![]() |
![]() |
เปิดฟ้า ก้องหล้า![]() |
..."ยอดตกจากเสาธง! ช่วยด้วย" เมืองตะโกนดัง ๆ พร้อมกับวิ่งไปที่กองทรายซึ่งมีหลักหักสะบั้นชูเด่นอยู่มีเสียงกรีดเจี๊ยวจ๊าวดังลั่นไปทั้งวัด ผู้คนพากันแตกตื่น ต่างม่งตรงไปยังท่ีกองทราย เปั้าหมายอันเดียวกัน...
"ยอดตกจากเสาธง! ช่วยด้วย" เมืองตะโกนดัง ๆ พร้อมกับวิ่งไปที่กองทรายซึ่งมีหลักหักสะบั้นชูเด่นอยู่มีเสียงกรีดเจี๊ยวจ๊าวดังลั่นไปทั้งวัด ผู้คนพากันแตกตื่นต่างมุ่งตรงไปยังที่กองทราย เป็นจุดเดียวกันวัดนี้ยอดเป็นส่วนในการช่วยเหลือให้กิจการของวัดดำเนินไปเรียบร้อยด้วยดี มาหลายปีแล้ว ฉะนั้นเขาจึงอาสาสมัครที่จะช่วยเหลืองานทุกอย่างทั้งที่เป็นงานง่าย ๆ และงานที่ต้องยุ่งยากลำบากก็ตาม
วันนี้ วัดได้จัดงานทอดกฐิน ซึ่งมีพุทธบริษัทในตำบล เป็นส่วนประกอบขององค์กฐินที่เป็นฝ่ายเจ้าภาพ ซึ่งจะต้องเป็นแก่นนำในการจัดทำต้นพุ่มเงิน ใช้ต้นฉัตรมาติดเป็นพุ่มเงิน โดยนำเงินมาติดเป็นพุ่มเงิน เพื่อแสดงให้โลกได้ทราบว่าตระกูลของบ้านนั้นเป็นผู้นำในสังคม และเป็นที่ยอมรับของสังคม
เมื่อมาถึงวัดประมาณ 9 โมงกว่า ได้มีพายุพัดอย่างแรง ทำให้สายธงราวซึ่งปักอยู่บนกองทรายที่จะทำการฉลองในตอนเช้า ก่อนพิธีทอดกฐินขาดลง เมื่อฝนตกและลมพัดแรง ทุกคนต่างคิดตรงกันว่า จะต้องผูกสายธงราวนั้นขึ้นสู่ยอดเสาตามเดิม
ไม่มีใครสามารถทำได้ จะเอาเสาธงลงมาก็ลำบาก เพราะปักไว้ตรงกองทราย และยังมีเชือกธงราวอยู่อีก 2 เส้น ที่ผูกกับเสา เพื่อผูกเป็นสายธงราว ยอดจึงอาสาปีนขึ้นไปผูกเองบนยอดเสา โดยการนำเชือกสายธงราวมาผูกที่สะเอวของตน แล้วทำการปีนป่ายขึ้นไป เพื่อนำสายธงที่ขาดไปผูกรวมกันบนยอดเสากับอีก 2 เส้น ยอดเริ่มไต่ขึ้นไป
เมื่อไต่ขึ้นไปเกือบสุดของเสาธง ยอดพยายามดึงสายธงราวออกจากสะเอวนำไปผูกกับสายอื่น ๆ ทันใดนั้น เสียงเสาธงลั่นดังเปียะ ๆ ผะ ๆ และล้มหักออกสองท่อน ซึ่งเป็นส่วนล่าง ส่วนบนก็เอียงออกข้าง ๆ เพราะแรงเหวียงของน้ำหนักของยอด ทำให้เขาตกลงไปบนกองทราย โดยมิได้กระทบกับส่วนล่างของเสาที่หัก น้ำหนักของยอดทำให้กองทรายแยกออก จนกองทรายลุ่มลึกลงไป พร้อม ๆ กันนี้ก็มีเสียงกรี๊ดร้องดังไปทั้งวัดชั่วระยะหนึ่ง
เมื่อทุกคนเห็นว่ายอดมิได้เป็นอันตราย ส่วนขา แขนไม่หัก และส่วนอื่นๆ ไม่มีบาดแผลก็รู้สึกโล่งใจ
