![]() |
![]() |
เปิดฟ้า ก้องหล้า![]() |
...บ้านหลังใหญ่ปลูกเป็นแถวสี่ชั้นมีห้องเรียงเป็นแนวแบบรูปตัวยู ณ ห้องรับแขกด้านหน้า มีผู้คนเดินพลุกพล่าน สังเกตจากหน้าตาดุดันดุร้ายไว้ผมเครารุงรังดูท่าทางดุดันมาก...
บ้านหลังใหญ่ปลูกเป็นแถวสี่ชั้นมีห้องเรียงเป็นแนวแบบรูปตัวยู ณ ห้องรับแขกด้านหน้า มีผู้คนเดินพลุกพล่าน สังเกตจากหน้าตาดุดันดุร้ายไว้ผมเครารุงรังดูทางต่างดุดันมาก ผู้หญิงก็เป็นวัยรุ่นตอนต้นและวัยรุ่นตอนปลายเดินไปมา บางคนก็ชำเลืองมามองด้วยสายตาเฉย ๆ บางคนยิ้มไห้ บางคนรู้สึกว่าสายตาเปี่ยมด้วยความประชดประชันและเหยียดหยามต้อยเข้ากรุงเทพฯมากับเพื่อนนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน แต่เรียนคนละวิชาเอกกัน ต้อยเรียนวิชาการตลอด สุนทรเพื่อนคนนี้เรียนเทคโนโลยี และไฟฟ้า เราชอบพ่อกันมาประมาณ 2 ปี ด้วยตกเป็นของสุนทรเมื่อ 2 เดือนก่อนมาแล้ว ด้วยยานอนหลับที่ต้อยไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นกับเธอ
สุนทรใช้คลิบวีดิโอมือถือ ตอนที่มีเพศสัมพันธ์กันนำมาข่มขู่มิให้ต้อยพูดเรื่องนี้กับใคร บางครั้งขอเงิน บางครั้งขอนอนด้วย ถ้าไม่ยินยอมขู่จะนำคลิปไปเผยแพร่ทางอินเตอรเนต ต้องต้องจำใจจำยอมเรื่อยมา
วันนี้ก็เช่นกันต้อยต้องมากับสุนทรถึงกรุงเทพฯ เพราะอิทธิพลของเจ้าคลิบวีดิโออันนี้เอง สุนทรบอกว่าไปเยี่ยมญาติของเขา สุนทรนำต้อยมาที่นี้และบอกให้เธอรอ เขาจะเข้าไปติดต่อพบญาติก่อน เวลาผ่านมานาน หลายชั่วโมงแล้วก็ไม่เห็นนายสุนทรกลับออกมา
จนตกเย็นต้อยคิดว่ามันผิดสังเกต แล้วจึงลุกขึ้นมาเดินดูรอบ ๆ พอจะผ่านเขาไปด้านใน มีผู้ชายสองคนเข้าห้ามโดยบอกว่าผ่านเข้าไปไม่ได้ ทำให้ต้อยต้องแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง คิดว่าเราจะรออยู่ทำไมอีกเล่า เราออกไปข้างนอก หาทางกลับบ้านก่อนค่ำ
คิดแล้วลุกจะเดินออกไปทางหน้าบ้าน ก็มีผู้ชายอีก 2 คนเข้ามาขัดขวางไม่ให้ต้อยออกไปข้างนอก
"คุณจะไปไหน"
"จะกลับบ้าน"
"บ้านอยู่ที่ไหนละ"
"มาจากเหนือ"
"คุณมากับใครหรือ"
"มากับสุนทร เขาบอกว่า นี่เป็นบ้านของญาติของเขา เขาบอกให้คอยเขา ๆ เข้าไปในบ้านเพื่อติดต่อญาติของเขาตั้งนานแล้ว"
"คุณถูกหลอกแล้วละ"
"ทำไมหรือ" ต้อยก็ตกใจกังวลใจทันที ไม่คิดเลยว่าจะถูกหลอก เขาคงไปธุระกระมัง"
"เขาขายคุณไปแล้วละ เขารับเงินค่าตัวคุณไปแล้ว และเขาก็กลับไปนานแล้ว แต่คุณไม่ใช่.."
