นิตยสารรายสะดวก  Fiction  ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘
ฟ้าไม่ปรานี
เปิดฟ้า ก้องหล้า
...บ้านชั้นเดียวมุงด้วยกระแซง ฝามุงด้วยกระแชงทาบด้วยไม่ใฝ่ พื้นสูงจากพื้น หนึ่ง​​เมตร หน้าบ้านมีชาญกว้างหนึ่ง​​เมตรยาวเท่า​​กับด้านกว้างของบ้าน...
บ้านชั้นเดียวมุงด้วยกระแซง ฝามุงด้วยกระแชงทาบด้วยไม่ใฝ่ พื้นสูงจากพื้น หนึ่ง​เมตร หน้าบ้านมีชาญกว้างหนึ่ง​เมตรยาวเท่า​กับด้านกว้างของบ้าน ด้านข้างมุงหลังคาออก​ไปเท่า​กับหลังคาเดิมจากตัวอาคารออก​ไปด้านข้าง สามเมตร ด้านหลัง​เป็นครัวด้านหน้ามีแคร่นั่งพักผ่อนตามอัชฌาศัย

หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน ป้าสิน ลุงธรรม อุทุมมา​ได้คุยกันอยู่​ ลุงธรรมนอนบนแคร่ ป้าสินนั่งเคี้ยวหมาก อุทุมมา ปัดกวาดพื้น

" แม่ โน้นรถ​ใครวิ่งมาโน้น ฝุ่นตลบเชี่ยวแม่" อุทุมมาบอกให้ทุคน​ได้ดู​ไปบนถนนด้านหน้า​ซึ่ง อ.บ.ต.​ได้ทำโครงการตัดถนนออกสู่ชุมชนเมือง เพียงทำ​เป็นตัวถนนสำหรับงบประมาณคง​จะปีถัด​ไป
ฝุ่นตะลบฟุ้ง​ไปทั่วทุ่ง​และกระจายคลอบคลุมบ้านใกล้ บ้านไกลจนหลังคา พื้น ยอด ใบหญ้า​และใบไม้แดงด้วยฝุ่นของถนน เพียงไม่นานรถคันนั้น​ก็นำฝุ่นวิ่งไล่กันจนใกล้​จะถึงบ้านของลุงธรรมป้าสิน​ไปแล้ว​ จึงเห็นคันรถกะบะ​และตามไล่ด้วยฝุ่นตลบ นี่​คือการบ่อนทำลายสุขภาพของมวลมนุษย์​ที่มีเงิน ร่ำรวย​สามารถซื้อหารถมา​ใช้​ได้ ​แต่​ความเคราะห์ร้ายก็​จะตก​กับ​กับชาวบ้านผู้ไม่ประสีประสา ​และไม่​สามารถป้องกันตน​ได้ ​เพราะคิดว่า​เป็นเรื่อง​ธรรมดา ​ที่​จะ​ต้องยอมรับต่อสภาพ​ที่คนรวยทำลายล้างธรรมชาติให้ย่อยยับ​ไปอย่างช้า ๆ​ เช่นเดียว​กับ โลก​ที่​กำลัง​จะจมน้ำลง​ไปวันละนิด ๆ​ ​เป็นเรื่อง​น่าเศร้า​ที่สุด อบต.ผู้เดียว​ที่​สามารถแก้ปัญหานี้​ได้ ด้วยการเพิ่มงบทำถนน คอนกรีต หรือลาดยางแอสฟัล จึง​จะช่วยเหลือสุขภาพของประชาชนในชนบท​ได้ ​แต่ ​ใครละ​จะเห็นถึง​ความจำ​เป็น​ส่วนนี้ หรือปล่อยให้สุขภาพเสื่อมทรุด​และตาย​ไปใน​ที่สุด

รถเลี้ยวเข้ามาในบริเวณบ้าน ​ความเร็วช้าลง ฝุ่นเหล่านั้น​ก็จางหาย​ไป​กับลม​ที่พัดประจำถิ่น​และประจำฤดูกาล
" ​ใครกันนะแม่ รถสวยจัง นั่นจอดแล้ว​ ประตูเปิดแล้ว​ ​ใครคะ​แม่" อุทุมมาเร่งด้วย​ความอยากรู้

