจญาติมิตร เป็นกันเอง ให้คำแนะนำตามโอกาส ดุจพี่น้องคลานตามหลังกันมา
วันสุดท้ายของการเรียนทุกคนน้ำตาไหล ด้วยความอาลัย แต่มิตรสัมพันธ์นั้นยังตรึงแน่นอยู่ในทุกดวงใจ ตลอดมา
เมื่อวันที่ : 07 ส.ค. 2558, 20.53 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...