![]() |
![]() |
เปิดฟ้า ก้องหล้า![]() |
...รับคนไหนก่อน "พวกเราเตรียมตัว วันนี้ต้องไปรับอีก 1 คน ใกล้จะถึงเวลาแล้วละ ไปได้" "พร้อมแล้วครับ เชิญได้เลย" "ไหน อยู่ไหน ไม่เห็นมีใครเลย ใกล้ถีงเวลาแล้ว"เจ้าเทพจอมยมทัณฑ์ หรือยมทูต...
รับคนไหนก่อน"พวกเราเตรียมตัว วันนี้ต้องไปรับอีก 1 คน ใกล้จะถึงเวลาแล้วละ ไปได้"
"พร้อมแล้วครับ เชิญได้เลย"
"ไหน อยู่ไหน ไม่เห็นมีใครเลย"
"ใกล้จะถึงเวลาแล้ว" เจ้าเทพยมทัณฑ์
"ไม่เห็นมีใครนี่ท่าน มีแต่นักเรียนผู้หญิงคนเดียว กำลังยืนรอใครอยู่หรือรออะไรก็ไม่ทราบ ยังสาวอยู่ ยังสวยอยู่ เธอจะตายได้อย่างไร อายุเธอเพียง 14 เท่านั้น" บริวารเทพยมทัณฑ์
"อดใจรอหน่อยเถอะ เดียวจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร" ผู้เป็นหัวหน้า หรือเจ้ายมทูต
"ยังเช้าอยู่เลยท่าน จะมีการตายกันอย่างไรในขณะนี้" บริวารเจ้ายมทัณฑ์
ขณะนั้นรถเก่งราคาแพงสีบรอนด์สวยหรูกำลังวิ่งผ่านมาใบริเวรที่เด็กหญิงกำลังยืนอยู่ เมื่อรถวิ่งเข้ามาใกล้ เธอก็โบกรถให้หยุด เมื่อรถจอดใกล้ ๆ เธอ หน้าต่างถูกกดสวิทส์ให้เปิดโดยอัตโนมัติ
"หนูจะไปโรงเรียนไหนจ๊ะ" คนขับรถถามเป้าหมายของการเดินทางทันที
"ท่านผ่านโรงเรียนวิทยาไหมคะ ถ้าผ่านหนูขออาศัยไปด้วย เดียวจะไม่ทันสอบ" เธอถามเสร็จถอนสายบัวอย่างสวยงามอ่อนช้อย สมเป็นกุลสตรีไทย
"ผ่านจ้า เชิญขึ้นรถ"
"ขอบคุณคะ" เธอไหว้ถอนสายบัวเสร็จเปิดประตูรถเข้าไปนั่ง
"สอบวันนี้หรือ" เจ้าของรถถาม
"ค่ะ"
ก่อนจะถึงโรงเรียนรถคันนี้ก็เลี้ยวไปโรงแรมม่านรูด อุทัยวรรณเห็นผิดปกติ จึงร้องท้วงทันทีว่า " หนูจะรีบไปโรงเรียน เดี่ยวอาจารย์จะทำโทษและไม่ได้สอบ" อุทัยวรรณบอกสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นหลังจากนี้
"น้าจะไปธุระที่เพื่อนนิดเดียว" เพื่อนทำงานอยู่ที่นี้" ผู้ขับรถบอก
"อย่าช้านะน้า"
"จ้า จะรีบที่สุด แพร็บเดียว อึดใจเดียว"
รถเลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูด รถวิ่งเข้าไปในหลืบม่านผ้า ซึ่งเจ้าของโรงแรมกั้นไว้สำหรับปิดช่องทางรถที่เข้ามาจอด เมื่อรถผ่านเข้ามา มีเจ้าหน้าที่รูดม่านปิดมิให้บุคคลภายนอกเห็น ใครขี่รถผ่านเข้ามาก็ไม่ทราบหรอกว่ารถของใครที่ไหน จอดอยู่