" ข้า​จะรู้​ได้อย่างไร ยังไม่เห็นคน​ที่​จะลงมาเลย​นี่" ป้าสินตอบกลับทันควัน

" แม่ทายซิว่า ​เป็น​ใครเอ๋ย"

" ข้า​จะรู้เหรอ"

​ความแรงของลม​ที่กรรโชคตามมาตลอดเวลา ทำให้ฝุ่นเหล่านั้น​ผ่าน​ไปรวดเร็วมาก ​แต่มัน​จะ​ไปติดอยู่​​ที่ใบไม้ใด หลังคาของ​ใคร เสื้อผ้าชนิดใด ใบหญ้าใด พื้น​ที่ว่างใด เสื่อใด สาดใดไม่มี​ใครตอบ​ได้ในขณะนี้ ​แต่​ที่สูดดมเข้า​ไปย่อมปลอมปนด้วยเชื้อโรค เชื้อไวรัส เชื่อหวัด ​และโรคต่าง ๆ​ อีกมากมาย​​ที่ปลิวว่อนผสมประสานอยู่​​กับอนูของฝุ่นเหล่านั้น​

​เมื่อประตูรถเปิดออก ผู้​ที่ก้าวลงมาคนแรก​เป็นผู้หญิง เธอทำหน้า​ที่ขัดรถคันนั้น​มา

" น้าสุนันทา นั่นเองแม่ " อุทุมมาเอ๋ยชื่อ​พร้อมแสดงอาการตื่นเต้นจนออกนอกหน้านอกตา ​เพราะรู้จักกันมาก่อน คนบ้านเดี่ยวกัน ​แต่เธอ​ไปอยู่​กรุงเทพฯ เสียนาน เธอประกอบอาชีพอะไร​มิทราบ เธอร่ำรวยมีรถขี่มีเงิน​ใช้ ฐานะร่ำรวย ​ซึ่ง​ใคร ๆ​ ก็อยาก​จะร่ำรวยเหมือนน้าสุนันทา​ทั้งนั้น​

อุทุมมารีบวิ่งออกมา​ที่รถ มองดูรถด้วย​ความภาคภูมิใจ ​ถ้า​จะมีอย่างนี้บ้างคง​จะมี​ความสุขสบาย "ทำอย่างไรนะ เราจึง​จะมีเงินมีรถอย่างน้าสุนันทาบ้าง " อุทุมมาคิด​ไปเรื่อยเปื่อย

"สวัสดีน้าสุนันทา " อุทุมมาทักทาย

" สวัสดี หลานแม่อยู่​บ้านไหม" สุนันทาทัก​พร้อมพุ่งเป้าหมาย​ที่น่าสนใจ​ไป​ที่ป้าสิน ลุงธรรม " พ่อแม่สบายดีหรือหลาน" สุนันทารุก
" จ้า สบายดีกันทุกคน" อุทุมมา

สุนันทา วาสนา สองสาวลงจากรถเดินเข้า​ไปในบ้านของอุทุมมา ​เมื่อเจอหน้าลุงธรรมป้าสินต่างยกมือไหว้ด้วย​ความสุภาพ อ่อนน้อม ​กับคน​ที่มีเงิน มี​ความรู้ ​และ​เป็นผู้ดีอยู่​ในถิ่นเจริญ​คือกรุงเทพฯมหานคร

" ป้าสบายดีหรือ " สุนันทาทักทาย "ดูสุขภาพแข็งแรงดีนี้ น่าอิจฉาจัง" สุนันทาเย้า

" อย่างนั้น​แหละ​หลานเอ๋ย" คนแก่ก็​เป็นธรรมดาของมันเองแหละ​" ป้าสิน

" หลานคง​จะมีเงินเยอะ ​เอามาแจกกันบ้างซิ" ป้าสินต่อ

"เงินหา​ได้แหละ​ป้า ​จะ​ต้องสะสม หาเงิน​ได้จ่ายหมดก็จนเช่นเดิม ป้าอยากมีเงินจ่ายมาก ๆ​ ใหม่"

"​จะ​เอามาจากไหนหรือหลาน"

" ทำงานซิป้า ​ต้องทำงาน จึง​จะ​สามารถหาเงิน​ได้ สะสมเงิน​ได้จึง​จะรวย"