"ช่วยเขาเร็วเข้า" พร้อมๆ กันหลายคนวิ่งเข้ามาเพื่อช่วยเหลือยอด เมื่อทุกคนมาถึงคนบาดเจ็บ ทุกคนต้องยืนชะงักงัน เมื่อแน่ใจแล้วว่า ยอดไม่ได้เป็นอะไรมากนัก คือขา แขนไม่หัก หัวไม่แตก และไม่มีแผลเหวอะหวะ
"ขอรถด้วย จอม ๆ ไปเอารถมาเร็ว"
จอมซึ่งเข้ามาช่วยยอดก็ต้องถอยหลังออก รีบไปที่รถกระบะสี่ประตู สตาร์ทเครื่อง นำรถออกอย่างรวดเร็วมายังข้างกองทราย หนุ่ม ๆ หลายคนที่ยืนรออยู่แล้ว ก็ช่วยกันจับยอดคนละมือด้วยความระมัดระวัง เมื่อเห็นว่ายอดไม่มีรอยแตกหรือหัก แต่ยังคงสลบอยู่ ก็นำร่างของยอดขึ้นรถส่วนหลังพร้อมด้วยเพื่อน ๆ จำนวนหนึ่ง รถก็รีบมุ่งสู่โรงพยาบาล ซึ่งอยู่ไม่ห่างไกลนัก
เมื่อถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่เปลก็นำรถเปลนอนมารับ เจ้าหน้าที่ช่วยกันยกร่างของยอด ซึ่งมีญาติของยอดช่วยยกใส่เปลรถด้วย เปลรถถูกนำส่งทางสายด่วนไปยังห้องฉุกเฉิน แพทย์และพยาบาลช่วยให้ยอดฟื้นคืนสติได้ปกติเช่นเดิม
แพทย์เวรก็เข้าไปในห้องและได้ตรวจพบว่าไม่มีสวนใดบาดเจ็บมาก เพราะทรายมันอ่อนตัว แต่ยอดรู้สึกปวดหลังขณะที่จะเอี้ยวตัวไปหยิบของ จึงบอกนายแพทย์ นายแพทย์ก็สั่งให้ไปถ่ายเอกซเรย์ บริเวณหลังส่วนล่างที่มีอาการบาดเจ็บของยอด
พยาบาลประจำคนป่วยได้นำหลักฐานการรักษา ประวัติคนป่วยไปให้ห้องเอกซเรย์พร้อมกับคนป่วย
ผลจากการตรวจชันสูตรของนายแพทย์ และพยาบาลจากฟิล์มเอกซเรย์ พบว่า กระดูกข้อสันหลังร้าว แต่ก็ควรจะรักษาให้หายได้ไม่ยากนัก
เจ้าหน้าที่ได้นำคนป่วยกลับไปที่ห้องฉุกเฉิน หลังห้องอุบัติเหตุ โดยแพทย์ให้ยอดรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉิน จนกว่าแพทย์จะสั่งให้ไปประจำห้องรักษาร่วมหรือห้องพิเศษ
ขณะที่ญาติของยอดได้ไปจองห้องพิเศษไว้แล้ว ห้องพิเศษว่างอยู่แต่แพทย์ยังไม่ยินยอมให้ไปรักษาในห้องนั้น แพทย์ยังต้องการให้รักษาตัวอยู่ห้องรวม เพื่อความสะดวกในการเฝ้าระวังดูแลของแพทย์และพยาบาลในระยะต้น เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่งแล้ว คงจะอนุญาตให้ออกไปรักษา ณ ห้องพิเศษ ซึ่งเป็นความสะดวกของญาติพี่น้องที่ไปเฝ้าช่วยเหลือ
ยอดเสียดายเหลือเกินที่วันนี้ไม่สามารถอยู่วัดร่วมพิธีทอดกฐินได้ เพราะอุบัติเหตุแท้ ๆ
