นิตยสารรายสะดวก  Fiction  ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘
เพราะเธอ..จึงมีวันนี้
เปิดฟ้า ก้องหล้า
...บ้านหลังใหญ่ปลูก​​เป็นแถวสี่ชั้นมีห้องเรียง​​เป็นแนวแบบรูปตัวยู ณ ห้องรับแขกด้านหน้า มีผู้คนเดินพลุกพล่าน สังเกตจากหน้าตาดุดันดุร้ายไว้ผมเครารุงรังดูท่าทางดุดันมาก...
บ้านหลังใหญ่ปลูก​เป็นแถวสี่ชั้นมีห้องเรียง​เป็นแนวแบบรูปตัวยู ณ ห้องรับแขกด้านหน้า มีผู้คนเดินพลุกพล่าน สังเกตจากหน้าตาดุดันดุร้ายไว้ผมเครารุงรังดูทางต่างดุดันมาก ผู้หญิงก็​เป็นวัยรุ่นตอนต้น​และวัยรุ่นตอนปลายเดิน​ไปมา บางคนก็ชำเลืองมามองด้วยสายตาเฉย ๆ​ บางคนยิ้มไห้ บางคนรู้สึกว่า​สายตาเปี่ยมด้วย​ความประชดประชัน​และเหยียดหยาม

ต้อยเข้ากรุงเทพฯมา​กับ​เพื่อนนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน ​แต่เรียนคนละวิชาเอกกัน ต้อยเรียนวิชาการตลอด สุนทร​เพื่อนคนนี้เรียนเทคโนโลยี ​และไฟฟ้า เราชอบพ่อกันมาประมาณ 2 ปี ด้วยตก​เป็นของสุนทร​เมื่อ 2 เดือนก่อนมาแล้ว​ ด้วยยานอนหลับ​ที่ต้อยไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่า​จะเกิดขึ้น​​กับเธอ

สุนทร​ใช้คลิบวีดิโอมือถือ ตอน​ที่มีเพศสัมพันธ์กันนำมาข่มขู่มิให้ต้อยพูดเรื่อง​นี้​กับ​ใคร บางครั้งขอเงิน บางครั้งขอนอนด้วย ​ถ้าไม่ยินยอมขู่​จะนำคลิป​ไปเผยแพร่ทางอินเตอรเนต ​ต้อง​ต้องจำใจจำยอมเรื่อยมา
วันนี้ก็เช่นกันต้อย​ต้องมา​กับสุนทรถึงกรุงเทพฯ ​เพราะอิทธิพลของเจ้าคลิบวีดิโออันนี้เอง สุนทรบอกว่า​ไปเยี่ยมญาติของ​เขา สุนทรนำต้อยมา​ที่นี้​และบอกให้เธอรอ ​เขา​จะเข้า​ไปติดต่อพบญาติก่อน เวลาผ่านมานาน หลายชั่วโมงแล้ว​ก็ไม่เห็นนายสุนทรกลับออกมา

จนตกเย็นต้อยคิดว่ามันผิดสังเกต แล้ว​จึงลุกขึ้น​มาเดินดูรอบ ๆ​ พอ​จะผ่าน​เขา​ไปด้านใน มีผู้ชายสองคนเข้าห้าม​โดยบอกว่าผ่านเข้า​ไปไม่​ได้ ทำให้ต้อย​ต้องแปลกใจ​เป็นอย่างยิ่ง คิดว่าเรา​จะรออยู่​ทำไมอีกเล่า เราออก​ไปข้างนอก หาทางกลับบ้านก่อนค่ำ

คิดแล้ว​ลุก​จะเดินออก​ไปทางหน้าบ้าน ก็มีผู้ชายอีก 2 คนเข้ามาขัดขวางไม่ให้ต้อยออก​ไปข้างนอก

"คุณ​จะ​ไปไหน"

"​จะกลับบ้าน"

"บ้านอยู่​​ที่ไหนละ"

"มาจากเหนือ"

"คุณมา​กับ​ใครหรือ"

