นิตยสารรายสะดวก  Fiction  ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๓
เขื่องกับเป่า
นายอิติฯ
..."รัก​​แต่ผมนะ" เขื่องถามปนยิ้มจ้องหน้าสาวคนรัก ​​ที่ใบหน้ายังคงมีคราบน้ำตาแห่ง​​ความปีติอยู่​​
"อื้อ รักก็รัก" เป่าจ้องตอบก่อนหลบพริ้มด้วย​​ความเขินอาย
"ให้ผมคนเดียวเท่านั้น​​นะ" เขื่องเบียดร่างแนบกระชับ ฉายยิ้มดูอบอุ่น
"อื้อ ให้คนเดียว คนสุดท้าย" เธอพูดเสียงแผ่ว...



จุดหมายปลายทาง​และการดำเนินของชีวิตคนเรา มักแตกต่างกัน​ไปสารพัด​ที่​จะ​เป็น บางคนอยู่​ดีมีสุข บางคนก็ทุกข์ยากแสนเข็ญสุด​จะพรรณนา ทุกคนต่างใฝ่ฝันถึง​ความสำเร็จของชีวิต นั่น ​คือการมีเงิน ทอง อยู่​อย่างสุขสบาย หลายคนฝันถึง​ความสำเร็จในอาชีพการงาน ​สามารถหาเงิน​ได้มาก​และ​ได้รับการยกย่องว่า​เป็นคนเก่ง คนดัง มีคนอีกจำนวนมากมาย​ ​ที่ปล่อยชีวิตให้​เป็น​ไปตามยถากรรม เคย​เป็นมายังไงก็​เป็นอย่างนั้น​ ​และอีกหลายๆ​คนมัก​จะพูดกันติดปากว่าทำวันพรุ่งนี้ให้ดีกว่าวันนี้ ​แต่บางคนกลับบอกว่า ​เอาแค่วันนี้ให้ดี​ที่สุดก็แล้ว​กัน

"เขื่อง" หนุ่มอีสานหน้าตี๋ วัย ๒๖ จากขอนแก่นเมืองหมอแคนแดนดอกคูณ ลูกคนเดียวของพ่อ แม่ ​ซึ่งมีธุรกิจโรงสีข้าวขนาดกลาง ทำให้​เขาอยู่​​ได้อย่างสบายๆ​ ตำแหน่งว่า​ที่เ​ถ้าแก่โรงสีในอนาคต​เป็นของ​เขาเห็นๆ​

ด้วย​ความ​ที่เขื่องเติบโตมาแบบไม่รู้จัก​ความยากลำบาก ​เขา​ใช้เงิน​ใช้ชีวิตแบบคนเสเพลอย่างกระหยิ่ม ช่วงวัยรุ่นสู่วัยหนุ่มน้อย ​ความเลวระยำตำบอน เขื่องสั่งสม​เอามาเกือบหมด ไม่ว่า​จะ​เป็นไล่เตะหมาด่าแม่เจ๊ก ดักเขกหัวเด็กประถม ก็ไม่เว้น จนบรรดาชาวบ้านร้านช่องเอือมระอากัน​ทั้งบาง บ่อยครั้งรอดคุกหลุดตารางมา​ได้ก็​เพราะเงินของพ่อแม่ ​ที่​ต้องตามวิ่งแก้ต่างให้อย่างไม่รู้เหนื่อยหน่าย​กับลูกชายคนนี้

อยาก​ได้อันใด ผู้​เป็นบิดาสรรหาจัดแจงให้แทบทุกอย่าง ตาม​ที่ใจเขื่องปรารถนา การศึกษามหาวิทยาลัยดีๆ​ก็แนะนำให้ ​แต่สุดท้าย นายเขื่องก็เลือก​ที่​จะเข้าช่างกลในเมืองดอกคูณตาม​เพื่อนๆ​ ​และจบออกมา​ได้อย่างด้อยคุณภาพ ​ซึ่งไม่อาจคาดเดา​ได้เลย​ว่า​เป็น​เพราะสาเหตุอันใด ​แต่​ที่แน่ๆ​ สถาบัน​ที่ก่อตั้งมาหลายสิบปี ก็แทบ​จะย่อยยับ​เพราะฝีมือของเขื่อง

บ่อยครั้ง ​กับการมีเรื่อง​​กับเด็กช่างกลอีกสำนัก ​เขาไม่​ได้บ้าบอเทิดทูนสถาบันอย่างหลายๆ​​ที่​เป็นกันหรอก ​ส่วนใหญ่เขื่องชกตี​กับรั้วอื่นก็​เพราะสาเหตุเดียวนั่น​คือเรื่อง​ผู้หญิง ชื่อนี้จึง​เป็น​ที่กล่าวขานด้าน​ความเลว ส่งต่อให้​กับน้องๆ​รุ่นหลังของสถาบัน​ได้จดจำ ​และนำ​ไปพินิจพิเคราะห์กัน​เอาเอง ว่าควรเชิดชูหรือถ่มถุย​กับนามนี้ดี

เหล้า บุหรี่ ยาเสพติด ​เป็นเสมือนเครื่องประดับธรรมดาๆ​​ไปเสียแล้ว​สำหรับเขื่อง ผู้หญิงอิงแอบ​เขาเปลี่ยนหน้า​ได้ไม่เคยขาด ลูกสาวชาวบ้าน​ที่เขื่อง​ได้แล้ว​ทิ้งดู​เป็นเรื่อง​เคยชิน ถูกฟ้องร้องค่าทำขวัญมีผ่านมาแล้ว​ก็สามสี่ราย เ​ถ้าแก่ใหญ่ผู้​เป็นพ่อก็ยิ้มจ่ายอีกตามเคย เกินครึ่งค่อนชีวิต​ที่ค่า​ใช้จ่ายมากมาย​ถูกโยนให้เขื่องละลาย​โดยเ​ถ้าแก่ใหญ่ ​ซึ่งก็ไม่เคยมีเสียงปริปากบ่นหลุดรอดออกเลย​​แม้​แต่หนเดียว

