![]() |
![]() |
เปิดฟ้า ก้องหล้า![]() |
...ใต้ต้นมะขามใบดกยอดอ่อนเขียวชอุ่ม กำลังแตกดอกปลายกิ่ง และบริเวณกิ่งเป็นช่อเขียวอ่อน...
เรื่องสั้น...หาไม่เจอ เปิดฟ้าก้องหล้า*ใต้ต้นมะขามใบดกยอดอ่อนเขียวชอุ่ม กำลังแตกดอกปลายกิ่ง และบริเวณกิ่งเป็นช่อเขียวอ่อน และดอกที่เบ่งบานเป็นสีเหลืองผสมเขียวเป็นช่อเขียวอ่อน และดอกที่เบ่งบานเป็นสีเหลืองผสมเขียว มะขามใบเล็กแต่แน่นหนาสามารถบังร่มกันแดดได้
บริเวณใต้ต้นมะขามเป็นจอมปลวกที่ถูกกระจายดินเป็นลานกว้างสะอาด และจะมีเด็ก ๆ ออกมาเล่นสนุกตอนเย็น ๆ หลังจากเลิกเรียนทุกวัน
บ่ายวันนี้ทอมได้นำเสื่อมาปู พร้อมด้วยวิทยุทรานซีสเตอร์ขาดเล็ก เพื่อฟังเพลงสนุกยามพักผ่อน หลังรับประทานอาหารกลางวัน
ปกติทุกวันทอมตื่นแต่ สามนาฬิกาไปกรีดยาง สว่างกรีดยางเสร็จกลับมากินอาหารเช้า เตรียมอุปกรณ์ในการทำแผ่นยาง เช่น ตักน้ำ ล้างราง ถังเก็บยาง กระป๋องหรือแกลลอนใส่น้ำยาง เจ็ดนาฬิกาไปเก็บยาง เสร็จประมาณ สามโมงเช้า นำน้ำยางมากรองและแยกใส่ราง ใส่น้ำกรดแล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากัน เสร็จแล้วคอยและสังเกตความแข็งตัวของน้ำยาง เมื่อมันแข็งตัวไม่แข็งหรืออ่อนเกินไป ก็นำมันออกจากราง โดยใช้นิ้วกรีดให้ยางที่เกาะติดรางหลุดออก เทคว่ำลงให้แผ่นยางกองกับพื้น ใช้มือหรือเท้าแหย่ทั้งสี่มุม แล้วแหย่จากมุมกว้างมาเจอกันตรงกลางให้ยางขยายโตออก ที่ปลายแผ่นทั้งสองด้าน แล้วจึงแหย่ถัดไปตามลำดับจนตลอดทั้งแผ่น ได้แผ่นยางขนาดกว้างยาวตามต้องการและมันสามารถลอดระหว่างจักรได้ ลอดจักรเรียบสามถึงสี่ครั้ง ได้ขนาดความหนาบางได้พอเหมาะก็นำไปลอดจักรดอก ลอดเสร็จได้แผ่นยางนำไปล้างน้ำสะอาด นำไปตากให้แห้งแล้วนำไปหาเงินสนองตามความต้องประสงค์ของความจำเป็นในชีวิตประจำวันได้
สิบสามนาฬิกา รายการข่าว นำเสนอโดย ดี.เจ. สาวเสียงใส มีชื่อว่า "ดอกแก้ว" เสียงของเธอแจ่มใส มีอารมณ์ มีเทคนิคการพูดที่พราวด้วยเสน่ห์เล่ห์ลิ้นที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง ฟังแล้วน่ารัก น่าเกรงขาม และน่าศรัทธาในเจ้าของเสียงที่พูดแจ้ว ๆ อยู่นั้น
มีประชาชนโทรศัพท์ขอฟังเพลงเพราะ ๆ ตามใจชอบ เธอก็จัดให้ไม่ขัดใจมิตรรักแฟนเพลง บริการอย่างเป็นกันเอง แต่ทอมไม่เคยขอเพลงฟังเลย เพราะไม่มีโทรศัพท์มือถือ และไม่มีโทรศัพท์บ้าน ไม่มีไฟฟ้าใช้ อุปกรณ์ไฟฟ้าใช้ถ่านไฟฉายทุกอย่าง ต้องสิ้นเปลืองมาก แต่ทรานซิสเตอร์เครื่องเล็กไม่ค่อยมีปัญหา