"ทำไมหรือน้า " อุทัยวรรณชักจะหวาดกลัวใจสั่นเหงื่อแตกพร่า
"เดี่ยวหนู น้าจะธุระนิดเดียว"
"ปิดม่านทำไมหรือน้า"
"ประเพณีของเขาใครขับรถเข้ามาจอดเขาก็ทำอย่างนี้กับรถทุกคนที่ผ่านเข้ามา"
คนขับเปิดประตูรถเดินออกมาปิดประตูรถอ้อมไปทางหน้ารถเวียนไปที่ปรูด้านตรงข้ามซึ่งเด็กหญิงนั่งมา
" นั้นเขากำลังจะไปหาความสุขกันมิใช่หรือ จะไปรับคนไหนกันแน่ ก็บอกว่าผู้หญิงใช่ไหมที่กำลังจะหมดอายุ" บริวารถามหัวหน้ายมทูต
"ใช่ ดูต่อไปเถอะ อย่าเอะอะเลย" หัวหน้าเจ้ายมทัณฑ์บอก
ทันใดนั้นคนขับรถก็เปิดประตูรถตรงที่เด็กหญิงนั่งออก พร้อมพูดว่า "เชิญลงมาเถอะ"
"น้าฉันคอยที่นี้ ฉันจะรีบไปสอบ น้าไปธุระเร็ว ๆ เข้า จะได้ไปกันอีก" เด็กหญิงสาวขอร้องเชิงปฏิเสธ
"หนูลงมาเถอะ น้าจะไปทำธุระ จะได้เร็ว ๆ หนูจะได้ทันสอบ" คนขับรถ
อุทัยวรรณรู้สึกกลัวมาก และขยับเข้าไปด้านในจนชิดฝ้าด้านตรงข้าม
"อย่าดื้อนะหนู"
"หนูไหว้ละน้า น้าขาอย่าคิดไม่ดีกับหนูเลย น้ารีบพาหนูไปถึงโรงเรียนเร็ว ๆ เถอะหนูจะได้ทันสอบ สอบปลายปีด้วย สำคัญมากจะน้า เอ็นดู สงสารหนูเถอะน้า ไปส่งหนูก่อน"
"หนูลงมาก่อน อย่าดื้อนะหนู"
"น้าไปคนเดียวเถอะนะ หนูไม่ต้องไป หนูไม่ลง หนูจะไปสอบ หนูจะไปโรงเรียน"อุทัยบอกจนปากสั่น
"รีบออกมาเถอะ" คนขับบอกพร้อมกวักมือเรียกออกมา
"น้าไปเถอะ เดี่ยวหนูจะตะโกนเรียกคนมาช่วย"
"อย่านะหนู" คนขับก้มเข้าไปในรถเพื่อปรามและดึงปืน .38 มีกระสุนเต็มลูกโม่ หันปากกระบอกไปยังอกของอุทัยวรรณ ๆ ตกใจจนตาลุกวาว สั่นงก ๆ เหงื่อแตก ปัสสาวะราด
"อย่านะน้า เก็บไว้เถอะ หนูกลัว ไหว้ละอย่าทำร้ายหนูเลย หนูจะไปสอบจะน้า"
"ถ้ากลัวก็ออกมา"
"หนูไม่ออกไปหรอกน้า น้าพาหนูไปส่งโรงเรียนเร็ว ๆเข้าเถอะ จะไม่ทันเวลาเริ่มทำการสอบ ถ้าเกิน 15 นาทีหนูก็ไม่มีสิทธิสอบ"
"ถ้าหนูไม่ออกมา น้าจะยิงให้ทะลุอก หัวใจ เลือดไหลนองท่วมทั้งรถ"
"หนูไม่ไป" อรทัยกอดอกก้มลงกับพื้น
"เธอจะยอมตาย หรือไปกับน้า"
"หนูกลัวแล้วน้า อย่าทำอะไรหนู ปล่อยหนูไปเถอะ หนูขอร้องจะน้า"
คนขับรถดึงแขนอุทัยวรรณออกมา และใช้ปืนจี้ที่สีข้างของอุทัยวรรณ
"ถ้าส่งเสียงดังน้าจะฆ่าเสียเลย"