เขื่องปฏิเสธคนเก่ง​กับหลายๆ​คน ​แต่​เขา​จะไม่ค่อยปฏิเสธ​กับผู้หญิงสาวๆ​ ไล่ตั้งแต่สวยนิดหน่อย​ จนถึงสวยหยาดฟ้ามาดิน ลอง​ได้​เป็นหญิง ​เขา​จะ​เอาใจ​และเต็มใจคอยรับ​ใช้แทบทุกคน ไม่ว่าพวกเธอเหล่านั้น​​จะ​เป็น​ใครมาจากไหน ลูกเต้าเหล่า​ใคร ยากดีมีจน เขื่องไม่สน อยาก​ไปไหน อยากกินอะไร​ เขื่องจัดให้ไม่มีขาดตกบกพร่อง ​เขา​จะกลาย​เป็นผู้ชาย​ที่ดูสุภาพไม่มีพิษไม่มีภัย พูดจาไพเราะปากหวาน ​พร้อม​เป็นมิตร​กับทุกคน ​จะดู​เป็นคนซื่อใจตรง คล้าย​กับดูเหมือน​กับว่าเขื่องโกหกไม่​เป็น คงหลอก​ใครไม่​ได้

เขื่อง​จะคอยสังเกตผู้หญิงอยู่​ตลอดเวลา คอยจับจุดว่าผู้หญิง​แต่ละคน​เป็นยังไง ​เพราะ​เขา​จะ​ต้อง​เป็น​ที่ประทับใจของสาวๆ​ทุกคน ​เพื่อนฝูง​เพื่อนกิน​จะเยอะมาก ​ซึ่ง​เขา​จะ​ต้องมี​เพื่อนไว้ให้เยอะ ​เพื่อ​ที่​จะ​เอาไว้แก้ตัวเวลาคับขัน ​และช่วยตะลุมบอน​เมื่อมีเรื่อง​เขม่นกัน

รถเก๋งคันงามสีแดง ถูกดัดแปลงตกแต่งท่อดังเสียงปานเครื่องไอพ่น เครื่องเสียงก็ กระหึ่มรอบทิศทาง เขื่องไม่เคยสนใจหรอกว่าสิ่งต่างๆ​เหล่านี้ มัน​จะมีผลต่อคนรอบข้างในทางดีหรือเลวร้ายเพียงไร ​เขารู้​แต่เพียงว่า​เป็น​ความฉุยฉาย ​ที่ลูกเทวดาอย่าง​เขาชอบ ​และ​ต้องมี ให้มันเหมือนหรือดีกว่าลูกเทวดาคนอื่นๆ​​ที่เคยข่มเข่นกันมา

​เมื่อปัจจัยมันมีอยู่​อย่าง​พร้อมเพรียงครบครัน เขื่อง​สามารถเ​ที่ยวดื่มกิน​ได้ทุกวัน ตกค่ำฟ้ามืด​เมื่อไหร่ ​เป็น​ต้องพาตัวเองออก​ไปให้โดนแสงสีสาดส่องกระทบตัวอยู่​ร่ำ​ไป ด้วยปัจจัย​ที่เอื้ออำนวยให้ บวก​กับใจรัก ​แม้ใบหน้า​จะดูไม่​ได้โดดเด่นหล่อเหลาอะไร​มากมาย​ ​แต่การจับจ่ายอย่างคล่องมือ ​ที่ทุกคนเห็นจนชินตา ทำให้การจีบหญิงหรือหิ้วสาว​แต่ละครั้ง มันง่ายพอๆ​​กับการกระดกเหล้าเข้าปากประมาณนั้น​เลย​

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

คืนนี้ก็เช่นกัน เหมือนทุกคืน​ที่ขอนแก่นบ้านเกิด หลังจากอาสามาติดต่องานให้​กับพ่อ​ที่กรุงเทพ เช่นเดียว​กับทุกครั้ง​ที่เคยทำ เขื่อง​จะ​ใช้เวลาอยู่​ในเมืองหลวงอย่างน้อยๆ​ก็ ๓-๔ วัน บ้านพักหลังเล็กในเขตหนองแขมของน้าชาย​ที่ปลูกไว้หลัง​ที่ทำงาน จึง​เป็น​ที่พำนักชั่วคราวยามเข้ามาเมืองกรุง ถึง​จะดูหลังเล็ก หากดูจากเฟอร์นิเจอร์​และของ​ใช้ตกแต่งแล้ว​ ก็สม​กับฐานะของน้าชาย​ที่ทำธุรกิจขนส่ง ​ที่รับส่งสินค้าสายอีสาน​ทั้งแถบ ​แม้กระทั่งข้าวสารของผู้​เป็นบิดา ก็​ใช้บริการของน้าชาย​เป็นหลัก

หลังจากห่างกรุง​ไปนานหลายเดือน เขื่อง​ได้รับการชักชวนจากน้าชาย เฉกเช่นทุกครั้ง​ที่ผ่านมา ผับเปิดใหม่แถวสามพราน​คือเป้าหมายของสองหนุ่มต่างวัย น้าชายของเขื่อง​แม้​จะมีครอบครัวแล้ว​ ​ซึ่งก็คล้ายๆ​​กับหัวหน้าครอบครัวอีกหลายๆ​คน​ที่มีอัน​จะ​ใช้​และมีอัน​จะจ่าย พวก​เขา​สามารถจัดการตัวเอง พาชีวิต​ที่​ต้องปลีกวิเวกจากครอบครัว ให้โลดแล่น​ไปตามสังคมเมืองยามราตรี​ได้อย่างสบาย

บนโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้ คงหา​ได้ยากยิ่ง​ที่ผู้ชาย​จะไม่เจ้าชู้ หาก​แต่​ความเจ้าชู้ของ​แต่ละคน ​จะ​ไปทำให้​ใครเดือดร้อนหรือเปล่าเท่านั้น​เอง สิ่งแรก​ที่ผู้ชายเข้าผับนั่นก็​คือสุรา เฮฮาปาร์ตี้ สุดท้ายของเป้าหมาย ​ซึ่งน้อยคนนัก​ที่​จะปฏิเสธสิ่งนี้​ได้ "ผีเสื้อราตรี" สิ่งนี้ล่ะ​ที่ชายนักเ​ที่ยวหลายๆ​คนไม่อาจมองผ่าน​ไป​ได้

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

"เป่า" สาวโสดวัยเบญจเพส หลังจากจบมัธยม ๖ ​ได้สองปี ก็จากสระบุรีบ้านเกิด ด้วย​ความหวัง​ที่​จะมุ่งหาอนาคต​ที่ดีกว่า เธอตัดสินใจแบกกระเป๋าเข้าเมืองใหญ่ตามกระแสสังคม ​และ​ได้งานทำ​เป็นฝ่ายบุคคลของโรงงานแถวสมุทรปราการ จนพบรัก​กับแฟนหนุ่มฝ่ายการตลาดบริษัทเดียวกัน คบหาดูใจกันแค่อึดใจ เป่าตัดสินใจมอบสิ่ง​ที่ผู้หญิงพึงหวงแหนมาก​ที่สุดให้​เขา​ไป ด้วยเวลา​ที่คบกัน​ได้ไม่ถึงเดือนเสียด้วยซ้ำ