" ป้า ให้อุทุมมามัน​ไปทำงาน​กับฉันซิป้า มัน​จะ​ได้มีเงินจ่าย ระยะ นี้ฉันขาดคนงานอยู่​​พอดี ​ถ้าอุทุมพร​ไปทำก็​จะ​ได้เงินเยอะ ส่งมาให้ทางบ้าน​ได้​ใช้จ่ายกันอย่างสนุกสนาน ร่ำรวย สะดวก​สบาย มีคนนับหน้าถือตา ซื้อรถสวย ๆ​ สร้างบ้านใหม่ อยู่​กันอย่างมี​ความสุขยิ่งกว่า​ใคร ​จะ​เอาไหมจ๊ะ​ อุทุมมา "

"ฉันทำอะไร​ไม่​เป็นหรอก"

" งานบ้านก็มี ล้างจาน ล้างถ้วย ทำ​ความสะอาด หุงข้าว แกง เธอคง​จะทำ​ได้นะ"

" ​ได้จ๊ะ​"

"เธอ​จะ​ไปไหมจ๊ะ​ ​ถ้าเธอไม่​ไป ฉันก็​จะ​ไปหาคนอื่นแทนแล้ว​ละนะ"
" น่าสนใจมาก ลูกนะ​จะ​ไปไหม"

" ​ไปก็​ได้จ๊ะ​ แล้ว​​จะ​ไป​เมื่อไรละ"

"พรุ่งนี้เลย​นะ ฉัน​ต้องรีบกลับ​ไป ทิ้งงานมาหลายวันไม่​ได้"

ใน​ที่สุดอุทุมมาตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร ​เพื่อทำงาน​และสร้างฐานะทางสังคมให้เจริญก้าวหน้า.

อุทุมมา​ไปทำงาน​ได้เพียง หนึ่ง​เดือน ก็มีการฝากเงินมาให้แม่​กับพ่อ​พร้อม​กับสุนันทา ​เป็นเงินเกือบหมื่น ป้าสิน ลุงธรรมดีใจมาก มีเงินพอ​ที่​จะ​ใช้จ่ายอย่างมี​ความสุขในโอกาสนี้​และขอบใจสุนันทา

ข่าวการ​ได้รับเงิน​และการจ่ายเงินของป้าสินลุงธรรมกระจาย​ไปทั่ว​ทั้งหมู่บ้าน ทำให้หลายคนในหมู่บ้านมองเห็นทาง ​และอนาคต​จะสดใส ​ถ้าให้ลูกสาวของตน​ไปทำงาน​กับสุนันทา ​ซึ่ง​เป็นญาติ​และ​เป็นคนในหมู่บ้าน ​ที่ออกผจญโชคในต่างถิ่น จน​สามารถประกอบอาชีพ​เป็นหลักฐานมี​ความ​ความมั่นคง ​และร่ำรวย

​เมื่อสุนันทา​ไปทาบทามลูกสาวของ​ใครต่อ​ใคร​ไปทำงานด้วย ก็​ได้รับการยอมรับด้วยดี วันนี้สุนันทานำรถตู้มา​และ​สามารถรวบรวมญาติ​ได้ เจ็ด คน เดินทางสู่กรุงเทพมหานครในวัน​ต่อมา

สิ้นเดือน​ที่ สอง เงิน​ส่วนหนึ่ง​มาถึงบ้านของป้าสิน ลุงธรรม​และ​พร้อมกันนั้น​ก็ถึงบ้านของญาติอีก เจ็ด คน ​ที่ลูกสาว​ไปทำงานในกรุงเทพ ทุกคนมี​ความสุข ปลื้มปิติ ​และสมหวัง​กับการ​ไปทำงานของลูกตน

เงินนั้น​ถึงผู้ปกครองทุกเดือน ทุกคนคิดว่าลูกของตน​กำลังทำงานอยู่​ ​แม้​จะเหน็ดเหนื่อยบ้างก็ช่างมันเถอะ ​เป็นการตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ ชีวิตของลูกเราคง​จะ​เป็น​ได้แค่กรรมกร หรือลูกจ้างแรงงาน โอกาส​ที่​จะพัฒนา​เป็น เจ้าหน้า​ที่ของรัฐ หรือเจ้าของบริษัท หรือนายทุนนี้คง​จะยาก ​เพราะลูกของเราขาดการศึกษา​ที่​เป็นฐานในการประกอบอาชีพ​และส่งมา เลี้ยงดู บำรุงเราผู้​เป็นพ่อแม่ เราไม่มี​ที่ดิน ​ที่ไร่นา ​ที่​จะนำ​ไปขาย​เพื่อนำเงิน​ไปให้ลูกหลาน​ได้ศึกษาเล่าเรียน​ได้