ยอดนึกถึงกฐินเมื่อปีก่อน ซึ่งการทอดกฐินครั้งนั้นเต็มไปด้วย ความสนุก มีการแห่กระบวนกันเป็นกระบวนยาวเหยียด มีการรำกลองยาวไปตลอดทาง
ยอดยังนึกถึงใครอีกคนหนึ่ง ซึ่งสามารถพูดและอ่านหัวใจกันได้อย่างลึกซึ้ง เมื่อปีปลายแต่ปีนี้จะได้พบเธอหรือไม่ ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน หรือว่าเป็นนางฟ้ามาหลอกหลอนกันแน่
ในการแห่กฐินสามัคคีครั้งนั้น เริ่มต้นจากบ้านของเจ้าภาพกฐินซึ่งเป็นลุงของยอด ท่านเป็นผู้ที่มีฐานะดี เป็นผู้ที่สังคมยอมรับถึงความเป็นคนสังคมดีมีประชาสัมพันธ์ดี มีเพื่อนฝูงมากทั้งในสังคมชาวบ้านและสังคมฝ่ายปกครอง เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สภาองค์การบริหารส่วนตำบลและสภาเทศบาลตำบลหรือส่วนราชการในจังหวัด
วันนี้ยอดได้รับหน้าที่เป็นเจ้าเงาะ และเมืองได้รับหน้าที่เป็นชูชก มีผู้ร่วมกิจกรรมอีกเช่น นางมัทรี เด็กชายกัญหา และเด็กหญิงชาลี
เมื่อแต่งกายเสร็จแล้วก็ได้ออกจากบ้านไปในตลาดกลางเมือง โดยมีรถประชาสัมพันธ์ พร้อมป้ายโฆษณาเชิญชวนทอดกฐิน เมื่อคณะของเรามาถึงตลาดและลงจากรถ ได้เริ่มขอเงินจากพุทธบริษัท เจ้าเงาะข้ามไปอีกฝากถนนหนึ่ง พร้อมด้วยเบ็ด สวนซีกนี้ให้เป็นหน้าที่ของชูชกและกัญหา -- ชาลี ได้ดำเนินการขอเงินกันตามเทคนิคและวิธีของแต่ละคน คือ เจ้าเงาะใช้เบ็ดขอโดยการตกปลา ส่วนชูชกขอโดยการใช้กะลาถือพร้อมจูงกัญหา --ชาลีไปด้วย ส่วนนางมัทรีและพระเวชสันดร กับนายพรานเจตบุตร นายพรานเป็นผู้ล่า ส่วนพระมหาเวชสันดรและพระนางมัทรี เพียงเดินตามหลังเท่านั้น
ยอดเองนุ่งจูงกระเบนยักรั้งใช้เชือกมัดผ้านุ่งไว้มิให้หลุดต่างเข็มขัด ขณะเดินเจ้าเงาะเดินเหยาะ ๆ สวมวิกผมหยิก ผิวนั้นทาด้วยถ่านไฟตำให้ละเอียดผสมด้วยน้ำมัน ปากทาด้วยลิสติกสีแดง พร้อมด้วยคันเบ็ด สะพายข้อง ภาชนะใส่ปลาทำด้วยไม้ไผ่ เดินไปตามถนนในเขตชุมชนและข้างถนนในตลาดที่มีคนอยู่มาก ในตลาดมีคนมาจับจ่ายซื้อของ ผู้มีจิตศรัทธาเหล่านั้นได้ใช้เงิน จะเป็นธนบัตร หรือเหรียญ โดยใช้คลิปหนีบเงินให้ไป เงินก็จะห้อยแกว่งไปมา เจ้าเงาะก็จะดึงเบ็ดกลับไปแล้วเก็บเงินใส่ข้อง ปล่อยเบ็ดให้ไปที่ผู้คนที่นั่งขายของหรือเดินผ่านไปมา เจ้าเงาะปลดเงินจนเหนื่อยเหงื่อแตกซิก แต่ก็ต้องอดทนเพื่อสร้างบุญกุศล