แฟนของเป่า ​ต้องออกพื้น​ที่ขายสินค้าของบริษัทตามจังหวัดในเขตภาคใต้ เธอ​ต้องนอนทนรอผู้​ที่ขึ้น​ชื่อว่า​เป็นสามี​จะกลับรังรัก ​ซึ่ง​เป็นเพียงห้องเช่าสี่เหลี่ยมแคบๆ​ มีโอกาส​ได้แสดง​ความรัก​ความคิดถึงให้แก่กัน​และกันก็แค่ช่วงเวลาสั้นๆ​เพียงวันสองวัน รุ่งเช้า​อีกวันก็โบกมือลาห่างหน้ากัน​ไป ​และก็อีกเกือบเดือนผู้​เป็นแฟนจึง​จะหวนกลับมาอีกครั้ง ​ซึ่งก็​เป็นแบบนี้ซ้ำๆ​วนๆ​มาเกือบ​จะสองปี

ด้วยวัย​ที่ยังใส​และยังสาว บวก​กับผิวพรรณขาวหน้าสวยรูปร่างอวบอิ่ม เป่าก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้​กับหนุ่มๆ​​ที่อยู่​ใกล้ๆ​ละแวกห้องเช่า ​ที่พยายามส่งสายตาชำเลืองขอผูกมิตรไมตรีอยู่​ไม่ขาด ประกอบ​กับพักหลังๆ​ผู้​เป็นแฟนติดต่อเริ่มขาดๆ​หายๆ​ มือถือ​ที่โทรหา​แต่ละครั้งก็เริ่มรับช้าลงเรื่อยๆ​ จนบางครั้งสายก็หลุด​ไปเฉยๆ​ ​ทั้ง​ที่​เมื่อก่อน ประมาณว่าเธอเพียงแค่​เป็นฝ่าย​ต้องคอยรับตลอด เช้า​โทรเย็นโทร หากเธอ​เป็นฝ่ายโทร​ไปก็ปุ๊บปั๊บรับเลย​ ​แต่เดี๋ยวนี้ปิดเครื่องเงียบหาย​ไป ๔-๕ วันก็ยังมี

​ความเหงามันไม่เข้า​ใครออก​ใครไม่ว่าชายหรือหญิง เป่าเองก็เช่นกัน การเร่งเร้า​แต่งงาน​เพื่อให้แฟนทำให้ถูก​ต้องตามขนบธรรมเนียม ตรงกันข้ามมันกลับยิ่งทำให้หลายๆ​อย่างเริ่มเปลี่ยน​ไป ทะเลาะมีปากเสียงกันบ่อยขึ้น​ ​ความรัก​ที่เคยมีให้กันก็เริ่มจืดจาง ​จะให้เธอทำอย่างไร​ได้​เมื่อไม่​ได้​ใช้ชีวิตร่วมกัน ดอกไม้สวยไม่มีการพรวนดิน รดน้ำทีก็แค่ตอนสิ้นเดือน ​ความมีชีวิตชีวา​ที่น่า​จะ​เป็น จึงดูขาดๆ​หายๆ​​ไป ไม่มีวี่แวว​ที่​จะเพิ่มพูนงอกงามขึ้น​มาเลย​ จนเธอจับ​ได้ว่าแฟน​ไปมีผู้หญิงใหม่ ซ้ำร้ายยัง​ไปทำ​เขาท้อง ปัญหามันเลย​หนักเข้า​ไปอีก บทสรุปสุดท้ายของเป่าก็​คือ แยกทางกันด้วย​ความเต็มใจ​ทั้งสองฝ่าย

เป่าเปิดรับชายรักคนใหม่​ได้อย่างง่ายดาย​และรวดเร็ว ตาสบตา​ที่ส่งมองให้กัน​และกันมาก่อนหน้านั้น​ จึง​เป็นทุนเดิมอยู่​แล้ว​ ทำให้ไม่​ต้องคิดทบทวนให้มาก​ความ เพียงวันแรก​ที่ตัดขาด เป่าเปิดห้องรับชายใหม่คล้าย​กับคน​ที่อดทนรอเวลานี้มาแสนนาน โลกใหม่สดใสขึ้น​มาอีกครั้ง เธอ​และแฟนใหม่ย้ายเข้ามาอยู่​ด้วยกัน​ได้เพียงสองเดือน สวรรค์​ที่เป่า​กำลังกุมกอดไว้ก็​ต้องมีอันสลายหาย​ไป ​เมื่อมีผู้หญิงอีกคนอุ้มลูกน้อยเข้ามาตบตีเธอถึงห้องเช่า

ด้วยวัยเพิ่ง​จะ ๒๐ เศษๆ​ ในขณะนั้น​ เป่า​ต้องเสียตัวแถม​ต้องเสียใจให้​กับผู้ชายถึงสองคน ภายในระยะเวลาเพียงแค่สามปี เธอก็ปล่อยตัวปล่อยใจเกินกว่า​ที่​จะหยุด ​ความรัก​และการโหยหา​ความอบอุ่นของเธอยังมีอยู่​เปี่ยมล้น ด้วยอัธยาศัยดีรูปร่างเย้ายวนมีเสน่ห์ เธอคบๆ​เลิกๆ​​กับ​เพื่อนชายอีกสองคน ก่อน​จะออกงานจากสมุทรปราการมาทำงาน​กับญาติ​ที่ทำธุรกิจร้านอาหารย่านสามพราน

จากเด็กเสิร์ฟอาหารยกน้ำยกเบียร์ธรรมดาๆ​ ​แต่บวก​กับรูปร่างหน้าตาของเธอ​ที่​สามารถดึงดูดเพศตรงข้าม​ได้​เป็นอย่างดี ทำให้เธอ​ได้เงินทิปจากแขกคราวละ​เป็นร้อย​เมื่อเธอให้​ความสนิทสนม​เป็นกันเอง การไม่ถือเนื้อถือตัวของเธอ ทำให้แขกหลายคนมองเธออย่างมีหวัง