ทอมประทับใจในเสียงของ ดอกแก้ว ตลอดมาอยากจะพบอยากจะรู้จัก และพูดคุยด้วย เพราะเธอพูดได้สนุกสนาน อารมณ์แจ่มใส ทำให้ผู้ฟังในชนบท ติดใจและรัก ดอกแก้ว ตาม ๆ กัน ไม่เว้นแต่ทอมเอง ความปรารถนาของทอมก็มีเรื่อยมา ทอมคิดว่าหญิงผู้นี้ดุจเทพธิดามาเกิด ช่างมีมนต์ดลใจ ผูกมัดใจแก่ทุกผู้ที่ฟังทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งหญิงและชาย
แต่ทอมคิดว่า ดอกแก้ว คงจะไม่ใช่คนรักของเรา จึงไม่ได้คิดที่จะไขว่คว้าแต่ประการใด รักคนเดียว รักในใจรักเงียบ ๆ ด้วยความศรัทธา เพียงแค่ได้ยินเสียงเท่านั้นก็พอ ไม่ต้องรู้จักตัวตน ว่ารูปร่างอย่างไร รูปร่างสูงหรือต่ำ ดำหรือขาว ผมสั้นหรือผมยาว ยิ้มหวานหรือยิ้มแล้วน่ากลัว ทอมเพียงหวังเสมอว่า เขาจะได้ยินเสียงเสนาะเพราะ พริ้ง ที่แสนประทับใจอย่างลึกซึ้งอยู่ในใจของเขาตลอดไป
หลายปีต่อมา "ดอกแก้ว" ได้หายไปจากทรานซิสเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องไหน จะที่กลางทุ่งหรือที่บ้าน ทอมหมุนคลื่นเท่าไรก็หาไม่เจอ ดอกแก้ว เธอเบื่อคนฟังหรือไร จึงได้หนีหลบซ่อนเร้นจากผู้ฟัง เธอไปแอบแฝงอยู่ที่ใด
บัดนี้เธอได้หายไปจากทรานซิสเตอร์ เธอหนีไปไหน หรือเธอมีอันตรายอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือเธอย้ายไปอยู่ที่ไกลแสนไกล หรือเธอ เธอลืมคนฟังได้อย่างไร
เวลาผ่านไปหลายปี ในทรานซิสเตอร์ขนาดจิ๋วเครื่องเดิมนั้นก็มี ดี. เจ. จัดรายการมากมาย มารายงานตัวเพื่อรับใช้บริการเสียงเพลง ให้ทอมมีความสุขใจ เพื่อคลายความเหนื่อยและคลายเครียด ตลอดเวลาทั้งเพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุง เพลงสตริงส์ สาระความรู้และบันเทิงละคร ฯลฯ
แต่ในดวงใจของทอมนั้น ยังแว่วคำนึงสำเนียงอันไพเราะ จับใจ ของ "ดอกแก้ว" เพียงเศษเสี้ยวนาที ที่เปิดฟังวิทยุ
อำนาจเสน่ห์ของมนต์เสียงนาง อันเปี่ยมพลังของเธอถูกตราตรึงไว้ในความรู้สึกของทอม ดุจเช่นเดียวกับเทป หรือแผ่น ซี. ดี. ที่ถูกบันทึกเสียงเหล่านั้นไว้ หัวใจและสามัญสำนึกของเขาดุจ ซี .ดี. หรือเทปเหล่านั้น
เวลาแห่งการรอคอยของเขานั้นมันนานแสนนาน หนึ่งวันปานหนึ่งปี ที่เขายังคอยด้วยความหวังว่า สักวันหนึ่งเขาจะได้ยินเสียงอันเจื้อยแจ้วและแจ่มใสของเธออีกครั้ง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ชีวิตต่อสู้กับอุปสรรคฝากหนาม และ เป็นแรงบันดาลใจให้อยู่ในโลกนี้ต่ออีกนานแสนนาน
