![]() |
![]() |
เปิดฟ้า ก้องหล้า![]() |
...สมศักดิ์ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงที่รบกวนระบบประสาทให้ตื่นผวาขึ้นทันใดทันที ขณะที่นอนหลับสนิท ซึ่งตัดตอนให้การพักผ่อนของสมศักดิ์ต้องขาดไปโดยมิได้ขั้งใจ...
สมศักดิ์ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงที่รบกวนระบบประสาทให้ตื่นผวาขึ้นทันใดทันที ขณะที่นอนหลับสนิท ซึ่งตัดตอนให้การพักผ่อนของสมศักดิ์ต้องขาดไปโดยมิได้ตั้งใจสมศักดิ์ยังงัวเงีย เงอะฮะอยู่ สมองมึนชา ท่ามกลางเสียงดังลั่นกระแทกเข้ามามิหยุดหย่อน เป็นละลอกเสียงของการรบกวน มีเสียงกระแทกบ้าง บางครั้ง
สมศักดิ์ยังต้องพยายามข่มอารมณ์ตัดจากความรำคาน โดยการโยนผ้าห่มออกไปด้านหนึ่งของเตียง ซึ่งคนนอนอยู่ด้านซ้ายของเตียงลุกขึ้นนั่ง พร้อมแหวกมุ้งขึ้นเหนือศีรษะลอดออกมา แล้วเดินตรงไปยังประตู
เสียงรบกวนเหล่านั้นยังดังกึกก้องอยู่
" อ้อ อ้อ"
เสียงควายกำลังร้องลั่นเหมือนมันกำลังจะถูกเครื่องประหารบั่นคอ มันคงจะกลัวแสนกลัวที่สุดในชีวิตของมัน พร้อมกับเสียงตะกุกตะกักจากพื้นไม้กระทบกับของแข็ง ซึ่งดังลึก ๆ บอกอารมณ์แห่งความรู้สึกอันไม่ชอบด้วยคุณธรรมและมโนธรรมบางอย่าง
สมศักดิ์เปิดประตูไปดูบนถนนหน้าบ้าน ซึ่งมีรถสิบล้อจำนวน 3 คันจอดอยู่มีฝากั้นสามด้านสูงประมาณ 2 เมตรครึ่ง ด้านหลังเป็นฝาเปิดออกวางลาดลงบนคานเหล็ก ซึ่งซ่อนอยู่ใต้ท้องรถโดยลากออกมาให้ปลายสุดวางลงบนพื้น กลายเป็นทางขึ้นลงได้อย่างสบาย ซึ่งสามารถจูงวัวขึ้นลงรถได้
ควายมันเจ็บปวดจากการจูงลากเข็นให้มันขึ้นรถสิบล้อแรงเกินไป มันคงเจ็บปวดมาก ๆ จนจมูกของมันแทบจะขาดออกจากร่างของมันก็ได้ และมีคนใช้ไม้เรียวเฆี่ยนตีไล่มันด้านหลังด้วย มันก็จำใจต้องขึ้นไปบนรถ แต่บางตัวมันดิ้นและร้อง อ้อ ๆ ดังลั่น เพื่อจะขัดขืนการจูงนั้น มันยอมเจ็บยอมโดนเฆี่ยนตี เพื่อจะหลีกหนีและต้องการมีชีวิตรอด ด้วยสัญชาตญาณ แม้ว่ามันจะอ้อนวอนสักเพียงใดก็ตาม
มนุษย์เหล่านั้นไม่สามารถสื่อสารกันรู้เรื่อง พวกมันพยายามอ้อนวอนร้องขอสักเท่าไรก็ยังโดนตีมากเท่านั้น แต่ความชั่วร้ายของพวกเขามีมากหรือน้อยกว่าสัตว์เหล่านี้
