![]() |
![]() |
เปิดฟ้า ก้องหล้า![]() |
...บ้านชั้นเดียวมุงด้วยกระแซง ฝามุงด้วยกระแชงทาบด้วยไม่ใฝ่ พื้นสูงจากพื้น หนึ่งเมตร หน้าบ้านมีชาญกว้างหนึ่งเมตรยาวเท่ากับด้านกว้างของบ้าน...
บ้านชั้นเดียวมุงด้วยกระแซง ฝามุงด้วยกระแชงทาบด้วยไม่ใฝ่ พื้นสูงจากพื้น หนึ่งเมตร หน้าบ้านมีชาญกว้างหนึ่งเมตรยาวเท่ากับด้านกว้างของบ้าน ด้านข้างมุงหลังคาออกไปเท่ากับหลังคาเดิมจากตัวอาคารออกไปด้านข้าง สามเมตร ด้านหลังเป็นครัวด้านหน้ามีแคร่นั่งพักผ่อนตามอัชฌาศัยหลังจากรับประทานอาหารกลางวัน ป้าสิน ลุงธรรม อุทุมมาได้คุยกันอยู่ ลุงธรรมนอนบนแคร่ ป้าสินนั่งเคี้ยวหมาก อุทุมมา ปัดกวาดพื้น
" แม่ โน้นรถใครวิ่งมาโน้น ฝุ่นตลบเชี่ยวแม่" อุทุมมาบอกให้ทุคนได้ดูไปบนถนนด้านหน้าซึ่ง อ.บ.ต.ได้ทำโครงการตัดถนนออกสู่ชุมชนเมือง เพียงทำเป็นตัวถนนสำหรับงบประมาณคงจะปีถัดไป
ฝุ่นตะลบฟุ้งไปทั่วทุ่งและกระจายคลอบคลุมบ้านใกล้ บ้านไกลจนหลังคา พื้น ยอด ใบหญ้าและใบไม้แดงด้วยฝุ่นของถนน เพียงไม่นานรถคันนั้นก็นำฝุ่นวิ่งไล่กันจนใกล้จะถึงบ้านของลุงธรรมป้าสินไปแล้ว จึงเห็นคันรถกะบะและตามไล่ด้วยฝุ่นตลบ นี่คือการบ่อนทำลายสุขภาพของมวลมนุษย์ที่มีเงิน ร่ำรวยสามารถซื้อหารถมาใช้ได้ แต่ความเคราะห์ร้ายก็จะตกกับกับชาวบ้านผู้ไม่ประสีประสา และไม่สามารถป้องกันตนได้ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ที่จะต้องยอมรับต่อสภาพที่คนรวยทำลายล้างธรรมชาติให้ย่อยยับไปอย่างช้า ๆ เช่นเดียวกับ โลกที่กำลังจะจมน้ำลงไปวันละนิด ๆ เป็นเรื่องน่าเศร้าที่สุด อบต.ผู้เดียวที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ ด้วยการเพิ่มงบทำถนน คอนกรีต หรือลาดยางแอสฟัล จึงจะช่วยเหลือสุขภาพของประชาชนในชนบทได้ แต่ ใครละจะเห็นถึงความจำเป็นส่วนนี้ หรือปล่อยให้สุขภาพเสื่อมทรุดและตายไปในที่สุด
รถเลี้ยวเข้ามาในบริเวณบ้าน ความเร็วช้าลง ฝุ่นเหล่านั้นก็จางหายไปกับลมที่พัดประจำถิ่นและประจำฤดูกาล
" ใครกันนะแม่ รถสวยจัง นั่นจอดแล้ว ประตูเปิดแล้ว ใครคะแม่" อุทุมมาเร่งด้วยความอยากรู้
" ข้าจะรู้ได้อย่างไร ยังไม่เห็นคนที่จะลงมาเลยนี่" ป้าสินตอบกลับทันควัน
" แม่ทายซิว่า เป็นใครเอ๋ย"
" ข้าจะรู้เหรอ"
ความแรงของลมที่กรรโชคตามมาตลอดเวลา ทำให้ฝุ่นเหล่านั้นผ่านไปรวดเร็วมาก แต่มันจะไปติดอยู่ที่ใบไม้ใด หลังคาของใคร เสื้อผ้าชนิดใด ใบหญ้าใด พื้นที่ว่างใด เสื่อใด สาดใดไม่มีใครตอบได้ในขณะนี้ แต่ที่สูดดมเข้าไปย่อมปลอมปนด้วยเชื้อโรค เชื้อไวรัส เชื่อหวัด และโรคต่าง ๆ อีกมากมายที่ปลิวว่อนผสมประสานอยู่กับอนูของฝุ่นเหล่านั้น