บางพื้น​ที่​ที่พ่อแม่มี​ความมุมานะส่งเสียให้ลูก​ได้ศึกษาเล่าเรียนจนจบปริญญาตรี​ได้ทำ งาน​ที่มี​ความมั่นคง มีสวัสดิการ​ที่ดี พ่อแม่​เขาสละ​โดยขายหรือจำนอง​ที่ดินไร่นา​เพื่อ​เป็นทุนให้ลูก​ได้ศึกษาเล่าเรียน อนาคตของลูก ๆ​ ของ​เขาจึงดีกว่าลูก ๆ​ ของบ้านเรา อย่างไรก็ตามเถอะขอให้ลูก ๆ​ หลานทุกคนจงมี​ความซื่อสัตย์ ขยัน กตัญญู ชีวิต​จะ​ได้มี​ความเจริญก้าวหน้า

บางคนในบ้านเรามีการอยู่​ดีกินดี มีการเงินดี ​แต่ไม่ส่งเสริมให้ลูกหลานเล่าเรียน เพียง​แต่คิดว่าเงิน​สามารถซื้ออะไร​​ได้ทุกอย่าง มีเงินแล้ว​ก็หา​ความสุข ​ความเจริญก้าวหน้าให้แก่ชีวิตตนเอง​ได้ ต่าง​กับคน​ที่มีฐานะยังอุตส่าห์ให้ลูกเล่าเรียนจนจบปริญญา หรือ​ได้ดอกเตอร์ ​เมื่อสมัครทำงาน ​เขามี​ความรู้สูงก็​ได้​เป็นผู้บริหาร เงินเดือนสูง การ​เป็นอยู่​สะดวก​สบาย มีฐานะ มีอำนาจ บางคนอายุน้อย​แต่​ได้​เป็นรัฐมนตรี ​เพราะอะไร​หรือท่าน มิใช่​ความรู้หรอกหรือ

คน​ที่มี​ความรู้เพียง​แต่ขอให้โลก​ได้เห็นว่า​เขา​ได้ฝึกในทักษะในการประกอบอาชีพมาอย่างดี ​แต่​จะมีคุณภาพ หรือมีค่า (คุณธรรม) หรือไม่นั้น​ ไม่​สามารถวัดกัน​ได้ ​แต่​ถ้า​ได้ประพฤติปฏิบัติจนสังคมเห็น​และ​สามารถตรวจสอบ​ได้แล้ว​ ​ความเจริญก้าวหน้า​จะมอบรางวัลผู้นั้น​​เป็นการตอบแทน ในทางตรง​และทางอ้อม

หลายปี​ต่อมา การเงินของป้าสินลุงธรรมมีน้อยลง​ไป เงิน​ที่ส่งมาให้ไม่มากนัก จาก​ที่เคยชิน​กับการจับจ่าย​ใช้สอยก้อนโต ๆ​ ใจกว้าง ก็​ต้องลดถอยลง หลังจากนั้น​มินาน อุทุมมาก็กลับบ้านด้วยอาการผอมซีด ผอมซีด​เพราะเลือดน้อย เธอบอกว่าเธอป่วยไม่คอยมีแรง เธอนำยามาทาน​ที่บ้าน หนึ่ง​เดือนผ่าน​ไปเธอไม่​สามารถ​จะลุกเดิน​ไปไหนมาไหน​ได้ หรือทำอะไร​ก็ไม่​ได้ ​และเธอสิ้นชีวิตลง ปิดฉาก​ความเศร้าไว้เพียงเท่านั้น​ ทิ้งให้คุณลุงคุณป้า​ต้องผจญชะตากรรม​กับ​ความทุกข์ยากลำบากเรื่อยมา
ลูกๆ​หลานๆ​ ​ที่​ไปทำงาน​กับสุนันทา​ที่กรุงเทพฯ ถึง​แม้ว่า​จะมีเงินเดือนถึงทุกเดือน ​แต่ขาวคราวการสื่อสารติดต่อนั้น​ขาดหาย​ไปตั้งแต่วันแรก​ที่ออกจากบ้าน ข่าวคราว​ที่​ได้บ้างก็จากสุนันทาเท่านั้น​ สำหรับผู้อื่นแล้ว​ไม่มี​ใคร​ได้ข่าวใด ๆ​ ​ทั้งสิ้น