ตัวอย่างที่สัตว์เหล่านี้มีค่ากว่าคนจำพวกนั้นบางคน เช่น วัว ควายให้แรงงานแก่มนุษย์ ดุจเป็นทาสนั้น เพราะไม่ได้รับอะไรตอบแทนเลย ส่วนอาหาร ก็ต้องและเล็มกินเอง หากเขาไม่ปล่อยหรือพาไปล่ามให้กินก็หมดความหวัง ชีวิตนี้ถูกบังคับ จำจองด้วยความต้องการและความจำเป็นของมวลมนุษย์ หรือบุคคลเท่านั้น
วัว ควาย ไร้อิสรเสรีภาพในการเลือกกิน เลือกดื่ม เพียงทำงาน พักผ่อน และไม่มีอิสรภาพใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งชีวิตของพวกมันต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของมวลบุคคลที่เป็นเจ้าของเท่านั้น
"แล้วบุคคลเหล่านั้นจะเป็นเช่นสัตว์เหล่านี้บ้างหรือไม่ " สมศักดิ์อดคิดไม่ได้
"มีเหมือนกัน บุคคลบางจำพวกก็เช่นเดียวกับสัตว์เหล่านั้น" เช่น พวกข้าราชการ ทหาร ตำรวจบางคน หรือหัวคะแนน หรือ ส.ส. ผู้ทรงเกียรติบางคน ที่ยอมรับใช้นายทุน ตกเป็นทาสเรือนเบี้ยของนายทุนจนโงหัวไม่ขึ้น ต้องทำตามที่นายเหล่านั้นสั่งให้ทำ ยอมรับใช้นายทุนทุกอย่าง นายทุนจะสั่งให้ทำอะไรก็ได้ แม้แต่การทำผิดต่อหน้าที่ของตนเอง เพื่อให้นายทุนเหล่านั้นได้ประโยชน์และตนเองได้ผลตอบแทน
"พวกนี้มันพยายามจริง ๆ ที่ นำสัตว์เหล่านี้ไปใช้งาน มันไม่มีอาชีพอื่นใดแล้วหรือ ที่จะกระทำได้ โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ยังไม่สว่างดีเลย มาไล่ควายขึ้นรถกันอยู่แล้ว หนวกหูจะตาย มันจะทำกันตอนอื่น ๆ ไม่ได้หรือ หรือตอนเย็น ๆ ก็ได้ เวรกรรมจริง ๆ" สมศักดิ์ก็ปิดประตูอีกครั้งแล้วกลับเข้าไปในห้องน้ำ เขาอาบน้ำชำระร่างกายและเตรียมไปทำงานอีก
สมศักดิ์นึกย้อนกลับไปในอดีต เมื่อสมศักดิ์เป็นเด็ก บิดาและพี่ ๆ ได้เลี้ยงควายเกือบสามสิบตัว ควายเหล่านั้นอยู่กันเป็นฝูง มีจ่าฝูงตัวหนึ่งร่างกายกำยำ ซึ่งชนะความตัวอื่น ๆ และ สามารถปกครอง บังคับกลุ่มควายเกือบสามสิบตัวได้ อย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบระเบียบ จะไปแห่งใดก็ไปด้วยกัน หากินพร้อม ๆ กัน หากมีศัตรูแปลกปลอมเข้ามา มันจะช่วยกันทำร้ายศัตรูที่แปลกปลอมเข้ามาได้ เช่น สุนัข หมู วัว พวกมันจะช่วยกันกำจัดพื้นที่และไล่สัตว์เหล่านั้นออกไป แม้มีเสือมุ่งหมายจะมาทำร้ายพวกมัน พวกมันก็จะกวาดต้อนลูก ๆ ของมันและควายชราร่วมกลุ่มกันอยู่ตรงกลางวง แล้วตัวผู้และตัวเมียที่มีความแข็งแรง กล้าหาญ ก็จะยืนล้อมรอบบรรดาลูกควายเหล่านั้นไว้ หันหน้าออกด้านนอก เพื่อคอยระวังเสือที่จะเข้ามา ถ้าเสือเข้ามาด้านใด พวกควายเหล่านั้นก็จะแบ่งกลุ่มกันทำร้ายเสือทั้งหมดและอีกกลุ่มหนึ่งก็เฝ้าระวังรักษาลูก ๆ ของมัน