เป่าตัดสินใจผันตัวเองมา​เป็นผีเสื้อราตรีด้วย​ความสมัครใจ หลังจาก​ที่​ได้นั่งกอดเข่าชั่งใจตัวเองอยู่​หลายวัน ก่อน​ที่เธอ​จะเลือกเดินหน้าบนทางสายนี้ต่อ​ไป ครั้งแรก​และทุกๆ​ครั้ง​ที่รับงานแบบนี้ เธอ​จะป้องกันตัวเองอย่างดี​ที่สุด ​และก็ไม่เคยละเลย​​ที่​จะ​ไปตรวจสุขภาพอยู่​​เป็นประจำ การขายบริการก็เลือก​แต่เสี่ย​ที่มีเงินเท่านั้น​ เธอคิดอยู่​เสมอว่า วันหนึ่ง​​เมื่อมีโอกาสก็​จะเลิกอาชีพนี้ ​แม้​จะ​เป็นอาชีพ​ที่หาเงิน​ได้ง่าย​เมื่อมายาพิศวาสถูกเรียกหา​โดยผู้ชาย ​ที่เลือก​ใช้เรือนร่างของเธอ​เป็น​ที่ร่วมผ่อนคลาย

​ความ​เป็นอยู่​ทางบ้าน​ที่กระท่อนกระแท่น น้องอีกสองคน​กำลังกิน​กำลังเรียน เธอจึงเร่งหาเงิน​เป็นหลัก สองสามปี​ต่อมา เงิน​ที่​ได้จากการทำงานกลางคืนของเป่า ทำให้มีเงิน​ใช้ไม่ขาดมือ ทางบ้านมีพอ​ใช้ไม่ขัดสน เธอปล่อยวิถีชีวิตให้ล่องลอย​ไปตามวิถีของสังคมคนกลางคืน ผู้ชายมากหน้าหลายตาหลากวัย ต่างผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาในชีวิตของเธอ ​โดยไม่มีพันธะใดๆ​มาผูกมัด

ด้วยวัยสาว​ที่เต็มตัว เป่ายิ่งเพิ่ม​ความร้อนแรงเร่าร้อนให้ชายนักเ​ที่ยว​ทั้งหลาย เธอรวมตัว​กับ​เพื่อนๆ​สี่คนเปิดร้านอาหารขึ้น​มาใหม่ ​โดยมีเสี่ยน้อยเสี่ยใหญ่แวะมาคอยการสนับสนุนไม่เคยขาด ​แต่เธอก็ยังไม่คิด​จะตกล่องปล่องชิ้น​กับชายใด ​แม้หลายคน​จะหลงใหลเธอจนอยาก​ได้ครอบครอง บ้างก็มาเสนอตำแหน่งบ้านน้อยให้เธอ ​ซึ่งเธอก็ปฏิเสธ​ไป ​ความสวย​และ​ความสาวของเป่า​กำลังผลิบานเต็ม​ที่ ​ซึ่งหากเลือก​ได้ เธอเองก็​ต้องการเชยชิด​กับหนุ่มๆ​ มากกว่าชาย​ที่มีอายุ​เป็นไหนๆ​

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐



ทุกๆ​เย็นร้านอาหารเพลินตา​จะถูกเปิดบริการ เป่า​ที่​เป็นหุ้น​ส่วนรายเล็กสุด​จะมาถึงร้านก่อนหุ้น​ส่วนใหญ่อีกสามคนเสมอ​โดยไม่แสดงอาการเกี่ยงงอนใดๆ​ ไม่ใช่​เพราะหุ้นน้อยกว่า หาก​แต่​เป็นอัธยาศัย​ที่เปิดกว้างของเธอ​และ​ความมุ่งมั่น บวก​กับ​ความทะเยอทะยาน จึงทำให้เธอไม่​เป็นคนคิดเล็กคิดน้อยให้เปลืองสมอง

อีกอย่าง เป่า​เป็นสาวโสด​จะมา​จะ​ไป ก็สะดวก​กว่าหุ้น​ส่วนอีกสามคน​ที่มีภาระครอบครัว​ต้องสะสาง เธอเช่าอพาร์ทเม้นท์​ที่ดูดีกว่า กว้างกว่าห้องเช่านิดหน่อย​ ใกล้ๆ​​กับพื้น​ที่เช่าร้านอาหารของพวกเธอ การเปิดร้านจึง​เป็นหน้า​ที่ของเธอ

เป่ามีรูปร่างหน้าตา​เป็นทรัพย์ ​และมี​ความสวยอิ่มเอิบ​เป็นทุน ​แม้​จะมีการศึกษาเพียงมัธยมปลาย ​แต่เธอก็ฉลาด...​.​เพราะประสบการณ์ชีวิต​ที่ผ่านๆ​มาสอนเธอ หลังจากมาเปิดร้าน​กับหุ้น​ส่วน​ได้ไม่นาน เป่าหยุดการออกรับพิเศษจากเสี่ยน้อยเสี่ยใหญ่ เธอทุ่มเทจัดการร้าน​ที่เพิ่งเปิดให้เข้า​ที่เข้าทาง ​แม้ร้าน​จะเปิด​ได้ไม่ถึงเดือน ​แต่ก็มีผู้คนเริ่มรู้จักร้านอาหารเพลินตาแวะเวียนมา​ใช้บริการกันมากขึ้น​เรื่อยๆ​

แสงไฟสีสวยถูกเปิดพอสลัว เสียงเพลงช่วยสร้างจังหวะให้ชีวิตยามค่ำดูครึกครื้น รถเก๋งสองคันเลี้ยวเข้ามาจอด แขกเริ่มทยอยมา​เป็นระยะ เขื่อง​กับน้าชาย​ได้รับการต้อนรับจากเป่า ​ที่ค่ำคืนนี้เธอมาในชุดเสื้อกล้ามสีดำเปิดผิวนวล​เมื่อ​ต้องแสงไฟ กางเกงยีนส์ดูกระชับ ส่งให้รูปร่างชวนมอง ตาสบกัน เขื่องยกนิ้วขึ้น​มาดีด ก่อน​จะหัน​ไปยิ้ม​กับน้าชาย เสียงอึกทึกของบทเพลง ทำให้​ต้องเอียงหน้าโล้ตัวพูดคุยกัน กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ​ของเป่ายังคงโชยคลุ้งอยู่​ ​แม้ตัวเธอ​จะปลีกตัว​ไปต้อนรับแขกคนอื่นๆ​แล้ว​ก็ตาม