"อย่าเลยน้า ฉันกลัวจริง ๆ อย่าฆ่าฉันเลย น้าอย่าพาหนูไปไหนเลย น้ารีบไปส่งหนูที่โรงเรียนเถอะ หนูไหว้ละน้า ขอให้น้าสงสารหนู หนูจะมิลืมพระคุณของน้าเลย"
"อย่าขัดขืนเลยนะหนู เดินไปตามสบาย ถ้าเธอทำอะไรผิดปกติน้าจะยิงทันที แล้วเธอจะไม่ได้ไปสอบแน่"
"เธอจะเดินเข้าไปหรือไม่ " เขาตะคอกอุทัยวรรณ
" มีปัญหาจะให้ช่วยหรือไม่คุณพี่" เด็กประจำสถานที่บริการได้รับมอบหมายให้ดูแลความสะดวกเรียบร้อย โผล่เข้าไป
"ไม่มีอะไรหรอก ลูกของน้ามันมึนศีรษะเล็กน้อย ขอบใจมากที่เป็นห่วง"
เด็กประจำสถานที่บริการออกไป คนขับรถหันไปสำรวจผ้าม่าน พบว่าเด็กบริการได้จากไปแล้ว
คนขับรถดันให้อุทัยวรรณเดินไปใกล้ประตู ตนเปิดประตูห้อง แล้วใช้ปืนจี้ให้อุทัยวรรณเดินเข้าไปในห้อง คนขับรถเดินตามเข้าไป พร้อมปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหน้า
"น้าขา อย่าทำร้ายหนูเลย ปล่อยหนูไปเถอะ หรือว่าน้ารีบไปส่งหนูเร็วเข้า เดี่ยวจะไม่ทันสอบ ก็ไหนน้าบอกว่าจะธุระกับเพื่อนมิใช่หรือ ไหละเพื่อนของน้า"
"ให้น้ากอดเสียดี ๆ"
"น้าจ๋า หนูวิงงวอนให้น้าปล่อยหนูไป"
คนขับรถถลาเข้ากอดอุทัยวรรณไว้จากด้านหน้า อุทัยวรรณผลักพันละวัน แต่มือทั้งสองของเขาแกร่งเหลือเกิน อุทัยวรรณไม่สามารถขัดขื่นได้ อุทัยวรรณจึงตะโกนร้องขอช่วยบุคคลภายนอก แต่คนขับเอามือปิดปากไว้ทัน ขณะนั้นเขากอดอุทัยวรรณแน่นหายใจเกือบไม่ออก พร้อมพรมจูบลงบนแก้มขาว ๆ เธอ อุทัยวรรณ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้ อุทัยวรรณจึงกัดแก้มของเขาในทันที เขาเจ็บอย่างสาหัส โดยมิคิดอะไร เขาตัดสินใจต่อยอุทัยวรรณที่ท้อง เธอ ๆสะลึมสะลือล้มลง ตาปรือ ๆ
"ท่านพยายมฯ เราจะรับศพไหนไปก่อน"
"เดียวจะได้รู้เอง รอสักประเดี๋ยว"
"พ่อจ๋า ทำไมพ่อมาอยู่ที่นี้ละ มันเป็นที่ไหนหรือพ่อ" อุทัยวรรณถาม
" ที่นี้เป็นบ้านของพ่อเอง พ่อได้รับอนุญาตให้มาคอยลูกอยู่ที่นี้ เป็นเวลาเกือบปีแล้ว"
"ทำไมพ่อไม่ไปรับลูกที่บ้านละ"
"พ่อไม่สามารถผ่านทะลุมิติเวลาไปได้ จึงไม่สามารถไปพบลูกได้"
"ทำไมเขาจึงให้พ่อมาพบลูกที่นี้ละพ่อ"
"เป็นบัญชาจากสวรรค์ให้เป็นเช่นนี้ พ่อเองไม่ทราบได้"
"ก็พ่อได้เสียชีวิตตั้งแต่หนูยังเล็กอยู่มิใช่หรือ"