เจ้าเงาะกระดกเบ็ดมาเรื่อย ๆ ได้รับการต้อนรับจากพุทธบริษัทอย่างดี มีการหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน เจ้าเงาะหย่อนเบ็ดไปที่ใคร ผู้นั้นต้องควักเงินออกมาติดเบ็ดเจ้าเงาะ ด้วยอาการสนุกสนาน การเดินของเจ้าเงาะก็มีการเต้นไปถอยไป ให้รับกับจังหวะการโยนเบ็ด การดึงเบ็ด
ฝ่ายชูชกเดินไปตามฝั่งถนนตรงข้ามกับเจ้าเงาะ พร้อมด้วยเด็กหญิงชายคู่หนึ่ง แต่งกายเป็นเด็กผู้มีฐานะดีทางสังคม คือ โอรสและธิดาของกษัตริย์ ชูชกจูงกุมารกุมารีขอทานขอเงินเขามาทอดกฐินตลอดทาง ชูชกได้เงินเต็มย่ามที่สะพายมา
แม่ค้าชอบอกชอบใจ ใส่เหยื่อละ 20 บาท 50 บาท ใบละ100 บาทก็มีให้เจ้าเงาะตกเบ็ดมาตลอดทาง
สองกุมารซึ่งชูชกจูงมา เธอก็ส่งเสียงร้องมาด้วย ทำให้แม่ค้าย่านตลาดเมตตาสงสาร ได้มอบขนมที่ตนขายให้สองกุมารกุมารีได้กินกันเยอะแยะ ตลอดจนน้ำดื่ม กล้วยอ้อย
สองเด็กมีความสุภาพเรียบร้อย เมื่อแม่ค้าให้ขนมนมเนยผลไม้ น้ำเมื่อรับของต่างก็ยกมือไหว้เป็นการขอบคุณทำให้เป็นที่ประทับใจของพ่อค้าแม่ค้าร้านตลาดและประชาชนที่ผ่านไปมา เป็นอย่างยิ่ง ยิ่งสร้างศรัทธาและยินดีจะทำบุญตามศรัทธาที่บังเกิดขึ้น ทำให้กัญหา และชาลีสุดปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง
จากเจ็ดโมงเช้าจนเกือบสิบโมง ชูชกก็จูงเด็กสองคนเดินขอทานมาถึงมุ่มตลาด ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายวัสดุภัณฑ์สำหรับการบวชพระ และเครื่องบริขารผ่านหน้าร้านไป เจ้าของร้านได้ออกมาช่วยบริจาคให้กับกัญหา ชาลี และเมือง ชูชกรู้สึกชอบสาวคนนี้มาก อยากจะยืนอยู่นาน ๆ ก็ทำไม่ได้จึงต้องขอทานต่อไปจนลับหายไปจากบ้านหลังนี้
ชูชกหันมามองกัญหา ชาลีแวบหนึ่ง จึงเหลียวกลับเข้าไปในบ้าน มองเห็นผ่านเลยไปหลังบ้าน แต่ไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นแล้ว เธออยู่ที่นี้หรือไม่ หรือคนผ่านทาง ไม่ทราบได้ เขาเสียดายมาก ที่เธอรีบจากไปเร็วเกินไป เขามองไม่ทันอิ่ม