สร้าง​ความแปลกใจ​และฉงนแก่ทุกคน เพียง​แต่สงสัย​เพราะ​ความไกล​และ​ความยากจนจึงทำให้ทุกคนเชื่อสนิ​ทว่าลูกของตน​ไปประกอบอาชีพสุจริต​ที่มีคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ​และสังคม

ณ บ้านแห่งนี้ ทุกคนเกือบ​เป็นลม ต่างตื่นเต้นตกใจสุดขีด ​เมื่อโทรทัศน์ช่องหนึ่ง​รายงานข่าวการจับเจ้าของแหล่งมั่วสุมการขายประเวณี​ที่ใหญ่​ที่สุดในกรุงเทพมหานคร มีนักการเมืองระดับใหญ่การสนับสนุน มีสาวขายตัวให้การบริการ​ที่เจ้าหน้า​ที่จับ​ได้เกือบสองร้อยคน ​แต่ภาพ​ที่ออกมาให้เห็นนั้น​ มีลูกสาวของชาวบ้านในตำบลนี้รวมอยู่​ด้วยหลายคน มีสุนันทารวมอยู่​ด้วยในฐานะหัวหน้าแก๊ง ผู้ขายบริการเหล่านั้น​บอกเจ้าหน้า​ที่บ้านเมืองว่า ตนถูกหลอกให้มาทำงาน​แต่ถูกบังคับให้ค้าประเวณี ​ถ้าไม่ทำตาม​จะถูกบังคับตบตี บางคนหนีถูกจับ​ได้ถูกซ้อมทุบตีจนตาย อีกหลายคนตาย​เพราะ​เป็นโรคร้าย บางคนถูกส่งกลับ​ไปรักษาตัว​ที่บ้าน​และตายใน​ที่สุด

เจ้าหน้า​ที่รวบรวมผู้​ที่ถูกหลอกลวงมา แล้ว​ให้ทำบัญชีเวลา​ที่ถูกหลอกลวง ทำหนังสือฟ้องเจ้าของซ่องบริการ​และผู้รับผิดชอบ​ที่ทำให้​เขาเหล่านั้น​​ต้องสูญเสียอิสระ​และเสรีภาพ ต่อชีวิต​และทรัพย์สิน จน​ต้องกลายสภาพ​เป็นเช่นสัตว์​ที่ถูกบังคับ​ใช้แรงแรงงานเช่นเดียว​กับวัว​และควายเช่นนั้น​ ​โดยให้เรียกว่าเสียหายคนละ 1 ล้านบาท​ต่อปี

ศาลมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์​ที่มี​ทั้งหมดของผู้ดำเนินการมารวมกัน ทั่งเงินฝากธนาคารด้วย ​เพื่อจำหน่ายทอดตลาด​และนำเงินเหล่านั้น​เฉลี่ยแก่ผู้​ได้รับ​ความเสียหาย​โดยสัด​ส่วนด้วย​ความ​เป็นธรรม

​เมื่อนำทรัพย์สิน​ทั้งหมดมาจำหน่ายแล้ว​นำเงินมาเสียค่าปรับ​และชด​ใช้ค่าเสียหาย ​ที่ไม่​สามารถจ่าย​ได้​ทั้งมดตามคำสั่งของศาล​ที่สรุปสำนวนคดี​และพิจารณาตัดสินด้วย​ความยุติธรรม
บางคนถูกจำคุกหนึ่ง​ปี สามปี ห้าปี สิบปี บางคนยี่สิบปี บางคนเกือบร้อยปี บางคนร้อยปีกว่า หลายสำนวนคดี ​เมื่อรวมกัน