ทอมหวังอย่างยิ่งว่า วันหนึ่งคงจะได้ฟังเสียงอันไพเราะ มีมนต์ผูกมัดใจที่เป็นอมตะ ซึ่งไม่เคยมีของใครตรึงอยู่ในใจของชายคนนี้ได้เท่ากับเสียงของเธอ เธอเป็นยอดวีรสตรีในดวงใจ เธอเป็นดาวจรัสแสงในท้องฟ้าแห่งดวงใจ อันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ดุจเอกภพนี้ อย่างไม่มีวันดับไปได้ เช่น ดวงจันทร์ หรือดาวศุกร์ แต่สิ่งที่กล่าวมานี้ ยังมีโอกาสและเวลาห่างไปจากสายตาของชาวโลก หมุนเวียนสับเปลี่ยนอยู่เสมอ แต่ดาวจรัสแห่งเธอ หรืออำนาจมนต์เสียงแห่งเธออยู่ในดวงใจไม่มีวันดับหายไปได้เลย เช่น ตะวันซึ่งหมุนเวียนอยู่รอบขั้วโลกเหนือหรือขั้วโลกใต้ที่ไม่มีวันดับหรือลับไปจากท้องฟ้า เช่น กับอำนาจเสียงของเธอ
วันหนึ่งเกิดความเบื่อหน่ายไม่อยากฟังเสียงจากทรานซิสเตอร์ ทอมใช้สมาธิและรำลึกถึงสำเนียงของเธอดุจเธอกำลังจัดรายการอยู่และเขาหลับไปท่ามกลางความอ่อนหล้าและเหนื่อยจาการกรีดยางยารา
ทอมปฏิบัติอยู่อย่างนี้เป็นประจำ เวลาผ่านไป วันแล้ววันเล่า วันนี้ ขณะนี้ทอมปลื้มปิติที่สุด เขารู้สึกตื่นเต้นที่สุด เมื่อเห็นรถกะบะHi landerสีครีมมาจอดที่หน้าบ้านของเขา รถจอดแล้ว ทอมมองด้วยความสนใจ สมาธิตรงดิ่งไปยังประตูรถคันนั้นอย่างจดจ่อ คอยแล้วคอยเล่า เขาอยากให้คนประตูรถเปิดออกมาเร็ว ๆ ทำไมหนอ คนในรถคันนี้ช่างเชื่องช้าอืดอาดเหลือเกิน
ทันใดนั้น ประตูรถด้านคนขับก็เปิดออก ผู้ที่ออกจากรถซึ่งเป็นคนขับที่มีผมยาวประบ่า "ผู้หญิงแน่นอน" ทอมนึกในใจ
ร่างเธอยืนเด่นสง่า หันหน้าไปด้านตรงข้ามกับทอม เห็นเฉพาะผม ไม่เป็นใบหน้า ใครหนอ ที่มาถึงบ้านนี้ เป็นคนรู้จักกันหรือเปล่า เธอมาธุระกับใครนะ หรือเป็นญาติของเรา ทอมคิดเรื่อยเปื่อยตามประสา
ทันใดนั้นเธอก็หันหน้ามายังที่ทอม ทอมเห็นถนัดว่าเป็น"ดอกแก้ว" ทอมไม่เชื่อสายตาของตนเอง ขยี้ตา สอง สามครั้ง ก็ยังเห็นเธอ เธอส่งยิ้มทอมก็ยิ้ม พร้อมมีเสียงหวานจากริมฝีปากบาง ๆ ของเธอ
" ทอม "
" ดอก กอก ดอก ดอกแก้ว "
เธอรีบวิ่งมาหาทอม ด้วยสัญชาติญาณ ทอมก็ถลันตัววิ่งออกไปพบเธอเช่นกัน เมื่อทั้งสองเข้าใกล้กัน ตาประสานกัน ยิ้มกัน ยิ้มเธอสุดหวาน และพร้อมที่จะกระโจนกอดกันโดยมิลังเล
ทอมขยี้ตา หยิกตนเอง หันไปหันมาในความสว่างจ้าของกลางวันใต้ต้นมะขาม ไม่มีใครมา ไม่เห็นมีใครสักคน นี่เป็นใต้ต้นมะขามในสวนหลังบ้านใกล้ทุ่งนา ที่เราเคยนั่งพักผ่อนและฟังเพลงจากทรานซิสเตอร์ประจำ เราหลับไปหรือ...ใช่...เราฝันไป..