หน้าตลาดขณะนั้นมีรถตู้มาจอด มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งลงจากรถ ยอดได้โอกาสก็ทอดคันเบ็ดไปหาสาวกลุ่มนี้ทันที ได้รับการตอบสนองทันที หลายคนได้ใช้เงินคลิปเข้ากับเบ็ดของเจ้าเงาะ ๆ ใส่ข้องอย่างสบาย จนกระทั้ง หญิงหนึ่งร่างเพรียว ผมยาว ตาคม จมูกโด่งใหญ่ ผิวขาวเนียนเรียบ สดใส เธอก็นำเงินจากกระเป๋าคลิปเข้ากับเบ็ดของเจ้าเงาะ คลิปเสร็จจะปล่อยมือจากเบ็ดตาก็จ้องไปข้างหน้าเจอกับตาของเจ้าของเบ็ดพอดี ตาประสานกับตาของยอด ตาต่อตา ต่างคนต่างมอง อ่านและรู้ภายใจใจซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างเกิดความรัก ต่างคนต่างชอบ ต่างคนต่างมีความรัก ต่างคนต่างมีความเสน่หาซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างชวนให้หลงใหล ต่างคนต่างยินดี ดอกรักในใจของทั้งสองต่างคนต่างบาน ทั้งสองตัดสินใจว่าจะต้องเป็นของกันและกันหลังจากมีพิธีแต่งงานถูกต้องตามประเพณีและวัฒนธรรมไทยแล้ว จะไม่มีการแถมฟรีก่อนมีการซื้อขาย ของแถมนั้นตามธรรมชาติต้องชื้อของก่อนจึงจะมีการแถม แต่บางอย่างในปัจจุบันมีการแถมก่อนการซื้อขาย ซึ่งทำให้เจ้าของกิจการเสียดุลย แต่คนงานอาจจะได้ประโยชน์ หรือโดนหลอกต้มตุ่นก็ไม่แน่ใจ
จากนั้นคณะกรรมการของวัดก็วักมือเรียกให้ เจ้าเงาะ ชูชก กัญหา ชาลี ไปขึ้นรถเพื่อกลับวัด เพราะอากาศวันนี้ร้อนมาก เจ้าเงาะ เหงื่อโซมกาย สงสารเด็กที่ต้องมาจากแดด เด็กทั้งสองอาจจะป่วยไข้ไปเสียก่อน เพราะทั้งสองเป็นเด็กนักเรียนไม่สันทัดการตากแดดนาน ๆ แต่ทั้งสองก็มีความพยายามที่จะช่วยเหลือวัดด้วยความเต็มใจ ก็นับได้ว่าเป็นบุญบารมีอย่างยิ่ง
ขณะนั่งรถกลับวัด ยอดยังเห็นภาพสาวสวยที่โปรยยิ้มให้และหนีบเงินกับเบ็ดแล้วปล่อยให้เกิดอุบัติเหตุทางหัวใจอย่างรุนแรง กระทบกระเทือนไปกันทั้งคู่ ต่างคนต่างสยิวหัวใจเต้นตูมตาม
ยอดคิดว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก ยอดเป็นเด็กวัดจน ๆ แต่เธออาจจะเป็นดอกฟ้าที่แสนดีและสูงสุดสอยก็ได้ เราจะไปรักเขาได้อย่างไร หรือจะต้องอกหักเสียแล้วหรือนี่ หรือเราก็เป็นผู้ที่เหมาะสมกันที่สุดก็ได้ ยอดยังคิดต่อไปเรื่อย ๆ
"ยอด ..มีคนจะทำบุญส่งเบ็ดออกมาซิ" มีคนเตือน
" ยอดสะอึกและสะบัดหน้าพร้อมยิ้มนิด ๆ พร้อมส่งเบ็ดไปให้ผู้หญิงกลุ่มนั้นซึ่งยืนอยู่หน้าตลาด เพื่อเตรียมรับยอดขึ้นรถกลับวัดไปทันเพล และได้ช่วยกันรวบรวมเงินจำนวน 7 -- 8 ใบ ๆ ละ 20 บาท หนีบกับคลิปและปล่อยให้เจ้าเงาะกระตุกเข้าหาตนเองและเก็บเงินลงข้องปลาที่สะพายอยู่ แม้สาวเหล่านั้นจะอยู่ในวัยเดียวกัน รุ่น ๆ สวย ๆ สังเกตจากเครื่องแต่งกายเครื่องใช้แล้วแสดงว่าเธอเหล่านั้นอยู่ในครอบครัวที่มีฐานะดี แต่ยอดไม่ได้สนใจใยดีพิเศษแม้เพียงนิดเดียว