"ใช่แล้ว เป็นเพราะกรรมของพ่อ จึงทำให้พ่อจบชีวิตก่อนที่ลูกจะโตเต็มสาว"
"พ่อต้องไปก่อนละ พ่อได้พบลูกแล้ว พ่อปิติเป็นอย่างยิ่ง ถึงเวลาแล้วที่พ่อจะต้องจากไป เพาะเขากำหนดเวลาให้พ่อเท่านี้ เดี่ยวจะมีคนมารับลูกไปยังสถานที่อยู่ของลูก"
"พ่ออย่าจากลูกไป พ่ออย่าจากลูกไปเลย ลูกขอร้องให้ลูกได้อยู่กับพ่อนาน ๆ"
ร่างของพ่อก็ลอยออกไปไกลจนเลือนหายไปกับกลีบเมฆ อุทัยวรรณบอกไม่ได้ว่าท่านจากไปอยู่ไหน
อุทัยวรรณจำได้ว่า สมัยเป็นเด็ก ๆ ขณะที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ พ่อพาหนูไปเที่ยวน้ำตก ไปเที่ยวภูเขา เที่ยวทะเล หาดทรายสวย ๆ มีการชมกิจกรรมต่าง ๆ บนเวทีทั้งการแสดงของเด็ก ๆ หนุ่ม ๆ สาว ๆ และผู้ใหญ่ คุณพ่อพาไปเที่ยว เมืองใหญ่ ที่มีรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน รถลอยฟ้า ชมสวนสัตว์มีสัตว์ต่าง ๆ ทำให้หนูมีความสุขมาก ๆ
ครั้งหนึ่งพ่อพาหนูขี่เครื่องบินจากหาดใหญ่ ถึงกรุงเทพฯ ภายในเวลา 2 ชั่วโมงกว่า ต่างกับรถไฟและรถทัวร์ ซึ่งใช้เวลากว่า 10 ชั่วโมง พ่อได้แนะนำและซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ให้หนูได้สนุกกับเกมต่าง ๆ ได้พิมพ์หนังสือ ได้เข้าอินเตอรเนตเพื่อหาความรู้ต่าง ๆ หาภาพสวย ๆ และหาทุกอย่างที่อยากรู้แม้แต่ชื่อของตนเอง แปลว่าอะไร สัมพันธ์อะไร กับใครบ้าง และทราบถึงรายละเอียดของขั้นตอนของความรู้เรื่องนั้น ๆ เห็นเหตุให้หนูมีความรู้ ซึ่งผลของความรู้ทำให้หนูสอบได้ที่หนึ่ง หรือที่สอง เสมอมา และทุกวิชาที่เรียน วันนี้เป็นการสอบเอเนตเพื่อนำผลไปศึกษาต่อระดับปริญญาแต่ แต่ขณะนี้หนูยังไม่สามารถไปถึงห้องสอบได้ ครูที่ปรึกษาและเพื่อน ๆ คงจะคอยด้วยความกระวนกระวาย
"มนุษย์เดียวนี้ช่างมีอารมณ์โหดร้าย และเห็นแก่ตัวที่สุดเท่าที่หนูเคยพบมา หนูคิดว่าคนที่มีรถเก่ง แสดงถึงฐานะดี มีความรู้ มีคุณธรรมสูง หนูจึงโบกรถขอโดยสารไปสอบให้ทันตามเวลา เพราะหนูคอยรถมาทั้งนานแล้ว รถกะบะไม่กล้าโบกกลัวจะเป็นอันตราย ถ้าหนูรู้ว่าน้าเขาจะพาหนูมาที่โรงแรมม่านรูด คงจะไม่โบกรถของน้าหรอก"