"ปล่อยฉันเถอะ อย่าห้ามเราเลยเราจะกลับบ้าน"
" คุณไปไหนยังไม่ได้ ผู้ชายคนนั้นนำคุณมาขายให้เจ้เจ้าของบ้านนี้แล้ว คุณจะต้องอยู่ที่นี่ ทำงานที่นี้"
"ฉันไม่อยู่ละ ฉันจะกลับบ้าน"
"คุณไปไม่ได้ คุณจะต้องไถตัวคุณสองเท่าที่เขาขายไว้"
"เขาขายไว้เท่าไร"
" ห้าแสน" แต่คุณจะต้องจ่ายหนึ่งล้าน จึงจะกลับออกไปได้"
"ฉันอยากจะกลับไปเดี่ยวนี้"
"คุณจะไปได้อย่างไร"
"ฉันมีเงินค่าโดยสารประจำทาง"
"คุณสำรวจดูว่าคุณมีเงินเท่าไร"
ต้อยได้สำรวจกระเป๋าที่ตนสะพายอยู่ ไม่ปรากฏว่ามีเงิน เงินหายไปหมดแล้ว จะค้นหาอย่างไรก็ไม่เจอ แม้แต่โทรศัพท์ก็หายไป นี่สุนทรมันหลอกเราจริง แล้ว"
"เวรละเรา เราจะทำอย่างไรดีละ " ต้อยรำถึงกับตนเอง
ต้อยพยายามเดินหลีกไป แต่ผู้ชาย 2 คนนั้นพยายามขัดขวางไม่ให้ต้อยเดินออกไปจากบริเวณนั้นได้
"ปล่อยฉัน ให้ฉันกลับบ้านเถอะ เดี่ยวฉันจะตะโกนขอความช่วยเหลือให้คนมาช่วย"
"อย่านะ อันตรายห้ามเธอทำอย่างที่ว่านะ" สองชายพยามให้คำแนะนำ
" ช่ว.........." ต้อยทำท่าตะโกนขอความช่วยเหลือ เพียงคำแรกเธอถูกปิดปาก โดยชายคนหนึ่งเข้าข้างหลังใช้มือข้างหนึ่งกอดสะเอวเธอ อีกมือหนึ่งตะปบปิดปากของต้อยไว้แน่นมิให้ตะโกนออกเสียงได้ พร้อมกับเขาดันร่างของต้อยให้เข้าไปด้านในของอาคาร ซึ่งลับหูลับตาคน"
" นี่มันอะไรกัน เมืองนี้ประเทศนี้มีการขายมนุษย์กันด้วยหรือ เป็นการทำลายสิทธิมนุษยชนชั้นพื้นฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทำอะไรบ้างหรือ ต้อยนึกสมเพชเวทนาตนเอง เพราะเธอชื่นชมและชอบคนหล่อ เช่น สุนทร จึงเป็นเช่นนี้
" คุณเข้าไปข้างในบ้านพบกับเจ้เจ้าของเงินก่อน เจ้จะจัดการให้คุณได้มีหน้าที่และที่พัก ได้อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า กินอาหาร และมีงานทำ"
"งานอะไรหรือ"
"งานบริการ พร้อมรายได้ดี สบายละ ร่ำรวยเร็ว"
"งานบริการทำอะไรหรือ"
"ถึงเวลาคุณก็รู้เอง"
"ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า กินข้าวก่อนนะ"
"ไม่ ฉันไม่ทาน"
"ไม่ได้นะ เดี่ยวจะเป็นลม ล้มฟุบเสียก่อน ไม่ดี อย่าพูดมากไปเถอะ"
เมื่อไม่สามารถจะออกไปได้ เพราะพวกนั้นมันมีปืนและขู่บังคับไว้ว่า ถ้าคุณพยายามหนีเราจะฆ่าคุณทันที