ยอดนั่งก้มหน้ามองพื้นอย่างจดจ่อ ลองทายดูซิว่าในสมองของยอดมีอะไรผสมอยู่บ้าง หรือมีแต่ความว่างเปล่า
ความรู้สึกนึกคิดของยอดเป็นไปอย่างไร หรือมีอะไรมาเข้าตาเขาบ้าง สาว ๆ เหล่านั้นเดินจากไป
ตลอดทางที่ผ่านมาสองกุมารกุมารีสังเกตเห็นว่ายอดเปลี่ยนไป จากที่เคยคึกคัก ดูซึม ๆ ไป สังเกตเห็นว่าจิตใจของยอดกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความวุ่นวาย
ยอดกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่างหนึ่ง ใครจะรู้ได้ดีเท่ากับตัวของเขาเอง ซึ่งคนอื่นยากจะคาดเอา
"เออ! มันแปลกดีนะ ตุ๊ก ที่คนมองกันแล้วยิ้มด้วยสายตาที่มันเยิ้มและหลังจากนั้นมีอาการเซื่องซึม เหงาหงอย" อ้อพูดกับตุ๊ก
เมื่อรถประชาสัมพันธ์ผ่านมาจะเลี้ยวเข้าประตูวัด ซึ่งตามข้อตกลงนั้น เจ้าเงาะ ชูชก กัญหาชาลี จะต้องลงจากรถเพื่อเรี่ยไรเงินก่อนเข้าประตูวัด แล เรี่ยไรเงินด้วยการตกปลาและขอทาน พร้อมด้วยสองกุมารกุมารีด้วย
"ยอด ตื่น ๆ ถึงประตูวัดแล้ว ลงไปหย่อนเบ็ดขอเงินเดียวนี้ ชูชกลงไปแล้ว" ตุ๊กเตือนยอด
"พี่เขาป่วยเสียแล้วละ" อ้อ
"เขาเป็นอะไรหรือ "
"คงจะรักษายาก น่าจะอกหักอะไรทำนองนั้น" อ้อ หยอกเย้ารุ่นพี่
ยอดสะดุ้งตื่นกระโดดอย่างกระฉับกระเฉงลงจากรถพร้อมด้วยคันเบ็ดเพื่อเตรียมทำงานต่อไป
กัญหา ชาลี ชูชกก็ลงจากรถพร้อมคนอื่น ๆ แยกกันไปขอเงินตามที่กำหนดไว้ โดยเดินวนไปทุกกลุ่มของชาวบ้านที่นั่งอยู่ภายในบริเวณวัด เงาะป่าไปทางหนึ่ง ชูชกไปอีกซีกหนึ่ง นายพรานไปอีกทางหนึ่ง แต่ไปบรรจบกันที่ศาลาการเปรียญของวัด
เงาะป่าไม่สดชื่นร่าเริงเหมือนเมื่อครั้งไปที่ตลาด หรือเขาคงจะเหนื่อยกายหรือเหนื่อยใจ ที่เจอผู้หญิงกระแทกสายตาเข้าใส่อย่างแรง จนหัวใจระเบิดสลายไปแล้วก็ได้
กลับมาที่เตียงคนป่วยภายในโรงพยาบาล
พยาบาลเข้ามาทำแผลบริเวณข้อเท้าให้ยอด ยอดมองแล้วเฉย ๆ สายตาเหม่อลอยขึ้นไปมองเพดาน โดยมิได้สนใจหรือแยแสกับพยาบาลที่ทำแผลให้แต่น้อย จะเป็นเวลาทานข้าว ญาติเข้ามาช่วยเหลือและป้อนให้ เมื่อทานอาหารเสร็จก็มียาหลังอาหาร พยาบาลก็นำมาให้ญาติรับไปป้อนให้พร้อมให้ดื่มน้ำตามหลัง