เขื่อง​และน้าชายเปิดเหล้าราคาแพงมานั่งดื่ม สายตากรุ้มกริ่มของเขื่องมองตามเป่า​ไปทุกจุด​ที่แวะ​ไปช่วยน้องๆ​สาวเสิร์ฟสองสามคน เธอดูไม่ค่อยอยู่​นิ่ง เธอทักทายพูดคุยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม​และบริการเครื่องดื่ม​พร้อมอาหารให้​กับแขก หลายครั้ง​ที่เป่าหันมาทักทาย​กับเขื่องด้วยสายตา​และรอยยิ้มอยู่​บ่อยครั้ง หุ้น​ส่วนของเธอเริ่มมากันครบแล้ว​ ​ที่เหลือต่อจากนี้เป่าก็ไม่​ต้องลุกๆ​นั่งๆ​จนบ่อยครั้งนัก

​กับแกล้มมื้อค่ำไม่สำคัญสำหรับเขื่อง ​เพราะเป้าหมายของ​เขาไม่ใช่มาลิ้มรสอาหาร ​จะถูกหรือแพงมักไม่​ได้รับการใส่ใจ เขื่องชอบ​ที่​จะซึมซับ​เอาบรรยากาศมากกว่า ​พร้อม​กับการนั่งมอง​และกวาดสายตาหาสาวๆ​ ​ซึ่งแค่เพียงก้าวแรก​ที่เดินเข้ามา ​เขาก็​ได้เจอแล้ว​สำหรับค่ำคืนนี้ เป่าเต็มใจร่วมโต๊ะพูดคุย​กับเขื่อง​และน้าชาย ฤทธิ์เหล้าเบียร์​ที่หยิบยื่นให้แก่กัน​และกัน มันทำให้เลือดสูบฉีด กระตุ้นให้เกิด​ความรื่นเริง

ห้าทุ่มกว่าของคืนนั้น​ ภายหลังจากการพูดคุยเพียงสองสามชั่วโมง​ที่พบเจอกัน มิตรภาพของเขื่อง​กับเป่าเกิดขึ้น​รวดเร็ว ​โดย​ที่ไม่จำ​เป็น​ต้องรอเวลา ​เพราะแค่มองตากัน​ไปมา ทุกอย่างก็​พร้อม​ที่​จะสานต่อ​ไป​ได้ด้วย​ความราบรื่น เป่า​ได้รับคำชมคำเยินยอจากเขื่อง เธอก็ยิ้ม​และฟังอย่างคนเคยชิน ​เพราะแขกหลายๆ​คนก็ชมเธอแบบนั้น​ให้​ได้ยินผ่านหูทุกๆ​วัน

ตัวเธอเองก็ทราบดี ​แม้​แต่สาวบริสุทธิ์หลายๆ​คนยังเทียบเสน่ห์อันเย้ายวนของเป่าแทบไม่​ได้ ​แต่หาใช่คำพูดเยินยอ​ที่ทำให้เป่าพอใจ ​ความรู้สึกถูกชะตา​และเหมือนคนคุ้นเคย​ที่มีต่อเขื่องต่างหาก ทำให้เป่าตัดสินใจสาน​ความสัมพันธ์ให้แนบแน่นต่อ​ไป หลังจาก​ที่เธอหยุด​ใช้เรือนร่างมาระยะหนึ่ง​

เขื่องแยกตัว​กับน้าชาย ก่อนขับรถเก๋งคันเก่งคู่บารมี​ที่มีเป่านั่งเคียงคู่มา ถนนเพชรเกษมช่วงสามพราน​ที่มียวดยานวิ่งสวน​ไปมายามค่ำคืน ไฟหน้ารถสาดส่องวูบวาบไม่ขาดระยะ ร้านรวง​และสถานบันเทิง เปิดไฟสว่างหลากสี ดูสวยระยิบระยับเพลินตา​และเจริญใจยิ่งนัก มันช่างช่วยกระตุ้นพลัง​และอารมณ์บางอย่างภายในใจของคน​ทั้งสอง​ที่​กำลังคุกรุ่น ให้โหมกระพือ​ได้​เป็นอย่างดี

ลำแขนเนียนสวยของเป่า วางทาบแหมะลงบนต้นขาของเขื่อง ​ที่​กำลังขับรถ​พร้อม​กับสายตา​ที่มองเพ่งออก​ไปข้างหน้าอย่างตั้งใจ มือเรียวงามของเป่าไล้ลูบบีบอย่างเบา​ที่หน้าขา ก่อนค่อยๆ​เลื่อนสูงขึ้น​มาอย่างจงใจ เสียงเพลงช้าซึ้งๆ​ดังก้องกังวานอย่าง​ได้บรรยากาศ กลิ่นหอมจากเรือนผมสลวย​และกลิ่นกายแห่งวัยสาวกระจายฟุ้ง ​เมื่อร่างอวบสวยในชุดสายเดี่ยวเอนแนบซบเข้ามา มันช่างเร่งเร้าเย้ายวนให้ไฟกิเลสราคะ​ของเขื่องพวยพุ่งกระเจิดกระเจิงยาก​ที่​จะผลัดฝืน​และรั้งรอ​ได้อีกแล้ว​

เขื่องชะลอรถ​เมื่อเห็นป้ายไฟบอกสถาน​ที่ อักษรตัวสีแดงใหญ่เด่นชัดอยู่​ข้างหน้า ก่อนหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้า​ไป เป่าเหลือบสายตาหวานเยิ้มขึ้น​มองชื่อสถาน​ที่ เธอเหยียดยิ้ม​และซบนิ่งอย่างสมใจ

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

กามเทพคงเล่นตลก​กับคน​ทั้งคู่ อีกสองคืน​ต่อมา เหมือนมีเรื่อง​​ที่ดูคล้าย​จะว้าวุ่นเกิดขึ้น​ใน​ความรู้สึกของคน​ทั้งสอง เขื่องไม่อยากกลับขอนแก่น อารมณ์สนใจแกมพอใจบังเกิดขึ้น​ในใจของเขื่องอยู่​ลึกๆ​ ​เขาไม่อยากจากสาวเจ้า​ที่อยู่​ในอ้อมกอดขณะนี้เลย​ ​ซึ่งเป่าเองก็เช่นกัน เธอรู้สึกกระดากตัวเอง​และเขินอายเขื่องทุกครั้ง​ที่ถูกสายตาจริงจังของ​เขาจ้องมอง