ทอมนึกถึงภาพทีฝันเห็นมันชัดเจนติดตา ตรึงใจมิรู้ลืม คิดสังหรณ์ใจ จึงเอื้อมมือเปิดวิทยุทรานซิสเตอร์ หมุนคลื่นไปเรื่อย ๆ
" ใช่ ใช่เสียงของเธอจริง ๆ" ทอมดีใจมากที่มีเสียงของดอกแก้ว กลับมาให้ฟังอีกครั้งหนึ่ง กำลังใจและแรงบันดาลใจมันกลับมาสดชื่นแจ่มใส กระปรี่กระเปล่าทันตาเห็น
" ชีวิตอ้ายทอมได้กลับคืนมาแล้ว ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า" ทอมรำพึงรำพันกับตนเองดุจคนละเมอ
" ทอม ฟังรายการในเวลาเดียวกันอยู่กลายวัน จนวันหนึ่งแม่ได้เสียชีวิต ทอมเสียใจมาก แต่ก็ต้องจำเป็นในการดำเนินงาน มัวแต่สาระวันกับการจัดงานศพ ก่อนงานศพ จึงเขียนรายการกำหนดงานฌาปนกิจศพไปให้ทางงสถานีวิทยุกระจายเสียงประชาสัมพันธ์เชิญชวนแขกให้ด้วยตนเอง
สถานีวิทยุต่าง ๆ ได้ ให้การบริการต่อประชาชนเป็นอย่างดี ในการประชาสัมพันธ์งานที่เป็นงานสาธารณะ เช่น งานบวช งานศพ งานแต่งงาน งานของหน่วยงานต่าง ๆ งานวัดต่าง ๆ เน้นหนักที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ถึงสถานีวิทยุกระจายเสียงซึ่งมีขอบเขตกั้นด้วยรั้วลวดหนาม สังเกตมีถนนเข้าออกสองประตู ประตูด้านหนึ่งปิดตาย จึงมีการเข้าออกประตูเดียว
ผู้หญิงร่างสูงโปร่งผิวขาวผมยาว คล้ายกับคนที่ฝันเห็น แต่ไม่ใช้เธอ เธอยกมือไหว้ "สวัสดีค่ะ" " ขอเชิญค่ะ"
ทอมยกมือไหว้พร้อมกล่าวคำ " สวัสดีครับ "
ทอมยื่นหนังสือกำหนดการฌาปนกิจศพคุณแม่ให้เธอ(ดอกแก้ว) และนั่งคุยกัน ถามสารทุกสุกดิบกันพอสมควรแล้วเมืองก็ลาจากไป
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งเดือน ณ
มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตเมืองลุงได้ประกาศ เชิญชวนผู้สนใจฟังรายการเวทีสนทนาของคุณประมวล เพ็งจันทร์ ซึ่งเป็นชาวเกาะสมุยจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ไปศึกษาจนได้รับปริญญาจากต่างประเทศในระดับปริญญาเอก เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สาขาปรัชญา
