![]() |
![]() |
ข้าวฟ่าง![]() |
..."ติเพื่อก่อ"...? ทำได้นะที่นี่ยุโรป
ดูเหมือนว่า...คนเราไม่ชอบให้ใครมาตำหนิติเตียนตัวเองสักนิด นอกจากคำชื่นชมที่อยากได้ยินรับฟัง ทำไมถึงเป็นเ...
"ติเพื่อก่อ"...? ทำได้นะที่นี่ยุโรป 

ดูเหมือนว่า...คนเราไม่ชอบให้ใครมาตำหนิติเตียนตัวเองสักนิด นอกจากคำชื่นชมที่อยากได้ยินรับฟัง ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นนะ?

ฉันรู้สึกถึงความแตกต่างตรงนี้จากการใช้ชีวิตที่ผ่านมา...ที่นี่ เจ้านายของฉันและคนรอบข้างยินดีที่จะได้รับคำติเตียนและแก้ไขสิ่งที่ผิด รวมทั้งยอมรับฟังความผิดนั้นด้วยความยุติธรรม

อะไรที่เขาทำไม่ได้ เขาจะยอมรับและขอโทษกับสิ่งนั้น อะไรที่เราหรือเขาทำดี เขาจะยินดีรับมันและบอกว่าเขาทำได้ มันเป็นความจริงใจที่เราจะได้เห็น แต่อย่ามองหาความเอื้ออาทรที่แปลว่า "น้ำใจ"ที่เรามีให้คนอื่นมากมาย ไม่มีหรอกที่นี่...ทุกคนดูแลตัวเองทุกเรื่อง

คำถามว่า สบายดีไหม? คือประโยคทักทายที่ไม่ได้ต้องการรับรู้คำตอบที่แท้จริงสักเท่าไหร่ ดูเป็นมารยาทมากกว่า แต่ก็เป็นมารยาทที่ดี เมื่อมาอยู่สักพักหนึ่ง..ฉันเรียนรู้ว่า การตอบแค่ว่าสบายดี โอเคนะ คือการตอบแบบปกติที่เขาคิดอยู่แล้ว และถามไปเช่นนั้น รวมถึงฉันก็ตอบไปตามความเคยชินว่า..สบายดีเกือบทุกครั้ง
หลังๆมา...เริ่มรู้สึกว่า วันไหนป่วยไข้ไม่สบายมากก็ควรจะบอกเขานี่นะ...เช่นเมื่อวานนี้ ฉันเดินพลาดตกบันไดสี่ห้าขั้นเพราะถุงเท้าที่ใส่แล้วยังไม่ทันได้ใส่รองเท้าแต่วิ่งไปหยิบของก่อนออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว เป็นผลให้ฉันเจ็บตัว...เจ้านายมีคำถามว่า เป็นอย่างไรบ้าง ต้องไปหาหมอไหม? โอเคหรือเปล่า? นี่คือ...สิ่งที่เราต้องพูดเอง ไม่ใช่รอให้เขามาถามเรา จากอาการเดินเสียการทรงตัวนั่น...เพราะถ้าเขามองเห็นเขาก็จะแค่มองเห็น แต่ถ้าเธอบอกเขาจะรับรู้

ฉันสงสัยอะไรอีกเยอะ... ทำไมไม่ถามว่า เราหิว เราเหนื่อย เราง่วงไหม ระหว่างที่เราไปเล่นสกีบนเขาทัั้งวัน แต่กลับถามว่า..เรามีความสุขไหมเท่านั้นเอง?
ชีวิตที่นี่ก็ไม่ได้ง่าย... ฉันแทบไม่มีเพื่อนคนไทยที่นี่นอกจากไปวัด หรือเจอกันตามสถานีรถไฟ ท่าเรือ สนามบินหรือสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่ง ฉันเองไม่ได้แสวงหา และคิดว่า การมาอยู่+ทำงานเพื่อครอบครัวที่นี่ของฉันนั่นคือที่สุดที่ฉันต้องทำ นอกเหนือจากนั้น คือการเรียนรู้ที่เป็นกำไรจากประสบการณ์ของชีวิต มันอาจจะมากกว่าการอยู่ที่บ้านเกิดเมืองนอน แต่มันไม่ได้ทำให้ความเป็นคนไทยเปลี่ยนแปลง ยุโรปมีสิ่งดีมากมาย แต่ที่ไม่มีเลยสำหรับฉันคือความผูกพัน..มันสวยงาม เรียบร้อย สงบ สะอาด เป็นระเบียบ แต่สิ่งที่เราไม่เคยเห็นเลยคือใจถึงใจกับคนรอบข้าง เหมือนคนทุกคนยิ้มให้กันด้วยหน้าที่หรือเปล่า นานๆจะเจอยิ้มต่อเนื่อง...นอกนั้น ชีวิตของใครก็ของคนนั้น หน้าที่ของใครก็ของคนนั้น