เมื่อประตูรถเปิดออก ผู้ที่ก้าวลงมาคนแรกเป็นผู้หญิง เธอทำหน้าที่ขัดรถคันนั้นมา
" น้าสุนันทา นั่นเองแม่ " อุทุมมาเอ๋ยชื่อพร้อมแสดงอาการตื่นเต้นจนออกนอกหน้านอกตา เพราะรู้จักกันมาก่อน คนบ้านเดี่ยวกัน แต่เธอไปอยู่กรุงเทพฯ เสียนาน เธอประกอบอาชีพอะไรมิทราบ เธอร่ำรวยมีรถขี่มีเงินใช้ ฐานะร่ำรวย ซึ่งใคร ๆ ก็อยากจะร่ำรวยเหมือนน้าสุนันทาทั้งนั้น
อุทุมมารีบวิ่งออกมาที่รถ มองดูรถด้วยความภาคภูมิใจ ถ้าจะมีอย่างนี้บ้างคงจะมีความสุขสบาย "ทำอย่างไรนะ เราจึงจะมีเงินมีรถอย่างน้าสุนันทาบ้าง " อุทุมมาคิดไปเรื่อยเปื่อย
"สวัสดีน้าสุนันทา " อุทุมมาทักทาย
" สวัสดี หลานแม่อยู่บ้านไหม" สุนันทาทักพร้อมพุ่งเป้าหมายที่น่าสนใจไปที่ป้าสิน ลุงธรรม " พ่อแม่สบายดีหรือหลาน" สุนันทารุก
" จ้า สบายดีกันทุกคน" อุทุมมา
สุนันทา วาสนา สองสาวลงจากรถเดินเข้าไปในบ้านของอุทุมมา เมื่อเจอหน้าลุงธรรมป้าสินต่างยกมือไหว้ด้วยความสุภาพ อ่อนน้อม กับคนที่มีเงิน มีความรู้ และเป็นผู้ดีอยู่ในถิ่นเจริญคือกรุงเทพฯมหานคร
" ป้าสบายดีหรือ " สุนันทาทักทาย "ดูสุขภาพแข็งแรงดีนี้ น่าอิจฉาจัง" สุนันทาเย้า
" อย่างนั้นแหละหลานเอ๋ย" คนแก่ก็เป็นธรรมดาของมันเองแหละ" ป้าสิน
" หลานคงจะมีเงินเยอะ เอามาแจกกันบ้างซิ" ป้าสินต่อ
"เงินหาได้แหละป้า จะต้องสะสม หาเงินได้จ่ายหมดก็จนเช่นเดิม ป้าอยากมีเงินจ่ายมาก ๆ ใหม่"
"จะเอามาจากไหนหรือหลาน"
" ทำงานซิป้า ต้องทำงาน จึงจะสามารถหาเงินได้ สะสมเงินได้จึงจะรวย"
" ป้า ให้อุทุมมามันไปทำงานกับฉันซิป้า มันจะได้มีเงินจ่าย ระยะ นี้ฉันขาดคนงานอยู่พอดี ถ้าอุทุมพรไปทำก็จะได้เงินเยอะ ส่งมาให้ทางบ้านได้ใช้จ่ายกันอย่างสนุกสนาน ร่ำรวย สะดวกสบาย มีคนนับหน้าถือตา ซื้อรถสวย ๆ สร้างบ้านใหม่ อยู่กันอย่างมีความสุขยิ่งกว่าใคร จะเอาไหมจ๊ะ อุทุมมา "
"ฉันทำอะไรไม่เป็นหรอก"
" งานบ้านก็มี ล้างจาน ล้างถ้วย ทำความสะอาด หุงข้าว แกง เธอคงจะทำได้นะ"
" ได้จ๊ะ"
"เธอจะไปไหมจ๊ะ ถ้าเธอไม่ไป ฉันก็จะไปหาคนอื่นแทนแล้วละนะ"
" น่าสนใจมาก ลูกนะจะไปไหม"
" ไปก็ได้จ๊ะ แล้วจะไปเมื่อไรละ"
"พรุ่งนี้เลยนะ ฉันต้องรีบกลับไป ทิ้งงานมาหลายวันไม่ได้"
ในที่สุดอุทุมมาตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อทำงานและสร้างฐานะทางสังคมให้เจริญก้าวหน้า.
