![]() |
![]() |
punei![]() |
...วันนี้ ผมได้ฤกษ์งามยามดีล้างรถอีกครั้ง หลังจากฝ่าวิกฤติรถดำ ฝนตกมาทุกวี่ทุกวัน การล้างรถช่วงหน้าฝนเป็นอะไรที่ใครๆก็คิดว่าไม่สนุกเอาซะเลย...
วันนี้ ผมได้ฤกษ์งามยามดีล้างรถอีกครั้ง หลังจากฝ่าวิกฤติรถดำ ฝนตกมาทุกวี่ทุกวัน การล้างรถช่วงหน้าฝนเป็นอะไรที่ใครๆก็คิดว่าไม่สนุกเอาซะเลย แต่กลับกันกับพ่อผม พ่อชอบล้างรถ และก็ยังล้างรถช่วงหน้าฝนเกือบทุกวัน แม่ก็บ่นพ่อบ่อยๆตั้งแต่ผมยังเล็กๆว่า "พ่อล้างรถทำไมไม่รู้ พอขับออกไปฝนก็ตก รถก็ดำ เหมือนเดิม" ซึ่งความคิดนี้ ผมก็เห็นด้วยกับแม่มาตลอด จนกระทั่งวันที่ผมขับรถได้ ผมเริ่มซึมซับและเห็นด้วยกับพ่อแล้ว การล้างรถในหน้าฝน เป็นสิ่งที่จำเป็น เป็นหน้าที่ที่เรียกว่าความรับผิดชอบของเราที่ต้องกระทำ ซึ่งวันนี้ผมได้เกิดปัญญา การเปรียบเทียบ ของการล้างรถ กับคำว่า "รับผิดชอบ"ในการทำงานได้ ดังนี้
1.
รถ - หากไม่ล้างรถ รถก็จะดำ กรดในฝนก็จะกัดสีรถ หากเราไม่ "รับผิดชอบ" มันก็จะทำให้รถเสีย
งาน - หากเราไม่ทำงาน งานก็จะไม่เสร็จ โดนเจ้านายด่า หากเราไม่ "รับผิดชอบ" มันก็จะทำให้งานเสีย
2.
รถ -- ขณะล้างรถผมเจอจุดดำเล็กๆที่ทำความสะอาดยากต้องใช้เวลาขัด หากผมรีบเร่งล้างรถ ก็จะปล่อยมันไว้ก่อน เพราะเป็นจุดเล็กๆ ที่มองภาพโดยรวมคงไม่ถึงกับดำนัก แต่หากมีเวลา ผมก็จะรีบขัดมันออกเพื่อที่จะไม่ให้มันสะสมจนเป็นจุดใหญ่
งาน -- ขณะที่ทำงานโดยความเร่งด่วน เราอาจจะเจอปัญหาเล็กๆได้ หากทำรีบเร่งเพราะเหตุจำเป็น ก็ต้องปล่อยมันไว้ก่อน เพราะเป็นจุดเล็กๆที่มองภาพโดยรวมคงไม่ได้ทำให้งานเสียนัก แต่เมื่อมีเวลา ผมก็จะรีบกำจัดปัญหานั้นออก เพื่อที่จะไม่ให้มันสะสมจนเป็นจุดใหญ่
ความสะอาดของรถเหมือนกับความเรียบร้อยของงาน บางทีการให้เวลากับอะไรบางอย่าง และลงมือกับสิ่งเราทำ มันทำให้เกิดความภูมิใจในผลงานของเราเอง ไม่ว่าจะเรื่องรถสะอาดหรืองานที่ออกมาดี
สิ่งๆนี้คงเอาเปรียบอะไรได้อีกหลากหลายอย่าง แล้วแต่คนจะคิดสร้างสรรค์ครับ ไม่มีอะไรที่จะทำให้คนเราหยุดคิดได้หรอก จริงไหมครับ
เมื่อวันที่ : 28 ส.ค. 2554, 06.23 น.
จริงของคุณครับ