แต่สิ่งที่น่าชื่นชมคือ ความซื่อสัตย์ที่ฉันเห็น ทุกสายอาชีพตั้งแต่แม่บ้านจนผู้บริหารระดับสูง ทำได้ดีมาก..แม่บ้านทำหน้าที่แม่บ้านที่ดีทุกซอกมุมของบ้านสะอาดเอี่ยม ไม่เคยหยิบเศษสตางค์ที่หล่นอยู่ในบ้านไปด้วย นอกจากวางมันไว้ที่เดิม หรือในที่ที่ควรอยู่ ไม่เคยเก็บผักผลไม้ที่เหลือเฟือในสวนหลังบ้านติดมือไป ถ้าเจ้าของบ้านไม่ได้เอ่ยปาก ใช้เวลาทุกนาทีในการทำหน้าที่เต็มความสามารถที่มี
เจ้านายฉันและคนอื่นทำงานเต็มเวลากับหน้าที่ของเขา หลังเลิกงานให้เต็มเวลากับครอบครัว และใช้วันหยุดกับครอบครัวเต็มที่ กับเพื่อนเต็มที่ กับสิ่งที่เขาอยากมีอยากทำเต็มที่อีกเหมือนกัน...ถ้าเขาไม่เข้าใจ ไม่ได้ยิน ไม่เห็น จะถามและรอฟังคำตอบเสมอ
การมาครั้งนี้ของฉัน ดีกว่าการมาเมื่อหลายปีก่อน เพราะมันมีการสื่อสารที่ดี ฉันรับรู้ข่าวคราวที่เมืองไทย ราวกับอยู่เมืองไทย และบางครั้งที่ฉันออกความเห็นอะไรผ่านไปทางโซเชียลเน็ตเวิร์คบ้าง ก็เป็นการแสดงความคิดเห็นด้วยความปรารถนาดี ฉันไม่เคยคิดจะ..กล่าวหาใครในสิ่งที่ดีอยู่แล้ว มันเป็นการติเพื่อก่อ และบางครั้ง...ฉันก็รู้ว่ามีคนไม่พอใจฉัน...

นั่นทำให้ฉันกำลังมองว่า คำว่า "ติเพื่อก่อ" อาจใช้ไม่ได้แล้วกระมัง เพราะคนที่ถูกติเตียนไม่สามารถรับสิ่งนั้นได้เสียแล้ว ฉันบอกตัวเองว่า ฉันไม่ได้เป็นคนสมบูรณ์แบบไปเสียทั้งหมด แต่ฉันพร้อมที่รับฟังสิ่งไม่ดีที่ฉันทำ และพร้อมจะแก้ไขมัน ถ้ามันไม่ถูกต้องและทำให้คนอื่นเดือดร้อน...ทุกๆวัน ฉันต้องบันทึกความผิดของฉันเสมอและปรับปรุงมันให้ดีขึ้น อาจจะไม่ทั้งหมดแต่มันต้องดีขึ้นและผิดน้อยลง

ฉันยังคงมีภารกิจที่นี่ต่อไปอีกสักพัก...ฉันบอกตัวเองให้อดทนและทำมันให้ดีที่สุด หากการติเตียนใครหรืออะไรก็ตามที่ผ่านมาของฉันจะทำให้บางคนรู้สึกไม่ดี ทั้งที่รู้จักเป็นส่วนตัวหรือไม่รู้จักก็ตาม ฉันคงทำได้แค่กล่าวคำขอโทษจริงๆ จากใจ และอยากบอกว่า ทุกการติติง...คือความปรารถนาดีและสอนตัวเองไปด้วย

ถึงวันนี้ดีใจที่เกิดเป็นคนไทยที่มีรอยยิ้ม น้ำใจ และความจริงใจให้คนรอบข้างเสมอ ฉันจะรักษามันไว้ตลอดไป...Diary@Here

เมื่อวันที่ : 12 มิ.ย. 2558, 04.32 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...