ยิ่งเพิ่มความกลัวให้ต้อย ยิ่งขึ้น ดูทุกอย่างในสถานที่นี้เป็นสิ่งที่น่ากลัวไปหมด ขณะที่พวกมันเอาปืนจี้ให้ต้อยเข้าไปในบ้าน ซึ่งมีผู้หญิงวัยรุ่น สาว ๆ สวย ๆ นั่งอยู่เป็นกลุ่ม ในตู้กระจกติดแอร์ที่กลุ่มผู้ชาย ไม่ต่ำกว่า 20 คน กำลังยืนมองดูอยู่
ทันใดนั้นชายคนหนึ่งก็ชี้นิ้วไปที่ผู้หญิงสวยคนหนึ่งที่อกติดป้ายวงกลมหมายเลข 15 ไว้ จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ลุกขึ้นออกมาจากตู้พบผู้ชายคนที่ชี้นิ้ว มีผู้ชายอีกคนนำเธอไปให้ผู้ชายและทั้งสองก็เดินไปในหลืบข้างหลัง หายลับไป
"เออ เขาไปไหนกัน ไปทำอะไร ทำไมต้องไปกับชายที่ชี้นิ้วไปที่เธอด้วย" ต้อยคิดสงสัยต่าง ๆ นานา สมองคิดวุ่นหมุนติ้ว เวียนหัวคล้ายจะเป็นลมหน้ามืด แต่ก็พยายามเข็งใจ เราจะต้องออกไปจากที่นี้ให้ได้
" เราเป็นเสรีชน มิใช่ทาสเขา นี้เป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่ทำไมเราถูกบังคับ ถูกหลอกลวงมาขายละ เหมือนขายผักขายปลา"
ต้อยเดินตามผู้ชาย 2 คนนั้นไปในห้องให้เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำ ในจำนวนชาย 2 คนนั้น ช่วยกันปลุกปล้ำทำร้ายจนต้อยต้องเสียตัวไปในพริบตานั้นเอง คนหนึ่งนั่งดูตาปริบ ๆ ต้อยอายแสนอายคนอะไร
ครั้งแรกต้อยไม่ยินยอมถูกต่อยท้องหลับเมือดไป เมื่อตื่นก็ต้อยถูกข่มขืนเรียบร้อยแล้ว
"นี่มันนรกชัด ๆ ไม่ใช่แดนมนุษย์ หรือแดนสวรรค์ นี้หรือกรุงเทพ ฯ ที่ใคร ๆ ชื่นชมยกย่องว่าเป็นแดนสวรรค์ แต่เมืองหลวงที่ต้อยผ่านมาหาเป็นเช่นนั้นไม่ มันคือนรกขุมลึกที่สุด" ต้อยรำพึงกับตนเอง
เมื่อคนแรกข่มขืนต้อยสำเร็จ คนที่ 2 ก็เริ่มลงมือลวนลามต้อย ต้อยสุดขยะแขยง แต่พยายามปัดป้องเท่าไรก็ไม่สามารถกระทำได้ เพราะถิ่นนี้ คือนรก ดินแดนที่มีการเอารัดเอาเปรียบกันซึ่ง ๆ หน้า หน้าด้าน ๆ ไร้คุณธรรมทุกประการ ในยามที่ต้อยต้องผจญกบความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ที่สุด อยากจะหนีมุดดินไปโผล่ซีกโลกตรงกันข้าม แต่ไม่สามารถทำได้ ต้อยเพียงแต่คิด
ต้อยต้องนั่งร้องห่มร้องไห้ แทบน้ำตาจะเป็นสายเลือด ที่โดนสัตว์ป่าเถื่อนทำร้ายข่มขืนใจด้วยความอักขระ ทารุณโหดร้ายที่สุด จากเขามนุษย์ผู้ไร้เมตตาเยี่ยงสัตว์นรกจริง ๆ มีใครหรือนรกบนดิน เคยพบอ่าน ได้ยินแต่นรกในแดนนรกใต้พิภพทีมีกระทะทองแดง กาปีกเหล็ก ต้นงิ้วหนามแหลม ฯลฯ ทำนองนั้น