อุทุมมาไปทำงานได้เพียง หนึ่งเดือน ก็มีการฝากเงินมาให้แม่กับพ่อพร้อมกับสุนันทา เป็นเงินเกือบหมื่น ป้าสิน ลุงธรรมดีใจมาก มีเงินพอที่จะใช้จ่ายอย่างมีความสุขในโอกาสนี้และขอบใจสุนันทา
ข่าวการได้รับเงินและการจ่ายเงินของป้าสินลุงธรรมกระจายไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ทำให้หลายคนในหมู่บ้านมองเห็นทาง และอนาคตจะสดใส ถ้าให้ลูกสาวของตนไปทำงานกับสุนันทา ซึ่งเป็นญาติและเป็นคนในหมู่บ้าน ที่ออกผจญโชคในต่างถิ่น จนสามารถประกอบอาชีพเป็นหลักฐานมีความความมั่นคง และร่ำรวย
เมื่อสุนันทาไปทาบทามลูกสาวของใครต่อใครไปทำงานด้วย ก็ได้รับการยอมรับด้วยดี วันนี้สุนันทานำรถตู้มาและสามารถรวบรวมญาติได้ เจ็ด คน เดินทางสู่กรุงเทพมหานครในวันต่อมา
สิ้นเดือนที่ สอง เงินส่วนหนึ่งมาถึงบ้านของป้าสิน ลุงธรรมและพร้อมกันนั้นก็ถึงบ้านของญาติอีก เจ็ด คน ที่ลูกสาวไปทำงานในกรุงเทพ ทุกคนมีความสุข ปลื้มปิติ และสมหวังกับการไปทำงานของลูกตน
เงินนั้นถึงผู้ปกครองทุกเดือน ทุกคนคิดว่าลูกของตนกำลังทำงานอยู่ แม้จะเหน็ดเหนื่อยบ้างก็ช่างมันเถอะ เป็นการตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ ชีวิตของลูกเราคงจะเป็นได้แค่กรรมกร หรือลูกจ้างแรงงาน โอกาสที่จะพัฒนาเป็น เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าของบริษัท หรือนายทุนนี้คงจะยาก เพราะลูกของเราขาดการศึกษาที่เป็นฐานในการประกอบอาชีพและส่งมา เลี้ยงดู บำรุงเราผู้เป็นพ่อแม่ เราไม่มีที่ดิน ที่ไร่นา ที่จะนำไปขายเพื่อนำเงินไปให้ลูกหลานได้ศึกษาเล่าเรียนได้
บางพื้นที่ที่พ่อแม่มีความมุมานะส่งเสียให้ลูกได้ศึกษาเล่าเรียนจนจบปริญญาตรีได้ทำ งานที่มีความมั่นคง มีสวัสดิการที่ดี พ่อแม่เขาสละโดยขายหรือจำนองที่ดินไร่นาเพื่อเป็นทุนให้ลูกได้ศึกษาเล่าเรียน อนาคตของลูก ๆ ของเขาจึงดีกว่าลูก ๆ ของบ้านเรา อย่างไรก็ตามเถอะขอให้ลูก ๆ หลานทุกคนจงมีความซื่อสัตย์ ขยัน กตัญญู ชีวิตจะได้มีความเจริญก้าวหน้า
บางคนในบ้านเรามีการอยู่ดีกินดี มีการเงินดี แต่ไม่ส่งเสริมให้ลูกหลานเล่าเรียน เพียงแต่คิดว่าเงินสามารถซื้ออะไรได้ทุกอย่าง มีเงินแล้วก็หาความสุข ความเจริญก้าวหน้าให้แก่ชีวิตตนเองได้ ต่างกับคนที่มีฐานะยังอุตส่าห์ให้ลูกเล่าเรียนจนจบปริญญา หรือได้ดอกเตอร์ เมื่อสมัครทำงาน เขามีความรู้สูงก็ได้เป็นผู้บริหาร เงินเดือนสูง การเป็นอยู่สะดวกสบาย มีฐานะ มีอำนาจ บางคนอายุน้อยแต่ได้เป็นรัฐมนตรี เพราะอะไรหรือท่าน มิใช่ความรู้หรอกหรือ
