![]() |
![]() |
เล็ก โยธา![]() |
...ใส่ใจคิดสักนิด ระหว่างความอยาก และความพอเพียง
ชีวิตที่เหลือจะได้ไม่หมดไปกับการสะสมของความอยาก
จนสร้าง ความยาก ความยุ่ง ให้กับตัวเอง...
1. ผมกินเจเป็นประจำเกือบทุกปี ไม่ใช่เพื่อเทพเจ้า แต่ ด้วยเหตุผลส่วนตัวก็คือ อยากที่จะพักกระเพาะอาหารจากการย่อยเนื้อสัตว์ เพราะเคยอ่านบทความเกี่ยวกับสุขภาพที่เขาวิเคราะห์กันว่า โดยโครงสร้างของฟันที่บดอาหารไม่ใช่ฉีกอาหาร เหมือนสัตว์กินเนื้อ และระบบลำไส้ของมนษย์นั้นเป็นสัตว์กินพืช ด้วยเหตุที่มีลำไส้ที่ยาวเพื่อให้พืชได้ย่อยสลายและดูดซึมได้มาก กลับมีผลเสียต่อเนื้อสัตว์ที่จะเกิดพิษเมื่อถูกกักเก็บไว้เป็นเวลานาน ชีวิตที่เหลือจะได้ไม่หมดไปกับการสะสมของความอยาก
จนสร้าง ความยาก ความยุ่ง ให้กับตัวเอง...
2. และทุกครั้งที่มีเทศการกินเจ ผมก็จะถือศีล 8 ควบคู่ไปด้วย ไม่ใช่เป็นคนธรรมะธรรมโม อะไรหรอก แต่จิตใจเราบางครั้งตามใจมาก ๆ ก็เป็นเหมือนเด็กเล็ก ๆ ที่ร้องงอแง อยากได้โน่นอยากได้นี่ ไร้เหตุผล ไม่รู้จักพอ อีกทั้งมันก็แค่ศีล 5 และบวกเพิ่มอีก 3 ข้อ ...ยังพอไหว
ข้อ 6 .วิกาละโภชนา งดการบริโภคอาหารตั้งแต่เที่ยงจนถึงเช้า
ข้อ 7. นัจจะคีตวา งดการบันเทิงและเครื่องสำอาง ก็ไม่ค่อยได้ฟังเพลงอยู่แล้วเครื่องสำอางค์ไม่ต้องพูดถึง
ข้อ 8 .อุจจาสะยะมะหาสะยะนา - งดนอนที่สูงนอนที่นุ่ม ก็ปูเสื่อนอน เจ็บ ๆ แต่กลับหายปวดหลังแฮะ
ข้อ7 -- 8 ไม่ค่อยมีปัญหา จะติดก็ ข้อ 6 นี่แหละ
3. ใครที่ลดความอ้วนจะรู้ว่าการอดข้าวเย็นนี้มันสาหัสจริง ๆ ยิ่ง 2 มื้อในแต่ละวันที่ไม่มีเนื้อสัตว์ด้วยแล้ว อาหารไม่คุ้นกินก็ไม่ค่อยได้มาก
อยู่แล้ว มันก็เกิดปัญหา ซิครับ !
ตอนนั้นผมกลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ จะเสียความตั้งใจ ทุกวันจะรีบกินอาหารมื้อกลางวัน ตั้งแต่ 11 โมง และจะค่อย ๆนั่งกินไปจนเที่ยง เพื่อให้มากและให้อาหารเหลือ(ในท้อง) ไปถึงตอนเย็นให้มากที่สุด ตอนเย็นจะได้ไม่หิว ผมคิดแบบคณิตศาสตร์ เป๊ะเลย แต่ในความเป็นจริง ไม่ว่าคุณจะกินให้มากแค่ไหน คุณก็กินได้เพียง 2-3 จาน บางครั้งก็พยายามขย้อนให้ได้ 4 จาน จนผมอ้วกออกมา ร่างกายมันก็ไม่รับเอาดื้อ ๆ
4. มันบอกอะไรแก่เรา ไม่ว่าคุณจะมั่งมีแค่ไหน คุณก็กินได้แค่นั้น จานหรือสองจานตามสภาพ มันเกิดสัจธรรมขึ้นในใจว่า ความจริงแล้วคนเราก็ไม่ได้กินไม่ได้ต้องการอะไรมากหรอกสำหรับตัวเอง
สิ่งที่เราอยากได้ ..... บางครั้งมันก็เกินความจำเป็น และไม่ว่าคุณจะสะสมแค่ไหน คุณก็ได้ได้ใช้แค่นั้น แค่เท่าที่มันจำเป็นต้องใช้
5. มีหลายครั้งที่ได้เข้าไปซื้อของในซุปเปอร์มาเก็ต บางครั้งคิดว่าแค่จะไปซื้อของ 2 -3 อย่าง แต่ตอนคิดเงิน ก็ได้ของเต็มรถเข็นทุกครั้ง ก็เพราะเหตุผลที่ว่า ไอ้นั่นก็จำเป็นไอ้นี่ก็จำเป็น เพราะคิดอยู่บนฐานความจำเป็น ของก็เลยเต็มรถเข็นอยู่เป็นประจำ สุดท้ายผมเปลี่ยนแนวคิดใหม่...ไม่ใช่ฐานของความจำเป็น แต่คิดว่า เราจะซื้ออะไร ก็รับซื้อ ซื้อเสร็จก็คิดเงินกลับบ้าน นอกนั้นเรามีแล้วไม่จำเป็นต้องใช้ มีหมดแล้ว มันเป็นความจำเป็นจากความอยากซะมากกว่า สุดท้ายก็ได้ของที่จำเป็นจริง ๆ ( น้ำปลา -- ซีอิ๊ว 2-3 ขวด) กลับบ้าน
ใส่ใจคิดสักนิด ระหว่างความอยาก และความพอเพียง
ชีวิตที่เหลือจะได้ไม่หมดไปกับการสะสมของความอยาก
จนสร้าง ความยาก ความยุ่ง ให้กับตัวเอง
เมื่อนั้นชีวิตทั้งหมด จะได้ไม่ เวียนว่าย วุ่นวาย ไปกับการหาเงิน
เพื่อนำเงินที่หาได้ ไปสนองความอยาก ของตนเอง ไปวัน ๆ
น่าเสียดายนะ ...... กับชีวิตที่เหลือ บนความไม่เพียงพอ
เล็ก โยธา
เมื่อวันที่ : 12 ธ.ค. 2553, 12.45 น.
ผู้อ่านที่รัก,
นิตยสารรายสะดวก และผู้เขียนยินดีรับฟังความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดงความเห็นได้โดยอิสระ ขอขอบคุณและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมีส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...