เธอผ่าน​ความรู้สึกเขินขวยมานาน นานจนเธอลืม​ไปแล้ว​ว่า เธอเคยมี​ความรัก ​และขณะนี้เธอก็​กำลังคิดอยาก​จะมี​ความรัก ​กับหนุ่มเสเพลอย่างเขื่อง​ซึ่ง​เมื่อคิดๆ​แล้ว​โอกาส​ที่เป่า​จะสมหวังแทบ​เป็น​ไปไม่​ได้​เอาเสียเลย​ ​เพราะเสือผู้หญิงอย่างเขื่องคง​จะถอดเขี้ยวเล็บ​ได้ยาก เธอกลัว​ไปสารพัด ​เพราะเธอเองก็​เป็นผู้หญิง​ที่มีรอยตำหนิ อีกอย่างเธอก็เคยเจ็บปวด​เมื่อคิด​จะจริงจัง​กับเรื่อง​​ความรัก

ตกสายของวันนั้น​ เขื่องชวนเป่าออกขับรถกินลม​ไปยังชายหาดชะอำ ​โดยเป่าเองเธอก็ตอบรับอย่างเต็มใจ ด้วยใบหน้า​ที่สดใสร่าเริงกว่าทุกๆ​วัน รถเก๋งคันงามสีแดงแล่นฉิว​ไปตามถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าสู่เพชรบุรี ​เขามองสาว​ที่นั่งเอนหลับ อวดแก้มขาวนวลเนียนดูเปล่งปลั่ง ​จะว่า​ไป​ความรัก​ความชอบของคนเรานี่มันก็แปลกพิลึก นึก​จะเกิดมันก็เกิดขึ้น​ปุบปับ เหมือนลมหัวหมุนในหน้าร้อน ​ที่​เขาเคยเห็นบ่อยๆ​​ที่อีสานบ้านเกิด

​ความปรารถนา​และอยากพิชิต​ความงามในตัวเธอ มัน​ได้หาย​ไป กลับกลาย​เป็นการอยากดูแล​และทะนุถนอม สองสามคืน​ที่ผ่านมา ​เขา​กับเธอ​ได้พูดคุยกัน ​ซึ่ง​ทั้งหมดนั้น​มันเกิดขึ้น​อย่างบริสุทธิ์ใจ ​และตอนนี้เองแรงปรารถนา ​ที่​เขาเคยมีต่อผู้หญิงหลายๆ​คน ก็​ได้ค่อยๆ​กระจายละลายหาย ทันที​ที่​ได้เห็นร่างสวย​ที่หลับพริ้มอยู่​ข้างๆ​

​เมื่อถึงชะอำ เขื่องเลือก​ที่จอดรถ ​ที่มีมุมสงบห่างจากผู้คน เวิ้งทะเลกว้างแผ่ผืนสีฟ้าเข้ม ขอบฟ้าขอบน้ำชนกันอยู่​ไกลลิบ ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำ ส่งให้เห็นลายคลื่นกระ​เพื่อมเบาระยิบยับ เป่าชะแง้ ยิ้มกว้าง​เมื่อ​ได้เห็นทะเล นานหลายปีแล้ว​​ที่เธอไม่​ได้เห็นทะเลสวย ด้วยหัวใจ​ที่​กำลังผลิบาน​และ​ความรู้สึกเปิดโล่งแบบนี้

เธอก้าวลงจากรถอย่างตื่นเต้น ยกเรียวแขนสวยปัดรวบผมสลวย​ที่พัดปลิวด้วยแรงลมทะเล ​พร้อม​กับหันมาส่งยิ้มละไมให้เขื่อง​ที่ยืนอัดบุหรี่ควันฉุยมองดูเป่าด้วย​ความอิ่มอุ่นใจ ก่อน​ที่​เขา​จะเดิน​ไปยืนเคียงคู่เอื้อมกุมมือนุ่มมากำกระชับแนบลำตัว ปล่อยให้ผมยาวสลวยของเป่า​ได้ปลิวพลิ้วสะบัดอีกครั้ง

​ทั้งสองเลือกหาห้องพัก​ที่อยู่​ใกล้​กับชายหาดมาก​ที่สุด ​เมื่อเก็บสัมภาระเสร็จสรรพ เป่ารบเร้าชวนเขื่อง​ที่นอนเขลงอยู่​บนเตียงนุ่ม เธออยากลง​ไปเดินเล่นชายหาด ในยามตะวันใกล้ลับทิวฟ้า เขื่องผลุดลุกอย่างว่าง่าย เป่าคุยจ้อ​กับเขื่องขณะเดินลงจากห้องพัก บอกว่าเธอชอบทะเลมาก เธอขอบคุณ​เขา​ที่พามาเ​ที่ยวทะเล ​และทันที​ที่ถึงชายหาดเธอปล่อยมือจาก​เขา วิ่งย่ำบนชายหาดพรวดเดียวถึงทะเล ดูเธอตื่นเต้น​และตื่นตัว จนบางครั้งก็ดูไม่ต่างเด็ก​ที่เพิ่งเห็นทะเลในครั้งแรก เธอดู​เป็นธรรมชาติจริงใจไร้มารยา

เขื่องมองภาพนั้น​อยู่​นาน ไม่นึกว่าเป่า​จะมีเสน่ห์​ได้เพียงนี้ ​เขามีใจให้​กับเป่าอย่างไม่มีทิฐิ ​เพราะตอนนี้เธอไม่ใช่เป่าในคราบผีเสื้อราตรี เธอดูสดใส ใบหน้าไร้เครื่องสำอางมาเสริม​แต่ง ผมสวย​ที่ถูกน้ำกระเซ็นใส่ เปียกลู่ ผิวขาวชวนมอง พลันทำให้​ต้องหวนกลับมานึกถึงตัวเอง ​ที่ปล่อยเวลาให้ลุ่มหลงในกิเลสตัณหาราคะ​อย่างไม่รู้จักพอจนลืมนึกถึงผิดชอบชั่วดี ขาดสำนึก​ที่พึงมีต่อ​เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน "ถึงเวลาแล้ว​สิ​ที่เรา​จะ​ต้องรู้จักพอ" จาก​เพื่อนนอนชั่วข้ามคืน​และอีกสองคืน บัดนี้เขื่อง​ได้มองเห็น​ความรัก​ที่แทรกอยู่​กลางดวงตะวันแดงกลมโต ​ที่ค่อยๆ​เลือนหายจมลงทะเล​ไป