ถ้าจำเป็นต้องไล่เสือแล้วก็ต้องไล่ไปเป็นกลุ่ม จึงเป็นเหตุทำให้เสือไม่กล้าเข้าใกล้ฝูงควายเลย ควายจึงปลอดภัย ถ้ามันออกหากินตามลำพังจะเป็นอันตรายมากถ้าเจอเสือ ควายจึงปลอดภัยจากการทำลายล้างของศัตรู เว้นแต่มนุษย์ที่ใช้กระสุนทำร้ายมัน ซึ่งพวกมันไม่สามารถคุ้มครองตัวเองและพรรคพวกของมันได้
"แต่มนุษย์ทุกวันนี้ ต่างกับควายมากในสิ่งนี้ ในบางกลุ่ม" สมศักดิ์รำพึงกับตนเอง
"ควายรู้จักรักษาป้องกันพวกของมันเองได้ มิให้ลูกหลานของมันได้รับอันตราย แต่มนุษย์นั้น สมัยนี้ แตกเป็นพวก ๆ มุ่งทำลายคณะหรือประเทศชาติของตน เพื่อหวังจะได้เป็นใหญ่เป็นโต ได้ปกครองประเทศด้วยตนเอง จึงพยายามที่จะทำร้ายผู้ที่ไม่เห็นด้วยและขัดขวางทุกวิถีทาง โดยมิได้คำนึงถึงคุณธรรม หรือมโนธรรม ใด ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนปรารถนา ทำทุกวิถีทางแม้แต่จะเป็นการจ้างฆ่า ใส่ร้ายป้ายสี ปั้นน้ำเป็นตัว กล่าวความเท็จ หลอกลวงให้คนเชื่อในสิ่งที่ผิด ๆ และพยายามยั่วยุให้พวกของตนเห็นฝ่ายตรงข้ามเป็นศัตรู เป็นสิ่งที่จะต้องทำลายให้หมดสิ้นซากไปจากโลกนี้และการขายยาเสพติดเพื่อทำลายลูกหลานของตนเอง" สมศักดิ์นึกทบทวน แล้วนำถ้วยกาแฟมาดื่ม เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ในยามเช้าที่ขุ่นมัวของวันนี้
สัตว์เหล่านี้มันก็ควรจะคิดถึงชีวิตของมัน มันรักชีวิต รักครอบครัวของมัน มันพยายามต่อต้าน พยายามหนี แต่ก็ไม่สำเร็จ จึงโดนมนุษย์ใจร้ายไล่ต้อนขึ้นรถตัวแล้วตัวเล่า
เจ้าของควายเหล่านั้นก็ใจดำไม่สงสารควายเหล่านี้เลย ที่ได้ขายมันให้พวกเขาไป โดยที่ผู้เลี้ยงเหล่านั้นมิได้ทราบว่าควายเหล่านั้นกำลังผจญอยู่กับชะตากรรมอันเลวร้าย ซึ่งทุกตัวกำลังถูกนำหรือเดินทางสู่ตะแลงแกง ที่น่าหวาดกลัวและโหดร้ายที่สุดในชีวิตของพวกมัน
"เผรี๊ยะ ๆ ๆ"
"อ้อ ๆ ๆ ๆ "
เสียงไม้เรียวหวดกระทบแผ่นหลัง แผ่นตะโพกของควายดังสนั่นหวั่นไหว ถ้ามองเห็น ผิวหนังควายคงจะมีรอยแตกช้ำเท่าไม้เรียวที่ใช้ตีกระหน่ำลงไปอย่างแรง ควายมันร้องสุดเสียงด้วยความกดดันทางอารมณ์ ที่ถูกทุบตีอย่างทารุณและทรมาน มันพยายามจะดึงและวิ่งเวียนไปเวียนมา จนเหนื่อยอ่อน ร้องจนเสียงแหบแห้ง ก็ไม่มีมนุษย์คนได้ที่จะให้การช่วยเหลือควายพวกนี้ได้เลย มนุษย์สุดแสนใจดำ ทนและอดทนต่อความเจ็บปวดเวทนาของสัตว์เดรัจฉาน ที่ถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตาได้