"มา​กับสุนทร ​เขาบอกว่า นี่​เป็นบ้านของญาติของ​เขา ​เขาบอกให้คอย​เขา ๆ​ เข้า​ไปในบ้าน​เพื่อติดต่อญาติของ​เขาตั้งนานแล้ว​"

"คุณถูกหลอกแล้ว​ละ"

"ทำไมหรือ" ต้อยก็ตกใจกังวลใจทันที ไม่คิดเลย​ว่า​จะถูกหลอก ​เขาคง​ไปธุระกระมัง"

"​เขาขายคุณ​ไปแล้ว​ละ ​เขารับเงินค่าตัวคุณ​ไปแล้ว​ ​และ​เขาก็กลับ​ไปนานแล้ว​ ​แต่คุณไม่ใช่.."

"ปล่อยฉันเถอะ อย่าห้ามเราเลย​เรา​จะกลับบ้าน"
" คุณ​ไปไหนยังไม่​ได้ ผู้ชายคนนั้น​นำคุณมาขายให้เจ้เจ้าของบ้านนี้แล้ว​ คุณ​จะ​ต้องอยู่​​ที่นี่ ทำงาน​ที่นี้"

"ฉันไม่อยู่​ละ ฉัน​จะกลับบ้าน"

"คุณ​ไปไม่​ได้ คุณ​จะ​ต้องไถตัวคุณสองเท่า​ที่​เขาขายไว้"

"​เขาขายไว้เท่าไร"

" ห้าแสน" ​แต่คุณ​จะ​ต้องจ่ายหนึ่ง​ล้าน จึง​จะกลับออก​ไป​ได้"

"ฉันอยาก​จะกลับ​ไปเดี่ยวนี้"

"คุณ​จะ​ไป​ได้อย่างไร"

"ฉันมีเงินค่า​โดยสารประจำทาง"

"คุณสำรวจดูว่าคุณมีเงินเท่าไร"
ต้อย​ได้สำรวจกระเป๋า​ที่ตนสะพายอยู่​ ไม่ปรากฏว่ามีเงิน เงินหาย​ไปหมดแล้ว​ ​จะค้นหาอย่างไรก็ไม่เจอ ​แม้​แต่โทรศัพท์ก็หาย​ไป นี่สุนทรมันหลอกเราจริง แล้ว​"

"เวรละเรา เรา​จะทำอย่างไรดีละ " ต้อยรำถึง​กับตนเอง

ต้อยพยายามเดินหลีก​ไป ​แต่ผู้ชาย 2 คนนั้น​พยายามขัดขวางไม่ให้ต้อยเดินออก​ไปจากบริเวณนั้น​​ได้

"ปล่อยฉัน ให้ฉันกลับบ้านเถอะ เดี่ยวฉัน​จะตะโกนขอ​ความช่วยเหลือให้คนมาช่วย"

"อย่านะ อันตรายห้ามเธอทำอย่าง​ที่ว่านะ" สองชายพยามให้คำแนะนำ

" ช่ว...​...​...​." ต้อยทำท่าตะโกนขอ​ความช่วยเหลือ เพียงคำแรกเธอถูกปิดปาก ​โดยชายคนหนึ่ง​เข้าข้างหลัง​ใช้มือข้างหนึ่ง​กอดสะเอวเธอ อีกมือหนึ่ง​ตะปบปิดปากของต้อยไว้แน่นมิให้ตะโกนออกเสียง​ได้ ​พร้อม​กับ​เขาดันร่างของต้อยให้เข้า​ไปด้านในของอาคาร ​ซึ่งลับหูลับตาคน"

" นี่มันอะไร​กัน เมืองนี้ประเทศนี้มีการขายมนุษย์กันด้วยหรือ ​เป็นการทำลายสิทธิมนุษยชนชั้นพื้นฐาน เจ้าหน้า​ที่ตำรวจไม่ทำอะไร​บ้างหรือ ต้อยนึกสมเพชเวทนาตนเอง ​เพราะเธอชื่นชม​และชอบคนหล่อ เช่น สุนทร จึง​เป็นเช่นนี้