คนที่มีความรู้เพียงแต่ขอให้โลกได้เห็นว่าเขาได้ฝึกในทักษะในการประกอบอาชีพมาอย่างดี แต่จะมีคุณภาพ หรือมีค่า (คุณธรรม) หรือไม่นั้น ไม่สามารถวัดกันได้ แต่ถ้าได้ประพฤติปฏิบัติจนสังคมเห็นและสามารถตรวจสอบได้แล้ว ความเจริญก้าวหน้าจะมอบรางวัลผู้นั้นเป็นการตอบแทน ในทางตรงและทางอ้อม
หลายปีต่อมา การเงินของป้าสินลุงธรรมมีน้อยลงไป เงินที่ส่งมาให้ไม่มากนัก จากที่เคยชินกับการจับจ่ายใช้สอยก้อนโต ๆ ใจกว้าง ก็ต้องลดถอยลง หลังจากนั้นมินาน อุทุมมาก็กลับบ้านด้วยอาการผอมซีด ผอมซีดเพราะเลือดน้อย เธอบอกว่าเธอป่วยไม่คอยมีแรง เธอนำยามาทานที่บ้าน หนึ่งเดือนผ่านไปเธอไม่สามารถจะลุกเดินไปไหนมาไหนได้ หรือทำอะไรก็ไม่ได้ และเธอสิ้นชีวิตลง ปิดฉากความเศร้าไว้เพียงเท่านั้น ทิ้งให้คุณลุงคุณป้าต้องผจญชะตากรรมกับความทุกข์ยากลำบากเรื่อยมา
ลูกๆหลานๆ ที่ไปทำงานกับสุนันทาที่กรุงเทพฯ ถึงแม้ว่าจะมีเงินเดือนถึงทุกเดือน แต่ขาวคราวการสื่อสารติดต่อนั้นขาดหายไปตั้งแต่วันแรกที่ออกจากบ้าน ข่าวคราวที่ได้บ้างก็จากสุนันทาเท่านั้น สำหรับผู้อื่นแล้วไม่มีใครได้ข่าวใด ๆ ทั้งสิ้น
สร้างความแปลกใจและฉงนแก่ทุกคน เพียงแต่สงสัยเพราะความไกลและความยากจนจึงทำให้ทุกคนเชื่อสนิทว่าลูกของตนไปประกอบอาชีพสุจริตที่มีคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและสังคม
ณ บ้านแห่งนี้ ทุกคนเกือบเป็นลม ต่างตื่นเต้นตกใจสุดขีด เมื่อโทรทัศน์ช่องหนึ่งรายงานข่าวการจับเจ้าของแหล่งมั่วสุมการขายประเวณีที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร มีนักการเมืองระดับใหญ่การสนับสนุน มีสาวขายตัวให้การบริการที่เจ้าหน้าที่จับได้เกือบสองร้อยคน แต่ภาพที่ออกมาให้เห็นนั้น มีลูกสาวของชาวบ้านในตำบลนี้รวมอยู่ด้วยหลายคน มีสุนันทารวมอยู่ด้วยในฐานะหัวหน้าแก๊ง ผู้ขายบริการเหล่านั้นบอกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองว่า ตนถูกหลอกให้มาทำงานแต่ถูกบังคับให้ค้าประเวณี ถ้าไม่ทำตามจะถูกบังคับตบตี บางคนหนีถูกจับได้ถูกซ้อมทุบตีจนตาย อีกหลายคนตายเพราะเป็นโรคร้าย บางคนถูกส่งกลับไปรักษาตัวที่บ้านและตายในที่สุด
เจ้าหน้าที่รวบรวมผู้ที่ถูกหลอกลวงมา แล้วให้ทำบัญชีเวลาที่ถูกหลอกลวง ทำหนังสือฟ้องเจ้าของซ่องบริการและผู้รับผิดชอบที่ทำให้เขาเหล่านั้นต้องสูญเสียอิสระและเสรีภาพ ต่อชีวิตและทรัพย์สิน จนต้องกลายสภาพเป็นเช่นสัตว์ที่ถูกบังคับใช้แรงแรงงานเช่นเดียวกับวัวและควายเช่นนั้น โดยให้เรียกว่าเสียหายคนละ 1 ล้านบาทต่อปี
ศาลมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์ที่มีทั้งหมดของผู้ดำเนินการมารวมกัน ทั่งเงินฝากธนาคารด้วย เพื่อจำหน่ายทอดตลาดและนำเงินเหล่านั้นเฉลี่ยแก่ผู้ได้รับความเสียหายโดยสัดส่วนด้วยความเป็นธรรม
เมื่อนำทรัพย์สินทั้งหมดมาจำหน่ายแล้วนำเงินมาเสียค่าปรับและชดใช้ค่าเสียหาย ที่ไม่สามารถจ่ายได้ทั้งมดตามคำสั่งของศาลที่สรุปสำนวนคดีและพิจารณาตัดสินด้วยความยุติธรรม
บางคนถูกจำคุกหนึ่งปี สามปี ห้าปี สิบปี บางคนยี่สิบปี บางคนเกือบร้อยปี บางคนร้อยปีกว่า หลายสำนวนคดี เมื่อรวมกัน
" น่าจะประหารชีวิตบ้างนะ " ญาติของสาวที่ถูกหลอกลวงบางคนกล่าว
เป็นธรรมชาติของผู้กระทำผิด จะมิยินยอมรับผิดโดยง่ายทั้ง ๆที่รู้อยู่แก่ตนเองว่าการกระทำนั้นผิดเต็มประตู เขาพยายามหลีกเลี่ยงหลบเร้นหนีความจริง แล้วแต่จะสรรหาคำโกหกมาบอกกล่าวหรือเลี่ยงไปน้ำขุ่น ๆ เขาจะเชื่อหรือไม่ช่างเถอะ ขอให้เขารอดตัวไปพลาง ๆ ก่อน ดังเช่น นักการเมืองของพรรคบางพรรค บางคน ทีไม่ยอมรับความจริง ที่ถูกกล่าวหา จะปฏิเสธเสมอ จะยอมรับว่ามีความผิดในเมื่อศาลพิพากษาสิ้นสุดว่ามีความผิด จะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ประชาชนและประเทศชาติ ซ้ำยังบิดเบือนความจริง และใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นอีก เพื่อสร้างภาพให้สวยหรู ผู้ไม่รู้ทันการณ์ ก็จะเชื่อตามภาพที่เขาสร้างขึ้น ทำให้ประชาชนบางส่วนที่มืดบอด ไม่ได้รับทราบข่าวสารข้อมูลเปรียบเทียบกับสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หรือความหมายที่เขาได้รับ ย่อมมีเหตุและผลต่อการตัดสินใจ สนับสนุนคัดเลือกทางการเมือง เมื่อผิดพลาดไปแล้ว ประชาชนจะต้องช่วยกันแกะปอกหรือกัดแทะเปลือกมันออกไป จะได้พบแก่นแท้อันมีประโยชน์ของพืชพันธ์ธรรมหรือประโยชน์ของมัน
สุนันทาจึงหาโอกาสหนีจากกระบวน โดยการกระโดดขึ้นรถเข้าในกะบะที่จอดอยู่ใกล้ทางเดินขณะที่รถคันนั้นสตาร์ทเครื่องรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเธอปิดประตูรถคันนั้นก็ออกทันทีด้วยการกระชากเกียรอย่างเร็ว รถออกไปปานลูกธนูออกจากแอ่ง "ไปให้เร็วที่สุด หลีกเลี่ยงการผจญหน้าและหาที่ซ่อนให้เร็วตามที่นัดหมายกันไว้"
โชเฟอร์ขับรถเร็วมากออกไปทันทีตามที่ตกลงกันไว้ รถพุ่งไปอย่างไม่คิดถึงชีวิตหรืออะไรทั้งสิ้น รถตำรวจไล่ตามมาอย่างใกล้ชิด ทันใดนั้นมีรถคันหนึ่ง จะเลี้ยวขวาเพื่อยูเทินกลับเข้าเมือง มีรถไล่ตามไปอย่างกระชั้นชิด เธอส่งเสียงหวีด พร้อมเสียงโอดครวญตามใจต้องการของผู้พูดเอง โดยขอร้องให้บอกนักข่าวและประชาชนว่า " (ยังไม่ทันได้พูด).." รถกะบะตามหลังมาบังคับรถไม่ทัน