แต่นรกที่ต้อยประสบต่างกับนรกที่เขาเล่าขานกันมาก ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนใด ถ้าโดนอย่างต้อยขณะนี้ ก็คงจะปวดร้าวทรมานอย่างแสนสาหัส ปานจะปลิดชีวิตทิ้งไปจากโลกนี้
ด้วยอารมณ์คิดมากจนสมองอ่อนเพลี้ย แ ละความหิวทำให้ต้อยต้องหลับไปงีบหนึ่ง ต้อยตื่นขึ้นมา ชายสองคนนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าให้และพาเธอเขาห้องน้ำ อาบน้ำ แต่งชุดใหม่ให้ นำข้าวหนึ่งถ้วยพร้อมแกง ผัด สิ่งละจานมาให้
ต้อยนั่งร้องไห้ ขืนใจยืน มันตีบตัน ว้าวุ่นไม่หิวอะไรเลย นึกถึงแต่เสรีภาพ นึกถึงจอมมารร้ายที่หลอกลวงมา ชื่อสุนทร ที่ทำให้ชีวิตเธอต้องพลิกผันไป
คืนนั้นต้อยนอนไม่หลับ คิดแต่จะหาวิธีการหนี จากไปจากที่นี้อยากให้หลุดพ้นไปจากนรกขุมนี้เสียที คืนนี้มันช่างยาวเป็นสิบ ๆ ปีเลยเชียว
แต่ละเสี้ยววินาที มันนานแสนนานในความรู้สึกของต้อยที่ต้องคิดถึงแม่ คิดถึงพ่อ คิดถึงพี่และน้อง ลุงป้าน้า อาและ เพื่อน ๆ
คุณครูคงจะห่วงต้อยและไปตามหาต้อยที่บ้าน ถ้าเจอคุณครูต้อยจะบอกครูได้อย่างไร ต้อยคิดแล้วโกรธเกลียดตัวเองและคนรักของตนเองมาก นั้นหรือ
"คบพาล ๆ พาไปหาผิด คบบัณฑิต ๆ พาไปหาผล"
ต้อยคิดถึงพ่อแม่ที่ให้ความอบอุ่น พ่อแม่ไม่เคยดุด่าว่าร้ายเลย มีแต่เอาอกเอาใจ ต้อยต้องการอะไรหาให้ทุกอย่าง แต่คุณพ่อไม่ค่อยอยู่บ้าน ท่านไปสรวลเสเฮฮากับเพื่อน ๆ ของท่านหลังจากเลิกงาน บางคืนกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ ต้อยหลับไปแล้ว เมื่อพ่อมาถึงบ้าน ตอนเช้าต้อยต้องไปโรงเรียนแต่เช้า คณะที่พ่อกำลังหลับอยู่ โอกาสที่เราพ่อลูกจะพบกันนั้นมีน้อยมาก
สำหรับแม่ท่านรักลูกมาก ท่านให้ทุกอย่าง เอาอกเอาใจ แต่แม่อยากให้ลูกเป็นไปตามอารมณ์ความต้องการของแม่ แม่ไม่ค่อยฟังเหตุผลของลูก บางครั้งแม่มีอารมณ์เครียด เกรี้ยวกราด ต้อยเกือบไม่ได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวเลย แต่ต้อยได้รับความสะดวกสบายจากเงินทองที่พ่อแม่ท่านหาได้ ในใจของต้อยจึงโหยหา แห้งเหี่ยว และต้องการคนรดน้ำพรวนดิน ให้มีความสุขความอบอุ่น ได้สนุกสนานเข้าใจในชีวิต ซึ่งกันและกัน แต่ต้องไม่.......สิ่งนั้น บัดนี้ต้อยกำลังลอยอยู่ในทะเลเพลิง หรือลอยอยู่ในทะเลทองแดง ของหลุมนรก หลุมใดหลุมหนึ่งในแดนอเวจีอันมืดมิดที่สุดกว่าทุก ๆ แดน
ต้องงีบไปก่อนสว่าง ในเมืองหลวงนี้มีเสียงนกกาเจื้อยแจ้วเหมือนแพงพีบ้านเรา เห็นภาพคุณพ่อคุณแม่กำลังตามหาตนอยู่