" คุณเข้า​ไปข้างในบ้านพบ​กับเจ้เจ้าของเงินก่อน เจ้​จะจัดการให้คุณ​ได้มีหน้า​ที่​และ​ที่พัก ​ได้อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า กินอาหาร ​และมีงานทำ"

"งานอะไร​หรือ"

"งานบริการ ​พร้อมราย​ได้ดี สบายละ ร่ำรวยเร็ว"

"งานบริการทำอะไร​หรือ"

"ถึงเวลาคุณก็รู้เอง"

"​ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า กินข้าวก่อนนะ"

"ไม่ ฉันไม่ทาน"

"ไม่​ได้นะ เดี่ยว​จะ​เป็นลม ล้มฟุบเสียก่อน ไม่ดี อย่าพูดมาก​ไปเถอะ"

​เมื่อไม่​สามารถ​จะออก​ไป​ได้ ​เพราะพวกนั้น​มันมีปืน​และขู่บังคับไว้ว่า ​ถ้าคุณพยายามหนีเรา​จะฆ่าคุณทันที

ยิ่งเพิ่ม​ความกลัวให้ต้อย ยิ่งขึ้น​ ดูทุกอย่างในสถาน​ที่นี้​เป็นสิ่ง​ที่น่ากลัว​ไปหมด ขณะ​ที่พวกมัน​เอาปืนจี้ให้ต้อยเข้า​ไปในบ้าน ​ซึ่งมีผู้หญิงวัยรุ่น สาว ๆ​ สวย ๆ​ นั่งอยู่​​เป็นกลุ่ม ในตู้กระจกติดแอร์​ที่กลุ่มผู้ชาย ไม่ต่ำกว่า 20 คน ​กำลังยืนมองดูอยู่​

ทันใดนั้น​ชายคนหนึ่ง​ก็ชี้นิ้ว​ไป​ที่ผู้หญิงสวยคนหนึ่ง​​ที่อกติดป้ายวงกลมหมายเลข 15 ไว้ จากนั้น​ผู้หญิงคนนั้น​ก็ลุกขึ้น​ออกมาจากตู้พบผู้ชายคน​ที่ชี้นิ้ว มีผู้ชายอีกคนนำเธอ​ไปให้ผู้ชาย​และ​ทั้งสองก็เดิน​ไปในหลืบข้างหลัง หายลับ​ไป
"เออ ​เขา​ไปไหนกัน ​ไปทำอะไร​ ทำไม​ต้อง​ไป​กับชาย​ที่ชี้นิ้ว​ไป​ที่เธอด้วย" ต้อยคิดสงสัยต่าง ๆ​ นานา สมองคิดวุ่นหมุนติ้ว เวียนหัวคล้าย​จะ​เป็นลมหน้ามืด ​แต่ก็พยายามเข็งใจ เรา​จะ​ต้องออก​ไปจาก​ที่นี้ให้​ได้

" เรา​เป็นเสรีชน มิใช่ทาส​เขา นี้​เป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ​แต่ทำไมเราถูกบังคับ ถูกหลอกลวงมาขายละ เหมือนขายผักขายปลา"

ต้อยเดินตามผู้ชาย 2 คนนั้น​​ไปในห้องให้เธอเปลี่ยนเสื้อผ้า​เพื่ออาบน้ำ ในจำนวนชาย 2 คนนั้น​ ช่วยกันปลุกปล้ำทำร้ายจนต้อย​ต้องเสียตัว​ไปในพริบตานั้น​เอง คนหนึ่ง​นั่งดูตาปริบ ๆ​ ต้อยอายแสนอายคนอะไร​

ครั้งแรกต้อยไม่ยินยอมถูกต่อยท้องหลับเมือด​ไป ​เมื่อตื่นก็ต้อยถูกข่มขืนเรียบร้อย​แล้ว​

"นี่มันนรกชัด ๆ​ ไม่ใช่แดนมนุษย์ หรือแดนสวรรค์ นี้หรือกรุงเทพ ฯ ​ที่​ใคร ๆ​ ชื่นชมยกย่องว่า​เป็นแดนสวรรค์ ​แต่เมืองหลวง​ที่ต้อยผ่านมาหา​เป็นเช่นนั้น​ไม่ มัน​คือนรกขุมลึก​ที่สุด" ต้อยรำพึง​กับตนเอง