แต่ถ้ามนุษย์สามัญถูกทำร้ายก็เป็นเรื่องธรรมดา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยจัดการสะสางให้บ้าง ไม่ได้รับการเอาใจใส่ดูแลบ้าง แต่ถ้าผู้ที่ถูกทำร้ายเป็นลูกหลานของนักการเมือง หรือผู้ที่มีตำแหน่งทางการเมือง ถูกทำร้ายกลั่นแกล้งก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ และจะถูกจัดการเสร็จอย่างเร็ว ซึ่งปัจจุบันเรียกพฤติกรรมเหล่านี้ว่า "สองมาตรฐาน"
"เสียงไม้เรียวกระทบหลังควายยังดังอยู่ เสียงร้องของมันพร้อมกับอาการดิ้นรนต่อสู้เพื่อความอยู่รอด ก็จะมีเสียงอึกทึกอยู่ตลอดเวลา
*มนุษย์ที่อาศัยอยู่ใกล้ ๆ ก็ทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น แต่ทุกคนถือว่า เป็นสิทธิโดยชอบธรรมเพราะเจ้าของหรือนายทุนได้ไปซื้อขาดค่ามาจากเจ้าของควายเหล่านั้นแล้ว และพวกนี้ก็รับจ้างขนควายไปให้ผู้ซื้ออีกขั้นหนึ่ง มันเป็นเรื่องธรรมดา ที่พบเห็นกันอยู่ แต่ถ้าหากว่ามีการค้าขายมนุษย์ นักสิทธิมนุษยชน ก็ทนอยู่ไม่ได้ แต่นักมนุษย์สิทธิชนไม่สามารถลุกออกมาประท้วงหรือปกป้องพวกควายเหล่านี้ได้เลย
แมวน้ำในขั้วโลกถูกล่าทำลาย นักสิทธิมนุษยชนและผู้อนุรักษ์พันธุ์สัตว์เขาก็มีการประท้วง มิให้มีการฆ่าแมวน้ำ ปลาวาฬ หรือหมีขั้วโลก นักการเมืองมีการออกกฎหมายห้ามมิให้ผลิตสิ้นค้าจากชิ้นส่วนของสัตว์ขั้วโลก เพื่อจะได้ช่วยคุ้มครอง ได้มีองค์การนาโต้ และ ยูเนสโค ได้ดำเนินกิจกรรมเหล่านี้ให้มีการคุ้มครองป้องกัน
แต่ควายบ้านเราถูกนำไปฆ่า ทำลาย แต่ไม่มีนักสิทธิมนุษยชนเห็นใจในความมีชีวิตของสัตว์เหล่านี้ ถึงแม้บางแห่งจะมีการไถ่สัตว์เหล่านี้จากโรงฆ่าสัตว์ นำไปไถนาให้ชาวนายากจนในชนบท ก็ดีอยู่ สัตว์เหล่านั้นก็ต้องทนอยู่ในความทุกข์ยากลำบากเวทนามิสร่างซาอย่างมิสิ้นสุด
สมศักดิ์คิดต่อไปอีกว่า ควาย นั้นบางคนบอกว่าเป็นสัตว์ที่โง่ จึงมีคำพูดกันติดปากว่า"โง่เหมือนควาย" มันน่าจะมาจากการที่มนุษย์ซึ่งมีสมองฉลาดกว่าควาย เขาจึงได้ไปจับควายมาใช้งาน แต่ควายไม่สามารถจะเรียกร้องอะไร เช่นเดียว กับทาส เพราะควายแสดงความคิดเห็นออกมาเป็นภาษาพูดให้มนุษย์รู้เรื่องไม่ได้ ไม่โอดครวญ แม้จะเจ็บปวด เวทนา ทรมานและเหนื่อยสักปานใดก็ตาม แม้จะร้องโอดครวญมนุษย์ก็ไม่สามารถเข้าใจภาษาควายได้