"คุณครูขา คุณครูประจำชั้นหรือครูที่ปรึกษา หรือครูพี่เลี้ยง คงเฝ้าคอยหนูอยู่ด้วยความกระวนกระวาย หนูคิดว่า ท่านคงจะห่วงและยืนไม่ติดที่แล้ว เฝ้าแต่คอยว่าเมื่อไร ลูกศิษย์คนโปรดจะมาถึงสนามสอบเสียที"
"เพื่อน ๆ ตุ๊ก ต่อย แต้ว ตุ้ม เอียด อ้อ อ้อย ปิยฉัตร แมว และคนอื่น ๆ อีกมากคงจะคอยอย่างกระวนกระวายเช่นกัน ว่าทำไมอุทัยวรรณ เพื่อนเรายังไม่มาสอบ ทุกคนต่างเป็นห่วง ต่างคิดไปต่าง ๆนานา น่าจะป่วย หรือติดธุระอะไร หรือ เกิดอุบัติเหตุระหว่างทางบางอย่าง หรือนอนลืมวันสอบ หรืออ่านหนังสือมากจนหลับลืมไป หรือถูกลักพาตัวไป ต่างคนต่างคิดตามสิทธิของแต่ละคนที่จะคิด"
"ตุ้มจ๋า ระยะนี้เราไม่ได้ฝึกซ้อมวอลเล่ย์บอลเลย เพราะต้องรีบอ่านหนังสือ ทำความเข้าใจกับบทเรียนที่จะสอบ ทั้งที่อยากจะเล่นวอลเล่ย์บอล ทุกลมหายใจเข้าออก แต่เวลาไม่อำนวย"
"ปิยฉัตรจ๋า เราจะไปว่ายน้ำกันอีกไหม การว่ายน้ำเป็นเกมกีฬาที่สามารถเพาะร่างกายให้สมบูรณ์และสมส่วนได้ อย่างดีที่สุดอีกประเภทหนึ่ง"
"ตอนเช้าก็รีบไปสอบไม่ได้ให้อาหารปลาในตู้กระจกเลย แต่ได้ขอร้องคุณลุงไว้แล้ว คุณลุงท่านเต็มใจช่วยเสมอ ปานฉะนี้จำพวกปลาเหล่านั้นคงจะไม่หิว และเฝ้าคอยเรียกหาแต่ เราอยู่มิขาดสาย"
"แม่ แม่จ๋า ลูกคิดถึงแม่อยากอยู่ใกล้แม่ตลอดเวลา แต่วันนี้ น้าคนขับรถได้นำหนูมาสู่โรงแรมม่านรูด หนูถูกทำร้ายจนสลบ และ วิญญาณได้ออกไปพบกับพ่อ พ่อบอกว่าท่านคิดถึงแม่มากที่สุด ท่านรักแม่รักลูกด้วยความจริงใจ"
"แม่จ๋า ลูกรู้สึกว่ามีความสุขยิ่งนัก ร่างกายเบาโปร่ง อิ่มและปิติด้วยสุขนานาประการ คล้ายกับว่า ลูกกำลังจะได้เจอมิติใหม่ของจักรภพราศี หรือภพใหม่นี้"
"แม่ จ๋า ทำไมร่างของหนูนอนล่อนจ้อนอยู่บนเตียงในโรงแรมม่านรูด น่าอับอายมาก ออน้าคนนั้นเองทำมิดีมิร้ายกับร่างกายของหนู แล้วหนูก็ทำร้ายตบตีเขา ด่าเขา เขาก็ทำเฉยมิรู้เรื่องอะไรเลย จะตบจะตีก็ไม่ถูก แต่ไม่รู้ทำไมจะแม่ สิ่งที่เป็นพระพุทธรูปรูปนั้นมีความร้อนแฝง ไม่สามารถผ่านไปได้ แปลกมากจะแม่"
"เด็กผู้หญิงกลับมาแล้ว เป็นหน้าที่ของเธอไปรับเขาไปสู่สุขคติภูมิ เธอเป็นคนร่าเริงมีความสุข เธอต้องจบชีวิตลงเพราะเธอเกิดมาเพื่อชดใช้กรรมก่อนที่เธอจะบรรลุธรรมขั้นสูงยิ่งขึ้น"