​เมื่อคนแรกข่มขืนต้อยสำเร็จ คน​ที่ 2 ก็เริ่มลงมือลวนลามต้อย ต้อยสุดขยะแขยง ​แต่พยายามปัดป้องเท่าไรก็ไม่​สามารถกระทำ​ได้ ​เพราะถิ่นนี้ ​คือนรก ดินแดน​ที่มีการ​เอารัด​เอาเปรียบกัน​ซึ่ง ๆ​ หน้า หน้าด้าน ๆ​ ไร้คุณธรรมทุกประการ ในยาม​ที่ต้อย​ต้องผจญกบ​ความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ​ที่สุด อยาก​จะหนีมุดดิน​ไปโผล่ซีกโลกตรงกันข้าม ​แต่ไม่​สามารถทำ​ได้ ต้อยเพียง​แต่คิด

ต้อย​ต้องนั่งร้องห่มร้องไห้ แทบน้ำตา​จะ​เป็นสายเลือด ​ที่โดนสัตว์ป่าเถื่อนทำร้ายข่มขืนใจด้วย​ความอักขระ ทารุณโหดร้าย​ที่สุด จาก​เขามนุษย์ผู้ไร้เมตตาเยี่ยงสัตว์นรกจริง ๆ​ มี​ใครหรือนรกบนดิน เคยพบอ่าน ​ได้ยิน​แต่นรกในแดนนรกใต้พิภพทีมีกระทะทองแดง กาปีกเหล็ก ต้นงิ้วหนามแหลม ฯลฯ ทำนองนั้น​

​แต่นรก​ที่ต้อยประสบต่าง​กับนรก​ที่​เขาเล่าขานกันมาก ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนใด ​ถ้าโดนอย่างต้อยขณะนี้ ก็คง​จะปวดร้าวทรมานอย่างแสนสาหัส ปาน​จะปลิดชีวิตทิ้ง​ไปจากโลกนี้

ด้วยอารมณ์คิดมากจนสมองอ่อนเพลี้ย แ ละ​ความหิวทำให้ต้อย​ต้องหลับ​ไปงีบหนึ่ง​ ต้อยตื่นขึ้น​มา ชายสองคนนั้น​เปลี่ยนเสื้อผ้าให้​และพาเธอ​เขาห้องน้ำ อาบน้ำ ​แต่งชุดใหม่ให้ นำข้าวหนึ่ง​ถ้วย​พร้อมแกง ผัด สิ่งละจานมาให้

ต้อยนั่งร้องไห้ ขืนใจยืน มันตีบตัน ว้าวุ่นไม่หิวอะไร​เลย​ นึกถึง​แต่เสรีภาพ นึกถึงจอมมารร้าย​ที่หลอกลวงมา ชื่อสุนทร ​ที่ทำให้ชีวิตเธอ​ต้องพลิกผัน​ไป

คืนนั้น​ต้อยนอนไม่หลับ คิด​แต่​จะหาวิธีการหนี จาก​ไปจาก​ที่นี้อยากให้หลุดพ้น​ไปจากนรกขุมนี้เสียที คืนนี้มันช่างยาว​เป็นสิบ ๆ​ ปีเลย​เชียว

​แต่ละเสี้ยววินาที มันนานแสนนานใน​ความรู้สึกของต้อย​ที่​ต้องคิดถึงแม่ คิดถึงพ่อ คิดถึงพี่​และน้อง ลุงป้าน้า อา​และ ​เพื่อน ๆ​

คุณครูคง​จะห่วงต้อย​และ​ไปตามหาต้อย​ที่บ้าน ​ถ้าเจอคุณครูต้อย​จะบอกครู​ได้อย่างไร ต้อยคิดแล้ว​โกรธเกลียดตัวเอง​และคนรักของตนเองมาก นั้น​หรือ

"คบพาล ๆ​ พา​ไปหาผิด คบบัณฑิต ๆ​ พา​ไปหาผล"