อาจารย์ประมวลได้ตั้งปณิธานว่าจะกลับบ้าน ชมตะวันโผล่ขอบฟ้าที่เกาะสมุย ให้ได้สักครั้ง เมื่อใกล้วัยเกษียณจึงปรึกษาภรรยาและปฏิบัติตนเพื่อการเตรียมพร้อมในการเดินทางและกลับไปเกาะสมุย โดยการเดินเท้าเปล่า ไม่มีเงิน ไม่มีเสบียงอาหาร ไม่ขออะไรของใคร แม้แต่อาหาร น้ำดื่ม มีคนให้กิน ดื่ม รับด้วยศรัทธา แต่จะไม่พกพาติดมือคนห่อไปด้วย ปฏิเสธการช่วยเหลือด้วยเงิน บางครั้งอดหิว บ้างครั้งเหนื่อย บางครั้งหน้ามืดจะเป็นลมตาลาย แต่ก็ได้รับการอุปการะจากผู้ที่พบเห็น เพื่อคนหาสัจจะธรรม หาตัวตนเอง ต้องผจญกับสิ่งที่บีบคั้นตลอดทาง เช่น การกล่าวหาว่า เป็นคนวิกลจริต ผมยาว หนวดเครายาว ผมรกรุงรัง
เมื่อทอมไปถึงมหาวิทยาทักษิณ ตรงไปยังห้องโถงประชุม ซึ่งอาจารย์ประมวลจะทำหน้าที่บรรยาย หลังจากจบการบรรยายให้มีการซักถามภายในไม่ช้านี้ ขณะนั้นได้มีการแนะนำตนเอง เวียนไปเรื่อยจนถึงหน้าที่ของเธอซึ่งจะต้องแนะนำชื่อ พิธีกรบอกด้วยว่าเธอคือ " ดอกแก้ว"ดีเจชื่อดัง
" เออ วันก่อนที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ได้พบเธอแล้ว ได้คุยกับเธอแล้ว แต่ทอมไม่รู้สักนิดว่าเธอที่พูดคุยกันอยู่นั้น คือ"ดอกแก้ว" คนที่ดวงใจปรารถนาที่จะได้ยินเสียงจริงสักครั้งหนึ่งในชีวิต
"เรานี้โง่จริง ๆ เช่นเดียวกับกามนิต ที่นั่งสนทนากับพระพุทธเจ้าตลอดทั้งคืนที่ห้องโถงบ้านช่างหม้อ รุ่งเช้ากามนิตรู้ข่าวพระพุทธเจ้าประทับ ณ สวนเวฬุวัน ใกล้ ๆนี่เอง จึงรีบลาพระพุทธองค์รีบไปเฝ้าพระพุทธเจ้าโดยไม่เฉลียวใจสักนิดว่าผู้ที่ตนสนทนาอยู่ทั้งคืนนั้นคือพระพุทธเจ้า กามนิตวิ่งไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าตามข่าวที่ได้รับโดยผ่านทางช่องภูเขาแคบ ๆระหว่างภูเขา ถูกโคบ้าท่ีวิ่งสวนมาขวิดเสียชีวิต"
ทอมนึกย้อนหลังไปว่าครั้งหนึ่ง เพื่อนขอช่วยให้ช่วยหายาสมุนไพร ชื่อ"โด่ไม่รู้ล้ม" หากันทั้งหลายวัน ไม่เจอ ไม่มี เกือบหมดหวังอยู่แล้ว ไปเจอลุงคนหนึ่งมีความรู้เรื่องสมุนไพร และทราบการค้นหาของทอมเข้า ท่านรู้จักสมุนไพรชนิดนี้ ท่านบอกว่า หามันไม่เจอหรอก เมื่อเธอรู้จัก "โด่ไม่รู้ล้ม" ซื่อมันจริง ๆ ในบ้านเรา เรียกว่า "ตราบดิน" หาเท่าไรก็ไม่เจอหรอก รีบไปหา"ตราบดิน"เถอะ จะเจอมัน มันสิ่งเดียวกัน
" เออ .."ตราบดิน" บ้านเรามีเยอะ เจอแล้ว ควานงมเข็มในมหาสมุทรอยู่นาน เดชะบุญที่ท่านผู้รู้บอก เหมือนสวรรค์โปรด ขอบพระคุณยิ่ง
ง่ายนิดเดียว "โด่ไม่รู้ล้ม" คือ " ตราบดิน " นั้นเอง เช่นเดียวกับที่ีเราไม่รู้จัก "ดอกแก้ว"นั้นแหละ"
.................
เมื่อวันที่ : 20 เม.ย. 2558, 21.14 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...