สมศักดิ์คิดว่าควายก็มีประโยชน์มากมาย เช่นกัน เช่น ในการชมรายการแสดงของหนังตะลุง ซึ่งเป็นการแสดงเกี่ยวกับประเพณีวัฒนธรรมของฝ่ายใต้ในดินแดนแหลมทองนั้น และวรรณคดีเรื่องรามเกียรติมีอิทธิพลในชีวิตประชาชนอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นการดูดวงชนะตา สุภาษิตสอนหญิง ชาย ลูกหลาน กล่าวถึงควายเป็นสัตว์ที่ก้าวร้าวก็มี อกตัญญูก็มี ซึ่งมีเหตุมาจากธรรมชาติของสัตว์นั้น ลูก ๆ ย่อมไม่รู้จักบิดาของตน แต่ในเรื่องรามเกียรตินั้น ควายทรพีเป็นลูกของควายทรพา แม่ของทรพีมาแอบคลอดลูกในถ้ำกลางป้า เมื่อคลอดมาเป็นตัวผู้ ทรพาจึงมิสามารถกำจัดลูกองของมันได้ ซึ่งทรพาปฏิบัติอย่างนี้ตลอดมา คือ ถ้าแม่ควายคลอดเป็นตัวเมียจะไม่ทำร้าย ถ้าคลอดเป็นตัวผู้มันจะทำร้ายลูกจนเสียชีวิต
ทรพีเมื่อมีร่างกายใหญ่โตเท่า ๆ พ่อ เป็นควายหนุ่มที่สมบูรณ์แล้วออกจากที่ซ่อนไปวัดรอยเท้าพ่อ เมื่อยังเล็กกว่าก็กลับไปซ่อนซุ่มฝึกพลังโดยการวิ่งจนกระทั้ง วันหนึ่งทรพีออกไปวัดรอยเท้าพ่ออีก เป็นการเปรียบกัน เช่นกีฬามวย ชนวัว ชนไก่ และการต่อสู้อื่น ๆ เมื่อรอยเท้าเท่ากันแสดงตัวและกำลังก็ต้องเท่ากัน จึงสามารถต่อสู้กันได้แล้วโดยไม่เสียเปรียบอะไร
ทรพีจึงไปท้าพ่อให้ต่อสู่กัน ฆ่าพ่อได้สำเร็จ เพราะมีเทวดารักษาเขาและเท้าทั้งสี่ตามคำอธิษฐานของมัน ทรพีจึงได้เป็นจ่าฝูง ในตำแหน่งของพ่อ แม่ก็สามารถคืนสู่อิสรภาพเช่นเดิม มีลูกของตนเป็นจ่าฝูง แม่มีความสุขมาก
อ้อ อ้อ อ้อ เสียงควายร้องดังเข้ามากึกก้องแทบแก้วหูจะแตก พร้อมกับเสียงกีบเท้ากระทบกระดานพื้นรถ และเสียงดิ้นพยายามหนี ดังอยู่ไม่ขาดระยะ จนตะวันโผล่จากขอบฟ้าขึ้นมา พบว่ายังมีควายอีกจำนวนหนึ่งยังไม่ได้ขึ้นรถสิบล้อจอดอยู่ใกล้ กันจำนวน 3 คัน
เดียวนี้เศรษฐกิจเราแย่ ผู้ที่มีควายเหล็กหรือรถไถนาเดินตามหลัง ซึ่งใช้เครื่องจักรพร้อมรถและจักรสำหรับไถนา ซึ่งนิยมกันมากและชาวนาจึงขายความและวัวออกไป เพราะต้องเลี้ยงดู ต้องตัดหญ้าให้กิน เนื่องจากพื้นที่ปลูกหญ้าไม่มี พื้นที่ทำนาน้อยลง เกษตรกรเปลี่ยนพื้นที่นาไปปลูกยางพาราแทน ซึ่งให้ผลผลิตต่อปีในสภาพเช่นนี้ได้ดี