ต้อยคิดถึงพ่อแม่​ที่ให้​ความอบอุ่น พ่อแม่ไม่เคยดุด่าว่าร้ายเลย​ มี​แต่​เอาอก​เอาใจ ต้อย​ต้องการอะไร​หาให้ทุกอย่าง ​แต่คุณพ่อไม่ค่อยอยู่​บ้าน ท่าน​ไปสรวลเสเฮฮา​กับ​เพื่อน ๆ​ ของท่านหลังจากเลิกงาน บางคืนกลับบ้านดึก ๆ​ ดื่น ๆ​ ต้อยหลับ​ไปแล้ว​ ​เมื่อพ่อมาถึงบ้าน ตอนเช้า​ต้อย​ต้อง​ไปโรงเรียน​แต่เช้า​ คณะ​ที่พ่อ​กำลังหลับอยู่​ โอกาส​ที่เราพ่อลูก​จะพบกันนั้น​มีน้อยมาก

สำหรับแม่ท่านรักลูกมาก ท่านให้ทุกอย่าง ​เอาอก​เอาใจ ​แต่แม่อยากให้ลูก​เป็น​ไปตามอารมณ์​ความ​ต้องการของแม่ แม่ไม่ค่อยฟังเหตุผลของลูก บางครั้งแม่มีอารมณ์เครียด เกรี้ยวกราด ต้อยเกือบไม่​ได้รับ​ความอบอุ่นจากครอบครัวเลย​ ​แต่ต้อย​ได้รับ​ความสะดวก​สบายจากเงินทอง​ที่พ่อแม่ท่านหา​ได้ ในใจของต้อยจึงโหยหา แห้งเหี่ยว ​และ​ต้องการคนรดน้ำพรวนดิน ให้มี​ความสุข​ความอบอุ่น ​ได้สนุกสนานเข้าใจในชีวิต ​ซึ่งกัน​และกัน ​แต่​ต้องไม่...​...​.สิ่งนั้น​ บัดนี้ต้อย​กำลังลอยอยู่​ในทะเลเพลิง หรือลอยอยู่​ในทะเลทองแดง ของหลุมนรก หลุมใดหลุมหนึ่ง​ในแดนอเวจีอันมืดมิด​ที่สุดกว่าทุก ๆ​ แดน

​ต้องงีบ​ไปก่อนสว่าง ในเมืองหลวงนี้มีเสียงนกกาเจื้อยแจ้วเหมือนแพงพีบ้านเรา เห็นภาพคุณพ่อคุณแม่​กำลังตามหาตนอยู่​

ต้อยตื่นขึ้น​มาพบว่าตนเองถูกข่มขืนอีกแล้ว​จากชายร่างใหญ่อายุมากบึกบึนผิวคล้ำตาแดง ผู้​ซึ่งน่าขยะแขยง​ที่สุด ดวงใจของต้อยสุดปวดร้าว มันแตกสลาย​ไปแล้ว​ ​ความ​เป็นคนจึงงดหาย
​ไปเหลือ​แต่​ความ​เป็นป่าเถื่อนใน​ความรู้สึกของต้อย

ถ้อยคิดถึงคนรัก ครั้งแรก​ที่พบกันในบริเวณสนามกีฬากลาง เราพูดคุยกันสนุกสนาน ทุกอย่างดี​ไปหมด ​ความรักทำให้คนตาบอดจริงดัง​ที่นักปราชญ์โบราณกล่าวไว้ ​เพราะ​ความรัก ​ความรัก​ความสุข​ความพอใจอย่างเดียว จึงทำให้ต้อย​ต้อง​ไป​กับสุนทร จนถูกมอมเมายานอนหลับแล้ว​ถูกข่มขืน ​และปล่อยใจกายให้​กับ​เขาตลอดมา ผล​ที่ต้อยรักบูชา ศรัทธา​เขา ​และมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้​เขา มันมีค่ามหาศาลสำหรับต้อย ​แต่ในสายตาของสุนทร ช่างไม่มีค่าอันใดเหลืออยู่​อีกเลย​ ​เขาหลอกต้อยมาขาย เช่นเดียว​กับขายเป็ดขายไก่ หรือสัตว์เดรัจฉานตัวหนึ่ง​เท่านั้น​ นี่หรือน้ำใจของคน ​ที่เรารัก​และหวังฝากตัว หวัง​เป็น​ที่พึงของชีวิตตลอด​ไป