ต้อยตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองถูกข่มขืนอีกแล้วจากชายร่างใหญ่อายุมากบึกบึนผิวคล้ำตาแดง ผู้ซึ่งน่าขยะแขยงที่สุด ดวงใจของต้อยสุดปวดร้าว มันแตกสลายไปแล้ว ความเป็นคนจึงงดหาย
ไปเหลือแต่ความเป็นป่าเถื่อนในความรู้สึกของต้อย
ถ้อยคิดถึงคนรัก ครั้งแรกที่พบกันในบริเวณสนามกีฬากลาง เราพูดคุยกันสนุกสนาน ทุกอย่างดีไปหมด ความรักทำให้คนตาบอดจริงดังที่นักปราชญ์โบราณกล่าวไว้ เพราะความรัก ความรักความสุขความพอใจอย่างเดียว จึงทำให้ต้อยต้องไปกับสุนทร จนถูกมอมเมายานอนหลับแล้วถูกข่มขืน และปล่อยใจกายให้กับเขาตลอดมา ผลที่ต้อยรักบูชา ศรัทธาเขา และมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เขา มันมีค่ามหาศาลสำหรับต้อย แต่ในสายตาของสุนทร ช่างไม่มีค่าอันใดเหลืออยู่อีกเลย เขาหลอกต้อยมาขาย เช่นเดียวกับขายเป็ดขายไก่ หรือสัตว์เดรัจฉานตัวหนึ่งเท่านั้น นี่หรือน้ำใจของคน ที่เรารักและหวังฝากตัว หวังเป็นที่พึงของชีวิตตลอดไป
ต้อยเพิ่งคิดได้เดียวนี้เองว่า สิ่งที่ได้มาง่าย ๆ มันย่อมมีค่าน้อยในความรู้สึก เมื่อตกเป็นของเขาอยู่ในอุ้งมือของเขาแล้ว เขาจะชอบหรือทำลายอย่างไรก็ได้ สุนทรไม่เคยคิดที่จะถะนุถนอมแม้แต่นิด เพราะเราไม่เชื่อคำของพ่อแม่ ไม่เชื่อเพื่อน เราเอาแต่ใจตนเอง เราอยากสนุกสนาน ครั้งแรก ๆ เป็นความสุขดุจอยู่วิมานแดนดาวดึงส์ แต่หลังจากนั้น มันกลายเป็นนรก เพียงชั่วเลี้ยวกระพริบตาเท่านั้น
ตลอดสัปดาห์มีผู้ชายสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาข่มขื่นต้อยทุกวัน ต้อยจะขอร้องอย่างไรเขาไม่สนใด ๆ ทั้งสิ้น ขอเพียงให้เขาได้บำบัดความใคร่ และได้ฟรีด้วย ไม่ทราบว่าเขาเป็นมนุษย์หรือไม่ เขามีลูกสาวหรือไม่ เขามีญาติพี่น้องที่เป็นอย่างนี้หรือไม่ ถ้าลูก ๆ หรือญาติของเขาที่เป็นผู้หญิง ถูกกระทำอย่างนี้บ้าง เขาจะมีความสุข หรือโกรธแค้นกันแน่ สวรรค์มีคำตอบให้หรือไม่ หรือนรกเต็มใจตอบแค่ฝ่ายเดียว
วันที่ 8 ผู้ชายเหล่านั้นที่เคยข่มขืนต้อยได้เข้ามาพูดคุยให้รับแขก ต้องหาเงินจ่าย ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตอยู่เท่าค่าเช้าห้อง ค่าอาหารและสิ่งอื่น ๆ จิปาถะ มันเป็นเงื่อนไขที่ไม่มีความเป็นธรรมอยู่เลย