เพราะรถคันหน้าไม่ให้สัญญาณเลี้ยว จึงไม่ได้เตรียมตัว จึงเบรกกะทันหันพร้อมหักพวงมาลัยหลีกโดยอัตโนมัติ รถจึงพลิกคว่ำกลางถนนและไถลไปอัดคอบปี้กับต้นไม้กลางถนน ปรากฏว่าเสียชีวิตหนึ่งคนเพราะพวงมาลัยอัดไว้ อีกคนบาดเจ็บเพราะรีบตะลีตะลานเพื่อจะหนีตำรวจ ร่างได้รับการกระแทกอย่างแรง เธอร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดและสุดจะทรมานแพทย์นำเข้าสู่ห้องศัลยกรรม เป็นห้องที่มีอาการหนัก ต้องเข้าห้อง ไอ. ซี. ยู.มีหลายเตียงทะยอยตามกันไปตามสภาพของอาการป่วยและเวลาที่ถูกจำกัดโดยผู้ที่มองไม่เห็น
บางคนบอกว่า " การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา เป็นธรรมชาติ ใครจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม่แต่คนที่ร่ำรวยมาก ๆ หาหมอที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะด้านทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับคนป่วย คือ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ตามลำดับ"
ข้าพเจ้าคิดค้านอยู่ในใจว่า ไม่จริงเสมอไป เพื่อนของข้าพเจ้าคนหนึ่งเขาเผลอข้ามถนนมองไม่เห็นรถบัสทางไกล ขนาด 24 ที่นั่ง เขาวิ่งออกไปในระยะกระชั้นชิดเพียง ไม่ถึง10 เมตร เพียงเสี้ยววินาทีร่างของเขาแหลกละเอียดกระจายเต็มท้องถนน และเงียบ ข้าพเจ้าคิดว่า เขาคงจะไม่ทันรู้สึกเจ็บหรอก คงจะสิ้นชีวิตเสียก่อน เป็นข้อยกเว้นที่ข้าพเจ้าคิดเอง
สุนันทาแขนขาหัก ซี่โครงหัก เธอรักษาด้วยเงินประกันภัย พรบ. อยู่เป็นเดือน เธอไม่หายมาเป็นเหมือนเดิม เธอได้รับมรดกทุรพลภาพตลอดมา อาศัยนั่งในรถเข็นทำให้เธอได้มีโอกาสย้อนคิดถึงสิ่งที่เธอทำไว้ ว่าเป็นโทษต่อชีวิตของเพื่อนมนุษย์ ที่ได้รับความทุกข์ทรมานไม่หยิ่งหยอนไปกว่าเธอ สุนันทา พบเห็นภาพเหล่านั้นในห้วงสำนึกผุดลอยมาโดยบังเอิญขณะนั่งเผลอคิดเพลิน หรือขณะหลับก็ฝันไปเห็นความชั่วร้ายของตน เห็นผู้หญิงถูกทำร้าย ถูกทรมาน สร้างความปวด และหวาดผวาตลอดเวลา ภาพอดีตเหล่านั้นคอยหลอกหลอนเธอ เธอต้องผวาตกใจกลัว บางครั้งส่งเสียงกรีดด้วยความตกใจกลัวจนลนลาน นี้คือสิ่งที่เธอได้รับในขณะยังมีชีวิต ก่อนจะลาโลกนี้ไป อีกนานเท่าไรไม่ทราบได้
หลายคนที่โดนเธอหลอกได้ร่วมกันสาปแช่งให้สุนันทาตกนรกหมกไหม้ " สภาพที่เธอเป็นอยู่ก็ตกนรกดี ๆ นี่เอง " คนหนึ่งกล่าวขึ้นด้วยความสมเพทเวทนาและสมน้ำหน้า "กรรมตามทันเธอแล้ว คงจะอยู่รับความปวดร้าวไปนานเท่านาน และสาสม"
..................
เมื่อวันที่ : 26 พ.ค. 2558, 16.47 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...