"ศพของอุทัยวรรณถูกนำไปประกอบพิธีที่วัดสำคัญและอดีตเจ้าอาวาสทุกองค์เป็นพระศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมชมชอบมาก ศรัทธามากเปี่ยมล้นแน่นทุกดวงใจ"
ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาพร้อมด้วยภรรยา ชมรมครู เขยครู ครูผู้สูงอายุ ญาติมิตร ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ครู ประชาชนทั่วไปได้มาร่วมไว้อาลัยต่อหน้าศพของอุทัยวรรณ ทุกคนเสียดายอาลัยการจากไปของอุทัยวรรณในครั้งนี้ เพื่อน ๆ ต่างสาปแช่งผู้ร้ายคนนั้นให้ประกับภัยพิบัตินานาชนิด
ข่าวหนังสือพิมพ์เสนอขาวของอุทัยวรรณด้วยความอาลัยอาวรณ์ แสะสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองกวดขันความประพฤติของบุคคลประเภทที่เป็นภัยต่อสังคม อย่าได้มีช่องทางทำมาหากิน ทำร้ายเด็ก ๆ เยาวชนโดยเฉพาะสตรีให้มาก และวิกฤตที่สุดให้ทำติดต่อกันไปและออกกฎหมาย สิทธิมนุษยชนให้กระชับ และสามารถนำผู้ร้ายมาทำโทษได้จริง ๆ
"น้องสาวเชิญทางนี้"
"น้า ฉันไม่ไปนะ อย่ามายุ่งเกี่ยวกับหนูอีก ฉันกลัวแล้ว"
"น้องสาวหันมาดูก่อนซิ"
"ท่านเป็นใคร " อุทัยวรรณเห็นรูปร่างแล้วรู้สึกแปลกใจ แต่งกายไม่เหมือนใคร
"เรามารับเธอไปสู่ภพหนึ่งที่เต็มเปี่ยมด้วยความสุขสมบูรณ์ เธอหมดอายุในเมืองมนุษย์แล้ว เพราะเธอได้บำเพ็ญบารมี เพิ่มพูนกุศลไว้มากมาย เราขอคารวะ ขอเชิญเถอะ"บริวารเทพยมทัณฑ์กล่าว
ขณะที่คณะญาติ ๆ เพื่อน ๆ ครูอาจารย์ เจ้าหน้าที่ทางราชการครู ได้มาร่วมกันบำเพ็ญกุศลและกรวดน้ำแผ่กุศลให้วิญญาณธาตุต่าง ๆ อยู่นั้น
มีรถโรงพยาบาลได้นำศพของชายคนหนึ่งเข้าในวัดและเขานำศพไปตั้งที่ศาลาเมรุอีกหลังหนึ่ง เมื่อสอบถามแล้วได้ความว่า เป็นผู้ชายที่ขับรถคันที่รับน้องอุทัยวรรณ เมื่อวันก่อน
"มิต้องถึงชาติหน้า ชาตินี้ก็ถึงเช่นกัน" ญาติคนหนึ่งในที่นี้กล่าวขึ้นด้วยอาการสังเวช
"สาธุ"
"คนนี้ขอเชิญหัวหน้ารับไปเองได้เลย รู้สึกว่ามีสีดำคล้ำครอบคลุมหนาทึบ เขาคงไปสู่ทุกขคติแน่นอน จะภูมิไหน ภพไหน นั้นคงจะไม่ทราบในขณะนี้" บริวารของเทพยมทัณฑ์กล่าว
..............................
เมื่อวันที่ : 16 มิ.ย. 2558, 18.01 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...