คนแรกเป็นผู้ชายแก่ ๆ ร่างอ้วน ๆ ต้อยสุดสะอิดสะเอียน และไม่ยอมด้วย จึงทำให้ผู้ขายนี้ ขายให้ในการเปลี่ยนไปหาคนใหม่
ดึกดื่นคืนนั้น ชายชุดดำ 2 คนเข้ามาในห้อง ลงมือตบตีแตะต้อยในฐานะไม่รับแขก ทำให้แขกไม่พอใจ แต่ก็ดีที่แขกไม่เปลี่ยนใจไปใช้บริการที่อื่น
ต้อยสลบไป เป็นแผลปวดร้าวไปทั่วทั้งตัว จึงต้องนอนพักรักษาเป็นสัปดาห์
เธอจึงถูกบังคับให้รับแขก วันนี้เป็นเด็กหนุ่มร่างดี แต่งกายดี ร่างสูงใหญ่สมสัดส่วน ผมสั้นเกรียน เมื่อเธอเข้าประตูมา ทำให้ทั้งองสบตากัน ยืนจังงังอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ตาต่อตา ใจต่อใจ ประสานร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความสุขปิติเกิดขึ้นสำหรับต้อยและ ชายหนุ่มทั้งสองยืนจ้องกันนาน สุดท้ายทั้งสองผวาจะเข้ากอดกัน แต่ผู้หญิงชะงักไว้และจับมือพูดคุยกัน
ต้อยเล่าประวัติ ความเป็นมาให้เธอทราบทุกอย่าง ๆ ละเอียด ชายหนุ่มเห็นอกเห็นใจและรักต้อยมาก ไม่ได้ถือสาหาความแต่อย่างใด เพราะเขาเองก็หากินอยู่อย่างนี้ มิใช้เป็นแมงดานะแต่เป็นการปลดเปลื้องคลายทุกข์เท่านั้นเอง
แม้ทั้งสองจะชอบพอกัน ต้อยก็ยินดีที่นะพลีร่างนั้นให้เขา แต่เขาก็ไม่สนใจสิ่งเหล่านั้น เขาต้องการหัวใจของต้อย ต้องการความรักภักดี และความศรัทธาจากต้อย ทั้งสองเพียงแค่กอดกัน ความอบอุ่นซาบซ่านทั่วสารพางค์กาย ยากที่จะพรรณนาถึงความสุขนั้นได้
มีคนมาเคาะหน้าห้อง บอกว่าหมดเวลาแล้ว สองชั่วโมงเต็มแล้ว ทั้งสองกอดกันแน่น จากกันทันทีด้วยความเสียดาย และห่วงใยทั้งสองประสานและผูกมิตรกันด้วยสายตา กว่าจะจากกันได้มันสุดแสนยากยิ่ง ก่อนคลายและจากกันที่ละนิด ขณะดวงตาทั้งสองยุดดึงประสานกันอย่างเหนียวแน่น
คืนนั้นต้อยนอนไม่หลับ คิดถึงแต่เขา อยากอยู่ใกล้เขา เมื่อไรหนอเขาจะกลับมาอีก หรือคงจะไม่มีโอกาสอีกแล้วถ้าเขาไม่ย้อนกลับมา คิดอีกมุมหนึ่ง มันน่าเจ็บใจนัก สุนทรที่เรามอบรักมอบหัวใจให้ กลับทำร้ายเราลงคอ น่าจะส่งไปลงนรกให้คลาดแคล้วกันไป แต่ คิดได้ว่า เพราะเราใจอ่อน เชื่อง่ายไม่ได้คิดพิจารณาเหตุผล พอผู้หวังดีเอาแต่ใจตนเอง ใช่แล้ว เราต้องปรับปรุงที่ตนเอง ไม่ไปตำหนิผู้อื่น ถ้าเราดี มีความเชื่อมั่นในตนเอง ทำอะไรตามประเพณีและวัฒนธรรมและรักพ่อแม่อย่างจริงใจ แล้วคงจะไม่มีวันนี้ ต้อยคิดไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันจบ
ถ้าเราปฏิเสธสุนทรตั้งแต่ครั้งแรก คงจะไม่มีน้ำตานองในวันนี้ จุดเริ่มต้นต้องระวัง ต่อไปเราจะไม่ใจง่ายเหมือนตอนนั้น จะเชื่อสิ่งที่สังคมเชื่อ เชื่อสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผล ว่ามันจะนำไปสู่ความดี หรือความเลวร้าย ถ้าคิดได้ว่ามันจะไปสู่ความหายนะ ความตกต่ำ เราก็ถอยออกไปเสีย ไม่ฝืนเกียรติ ไม่ฝืนใจ ไม่ประชดใคร ความเป็นตัวเองจะทำให้เดินไปสู่ทางที่ถูกต้องทุกประการ
คืนต่อมา ต้อยเฝ้าคอยหมายพบหนุ่มคนนั้นด้วยใจจดจ่อ คอยแล้วคอยเล่าก็ไม่เห็น ไม่มีวี่แววของเขา นึกถึงเขา ความอบอุ่น ความสุภาพและความจริงใจไม่รังแกต้อย ไม่เอาเปรียบต้อย ทำให้ต้อยมีความสุขจนลืมความทุกข์ที่ผ่านมาในชีวิตได้เยอะ เพราะเขาคนเดียว
ข้างล่างมีเสียงดัง แฮะฮะโวยวาย กรีดกราด เสียงจารหวั่นทำให้ต้อยสงสัย อยากจะรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น
ทันใดประตูห้องโถงก็เปิดออก เขานำต้อยมาขังไว้ในห้องโถงนี้ เพราะต้อยนั้นเป็นน้องใหม่ ไม่คุ้นเคยกับกิจกรรม การขายตัว พวกแมงดาจึงต้องควบคุมให้อยู่ในสายตาก่อนเพื่อไม่ให้มีปัญหา
ปรากฏว่าผู้ที่เขามาคนแรก คือผู้ชายเมื่อคืนนั้นเอง พร้อมด้วยตำรวจ ต้อยมองด้วยตะลึง หนุ่มจึงเข้ามากอดต้อยด้วยความดีใจ ต้อยเองมีความสุขมาก ๆ จึงเดินตามออกไป พบสาว ๆ บริการประมาณ 30 --40 คน ถูกต้อนมารวมกันไว้ กลางห้องโถงรับแขก ส่วนแมงดา เจ้าพ่อ พ่อเล้า เจ้าของกิจการ ถูกนำไปควบคุมไว้อีกซีกหนึ่งของห้องโถงและตำรวจนำพวกนั้นไปขึ้นรถ 6 ล้อ เป็นรถบรรทุกนักโทษทีฝาคลอบรอบสี่ด้านน่ากลัวนัก
ทุกคนถูกกวาดต้อนไปโรงพักในเขตพื้นที่ มีการสอบปากคำ ทำประวัติทุกคน ยกเว้นต้อยที่ชายหนุ่มกันออกไป นำไปที่บ้าน ให้อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า และหนุ่มนำไปรับประทานอาหารที่ภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง เมื่อไปถึงตำรวจรักษาความปลอดภัยสายตรวจ ทำวันทยาหัตถ์ หนุ่มและต้อย ต้อยตะลึงและมีความสุขมากที่ทราบว่าผู้ที่อุปการะเธอคือตำรวจผู้มีคุณธรรม และจะเป็นคนดีของเขา
"เพราะถูกหลอกมาจึงมีวันนี้" ต้อยรำพึงกับตนเอง
.......................
เมื่อวันที่ : 10 พ.ค. 2558, 14.32 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...