" น่า​จะประหารชีวิตบ้างนะ " ญาติของสาว​ที่ถูกหลอกลวงบางคนกล่าว

​เป็นธรรมชาติของผู้กระทำผิด ​จะมิยินยอมรับผิด​โดยง่าย​ทั้ง ๆ​​ที่รู้อยู่​แก่ตนเองว่าการกระทำนั้น​ผิดเต็มประตู ​เขาพยายามหลีกเลี่ยงหลบเร้นหนี​ความจริง แล้ว​​แต่​จะสรรหาคำโกหกมาบอกกล่าวหรือเลี่ยง​ไปน้ำขุ่น ๆ​ ​เขา​จะเชื่อหรือไม่ช่างเถอะ ขอให้​เขารอดตัว​ไปพลาง ๆ​ ก่อน ดังเช่น นักการเมืองของพรรคบางพรรค บางคน ทีไม่ยอมรับ​ความจริง ​ที่ถูกกล่าวหา ​จะปฏิเสธเสมอ ​จะยอมรับว่ามี​ความผิดใน​เมื่อศาลพิพากษาสิ้นสุดว่ามี​ความผิด ​จะ​เป็นอันตรายต่อชีวิต​และทรัพย์สิน ประชาชน​และประเทศชาติ ซ้ำยังบิดเบือน​ความจริง ​และใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นอีก ​เพื่อสร้างภาพให้สวยหรู ผู้ไม่รู้ทันการณ์ ก็​จะเชื่อตามภาพ​ที่​เขาสร้างขึ้น​ ทำให้ประชาชนบาง​ส่วน​ที่มืดบอด ไม่​ได้รับทราบข่าวสารข้อมูลเปรียบเทียบ​กับสภาพการณ์​ที่เกิดขึ้น​จริง หรือ​ความหมาย​ที่​เขา​ได้รับ ย่อมมีเหตุ​และผลต่อการตัดสินใจ สนับสนุนคัดเลือกทางการเมือง ​เมื่อผิดพลาด​ไปแล้ว​ ประชาชน​จะ​ต้องช่วยกันแกะปอกหรือกัดแทะเปลือกมันออก​ไป ​จะ​ได้พบแก่นแท้อันมีประโยชน์ของพืชพันธ์ธรรมหรือประโยชน์ของมัน

สุนันทาจึงหาโอกาสหนีจากกระบวน ​โดยการกระโดดขึ้น​รถเข้าในกะบะ​ที่จอดอยู่​ใกล้ทางเดินขณะ​ที่รถคันนั้น​สตาร์ทเครื่องรออยู่​ก่อนแล้ว​ ​เมื่อเธอปิดประตูรถคันนั้น​ก็ออกทันทีด้วยการกระชากเกียรอย่างเร็ว รถออก​ไปปานลูกธนูออกจากแอ่ง "​ไปให้เร็ว​ที่สุด หลีกเลี่ยงการผจญหน้า​และหา​ที่ซ่อนให้เร็วตาม​ที่นัดหมายกันไว้"

โชเฟอร์ขับรถเร็วมากออก​ไปทันทีตาม​ที่ตกลงกันไว้ รถพุ่ง​ไปอย่างไม่คิดถึงชีวิตหรืออะไร​​ทั้งสิ้น รถตำรวจไล่ตามมาอย่างใกล้ชิด ทันใดนั้น​มีรถคันหนึ่ง​ ​จะเลี้ยวขวา​เพื่อยูเทินกลับเข้าเมือง มีรถไล่ตาม​ไปอย่างกระชั้นชิด เธอส่งเสียงหวีด ​พร้อมเสียงโอดครวญตามใจ​ต้องการของผู้พูดเอง ​โดยขอร้องให้บอกนักข่าว​และประชาชนว่า " (ยังไม่ทัน​ได้พูด).." รถกะบะตามหลังมาบังคับรถไม่ทัน ​เพราะรถคันหน้าไม่ให้สัญญาณเลี้ยว จึงไม่​ได้เตรียมตัว จึงเบรกกะทันหัน​พร้อมหักพวงมาลัยหลีก​โดยอัตโนมัติ รถจึงพลิกคว่ำกลางถนน​และไถล​ไปอัดคอบปี้​กับต้นไม้กลางถนน ปรากฏว่าเสียชีวิตหนึ่ง​คน​เพราะพวงมาลัยอัดไว้ อีกคนบาดเจ็บ​เพราะรีบตะลีตะลาน​เพื่อ​จะหนีตำรวจ ร่าง​ได้รับการกระแทกอย่างแรง เธอร้องครวญครางด้วย​ความเจ็บปวด​และสุด​จะทรมานแพทย์นำเข้าสู่ห้องศัลยกรรม ​เป็นห้อง​ที่มีอาการหนัก ​ต้องเข้าห้อง ไอ. ซี. ยู.มีหลายเตียงทะยอยตามกัน​ไปตามสภาพของอาการป่วย​และเวลา​ที่ถูกจำกัด​โดยผู้​ที่มองไม่เห็น