ต้อยเพิ่งคิด​ได้เดียวนี้เองว่า สิ่ง​ที่​ได้มาง่าย ๆ​ มันย่อมมีค่าน้อยใน​ความรู้สึก ​เมื่อตก​เป็นของ​เขาอยู่​ในอุ้งมือของ​เขาแล้ว​ ​เขา​จะชอบหรือทำลายอย่างไรก็​ได้ สุนทรไม่เคยคิด​ที่​จะถะนุถนอม​แม้​แต่นิด ​เพราะเราไม่เชื่อคำของพ่อแม่ ไม่เชื่อ​เพื่อน เรา​เอา​แต่ใจตนเอง เราอยากสนุกสนาน ครั้งแรก ๆ​ ​เป็น​ความสุขดุจอยู่​วิมานแดนดาวดึงส์ ​แต่หลังจากนั้น​ มันกลาย​เป็นนรก เพียงชั่วเลี้ยวกระพริบตาเท่านั้น​
ตลอดสัปดาห์มีผู้ชายสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาข่มขื่นต้อยทุกวัน ต้อย​จะขอร้องอย่างไร​เขาไม่สนใด ๆ​ ​ทั้งสิ้น ขอเพียงให้​เขา​ได้บำบัด​ความ​ใคร่ ​และ​ได้ฟรีด้วย ไม่ทราบว่า​เขา​เป็นมนุษย์หรือไม่ ​เขามีลูกสาวหรือไม่ ​เขามีญาติพี่น้อง​ที่​เป็นอย่างนี้หรือไม่ ​ถ้าลูก ๆ​ หรือญาติของ​เขา​ที่​เป็นผู้หญิง ถูกกระทำอย่างนี้บ้าง ​เขา​จะมี​ความสุข หรือโกรธแค้นกันแน่ สวรรค์มีคำตอบให้หรือไม่ หรือนรกเต็มใจตอบแค่ฝ่ายเดียว

วัน​ที่ 8 ผู้ชายเหล่านั้น​​ที่เคยข่มขืนต้อย​ได้เข้ามาพูดคุยให้รับแขก ​ต้องหาเงินจ่าย ​ต้องเสียค่า​ใช้จ่ายในการดำรงชีวิตอยู่​เท่าค่าเช้า​ห้อง ค่าอาหาร​และสิ่งอื่น ๆ​ จิปาถะ มัน​เป็นเงื่อนไข​ที่ไม่มี​ความ​เป็นธรรมอยู่​เลย​

คนแรก​เป็นผู้ชายแก่ ๆ​ ร่างอ้วน ๆ​ ต้อยสุดสะอิดสะเอียน ​และไม่ยอมด้วย จึงทำให้ผู้ขายนี้ ขายให้ในการเปลี่ยน​ไปหาคนใหม่

ดึกดื่นคืนนั้น​ ชายชุดดำ 2 คนเข้ามาในห้อง ลงมือตบตีแตะต้อยในฐานะไม่รับแขก ทำให้แขกไม่พอใจ ​แต่ก็ดี​ที่แขกไม่เปลี่ยนใจ​ไป​ใช้บริการ​ที่อื่น

ต้อยสลบ​ไป ​เป็นแผลปวดร้าว​ไปทั่ว​ทั้งตัว จึง​ต้องนอนพักรักษา​เป็นสัปดาห์

เธอจึงถูกบังคับให้รับแขก วันนี้​เป็นเด็กหนุ่มร่างดี ​แต่งกายดี ร่างสูงใหญ่สมสัด​ส่วน ผมสั้นเกรียน ​เมื่อเธอเข้าประตูมา ทำให้​ทั้งองสบตากัน ยืนจังงังอยู่​ชั่วครู่หนึ่ง​ ตาต่อตา ใจต่อใจ ประสานร่วม​เป็นอันหนึ่ง​อันเดียวกัน ​ความสุขปิติเกิดขึ้น​สำหรับต้อย​และ ชายหนุ่ม​ทั้งสองยืนจ้องกันนาน สุดท้าย​ทั้งสองผวา​จะเข้ากอดกัน ​แต่ผู้หญิงชะงักไว้​และจับมือพูดคุยกัน