จนประมาณสี่โมงเย็น พยาบาลกลุ่มหนึ่งได้เดินมาเยี่ยมไปทุกเตียง ซึ่งสังเกตแล้วมีพยาบาลอยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นผู้พูดอธิบายลักษณะของคนป่วยว่ามีอาการอย่างไร อีกฝ่ายหนึ่งคอยรับทราบพยักหน้ารับ และ อาจถามอาการทั่วไป หรือข้อสงสัยจากพยาบาลเวรก่อนหมดหน้าที่และส่งมอบงานหน้าที่รับผิดชอบให้กลุ่มต่อไปรับผิดชอบคนป่วยและทำได้ถูกต้อง ซึ่งในบันทึกของชาร์ตผู้ป่วยก็มีอยู่แล้ว ชาร์ต คือแผ่นรายการบันทึกอาการป่วยและการรักษาของคนป่วย
ยอดไม่ได้สนใจพยาบาลเหล่านั้น เขามองไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นช่องทางหน้าต่าง ยอดมองไปสุดขอบฟ้า ด้วยอาการเลื่อนลอย ดวงใจของยอดกำลังลอยออกไปจากร่างไป
ก่อนที่จะสิ้นชีวิตจริง ๆ"
"หนุ่มเป็นอย่างไรบ้าง"
เงียบ...มิมีปฏิกิริยาใด ๆ เกิดขึ้น
"ยอดพยาบาลเขาจะถาม" ญาติของยอดเขย่าให้เขาตื่นจากภวังค์ก่อน
ยอดมองมายังคนเขย่าพร้อมยิ้มนิด ๆ มิได้พูดอะไร พร้อมกับเบนสายตากลับมาที่พยาบาลซึ่งยืนอยู่ใกล้ ๆ เพียง 2 -- 3 คน ซึ่งเป็นพยาบาลชุดใหม่
ยอดสะดุ้งโหยง บางคนคิดว่ายอดคงจะเจ็บปวดที่มีอาการขยับเขยื้อนอวัยวะส่วนใดก็ได้ แต่ทุกคนก็ประจักษ์ว่าสายตาของยอดกับของพยาบาลสาวสวย ผมยาวม้วนจับกลุ่มไว้ด้านหลังด้วยสายรัดนั้น กำลังมองกันอย่างนิ่งสงบ ยอดยิ้ม ยอดมีความสุขใจ ยอดอยากจะลุกขึ้น อยากจะตะโกนให้ก้องโลก แต่ยอดทำไม่ได้ ยอดเพียงแต่ยิ้มและจ้องมองหน้าเธอ
"มาเมื่อไร " พยาบาลสาวสวยถาม
"ตอนเช้านี้เอง"
"เป็นอะไรหรือ"
"เสาธงหักจึงตกลงมา" ญาติของยอดตอบแทนยอด
"ทำอะไรหรือจึงตกลงมาได้"
"สายธงราวในงานวัดขาด เขาขึ้นผูกสายธงราวให้ ขณะที่ผูกอยู่เสาหักเสียก่อน จึงต้องพามานี่"
"นานแล้วไม่เคยเจอกัน เราพบกันเมื่อปีปลาย ขณะที่มีการทอดกฐินสามัคคีเช่นกัน"
"ครับ .... คุณจำได้ เก่งมาก ผมก็จำได้"
"ค่ะ จำได้ เธอเป็นเงาะป่าตกปลามิใช่หรือ"
"ใช่ครับ"
"กำลังตามหารจนาอยู่ เป็นปีแล้ว"
"คงจะได้เจอ เธอไม่ต้องห่วง"
"ถ้าอย่างนั้น ผมหวังว่าสวรรค์คงเมตตา"
........................
เมื่อวันที่ : 18 มิ.ย. 2558, 16.26 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...