บางคนบอกว่า " การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ​เป็นเรื่อง​ธรรมดา ​เป็นธรรมชาติ ​ใคร​จะหลีกเลี่ยงไม่​ได้ แม่​แต่คน​ที่ร่ำรวยมาก ๆ​ หาหมอ​ที่มี​ความเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้านทุกอย่าง​ที่เกิดขึ้น​​กับคนป่วย ​คือ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ตามลำดับ"
ข้าพเจ้าคิดค้านอยู่​ในใจว่า ไม่จริงเสมอ​ไป ​เพื่อนของข้าพเจ้าคนหนึ่ง​​เขาเผลอข้ามถนนมองไม่เห็นรถบัสทางไกล ขนาด 24 ​ที่นั่ง ​เขาวิ่งออก​ไปในระยะกระชั้นชิดเพียง ไม่ถึง10 เมตร เพียงเสี้ยววินาทีร่างของ​เขาแหลกละเอียดกระจายเต็มท้องถนน ​และเงียบ ข้าพเจ้าคิดว่า ​เขาคง​จะไม่ทันรู้สึกเจ็บหรอก คง​จะสิ้นชีวิตเสียก่อน ​เป็นข้อยกเว้น​ที่ข้าพเจ้าคิดเอง

สุนันทาแขนขาหัก ซี่โครงหัก เธอรักษาด้วยเงินประกันภัย พรบ. อยู่​​เป็นเดือน เธอไม่หายมา​เป็นเหมือนเดิม เธอ​ได้รับมรดกทุรพลภาพตลอดมา อาศัยนั่งในรถเข็นทำให้เธอ​ได้มีโอกาสย้อนคิดถึงสิ่ง​ที่เธอทำไว้ ว่า​เป็นโทษต่อชีวิตของ​เพื่อนมนุษย์ ​ที่​ได้รับ​ความทุกข์ทรมานไม่หยิ่งหยอน​ไปกว่าเธอ สุนันทา พบเห็นภาพเหล่านั้น​ในห้วงสำนึกผุดลอยมา​โดยบังเอิญขณะนั่งเผลอคิดเพลิน หรือขณะหลับก็ฝัน​ไปเห็น​ความชั่วร้ายของตน เห็นผู้หญิงถูกทำร้าย ถูกทรมาน สร้าง​ความปวด ​และหวาดผวาตลอดเวลา ภา​พอดีตเหล่านั้น​คอยหลอกหลอนเธอ เธอ​ต้องผวาตกใจกลัว บางครั้งส่งเสียงกรีดด้วย​ความตกใจกลัวจนลนลาน นี้​คือสิ่ง​ที่เธอ​ได้รับในขณะยังมีชีวิต ก่อน​จะลาโลกนี้​ไป อีกนานเท่าไรไม่ทราบ​ได้

หลายคน​ที่โดนเธอหลอก​ได้ร่วมกันสาปแช่งให้สุนันทาตกนรกหมกไหม้ " สภาพ​ที่เธอ​เป็นอยู่​ก็ตกนรกดี ๆ​ นี่เอง " คนหนึ่ง​กล่าวขึ้น​ด้วย​ความสมเพทเวทนา​และสมน้ำหน้า "กรรมตามทันเธอแล้ว​ คง​จะอยู่​รับ​ความปวดร้าว​ไปนานเท่านาน ​และสาสม"
...​...​...​...​...​...​

 

F a c t   C a r d
Article ID A-3669 Article's Rate 0 votes
ชื่อเรื่อง ฟ้าไม่ปรานี
ผู้แต่ง เปิดฟ้า ก้องหล้า
ตีพิมพ์เมื่อ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ เรื่องสั้น
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๗๖ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๑ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : ศาลานกน้อย [C-19133 ], [000.000.000.000]
เมื่อวันที่ : 26 พ.ค. 2558, 16.47 น.

ผู้อ่าน​ที่รัก,

นิตยสารรายสะดวก​ ​และผู้เขียนยินดีรับฟัง​ความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดง​ความเห็น​ได้​โดยอิสระ ขอขอบคุณ​และรู้สึก​เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมี​ส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...​

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น