ต้อยเล่าประวัติ ​ความ​เป็นมาให้เธอทราบทุกอย่าง ๆ​ ละเอียด ชายหนุ่มเห็นอกเห็นใจ​และรักต้อยมาก ไม่​ได้ถือสาหา​ความ​แต่อย่างใด ​เพราะ​เขาเองก็หากินอยู่​อย่างนี้ มิ​ใช้​เป็นแมงดานะ​แต่​เป็นการปลดเปลื้องคลายทุกข์เท่านั้น​เอง
​แม้​ทั้งสอง​จะชอบพอกัน ต้อยก็ยินดี​ที่นะพลีร่างนั้น​ให้​เขา ​แต่​เขาก็ไม่สนใจสิ่งเหล่านั้น​ ​เขา​ต้องการหัวใจของต้อย ​ต้องการ​ความรักภักดี ​และ​ความศรัทธาจากต้อย ​ทั้งสองเพียงแค่กอดกัน ​ความอบอุ่นซาบซ่านทั่วสารพางค์กาย ยาก​ที่​จะพรรณนาถึง​ความสุขนั้น​​ได้

มีคนมาเคาะหน้าห้อง บอกว่าหมดเวลาแล้ว​ สองชั่วโมงเต็มแล้ว​ ​ทั้งสองกอดกันแน่น จากกันทันทีด้วย​ความเสียดาย ​และห่วงใย​ทั้งสองประสาน​และผูกมิตรกันด้วยสายตา กว่า​จะจากกัน​ได้มันสุดแสนยากยิ่ง ก่อนคลาย​และจากกัน​ที่ละนิด ขณะดวงตา​ทั้งสองยุดดึงประสานกันอย่างเหนียวแน่น

คืนนั้น​ต้อยนอนไม่หลับ คิดถึง​แต่​เขา อยากอยู่​ใกล้​เขา ​เมื่อไรหนอ​เขา​จะกลับมาอีก หรือคง​จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว​​ถ้า​เขาไม่ย้อนกลับมา คิดอีกมุมหนึ่ง​ มันน่าเจ็บใจนัก สุนทร​ที่เรามอบรักมอบหัวใจให้ กลับทำร้ายเราลงคอ น่า​จะส่ง​ไปลงนรกให้คลาดแคล้วกัน​ไป ​แต่ คิด​ได้ว่า ​เพราะเราใจอ่อน เชื่อง่ายไม่​ได้คิดพิจารณาเหตุผล พอผู้หวังดี​เอา​แต่ใจตนเอง ใช่แล้ว​ เรา​ต้องปรับปรุง​ที่ตนเอง ไม่​ไปตำหนิผู้อื่น ​ถ้าเราดี มี​ความเชื่อมั่นในตนเอง ทำอะไร​ตามประเพณี​และวัฒนธรรม​และรักพ่อแม่อย่างจริงใจ แล้ว​คง​จะไม่มีวันนี้ ต้อยคิด​ไปเรื่อย ๆ​ ไม่มีวันจบ

​ถ้าเราปฏิเสธสุนทรตั้งแต่ครั้งแรก คง​จะไม่มีน้ำตานองในวันนี้ จุดเริ่มต้น​ต้องระวัง ต่อ​ไปเรา​จะไม่ใจง่ายเหมือนตอนนั้น​ ​จะเชื่อสิ่ง​ที่สังคมเชื่อ เชื่อสิ่ง​ที่​เป็นเหตุ​เป็นผล ว่ามัน​จะนำ​ไปสู่​ความดี หรือ​ความเลวร้าย ​ถ้าคิด​ได้ว่ามัน​จะ​ไปสู่​ความหายนะ ​ความตกต่ำ เราก็ถอยออก​ไปเสีย ไม่ฝืนเกียรติ ไม่ฝืนใจ ไม่ประชด​ใคร ​ความ​เป็นตัวเอง​จะทำให้เดิน​ไปสู่ทาง​ที่ถูก​ต้องทุกประการ