ค่ำคืนนั้น​เขื่องทะนุถนอมเป่าอย่างไม่เคยปฏิบัติ​กับผู้หญิง​ที่​เขาผ่านมาหลายๆ​คน เป่าเองก็รับรู้​ได้ เธอ​ได้เห็น​ความ​เป็นสุภาพบุรุษของ​เขา มันไม่ใช่เพียง​ความ​ใคร่อีกต่อ​ไปแล้ว​ ​เพราะเขื่อง​ได้บอกรัก​กับเธอชวนเธอ​ไปอยู่​กิน​ที่ขอนแก่น เลิกงาน​ที่ทำอยู่​ ​เขาเองก็​จะช่วยพ่อบริหารงานโรงสีอย่างเต็มตัวเสียที เป่าเองแทบไม่เชื่อหูตัวเองเท่าใดนัก ​กับลมปากของผู้ชาย จนถูกถามย้ำจากเขื่องอย่างจริงจัง จึงพยักหน้าเออออตกลง ก่อน​ที่เธอ​จะดึงร่างแกร่งเปลือยเปล่าเข้ามากอดกระชับด้วยอาการขวยเขิน​แต่พองาม

เป่าเชื่อว่าการ​ที่เธอ​จะ​ใช้ชีวิตคู่​กับ​ใครสักคนนั้น​ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสำคัญ ไม่ว่าเรื่อง​นั้น​​จะ​เป็นเรื่อง​เล็กหรือเรื่อง​ใหญ่ ไม่ว่า​จะงานบ้านงานเรือน ​ความเข้าอกเข้าใจ​กับนิสัย​ส่วนตัว​ซึ่ง​และกัน หรือ​แม้​แต่กิจกรรม​ที่​กำลังดำเนินอยู่​ขณะนี้ เธอก็​จะบกพร่องไม่​ได้ ​เพราะชีวิตคู่​ต้องมี​ส่วนประกอบ​ที่ครบเครื่อง หากขาดตกบกพร่อง​ไปแค่เพียงนิดอาจทำให้ครอบครัวเกิดอาการสะดุด เป่าชอบช่วงเวลาแบบนี้​และเธอเองก็เต็มใจร่วมสร้างสรรค์​ไป​กับเขื่องอย่างเพลิดเพลิน

​ที่ผ่านๆ​มาไม่เคยมี​ใครมาทำให้เป่า​ต้องหลงใหล​ได้ถึงเพียงนี้ เธอ​พร้อม​จะหยุดอาชีพผีเสื้อราตรีด้วยวัย​ที่ยังใสสด ​ใช้ชีวิตอย่าง​ที่ควร​จะ​เป็น​กับชายคนรัก เธอขอบคุณตัวเอง ขอบคุณเขื่อง​ที่ไม่​ได้รังเกียจเธอ กลับเปิดโอกาสให้เธอเลือกเสียด้วยซ้ำ เธอซึ้งใจจนเกิน​จะบรรยาย ดวงตาคู่สวยจ้องมอง​เขาแบบค้นหา หยดน้ำใสเอ่อล้นขึ้น​มา​โดยไม่รู้ตัว ก่อน​จะถูกเช็ดด้วยมือของเขื่องอย่างทะนุถนอม​และอ่อนโยน

"รัก​แต่ผมนะ" เขื่องถามปนยิ้มจ้องหน้าสาวคนรัก ​ที่ใบหน้ายังคงมีคราบน้ำตาแห่ง​ความปีติอยู่​
"อื้อ รักก็รัก" เป่าจ้องตอบก่อนหลบพริ้มด้วย​ความเขินอาย
"ให้ผมคนเดียวเท่านั้น​นะ" เขื่องเบียดร่างแนบกระชับ ฉายยิ้มดูอบอุ่น
"อื้อ ให้คนเดียว คนสุดท้าย" เธอพูดเสียงเบาแผ่ว ยิ้มอายแนบหน้า​กับต้นแขนของตัวเอง ปล่อยสองมือเรียวพาดไหล่กำยำ เธอกล้า​ที่​จะเย้ายวน​และตอบสนอง​เขาอย่างอิ่มเอม

บัดนี้หัวใจของคนสองคนตรงกันอย่างไม่น่าเชื่อ เสือกลางคืน​กับผีเสื้อราตรี ถูกศรรักปักอกเข้าอย่างจัง จุดหมาย​ที่คนสองคนยังหาไม่เจอ มัน​ได้มารอให้เดินเข้า​ไปหาอยู่​ข้างหน้าโน่นแล้ว​

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

ในเวลา​ต่อมา...​...​...​


ลูกเทวดาอย่างเขื่องกลับตัวกลับใจเลิกเ​ที่ยว หันมาช่วยงานของบิดาอย่างจริงจัง จนหลายๆ​คนเริ่มให้​ความไว้เนื้อเชื่อใจ ​เขาเทียวขึ้น​เทียวลงแวะเวียนหาสาวคนรัก ​ที่เธอ​ได้ถอนหุ้นจาก​เพื่อนๆ​มาอยู่​บ้าน​ที่สระบุรี เป่ามีโอกาส​ได้ทำในสิ่ง​ที่เธออยากทำมานานอย่างไม่คาดฝัน นั่น​คือการเข้าเรียนต่อปริญญาตรี​ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เธอเลือกเรียนบัญชี ​เพื่อ​ที่​จะ​ได้ออกมาช่วยงานของเขื่อง ​โดยการสนับสนุนของเขื่อง​และ​กำลังใจจากหลายๆ​คน

ในวัน​ที่เป่าเรียนจบ หยดน้ำตาแห่ง​ความปลาบปลื้ม หลั่งมาอีกครั้ง มัน​เป็นน้ำตาแห่ง​ความสำเร็จของเธอ เขื่องอุ้มลูกชายวัยสองขวบมายินดี​กับบัณฑิตคุณแม่ลูกหนึ่ง​ ​ที่ยังดูสวยพริ้งในชุดครุยปริญญา ​แม้วัย​จะ​ได้หลักสามแล้ว​ก็ตาม เธอยังคง​ความสวย​ที่ชวนมองอยู่​เสมอ

พยานรักตัวน้อยถูกสวมกอดถ่ายรูปอย่างมี​ความสุข อดีต​ที่ไม่น่าจดจำของคน​ทั้งสอง ค่อยๆ​เลือนหาย​ไป สองสามีภรรยา​ที่​ได้เสียกันตั้งแต่วันแรก ​ที่พบเจอกัน ​แต่​ความรักแท้ก็​ได้นำพาให้​เขา​ทั้งคู่เดินทางมาจนพบ​กับ​ความสุข​ที่แท้จริง

ภาพสามคนพ่อแม่ลูก​ที่มีเจ้าตัวน้อยอยู่​กลาง พวก​เขาเดินเหวี่ยงแขนขึ้น​ลง สลับ​กับเสียงหัวเราะเอิ้กอ๊ากของพยานรักดังร่า​ไปตลอดทาง จนถึงรถเก๋งคันงามสีบรอนซ์​ที่จอดอยู่​ ก่อนค่อยๆ​เคลื่อนตัวออกจากรั้วมหาวิทยาลัย​ไปอย่างช้าๆ​

 

F a c t   C a r d
Article ID A-3484 Article's Rate 1 votes
ชื่อเรื่อง เขื่องกับเป่า
ผู้แต่ง นายอิติฯ
ตีพิมพ์เมื่อ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๓
ตีพิมพ์ในคอลัมน์ เรื่องสั้น
จำนวนผู้เปิดอ่าน ๓๘๗ ครั้ง
จำนวนความเห็น ๖ ความเห็น
จำนวนดอกไม้รวม
| | | |
เชิญโหวตให้เรตติ้งดอกไม้แก่ข้อเขียนนี้  
R e a d e r ' s   C o m m e n t
ความเห็นที่ ๑ : ศาลานกน้อย [C-17793 ], [000.000.000.000]
เมื่อวันที่ : 25 ต.ค. 2553, 16.04 น.

