![]() |
![]() |
กาลตรงกัน![]() |
...วินาทีแห่งความเบิกบานผ่านไปดุจสายฟ้าที่รอเปลี่ยนเป็นสายฝน ฉันอมพะนำอะไรอยู่ตั้งนานเนิ่นมาแล้ว โมงยามแห่งความบ้ามุทะลุผ่านไปดุจยักษ์ขี้โมโหท...
วินาทีแห่งความเบิกบานผ่านไปดุจสายฟ้าที่รอเปลี่ยนเป็นสายฝน ฉันอมพะนำอะไรอยู่ตั้งนานเนิ่นมาแล้วโมงยามแห่งความบ้ามุทะลุผ่านไปดุจยักษ์ขี้โมโหที่มุ่งมั่นจะดับโทสะตนเอง เขาแค่นิ่งเฉยอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา
ฉันรู้คุณค่าแห่งการรอคอยดี รู้ดีแต่ปฏิบัติได้ไร้ค่ายิ่ง
เขาเห็นความหมายของการรอคอยเป็นสำคัญ สำคัญยิ่งแต่ทิ้งขว้างอย่างไม่สำคัญ
ลมพัดเสมอใกล้ชายทะเล ฉันเข้าใจธรรมชาติอันบริสุทธิ์นั้น
คลื่นน้อยๆ ตีกระทบชายฝั่งทุกวันคืน เขาย่อมรู้ดีว่าอะไรคือธรรมชาติที่สัมผัสได้
เวลาคุณมองหน้าฉัน คุณนึกถึงอะไร
ประโยคอันก่อความสะเทือนใจ
แววตาที่หมางเมิน
คำพูดที่กร่อนกิน
ท่าทางที่หยิ่งยโส
ความสัมพันธ์อันซับซ้อน
วินาทีที่เลื่อนลอย
อยู่ใกล้ก็เหมือนอยู่ไกลกันตลอดเวลา
ความว่างเปล่าที่จับต้องได้
หมู่ความคิดถึงที่แสนทรยศหักหลัง
ความเข้าใจที่โน้มเอียง
และความรักที่ขมพิษ
เวลาเธอมองหน้าผม เธอนึกถึงอะไร
ประโยคอันก่อเกิดความหวัง (ลมๆ แล้งๆ)
แววตาที่ทรงพลัง (พลังอันเงียบหาย)
คำพูดที่จับใจ (ใจเอ๋ย พร้อมสลาย)
ท่าทางที่เป็นมิตร (มิตรแท้จากชายหลายใจ ยากเข็ญนัก)
ความสัมพันธ์อันซาบซึ้ง (ความทราบดี ไม่มีแม้ไมตรีจริงใจ)
วินาทีที่เลี่อนลั่น (ไร้ลั่นหมายถึงอะไรทั้งสิ้น)
หากสิ่งที่เป็นอยู่อย่างนี้ทำให้เกิดความรัก ความผูกพันขึ้น แล้วไยจึงยอมรักษาระยะความสัมพันธ์ไว้คงเดิมเล่า
ให้เป็นปริศนาต่อไป
เหมือนยังตอบไม่ได้ว่า "เวลาคุณมองหน้าฉัน คุณนึกถึงอะไร" กันแน่?
เมื่อวันที่ : 18 ต.ค. 2554, 17.21 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...