ตามหลักเศรษฐกิจพ่อเพียง ประ ชาชนต้องการที่จะจำหน่ายควายเหล็กออกไป ซึ่งไม่สามารถรับสภาวะน้ำมันแพงได้ และการซ่อมแซมได้ กลับไปไถนาด้วยวัว ด้วยควายเช่นสมัยก่อน ซึ่งวัวควายต้องใช้แรงงานโดยไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน กินหญ้า ดื่มน้ำ ซึ่งราคาต่ำกว่าน้ำมัน
*นอกจากนี้ควายยังมีประโยชน์อีกมากมาย เช่น เนื้อหนัง เขาของควายกลายเป็นสินค้าบริโภคอย่างดี ช่วยให้เศรษฐกิจพื้นตัวและดำรงอยู่ได้ มูลของควายกลายเป็นปุ๋ยชีวภาพอย่างดี ที่สามารถปรับปรุงดินสู่สภาพธรรมชาติได้ดี ทำให้พื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุและวิตามิน และสารอาหารอีกหลายชนิด บริษัทบางแห่งผลิตอาหารเนื้อกระป๋องจำหน่าย
แต่ควายนั้นเป็นตัวอย่างของความอดทน ความซื่อสัตย์ ความขยัน และการใช้แรงงานได้ดุจเช่นเดียวกับชาวนาที่เป็นกระดูกสันหลังชาติ ซึ่งนักการเมืองสมัยก่อน นั้นเห็นคุณค่าและความสำคัญของชาวนา จึงกล่าวเช่นนี้ เขาให้เกียรติยกย่อง เทิดทูนชาวนา ต่างกับทุกวันนี้ นักการเมืองเรียกชาวนา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของชาติว่า "รากหญ้า" ซึ่งหมายถึงส่วนที่อยู่ลึกในดิน ไม่มีคุณประโยชน์มากนัก อาจจะไม่มีความรู้ความสามารถ ใครจะหลอกอย่างไรก็ได้ คล้ายกับว่า ชาวนาเป็นสิ่งที่ที่อยู่ในชั้นต่ำสุด เป็นสิ่งไม่มีค่าอันใด มิได้ช่วยเหลืออะไร มีแต่จะหลอกลวงให้ได้รับความเสียหาย ในการทำร้ายผู้อื่น กลายเป็นเครื่องมือต่อรอง และต่อสู้ในทางการเมือง เช่นหลอกให้หลงในประชานิยม แล้วหาโอกาสปล้นชาติ ทำลายชาติ
สมศักดิ์ต้มน้ำร้อนสุก หยิบถ้วยกาแฟกดน้ำร้อนจากกาน้ำออกเกินกว่าครึ่งถ้วยชา แล้วฉีกซองกาแฟเขาทะลุเทลงไป ใช้ช้อนกวนและคนให้น้ำ กาแฟ และน้ำตาลและเนยเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน นำมันมานั่งโต๊ะหน้าบ้านพร้อมข้าวเหนียวและปาท่องโก 1 ตัว
แม่ควายกับลูกควายถูกนำขึ้นรถรั้งท้ายสุด
คนงานคนแรกไล่ลูกควายขึ้นรถก่อน คนงานอีกคนไล่แม่ควายตามหลัง ลูกควายขัดขืนใจไม่ยอมขึ้นไปบนรถเกินกว่าที่ขึ้นมาแล้ว คนงานคนแรกใช้ไม้ตีตะโพกลูกควายสุดแรงไม้หักติดมือลูกควายร้องเสียงสั่น แม่ควายสงสารลูกของมันจึงกระโจนขวิดคนงานคนแรกล้มลง ลูกควายวิ่งลงจากบันใดรถด้วยความตกใจระคนความกลัว ทำให้คนงานคนที่สองพลอยตกใจกระโดดวิ่งหนีลูกควาย ลูกควายไล่ตามไป