ผู้อ่าน​ที่รัก,

นิตยสารรายสะดวก​ ​และผู้เขียนยินดีรับฟัง​ความคิดเห็นต่อข้อเขียนชิ้นนี้
เชิญคลิกแสดง​ความเห็น​ได้​โดยอิสระ ขอขอบคุณ​และรู้สึก​เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการมี​ส่วนร่วมของท่านในครั้งนี้...​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๒ : ทิดอินทร์ [C-17794 ], [124.120.2.73]
เมื่อวันที่ : 25 ต.ค. 2553, 20.49 น.

เนื้อหาน่าสรใจมากเลย​ครับ​ ​จะรออ่านฉบับ​เต็มนะครับ​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๓ : นาม อิสรา [C-17795 ], [110.49.193.137]
เมื่อวันที่ : 25 ต.ค. 2553, 21.43 น.

เพิ่งกลับจากสวน เหนื่อยเต็มที

อ่านโครงเรื่อง​ของคุณเคร่า ๆ​ แล้ว​ (ผม) ยังไม่มีสมาธิเท่าไหร่

ขอพักผ่อนสักตื่น ​จะหลับให้คุ้มเหนื่อย แล้ว​​จะอ่านอีกรอบครับ​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๔ : นาม อิสรา [C-17796 ], [110.49.193.85]
เมื่อวันที่ : 26 ต.ค. 2553, 07.12 น.

อ่านซ้ำแล้ว​ครับ​ รู้สึกว่า​เรื่อง​​ทั้งหมด​เป็น​ไป​ได้ ​เพราะมนุษย์อีกหลายจำพวก​ที่เริ่มชิวิตบนกลีบดอกไม้สีดำ ​แต่​ทว่าสุดท้ายชีวิตก็ลงเอยด้วย​ความหวานชื่นดุจน้ำผึ้ง เพียง​แต่มนุษย์นั้น​ ๆ​ มีสันดานดีติดตัวมาก็พอ การหลงผิด​เป็นเพียง​ความสับสนวุ่นวาย​กับชีวิตในยุคแสวงหา ​เมื่อผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนกระทั่งถึงจุดจุดหนึ่ง​ก็​จะเกิดการเบื่อยหน่าย ​พร้อม​กับนึกสงสารชีวิต​ที่บอบช้ำของตน ​ซึ่งใน​ที่สุดสันดานดีนั่นเอง​จะเยียวยา​ความบอบช้ำนั้น​ให้

ขออวยพรให้เขียน​เป็นเรื่อง​ราว​ที่ผูกโยงกัน​ได้รสชาติชวนติดตาม ​พร้อม​กับขอให้พยายามหลีกเลี่ยงการซ้อนทับ​กับ"ของเก่า"​ที่มีอยู่​เกลื่อนตลาดในขณะนี้ให้มาก

นิยายชีวิต​ที่อาศัยกลวิธีนำเสนอ​​โดยมิให้กลาย​เป็นเรื่อง​น้ำเน่า-​ต้อง​ใช้​ความ​เป็นตัวของตัวให้มาก ​ต้องมี​ความกล้า​ที่​จะกระโดดข้าม​ความคิด​ที่ว่า "​ใคร ๆ​ ​เขาก็เขียนอย่างนี้กัน​ทั้งนั้น​"ให้​ได้ แล้ว​งานของคุณก็​จะประสบ​ความสำเร็จครับ​

ขอให้โชคดี ​และมี​ความสุข​กับงานเขียนนะครับ​

สวัสดีครับ​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๕ : pilgrim [C-17807 ], [124.121.205.218]
เมื่อวันที่ : 27 ต.ค. 2553, 21.27 น.

พอ​จะว่าง เลย​ตามเข้ามาอ่านค่ะ​ ชอบการบรรยายของคุณอิติฯ ค่ะ​ ​ถ้า​เป็นเรื่อง​ยาวแล้ว​แทรกรายละเอียดเข้า​ไป มีแบบดราม่า กระชากอารมณ์นิดหน่อย​ น่า​จะสนุก​และ​เป็นเรื่อง​สอนใจ​ได้ดีทีเดียวค่ะ​

แจ้งลบข้อความ


ความเห็นที่ ๖ : wadee [C-17808 ], [125.24.198.37]
เมื่อวันที่ : 27 ต.ค. 2553, 23.38 น.

บรรยาย​ได้ดีนะคะ​ ทึ่งทุกคนคน​ที่เขียนเรื่อง​สั้น​ได้ ​เพราะตัวเองเขียนไม่​เป็นเลย​ค่ะ​ ว่างๆ​​จะลองหัดเขียนดูบ้าง ​แต่ยังไม่แน่ใจว่า​จะทำ​ได้หรือเปล่า

แจ้งลบข้อความ


สั่งให้ระบบส่งเมลแจ้งการเพิ่มเติมความเห็น
 ศาลานกน้อย พร้อมบริการเสมอ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกท่าน  ติดต่อเว็บมาสเตอร์ได้ทางคอลัมน์ คุยกับลุงเปี๊ยก หรือทางอีเมลได้ที่ uncle-piak@noknoi.com  พัฒนาระบบ : ธีรพงษ์ สุทธิวราภิรักษ์  โลโกนกน้อย : สุชา สนิทวงศ์  ภาพดอกไม้ในนกแชท : ณัฐพร บุญประภา  ลิขสิทธิ์งานเขียนในนิตยสารรายสะดวก เป็นของผู้เขียนเรื่องนั้น  ข้อความที่โพสบนเว็บไซต์แห่งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสทั้งสิ้น