คืน​ต่อมา ต้อยเฝ้าคอยหมายพบหนุ่มคนนั้น​ด้วยใจจดจ่อ คอยแล้ว​คอยเล่าก็ไม่เห็น ไม่มีวี่แววของ​เขา นึกถึง​เขา ​ความอบอุ่น ​ความสุภาพ​และ​ความจริงใจไม่รังแกต้อย ไม่​เอาเปรียบต้อย ทำให้ต้อยมี​ความสุขจนลืม​ความทุกข์​ที่ผ่านมาในชีวิต​ได้เยอะ ​เพราะ​เขาคนเดียว

ข้างล่างมีเสียงดัง แฮะฮะโวยวาย กรีดกราด เสียงจารหวั่นทำให้ต้อยสงสัย อยาก​จะรู้ว่ามีอะไร​เกิดขึ้น​
ทันใดประตูห้องโถงก็เปิดออก ​เขานำต้อยมาขังไว้ในห้องโถงนี้ ​เพราะต้อยนั้น​​เป็นน้องใหม่ ไม่คุ้นเคย​กับกิจกรรม การขายตัว พวกแมงดาจึง​ต้องควบคุมให้อยู่​ในสายตาก่อน​เพื่อไม่ให้มีปัญหา

ปรากฏว่าผู้​ที่​เขามาคนแรก ​คือผู้ชาย​เมื่อคืนนั้น​เอง ​พร้อมด้วยตำรวจ ต้อยมองด้วยตะลึง หนุ่มจึงเข้ามากอดต้อยด้วย​ความดีใจ ต้อยเองมี​ความสุขมาก ๆ​ จึงเดินตามออก​ไป พบสาว ๆ​ บริการประมาณ 30 --40 คน ถูกต้อนมารวมกันไว้ กลางห้องโถงรับแขก ​ส่วนแมงดา เจ้าพ่อ พ่อเล้า เจ้าของกิจการ ถูกนำ​ไปควบคุมไว้อีกซีกหนึ่ง​ของห้องโถง​และตำรวจนำพวกนั้น​​ไปขึ้น​รถ 6 ล้อ ​เป็นรถบรรทุกนักโทษทีฝาคลอบรอบสี่ด้านน่ากลัวนัก

ทุกคนถูกกวาดต้อน​ไปโรงพักในเขตพื้น​ที่ มีการสอบปากคำ ทำประวัติทุกคน ยกเว้นต้อย​ที่ชายหนุ่มกันออก​ไป นำ​ไป​ที่บ้าน ให้อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ​และหนุ่มนำ​ไปรับประทานอาหาร​ที่ภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง​ ​เมื่อ​ไปถึงตำรวจรักษา​ความปลอดภัยสายตรวจ ทำวันทยาหัตถ์ หนุ่ม​และต้อย ต้อยตะลึง​และมี​ความสุขมาก​ที่ทราบว่าผู้​ที่อุปการะเธอ​คือตำรวจผู้มีคุณธรรม ​และ​จะ​เป็นคนดีของ​เขา

"​เพราะถูกหลอกมาจึงมีวันนี้" ต้อยรำพึง​กับตนเอง
...​...​...​...​...​...​...​..

 

F a c t   C a r d
Article ID A-3664 Article's Rate 0 votes
ชื่อเรื่อง เพราะเธอ..จึงมีวันนี้
ผู้แต่ง เปิดฟ้า ก้องหล้า
ตีพิมพ์เมื่อ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๘
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ เรื่องสั้น
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๙๑ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๑ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : ศาลานกน้อย [C-19125 ], [000.000.000.000]
เมื่อวันที่ : 10 พ.ค. 2558, 14.32 น.

ผู้อ่าน​ที่รัก,

นิตยสารรายสะดวก​ ​และผู้เขียนยินดีรับฟัง​ความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดง​ความเห็น​ได้​โดยอิสระ ขอขอบคุณ​และรู้สึก​เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมี​ส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...​

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น