คนงานวิ่งไปหกล้มหน้าคว่ำบริเวณคันนาใกล้รั้วบ้าน ลงบนตอไม้ซึ่งโผล่เหนือดินเพียงประมาณคืบเศษ ๆ เสียบเข้าที่ท้องเลือดแดงฉานทันใดนั้น เขาส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด อย่างตกใจกลัว แม่ควายวิ่งตามลูกควายไปพร้อมส่งเสียงร้อง ควายตัวอื่น ๆ ก็พลอยตกใจเมื่อเห็นคนงานคนแรกโดนขวิด จึงวิ่งตามเสียงแม่ควายไป บางตัวเหยียบคนงานคนแรกที่ล้มขวางอยู่ เขาร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด เป็นแผลเหวอะหวะเลือดติดร้อยเท้าควายไปพื้นแดงฉาน
แม่ควายวิ่งทันลูกควายและวิ่งนำหน้าไปตามแนวรั้วบนคันนาจนถึงบ้านหลังหนึ่ง เมื่อแม่ควายไปถึง เฒ่าแก่ผู้ซื้อควายส่งนอก ตื่นนอนและลงมาล้างหน้าที่พื้นหน้าบ้านพอดี แม่ควายวิ่งไปถึง เฒ่าแก่ตกใจกลัวตาลุกโตมองควายอย่างตกใจกลัวสุดขีด ก่อนที่เฒ่าแก่จะคิดอะไรได้ แม่ควายก็ถึงร่างของตาเฒ่าแก่เสียแล้ว แรงตะหวัดและแรงปะทะทำให้เฒ่าแก่ล้มลง เลือดพุ่งกระจาย พร้อมร้องขอช่วยสุดเสียงด้วยความกลัว แล้วก็เงียบไป แต่ร่างยังกระตุกอยู่ระยะหนึ่งแล้วค่อยสงบนิ่งไปแม่ควายและลูกควายวิ่งผ่านบ้านไป สู่ท้องทุ้งและชวนกันเดินลงไปในป่าชายเล่นริมทะเลสาบควายทั้งฝูงเมื่อวิ่งลงมาจากรถได้ตามเสียงแม่ความไปและออกไปสู่ทุ่งมุ่งลงสู่ป่าละเมาะชายเลนริมทะเลสาบ ด้วนสัญชาตญาณควายรวมกันได้เป็นกลุ่มเดียวกันเพราะการอยู่รอด ทั้ง ๆ ที่บางตัวไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จึงรวมใจกันเดินตามแม่ควายลึกลงไปในป่าชายเลน ของทะเลสาบนั้น หลังจากนั้นไม่มีคนพูดถึงกลุ่มควายเหล่านี้เลย
ทันใดนั้น
สมศักดิ์ได้กลิ่นอันตรายกำลังใกล้เข้ามา สมศักดิ์จะลุกขึ้นกระโดดหนีมือตะหวัดถูกแก้วกาแฟตกแตกกระจาย กาแฟตกกระจายกระเด็นไปรอบ
"หยุด" ชายคนหนึ่งเล็งปืนมายังร่างของสมศักดิ์พร้อมขยับเท้าเข้ามาใกล้ร่างของสมศักดิ์
สมศักดิ์เหลือบไปมองอีกด้านหนึ่ง มีชายสองคนในชุดรัดกุมพร้อมปืน .38 เล็งมายังร่างของสมศักดิ์ในท่าพร้อมที่จะเหนี่ยวไก
"มอบตัวเสียดี ๆ " ตำรวจนอกเครื่องแบบคนหนึ่งตะคอก
"จะจับเรื่องอะไรพี่" สมศักดิ์ถาม
" มือปืนรับจ้างฆ่าคนอย่างคุณสมควรรับโทษทัณฑ์ตามกฎแห่งกรรมได้แล้ว"
"..........."
..................
เมื่อวันที่ : 22 เม.ย. 2558, 17.52 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...